รวม 10 วิธีลดเหนียงสำหรับผู้ที่มีไขมันใต้คางเยอะ

การมีเหนียงหรือคางสอนชั้นล้วนส่งผลต่อความมั่นใจ หลายคนจึงมองหา “วิธีลดเหนียง” ที่เหมาะกับตัวเอง เพราะในปัจจุบันมีเทคโนโลยีการทางเลือกที่หลากหลาย ตั้งแต่การดูแลด้วยตัวเอง ไปจนถึงหัตถการที่เห็นผลชัดเจน เราได้รวบรวม 10 วิธีลดเหนียงและวิธีลดไขมันที่หน้า เพื่อให้ผู้ที่สนใจ สามารถนำวิธีเหล่านี้ไปเป็นแนวทางในการตัดสินใจวิธีที่ตอบโจทย์กับแต่ละบุคคล พร้อมแชร์สาเหตุของการเกิดเหนียงใต้คาง
เหนียงคืออะไร?
เหนียง หรือที่หลายคนเรียกว่า ‘คางสองชั้น’ เป็นคำที่เรียกเนื้อส่วนเกินหรือไขมันที่สะสมอยู่บริเวณใต้คางไปจนถึงช่วงคอ ทำให้กรอบหน้าดูไม่ชัด หน้าอ้วน เกินจริง ซึ่งเหนียงไม่ใช่ภาวะที่ผิดปกติของร่างกาย แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพที่เกิดขึ้นกับทุกเพศทุกวัย และยังเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย แม้คนที่มีรูปร่างผอม หากมีพฤติกรรมที่เอื้อให้เกิดการหย่อนคล้อยของผิวหรือกล้ามเนื้อใต้คาง ส่งผลให้ผิวไม่กระชับเหมือนเดิมได้ แต่สามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีการลดเหนียงทั้งแบบธรรมชาติและแบบการแพทย์
สาเหตุเหนียง เกิดจากอะไร
ก่อนที่จะทราบถึงวิธีลดเหนียงใต้คาง เราต้องไปหาสาเหตุกันก่อนว่าปัญหานี้เกิดขึ้นจากปัจจัยใดบ้าง ซึ่งเหนียงใต้คางเกิดจากหลายปัจจัยรวมกัน โดยสาเหตุการเกิดออกเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ ดังนี้
- ไขมันส่วนเกินสะสม – สาเหตุหลักของเหนียงมักเกิดจากการสะสมของไขมันเฉพาะจุด ซึ่งมันสามารถเกิดได้แม้ไม่ได้มีน้ำหนักเยอะ
- กล้ามเนื้อและผิวหย่อนคล้อย – พออายุมากขึ้น คอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิวเริ่มลดลง ทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่น ทำให้เกิดการหย่อนคล้อยตามแรงโน้มถ่วง โดยเฉพาะลำคอและใต้คาง ทำให้เกิดเหนียงที่ชัดเจนขึ้น
- พฤติกรรมการใช้ชีวิต – เช่น การก้มหน้าเล่นมือถือเป็นเวลานาน หรือนั่งทำงานในท่าที่กดคออยู่บ่อย ๆ ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณใต้คางไม่ได้ถูกใช้งานอย่างเต็มที่ จนเกิดการสะสมไขมันในบริเวณนั้นมากขึ้น
- โครงสร้างพันธุกรรม – บางคนมีโครงสร้างกรามเล็ก หรือมีกระดูกคางสั้น ทำให้ไขมันเข้าไปสะสมบริเวณใต้คางให้ดูเด่นกว่าปกติ ลักษณะนี้มักถ่ายทอดมาจากพันธุกรรมได้แม้ไม่ได้มีน้ำหนักเยอะ
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน – โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป หรือในช่วงที่มีน้ำหนักขึ้น ๆ ลง ๆ บ่อย ฮอร์โมนในร่างกายจะเกิดการเปลี่ยนแปลง ส่งผลต่อระบบเผาผลาญและการกระจายไขมัน ทำให้เกิดเหนียงได้
รวม 10 วิธีลดเหนียงใต้คาง ที่ทำแล้วได้ผล
วิธีการลดเหนียงคอ หรือเหนียงใต้คาง สามารถทำได้หลายวิธีลดเหนียงแบบเร่งด่วนและวิธีทางธรรมชาติ สามารถเลือกให้เหมาะกับสภาพผิว ปัญหา และงบประมาณของแต่ละคน
1. ดูดไขมันเหนียง
การดูดไขมัน เหนียงด้วยโปรแกรม Boby Jet เป็นนวัตกรรมการกำจัดไขมันที่อ่อนโยนต่อเนื้อเยื่อ ช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินใต้คางออกได้โดยตรง ฟื้นตัวเร็ว เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมเยอะจนเห็นเป็นก้อนชัดเจน เมื่อดูดไปแล้วจะช่วยให้กรอบหน้าชัดขึ้นหลังพักฟื้น และสามารถเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนในไม่กี่สัปดาห์ โดยผลลัพธ์จะอยู่ได้นานขึ้นหากมีการควบคุมน้ำหนักควบคู่กันไปอย่างสม่ำเสมอ แต่ในกรณีที่ผิวใต้คางหย่อนคล้อยร่วมด้วยสามารถทำควบคู่กับโปรแกรม J Plasma ได้
อ่านเพิ่มเติม: ดูดไขมันอันตรายไหม
2. โปรแกรมโบท็อกซ์ลดเหนียง
โปรแกรมโบท็อกซ์ นอกจากจะสามารถลดริ้วรอยบนใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังสามารถฉีดเพื่อลดเหนียงได้ดีอีกด้วย ซึ่งจะเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเหนียงใต้คางจากกล้ามเนื้อที่หดตัวลงมา โดยการฉีดโปรแกรมโบท็อกจะช่วยให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดเกิดการผ่อนคลาย ทำให้รูปหน้าดูเรียวขึ้น
3. ร้อยไหมเหนียง
การร้อยไหมเป็นเทคนิคที่ช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยบริเวณใต้คาง โดยการใช้ไหมละลายชนิดพิเศษเข้าไปยกผิวให้ดูกระชับขึ้น ซึ่งจะเหมาะสำหรับผู้ที่มีเหนียงจากอายุที่มากขึ้น หรือมีปัญหาผิวใต้คางไม่กระชับ โดยหลังทำสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นได้
4. โปรแกรม Thermage FLX
โปรแกรม Thermage FLX คือเทคโนโลยียกกระชับผิวด้วยคลื่นวิทยุ (RF) ลงลึกถึงชั้นไขมัน ช่วยฟื้นฟูความยืดหยุ่นของผิวใต้คางให้กลับมาตึงกระชับมากขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเหนียงร่วมกับความหย่อนคล้อยบริเวณกรอบหน้า เห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ซึ่งนอกจากโปรแกรม Thermage FLX แล้ว ยังมีเทคโนโลยียกกระชับผิวโปรแกรม Morpheus8 ที่ใช้คลื่น RF ร่วมกับ Microneeding ช่วยลดความหย่อนคล้อยใต้คางและกระชับเหนียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5. โปรแกรม Hifu
โปรแกรม Hifu (High-Intensity Focused Ultrasound) เป็นอีกหนึ่งวิธีช่วยลดเหนียง ด้วยการใช้คลื่นเสียงยิงเข้าไปยกกระชับผิวและลดไขมันเฉพาะจุด เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มมีเหนียงเล็กน้อยไปจนถึงปานกลาง
6. โปรแกรม Thermatight
โปรแกรม Thermatight เป็นหัตถการที่ใช้คลื่นวิทยุ (RF) ด้วยความถี่ชนิดพิเศษ โดยใช้ความร้อนประมาณ 60 องศา ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่ช่วยฟื้นฟูคอลลาเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดไขมันส่วนเกินและยกกระชับผิวได้ในคราวเดียวกัน เหมาะสำหรับผู้ที่มีทั้งไขมันและผิวหย่อนคล้อย
7. โปรแกรม Coolsculpting
โปรแกรม Coolsculpting คือการลดไขมันด้วยความเย็นจัดที่อุณหภูมิเฉพาะ ทำให้เซลล์ไขมันใต้คางบางส่วนตายและหดตัวลง เหมาะสำหรับผู้ที่มีเหนียงจากการสะสมของไขมัน โดยไม่ต้องผ่าตัด และไม่จำเป็นต้องพักฟื้น ซึ่งผลลัพธ์จะค่อย ๆ เห็นชัดเจนขึ้นภายใน 1-3 เดือน
8. โปรแกรม Ultraformer III
โปรแกรม Ultraformer III เป็นเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นเสียงความเข้มข้นสูงหลายกับโปรแกรม HIFU แต่ให้ความแม่นยำและสามารถลงลึกได้หลายชั้นผิว เหมาะสำหรับการยกกระชับเหนียงและลดไขมันใต้คางในผู้ที่มีปัญหาหนัก ข้อดีคือใช้เวลาทำน้อย เห็นผลเร็ว
9. ผ่าตัดลดเหนียง
ในกรณีที่มีเหนียงเยอะทั้งจากไขมันและผิวหนังส่วนเกิน การผ่าตัดลดเหนียง เป็นทางเลือกที่ให้ผลลัพธ์ชัดเจน โดยแพทย์จะทำการกำจัดไขมันส่วนเกิน และตัดผิวหนังที่หย่อนคล้อยออกร่วมด้วย ซึ่งวิธีนี้จะให้ผลลัพธ์แบบถาวร ไม่ต้องกลับมาทำซ้ำ แต่อาจจะต้องใช้เวลาในการพักฟื้นมากกว่าหัตถการอื่น ๆ
10. ลดเหนียงแบบธรรมชาติด้วยตัวเอง
แม้ว่าวิธีนี้จะไม่ใช่การลดเหนียงแบบเร่งด่วน แต่การดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอ เช่น การปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และวิธีลดเหนียงด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ล้วนเป็นวิธีที่ช่วยลดการสะสมของไขมันใต้คางได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว
นอกจาก 10 วิธีที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว ก็ยังมีอีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยม ที่ถึงแม้จะไม่ใช่การลดไขมันเหนียงได้โดยตรง แต่ก็สามารถทำเพื่อปรับรูปคางให้เรียวยาวขึ้น และทำให้กรอบหน้าดูชัดขึ้นอย่างโปรแกรมฟิลเลอร์
ข้อควรระวังเมื่อต้องการลดไขมันใต้คาง
ถึงแม้ว่าการลดไขมันใต้คางจะมีให้เลือกทำหลายวิธี แต่ก็ไม่ใช่ทุกวิธีที่เหมาะสำหรับทุกคน เนื่องจากบางเทคนิคก็จะมีข้อจำกัดในเรื่องของผลข้างเคียง โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาด้านสุขภาพ เช่น โรคผิวหนัง หรือโรคที่เกี่ยวกับระบบไหลเวียนของเลือด นอกจากนี้ยังมีข้อกำจัดในเรื่องของระยะเวลาการพักฟื้น ดังนั้นก่อนตัดสินใจทำหัตถการใดก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้งเกี่ยวกับปัญหา และความต้องการในผลลัพธ์ เพื่อให้แพทย์ได้ประเมิน และเลือกใช้หัตถการที่เหมาะสม ที่สำคัญควรใช้บริการกับสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ให้ความปลอดภัย
สรุป
วิธีลดเหนียงใต้คางสามารถทำได้หลากหลายวิธี ตั้งแต่การใช้เทคโนโลยีความงามสมัยใหม่ไปจนถึงการปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน โดยแต่ละวิธีมีจุดเด่นและข้อควรระวังต่างกัน หากเลือกแนวทางที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายและเป้าหมายที่ต้องการ ก็จะช่วยให้เห็นผลได้อย่างมีประสิทธิภาพและให้ความปลอดภัย ทั้งนี้ การปรึกษาแพทย์และวางแผนร่วมกันยังคงเป็นสิ่งสำคัญ
Post Info
Social Media


โปรแกรมฟิลเลอร์กรอบหน้าช่วยอะไรบ้าง ฉีดตรงไหนดี เติมเต็มรูปหน้าให้คมชัด

ฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์หลุมสิวดีไหม เห็นผลนานแค่ไหน ต่างจากวิธีอื่นอย่างไร
