ยกกระชับด้วย Morpheus8 ผิวเรียบเนียน ลดหลุมสิว ไร้ริ้วรอยร่องตื้น!

Morpheus8 เป็นนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ผสานเทคโนโลยีไมโครนีดลิ่ง (Microneedling) และพลังงานคลื่นวิทยุความถี่สูง (Radio Frequency: RF) เข้าด้วยกัน เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินในชั้นผิว ช่วยฟื้นฟูความยืดหยุ่นของผิว ลดเลือนริ้วรอย ความหย่อนคล้อย หลุมสิว และรอยแผลเป็น อีกทั้งยังสามารถปรับสีผิวให้เรียบเนียนสม่ำเสมอได้โดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัด

เครื่องมืออย่างมอร์เฟียสได้รับการออกแบบให้สามารถส่งพลังงานลงไปยังผิวชั้นลึกอย่างแม่นยำ ทำให้ผิวกระชับขึ้นจากภายใน แลดูเต่งตึงและเรียบเนียนขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูสภาพผิว ลดริ้วรอยแห่งวัย และปรับโครงสร้างผิวให้แข็งแรงขึ้น โดยไม่ต้องใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นนานจนเกินไป

มาถึงตรงนี้ หลายคนอาจจะเริ่มสงสัยกันแล้วว่า Morpheus8 คืออะไร? มีการทำงานอย่างไร? ให้ผลลัพธ์แบบไหน? และเหมาะกับเราหรือไม่? ดังนั้น เรามารู้จักมอร์เฟียสไปพร้อม ๆ กันได้เลย

Key Takeaway

Morpheus8 เป็นหัตถการที่ใช้เทคโนโลยีการยกกระชับผิว โดยผสานหลักการทำงานของ Microneedling และพลังงานคลื่นวิทยุความถี่สูง (RF) เข้าด้วยกัน เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินในชั้นผิว
หัวอุปกรณ์ หรือหัวส่งพลังงาน (Tips) ของมอร์เฟียส มีทั้งหมด 4 ประเภท ได้แก่ Morpheus8 Resurfacing, Morpheus8, Morpheus8 Prime และ Morpheus8 Body แต่ละประเภทมีจำนวนเข็มและระดับความลึกที่แตกต่างกัน สามารถเลือกให้เหมาะกับบริเวณที่ต้องการรักษาและปัญหาผิวได้แบบเจาะจงมากยิ่งขึ้น
Morpheus8 เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอยร่องลึก หลุมสิว รูขุมขนกว้าง และสีผิวไม่สม่ำเสมอ โดยสามารถใช้ได้ทุกสีผิว ทุกสภาพผิว โดยไม่ได้มีการจำกัดช็อต เนื่องจากเป็นหัวแบบใช้แล้วทิ้ง 1 ชิ้นต่อ 1 ครั้ง
Morpheus8 สามารถรักษาได้หลายตำแหน่ง ทั้งใบหน้า รอบดวงตา ลำคอ มือ หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา และสะโพก โดยระยะเวลาในการรักษาแต่ละครั้งอยู่ที่ประมาณ 30-60 นาที และอาจต้องทำต่อเนื่องประมาณ 2-4 ครั้งขึ้นไปเพื่อให้ผลลัพธ์ชัดเจนยิ่งขึ้น
หลังทำ Morpheus8 อาจมีอาการแดงหรือบวมเล็กน้อย โดยส่วนใหญ่จะดีขึ้นภายใน 1-3 วัน สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ โดยไม่ต้องพักฟื้นนาน ๆ
ราคาของ Morpheus8 จะแตกต่างกันตามแต่ละโรงพยาบาลหรือสถานบริการ ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำ ประเภทของหัวอุปกรณ์ที่ใช้ จำนวนครั้งที่ทำ และค่าธรรมเนียมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
แม้ Morpheus8 จะมีผลข้างเคียงเล็กน้อย แต่ก็ควรปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์เพื่อประเมินสภาพผิวก่อนทำ เพื่อให้สามารถวางแผนการทำมอร์เฟียสได้ตอบโจทย์มากขึ้น

Morpheus8 คืออะไร?

Morpheus8 คือ เทคโนโลยีที่ใช้ไมโครนีดลิ่ง หรือ Microneedling ผสมผสานร่วมกับพลังงานคลื่นความถี่วิทยุ (Radio Frequency: RF) เพื่อลดเลือนริ้วรอย ยกกระชับผิว และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นหนังแท้ โดยสามารถส่งพลังงานได้ลึกถึง 7 มม. ซึ่งมากกว่าการทำ Microneedling ทั่วไป

เครื่อง Morpheus8 มาพร้อมกับหัวทิปที่ออกแบบเฉพาะสำหรับการรักษาบริเวณที่แตกต่างกัน แต่ละหัวทิปมีจำนวนเข็มและความลึกที่ปรับได้ เพื่อให้เหมาะกับปัญหาผิวที่ต้องการแก้ไขและให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำมากขึ้น

หัวส่งพลังงาน (Tips) ของ Morpheus8 มีกี่แบบ?

Morpheus8 มีหัวส่งพลังงานหลายประเภทที่ออกแบบมาให้เหมาะกับการรักษาแต่ละบริเวณของร่างกายและปัญหาผิวที่แตกต่างกัน โดยหัวส่งพลังงานแต่ละแบบมีจำนวนเข็ม ขนาด และระดับความลึกที่แตกต่างกัน เพื่อให้สามารถปรับการรักษาให้เหมาะสมกับสภาพผิวและบริเวณที่ต้องการดูแล ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก ได้แก่ Morpheus8 Resurfacing, Morpheus8, Morpheus8 Prime และ Morpheus8 Body ซึ่งแต่ละแบบมีคุณสมบัติและการใช้งานเฉพาะตัวดังนี้

ประเภท	Morpheus8 Resurfacing	Morpheus8	Morpheus8 Prime	Morpheus8 Body
จำนวนเข็ม	24 เข็ม	24 เข็ม	12 เข็ม	40 เข็ม
ความลึกของเข็ม (มม.)	0.5 – 1 มม.	2 – 4 มม.	1 – 2 มม.	3 – 7 มม.
บริเวณที่ใช้ได้	ผิวหน้า, คอ, มือ	ใบหน้า, ลำคอ	รอบดวงตา, ร่องแก้ม, ริมฝีปาก	หน้าท้อง, ต้นแขน, ต้นขา, สะโพก
จุดเด่น	เน้นการผลัดเซลล์ผิวชั้นบน ปรับสีผิวให้เรียบเนียน ลดรอยแผลเป็นจากสิวและจุดด่างดำ	ช่วยยกกระชับ ลดเลือนริ้วรอย กระชับรูขุมขน ฟื้นฟูคอลลาเจน	หัวขนาดเล็กสำหรับบริเวณที่เข้าถึงยาก ลดริ้วรอยรอบดวงตาและปาก	กระชับผิวกาย ลดเซลลูไลต์ ลดความหย่อนคล้อย ปรับผิวให้เรียบเนียน
จำนวนครั้งที่แนะนำ	3-4 ครั้ง ห่างกัน 4-6 สัปดาห์	2-4 ครั้ง ห่างกัน 4-6 สัปดาห์	3-4 ครั้ง ห่างกัน 4-6 สัปดาห์	3-5 ครั้ง ห่างกัน 6-8 สัปดาห์

Morpheus8 Resurfacing

หัวส่งพลังงานที่ออกแบบมาเพื่อการผลัดเซลล์ผิวชั้นบน และ ปรับพื้นผิวให้เรียบเนียน มี 24 เข็ม ที่สามารถลงลึกได้ระหว่าง 0.5 – 1 มม. เหมาะสำหรับการลดรอยแผลเป็นจากสิว จุดด่างดำ และปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ หัวส่งพลังงานนี้มีความลึกตื้นกว่าหัวทิปอื่น จึงมักใช้กับบริเวณใบหน้า คอ และมือ

Morpheus8

หัวส่งพลังงานมาตรฐานที่ใช้สำหรับยกกระชับผิวหน้าและลดเลือนริ้วรอย มีจำนวนเข็ม 24 เข็มซึ่งสามารถส่งพลังงาน RF ลงลึกได้ถึง 2 – 4 มม. ลงลึกถึงชั้นหนังแท้ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย รูขุมขนกว้าง และริ้วรอยร่องลึก มักใช้กับบริเวณใบหน้าและลำคอ

Morpheus8 Prime

หัวส่งพลังงานขนาดเล็กที่ออกแบบมาเพื่อการรักษาบริเวณที่เข้าถึงยากและต้องอาศัยความละเอียดในการทำ เช่น รอบดวงตา ร่องแก้ม และเหนือริมฝีปาก มีขนาดเล็กกว่าหัวมาตรฐาน โดยมีจำนวน 12 เข็มซึ่งสามารถลงลึกได้ 1 – 2 มม. ช่วยลดริ้วรอยบริเวณที่ผิวบอบบาง และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในพื้นที่ที่ต้องการความแม่นยำ

Morpheus8 Body

หัวส่งพลังงานที่ออกแบบมาเพื่อการยกกระชับผิวกายโดยเฉพาะ มีจำนวน 40 เข็ม สามารถลงลึกได้ถึง 3 – 7 มม. สามารถส่งพลังงาน RF ลงลึกถึงชั้นไขมันใต้ผิวหนัง เหมาะสำหรับการฟื้นฟูผิวบริเวณ หน้าท้อง, ต้นแขน, ต้นขา และสะโพก นอกจากนี้ยังช่วยลดเซลลูไลท์และปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนขึ้น

การทำงานของ Morpheus8 กระชับผิวได้อย่างไร?

Morpheus8 หรือมอร์เฟียสมีการทำงานโดยใช้เทคโนโลยีไมโครนีดลิ่งร่วมกับพลังงานคลื่นวิทยุความถี่สูง โดยหัวอุปกรณ์ที่ประกอบไปด้วยเข็มขนาดเล็กเพียง 300 ไมครอน (µm) ซึ่งมีหน้าที่ในการนำส่งพลังงาน RF ลงไปยังผิวชั้นต่าง ๆ ช่วยกระตุ้นการเรียงตัวใหม่ของคอลลาเจนในชั้นผิวหนังแท้ (Dermal Remodeling) ทำให้เส้นใยคอลลาเจนเกิดการหดตัวในทันทีและกระตุ้นกระบวนการสร้างเซลล์ผิวใหม่อย่างต่อเนื่องหลังทำมอร์เฟียส

ระบบของ Morpheus8 สามารถปรับระดับความลึกของเข็มและค่าพลังงาน RF ให้เหมาะกับบริเวณที่ทำการรักษาได้ จึงช่วยให้แพทย์สามารถปรับเปลี่ยนการรักษาให้เหมาะกับปัญหาของแต่ละคนได้แม่นยำยิ่งขึ้น สามารถแก้ได้ทั้งปัญหาผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอย ผิวยับย่น รอยแผลเป็น ไปจนถึงหลุมสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ทำลายผิวชั้นบน ความเสี่ยงที่เกิดผิวไหม้ลดลง จึงไม่ทิ้งรอยดำหลังทำ และยังช่วยกระชับรูขุมขน รวมถึงปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนขึ้นอีกด้วย

ข้อดีของ Morpheus8 มีประโยชน์อะไรบ้าง?

Morpheus8 เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวที่ให้ผลลัพธ์อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องผ่าตัด ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นลึก ทำให้ผิวแข็งแรง กระชับ และเรียบเนียนขึ้น นอกจากนี้ ยังมีข้อดีที่โดดเด่นดังนี้

กระชับผิวและลดเลือนริ้วรอย ช่วยให้ผิวมีความกระชับและแลดูอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้น
ช่วยในการฟื้นฟูคอลลาเจนและอิลาสติน เสริมสร้างโครงสร้างผิว
ลดเลือนรอยแผลเป็น หลุมสิว ทำให้รูขุมขนดูกระชับมากขึ้นและปรับผิวให้เรียบเนียนขึ้น
สามารถใช้ได้ทั้งใบหน้าและร่างกาย ใช้ได้กับคอ หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา ฯลฯ
ปรับระดับความลึกของพลังงานได้ รองรับปัญหาผิวที่แตกต่างกัน
ไม่ต้องพักฟื้นนาน ใช้เวลาในการฟื้นตัวน้อยกว่าการศัลยกรรม
เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว ผิวเข้มสามารถทำได้โดยไม่ก่อให้เกิดรอยด่าง
ไม่จำกัดช็อต เนื่องจากเป็นการใช้หัวส่งพลังงานแบบ 1 ชิ้นต่อ 1 ครั้ง สามารถยิงพลังงานได้เรื่อย ๆ

Morpheus8 เหมาะกับใครบ้าง?

ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยหรือริ้วรอยร่องลึก ต้องการกระชับผิวให้ดูอ่อนเยาว์
ผู้ที่มีปัญหาผิวขรุขระ มีหลุมสิว รอยแผลเป็นต่าง ๆ หรือรูขุมขนกว้าง ต้องการปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนขึ้น
ผู้ที่ต้องการยกกระชับบริเวณลำคอหรือแนวกรอบหน้า ช่วยแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยหรือผิวย่นบริเวณลำคอและคาง
ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวแต่ไม่อยากพักฟื้นนาน ใช้ชีวิตตามปกติได้ภายใน 1-3 วันหลังทำ
ผู้ที่มีผิวหมองคล้ำ สีผิวไม่เท่ากัน เหมาะกับทุกสภาพผิว รวมถึงผู้ที่มีผิวบอบบางหรือผิวเข้มที่ไม่เหมาะกับการทำเลเซอร์
ผู้ที่มีผิวแตกลายตามตัว ไม่ว่าจะเป็นหน้าท้อง ต้นขา สะโพก แผ่นหลัง หรืออื่น ๆ
ผู้ที่มีปัญหารอยแผลหรือรอยด่างดำจากขนคุดตามตัว (Keratosis Pilaris)

Morpheus8 ทำตำแหน่งไหนได้บ้าง?

Morpheus8 สามารถใช้ได้กับหลายบริเวณของใบหน้าและร่างกาย โดยปรับระดับความลึกและพลังงานให้เหมาะสมกับแต่ละจุดที่ทำ เพื่อผลลัพธ์ที่ตอบโจทย์ โดยเราสามารถเลือกทำ Morpheus8 ตามตำแหน่งเช่น

ใบหน้า ลดริ้วรอย ร่องแก้ม ปรับรูขุมขนให้กระชับ เรียนเนียนมากยิ่งขึ้น
รอบดวงตา แก้ไขถุงใต้ตา รอยตีนกา และริ้วรอยเล็ก ๆ ทั้งริ้วรอยร่องตื้นและร่องลึก
ลำคอและแนวกราม ลดความหย่อนคล้อย ลดคอมีรอยย่น และลดเหนียงใต้คางได้เล็กน้อย
เนินอก ลดริ้วรอยบริเวณอก ปรับสภาพผิวให้นวลเนียน
มือ ฟื้นฟูผิวบริเวณมือ ลดริ้วรอยแห่งวัย ทำให้มือดูอ่อนเยาว์ยิ่งขึ้น
หน้าท้อง กระชับผิวหน้าท้องหลังคลอดหรือหลังลดน้ำหนัก
ต้นแขน ลดผิวหย่อนคล้อย ต้นแขนไม่กระชับ
ต้นขาและสะโพก ลดความไม่เรียบเนียนของผิว กระชับผิวบริเวณต้นขาและสะโพก

ข้อควรระวังในการทำ Morpheus8:

การทำ Morpheus8 ไม่มีการนับจำนวนช็อตหรือไลน์เหมือนการทำเลเซอร์ทั่วไป แต่จะใช้หัวส่งพลังงาน (Tip) แบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง หนึ่งหัวต่อหนึ่งครั้งเท่านั้น ทำให้ผู้รับบริการอาจเกิดความเข้าใจผิดหรือสับสนได้ง่าย และอาจถูกเอาเปรียบจากผู้ให้บริการที่ไม่ชัดเจนเกี่ยวกับรายละเอียดดังกล่าว ก่อนเข้ารับบริการควรสอบถามข้อมูลอย่างละเอียด ตรวจสอบความโปร่งใสของการให้บริการ และเลือกโรงพยาบาลหรือคลินิกที่ได้มาตรฐาน เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการถูกหลอกลวงหรือถูกเอาเปรียบจากความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการนับช็อต

ขั้นตอนการทำ Morpheus8 มีอะไรบ้าง?

เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจาก Morpheus8 ผู้เข้ารับบริการควรเตรียมตัวให้พร้อมทั้งก่อน ระหว่าง และหลังทำมอร์เฟียสหรือไมโครนีดลิ่ง ดังนี้

การเตรียมตัวก่อนทำ Morpheus8

งดการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีกรดวิตามินเอ (Retinol), AHA และ BHA ล่วงหน้าอย่างน้อย 3-7 วัน
งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติในการผลัดเซลล์ผิว งดสครับหรือขัดผิวก่อนทำ Microneedling ทุกชนิด
งดทานยาหรืออาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ขึ้นไป
หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดแรงจัด 1-2 สัปดาห์ก่อนเข้ารับบริการ
แจ้งแพทย์ล่วงหน้าหากมีโรคประจำตัว แพ้ยา หรืออยู่ในช่วงตั้งครรภ์
หลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์อื่น ๆ หรือทรีตเมนต์ผลัดเซลล์ผิวอย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนทำ

ขั้นตอนการเข้ารับบริการทำ Morpheus8

ทำความสะอาดผิวและทายาชาบริเวณที่จะรักษา (ทิ้งไว้ประมาณ 30-45 นาที) แล้วเช็ดออก
แพทย์จะตั้งค่าความลึกของเข็มและระดับพลังงาน RF ให้เหมาะกับปัญหาผิวแต่ละบุคคล
เริ่มทำไมโครนีดลิ่งโดยใช้หัวอุปกรณ์ Morpheus8 ส่งพลังงาน มักใช้เวลาประมาณ 30-60 นาที
ระหว่างส่งพลังงาน ผู้เข้ารับบริการอาจรู้สึกระคายเคืองผิวเล็กน้อย รู้สึกได้ถึงเข็มที่กดลงไป
หลังทำ แพทย์อาจทาครีมบำรุงเพิ่มเติมเพื่อลดการระคายเคืองผิวและลดการอักเสบ

วิธีดูแลตัวเองหลังทำ Morpheus8

หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าอย่างน้อย 24 ชั่วโมงหลังทำ
ป้องกันไม่ให้ผิวสะสมความชื้นหรือห้ามให้โดนน้ำอย่างน้อย 24 ชั่วโมงแรกหลังทำ
งดโดนแดดจัดเป็นเวลา 2 สัปดาห์ และทาครีมกันแดด SPF 30 PA+++ ขึ้นไปทุกวัน
หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก หรือกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก 24-48 ชั่วโมง
งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดหรือสารผลัดเซลล์ผิว 3-7 วัน
บำรุงผิวด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์ ขี้ผึ้ง หรือปิโตรเลียมเจลที่แพทย์แนะนำเพื่อฟื้นฟูผิวได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

Morpheus8 ผลข้างเคียงมีไหม?

แม้ Morpheus8 จะไม่ได้มีผลข้างเคียงที่น่าเป็นกังวล แต่ก็อาจพบผลข้างเคียงได้บ้างเช่นกัน ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นอาการชั่วคราวและหายได้เองภายในไม่กี่วัน

ผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไป

ผิวแดงหรือบวมเล็กน้อยบริเวณที่ทำ (1-3 วันแรก)
รู้สึกแสบหรือระคายเคืองผิวชั่วคราว
ผิวแห้ง ลอก หรือเป็นขุยเล็กน้อย
จุดเลือดออกเล็ก ๆ บริเวณที่เข็มสัมผัสผิว

ผลข้างเคียงที่ผิดปกติ (ต้องพบแพทย์โดยด่วน)

อาการบวม แดง หรือเจ็บปวดรุนแรงมากขึ้นหลังผ่านไป 3-5 วัน
มีเลือดออกหรือแผลเปิดที่ไม่ดีขึ้นหลังผ่านไป 3 วัน
มีอาการผื่นคันอย่างรุนแรง ผิวอักเสบ หรือมีหนอง (อาจเกิดการติดเชื้อ)

สรุปข้อดี-ข้อเสียของ Morpheus8

ก่อนตัดสินใจทำ Morpheus8 ควรพิจารณาข้อดีและข้อเสีย เพื่อประเมินความเหมาะสมของการรักษากับปัญหาผิวของตนเอง

ข้อดีของ Morpheus8

กระตุ้นคอลลาเจนและอิลาสตินได้ลึกถึงชั้นผิว
ยกกระชับผิว ลดริ้วรอยและหลุมสิวโดยไม่ผ่าตัด
เห็นผลลัพธ์รวดเร็วและชัดเจนในระยะเวลาสั้น ๆ
ปรับระดับพลังงานและความลึกได้ตามปัญหาผิว
สามารถทำได้ทุกสภาพผิวและสีผิว
ไม่ต้องพักฟื้นนาน สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติใน 1-3 วัน

ข้อเสียของ Morpheus8

อาจรู้สึกระคายเคืองเล็กน้อยขณะทำ
อาจต้องทำต่อเนื่องเพื่อให้เห็นผลชัดเจนที่สุด
อาจมีผลข้างเคียงชั่วคราว เช่น ผิวแดง บวม หรือระคายเคือง
ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับทรีตเมนต์อื่นๆ
อาจไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวอักเสบหรือติดเชื้อบริเวณที่ต้องการรักษา

ทำ Morpheus8 ราคาเท่าไหร่?

สำหรับการทำ Morpheus8 ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 30,000 บาทขึ้นไป แต่อย่างไรก็ตาม ราคาจริงอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ต้องการทำไมโครนีดลิ่ง ประเภทของหัวอุปกรณ์ที่ใช้ จำนวนครั้งในการทำมอร์เฟียส และโปรโมชั่นหรือเงื่อนไขพิเศษของแต่ละสถานบริการ จึงควรสอบถามรายละเอียดกับเจ้าหน้าที่และปรึกษาแพทย์เพื่อรับทราบราคาที่ถูกต้องก่อนตัดสินใจ

Q&A : คำถามอื่น ๆ ที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Morpheus8

ทำ Morpheus8 เจ็บไหม?

ขณะทำอาจรู้สึกเจ็บหรือระคายเคืองเล็กน้อย แพทย์จะทายาชาก่อนทำเพื่อลดอาการเจ็บให้น้อยลง

Morpheus8 ใช้เวลาในการทำกี่นาที?

โดยเฉลี่ยใช้เวลาประมาณ 30-60 นาที ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำ

อายุเยอะทำ Morpheus8 เหมาะไหม?

เหมาะสำหรับทุกช่วงวัย โดยเฉพาะวัยที่ผิวเริ่มหย่อนคล้อย เพราะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Morpheus 8 ต้องทำกี่ครั้งจึงจะเห็นผล?

แนะนำทำต่อเนื่องประมาณ 2-3 ครั้งขึ้นไป เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนและอยู่ได้นานยิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคนด้วยเช่นกัน

Morpheus อยู่ได้กี่เดือน?

ผลลัพธ์จะคงอยู่ประมาณ 12-24 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอายุ สภาพผิว และการดูแลผิวหลังทำของแต่ละบุคคล

Morpheus8 กับ Ultraformer ต่างกันยังไง?

Morpheus8 ใช้เข็ม Microneedling ส่งพลังงานคลื่นวิทยุ RF ลงลึกเข้าไปยังผิวชั้นใน แต่ยังไม่ถึงชั้นกล้ามเนื้อ จะเหมาะกับการกระชับผิว ปรับผิวให้เรียบเนียน ส่วน Ultraformer จะใช้คลื่นอัลตราซาวด์ (HIFU) ไม่ใช้เข็ม ส่งพลังงานไปยังชั้นกล้ามเนื้อ จึงเหมาะกับปัญหาผิวหย่อนคล้อยจากกล้ามเนื้อไม่กระชับมากกว่า

Morpheus8 กับ Ulthera ต่างกันยังไง?

Morpheus8 ใช้ Microneedling ร่วมกับพลังงาน RF เหมาะกับการปรับพื้นผิวและกระชับผิวโดยรวม ส่วน Ulthera ใช้พลังคลื่นอัลตราซาวด์ส่งพลังงานลึกถึงผิวชั้น SMAS ที่เป็นชั้นเดียวกับการผ่าตัดดึงหน้า จึงเหมาะกับการยกกระชับใบหน้าแบบเฉพาะจุดมากกว่า และไม่ได้มีส่วนช่วยเรื่องความละเอียดของผิวมากขนาดนั้น

Morpheus8 ต่างจาก Thermage อย่างไร?

Morpheus8 ใช้เข็มขนาดเล็ก (Microneedling) ร่วมกับพลังงาน RF ส่งลงชั้นผิวโดยตรง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาผิวที่หลากหลาย เช่น หลุมสิว ริ้วรอย และผิวหย่อนคล้อย ส่วน Thermage ใช้พลังงานส่งลึกประมาณ 2-4 มม. โดยไม่มีเข็มเป็นตัวนำส่งพลังงาน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเน้นการยกกระชับผิวแบบทั่วไป และไม่ต้องพักฟื้นหรือดูแลตัวเองนานเท่ามอร์เฟียส

Morpheus ตกสะเก็ดกี่วัน?

หลังทำมอร์เฟียส อาจมีสะเก็ดบาง ๆ ประมาณ 3-7 วัน แล้วสะเก็ดจะหลุดออกไปเอง (ไม่แนะนำให้แงะ แกะ เกา หรือสัมผัสบริเวณที่มีสะเก็ด เพราะอาจทำให้เกิดแผลไม่พึงประสงค์ได้)

Morpheus8 ยิงกี่ช็อต ถึงจะได้ผลจริง?

การทำมอร์เฟียสหรือ Morpheus8 ไม่จำกัดช็อต เนื่องจากเป็นการใช้หัวส่งพลังงานหรือหัวทิป (Tip) ในการทำ ซึ่งจะใช้ได้ไม่จำกัด 1 หัวต่อ 1 ครั้ง จึงขึ้นอยู่กับแผนการรักษาและสภาพผิวของแต่ละคนว่าจำเป็นต้องทำกี่ครั้งจึงจะเห็นผลชัดเจน

Morpheus8 พักหน้ากี่วัน?

โดยทั่วไปใช้เวลาพักหน้าประมาณ 1-3 วัน หลังจากนั้นสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ

คำถามอื่น ๆ ที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Morpheus8

สรุป

Morpheus8 คือเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพในการยกกระชับผิว ลดเลือนริ้วรอย และแก้ไขปัญหาหลุมสิวด้วยการใช้เข็มขนาดเล็ก (Microneedling) ร่วมกับพลังงานคลื่นวิทยุ (RF) ส่งลงลึกถึงชั้นผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ช่วยให้ผิวแน่นกระชับ เรียบเนียน และแลดูอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างชัดเจน โดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัดและมีระยะพักฟื้นไม่นาน การดูแลตัวเองหลังทำไม่ซับซ้อนเท่าการผ่าตัดยกกระชับ

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและเหมาะสมกับแต่ละบุคคล ควรเข้ารับคำแนะนำและปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสภาพผิว และเลือกประเภทหัวอุปกรณ์ รวมถึงวางแผนการรักษาให้เหมาะสมที่สุด

แชร์ :

บริการแนะนำ

ตัดหน้าอกผู้ชาย

ดูดไขมัน

เติมไขมัน

ฟิลเลอร์

We always take care of your mobility

24/7 Emergency

Tell : 064 445 5666