
โปรแกรมเมโสหน้าใส เคล็ดลับผิวดูสวยสุขภาพดี ที่ก่อนฉีดต้องรู้ !
เคยเบื่อกับการบำรุงผิวแบบเดิม ๆ ไหม ? โดยเฉพาะการทาครีมที่ไม่รู้จะเห็นผลที่ดีขึ้นเมื่อไหร่ แต่ไม่ต้องนอยด์ไป ! เพราะในปัจจุบันเรามีหัตถการที่ชื่อว่า “โปรแกรมเมโสหน้าใส” ที่จะเข้ามาช่วยฟื้นฟูผิวหน้าให้ดูกระจ่างใส ลดเลือนจุดด่างดำ เสริมความยืดหยุ่นให้แก่ผิว ทำให้ผิวแลดูสุขภาพดี ซึ่งในปัจจุบันยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง บทความนี้เลยจะพาไปรู้จักกับโปรแกรมเมโสกันให้มากขึ้นว่ามันช่วยเรื่องอะไร ? ดียังไง ? อันตรายไหม ? มีข้อจำกัดในการฉีดหรือไม่ เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้ที่กำลังสนใจนำไปประกอบการตัดสินใจ หรือรู้จักโปรแกรมนี้ให้มากขึ้น !
เลือกอ่านตามหัวข้อได้ที่นี่
โปรแกรมเมโสหน้าใส คืออะไร
โปรแกรมเมโสหน้าใส ย่อมาจากคำว่า ‘Mesotherapy’ หรือที่หลายคนมักเรียกกันติดปากว่า ‘โปรแกรมเมโสหน้า’ คือ การฉีดสารสกัดหรือวิตามินที่มีความจำเป็นที่ช่วยในการบำรุงผิว โดยส่วนใหญ่จะประกอบไปด้วย วิตามินซี วิตามินบี คอลลาเจน หรือสารอาหารอื่น ๆ เข้าไปที่ผิวชั้นกลางเพื่อฟื้นฟู ซ่อมแซมผิวภายใน ปรับปรุงการไหลเวียนโลหิตให้ผิวกลับมายืดหยุ่น แข็งแรง หรือกระจ่างใสขึ้นดูเป็นธรรมชาติ
โปรแกรมเมโสหน้าใส มีทั้งหมดกี่แบบ
โปรแกรมเมโสหน้าใสแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ โปรแกรมเมโสหน้าใสแบบสะกิด และ โปรแกรมเมโสหน้าใสแบบฉีด 16 จุด ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีวิธีการรักษาและจุดเด่นที่ไม่เหมือนกัน ดังนี้
- โปรแกรมเมโสหน้าใสแบบสะกิด (Meso Micro Injection Program)
โปรแกรมเมโสแบบสะกิดเป็นการใช้เข็มเล็ก ๆ จิ้มลงบนผิวหน้า โดยจะเป็นการสะกิดแบบถี่ๆเพื่อให้ตัวยาซึมเข้าสู่ชั้นผิวกลาง เทคนิคนี้จะเหมาะสำหรับคนที่ต้องการบำรุงผิวลึกถึงชั้นใน เพื่อปรับโครงสร้างเส้นใยและผลัดเซลล์ผิวไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งใครที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำ ผิวโทรม หรือต้องการกระชับรูขุมขนก็สามารถรักษาด้วยเทคนิคนี้ได้ แต่ในปัจจุบันหลายคลินิกไม่ค่อยนิยมทำแล้ว เนื่องจากอาจทำให้เกิดรอยช้ำ รอยแดง หรืออักเสบติดเชื้อหาเครื่องมือที่ฉีดไม่สะอาด
- โปรแกรมเมโสหน้าใสแบบฉีด 16 จุด (Meso 16 Points Program)
โปรแกรมเมโสแบบฉีด 16 จุด เป็นการแบ่งใบหน้าออกเป็น 16 ตำแหน่ง จากนั้นจะฉีดตัวยาเข้าสู่ใต้ชั้นผิวในแต่ละจุด โดยเน้นการกระจายสารสกัดให้ทั่วถึงทั้งใบหน้า ทำให้สารสกัดที่ฉีดเข้าไปได้มีการทำงานอย่างเต็มที่ในแต่ละบริเวณ กระตุ้นการทำงานของระบบต่าง ๆ ให้ดีขึ้น ซึ่งก็จะเหมาะสำหรับคนที่ต้องการความสม่ำเสมอทั่วทั้งใบหน้า และเป็นวิธีที่เจ็บน้อยกว่าการฉีดแบบสะกิด เพราะมีจุดฉีดที่น้อยกว่านั่นเอง
โปรแกรมเมโสหน้าใส เหมาะกับใคร
โปรแกรมนี้จะเหมาะสำหรับคนที่ต้องการฟื้นฟูผิวให้กลับมาดูสดใสและสุขภาพดีขึ้น ในระยะเวลาที่รวดเร็วกว่าการทาครีมบำรุงผิว และยังเหมาะสำหรับคนที่เจอปัญหาเหล่านี้
- ผู้ที่มีผิวหมองคล้ำ ดูไม่สดใส
- ผู้ที่มีรูขุมขนกว้าง ผิวไม่เรียบเนียน
- ผู้ที่มีปัญหาผิวแห้ง ขาดน้ำ หรือแต่งหน้าไม่ติด
- ผู้ที่มีปัญหาผิวแพ้ง่าย มีผดผื่นหรือสิวอักเสบ
- ผู้ที่มีจุดด่างดำ มีรอยสิว สีผิวไม่สม่ำเสมอ
- ผู้ที่ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง และต้องการบำรุงผิวในระยะเวลาอันสั้นก่อนออกงานสำคัญ
โปรแกรมเมโสหน้าใส ช่วยเรื่องอะไร
โปรแกรมเมโสหน้าใสเป็นหัตถการที่ช่วยฟื้นฟูผิวโดยสารบำรุงที่ฉีดเข้าสู่ใต้ชั้นผิวโดยตรง ซึ่งหลังจากฉีดเข้าไปแล้วจะเข้าไปช่วยในเรื่องต่าง ๆ ได้ดังนี้
- ช่วยลดความหมองคล้ำ เพิ่มความกระจ่างใสให้กับผิว
- ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้น ทำให้ผิวแลดูอิ่มน้ำ
- ช่วยลดรอยสิว หรือลดเลือนจุดด่างดำให้จางลง
- ช่วยกระชับรูขุมขนให้ดูเล็กลง ทำให้ผิวหน้าเนียนละเอียดมากยิ่งขึ้น
- ช่วยให้ผิวแข็งแรง แต่งหน้าติดง่ายและทนกว่าเดิม
ฉีดโปรแกรมเมโสหน้าใส ยี่ห้อไหนดี
การฉีดโปรแกรมเมโสหน้าใสมีคุณสมบัติที่ช่วยฟื้นฟูผิวได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ที่ช่วยปรับผิวให้ดูขาวกระจ่างใส สูตรที่เน้นเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิวดูฉ่ำโกลว์ หรือสูตรที่ช่วยลดสิวและรอยสิว ซึ่งต้องให้แพทย์เป็นผู้ประเมินและเลือกใช้ยี่ห้อให้เหมาะสมกับปัญหา เพราะแต่ละสูตรก็จะถูกออกแบบมาตอบโจทย์ต่อการแก้ไขปัญหาที่แตกต่างกัน อาทิเช่น
- Filorga – ตัวนี้จะเน้นฟื้นฟูผิวโทรม เต็มความชุ่มชื้น หรือเน้นผิวให้ดูขาวใสขึ้น
- Plinest – ซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ เหมะากับผิวแพ้ง่าย ขาดน้ำ หรือมีริ้วรอย
- Integration – เน้นปรับผิวให้กระจ่างใส ลดจุดด่างดำ แก้ไขสีผิวไม่สม่ำเสมอ
- Rejuran – เน้นการฟื้นฟูผิวเสียให้กลับมาแข็งแรง ลดการอักเสบ ลดรอยดำหรือรอยแดงจากสิว
ทั้งนี้ทั้งนั้น แพทย์จะเป็นผู้ตรวจประเมินผิวหน้าของผู้เข้ารับบริการก่อนทุกครั้ง เพื่อวางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสมว่าผู้เข้ารับบริการแต่ละคนเหมาะกับการใช้สูตรไหนจึงจะสามารถฟื้นฟูผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การเตรียมตัวก่อน-หลังทำโปรแกรมเมโสหน้าใส
ต้องบอกเลยว่าขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนทำหัตถการ รวมไปถึงการดูแลตัวเองหลังทำหัตถการ ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้ผลลัพธ์หลังฉีดมีประสิทธิภาพ สามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจนและนานขึ้น ซึ่งครั้งก่อนและหลังมีรายละเอียดการดูแลตัวเองง่าย ๆ ดังนี้
การเตรียมตัวก่อนทำหัตถการ
- งดการสครับผิว ขัดผิว หรือทำโปรแกรมเลเซอร์อย่างน้อย 3-7 วัน
- หลีกเลี่ยงการทานยาที่มีผลต่อการไหลเวียนเลือด เพื่อลดโอกาสการเกิดรอยช้ำ
- ควรล้างหน้าให้สะอาดก่อนเข้ารับบริการ ไม่แนะนำให้แต่งหน้า
- หากมีโรคประจำตัว มีการแพ้ยา ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนทุกครั้ง
การดูแลตัวเองหลังทำหัตถการ
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าแรง ๆ เป็นเวลาอย่างน้อย 24 ชั่วโมงแรกหลังทำ
- ในช่วง 24 ชั่วโมงแรก หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าและใช้เครื่องสำอางทุกชนิด
- อย่างน้อย 1-3 วันแรก งดการออกกำลังกาย หรือทำพฤติกรรมที่ทำให้ผิวได้รับความระคายเคือง
- แนะนำให้ทาครีมกันแดดหรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่อ่อนโยน
- หากมีรอยแดงหรือบวม สามารถประคบเย็นเพื่อบรรเทาอาการได้
Before-After โปรแกรมเมโสหน้าใส
ภาพส่วนหนึ่งของโปรแกรมเมโสหน้าใส รีวิวจากผู้ใช้บริการจริง ซึ่งหลายท่านให้ความพึงพอใจต่อผลลัพธ์ที่ได้ หลังฉีดผิวหน้าดูสุขภาพดีขึ้น ผิวกระจ่างใส ดูชุ่มชื้น และเมื่อกลับมาฉีดอย่างต่อเนื่องก็ยิ่งเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน (*ผลการรักษาขึ้นอยู่กับรายบุคคล)
โปรแกรมเมโสหน้าใส อันตรายไหม
โปรแกรมเมโสหน้าใส ดีไหม ? อันตรายหรือเปล่า ? เป็นหัตถการที่ไม่ได้อันตราย หากทำกับแพทย์ที่มีความรู้ในการเลือกใช้สูตรที่เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละคน รวมไปถึงทักษะในการฉีดที่ถูกจุดกับปัญหาที่เกิดขึ้นบนใบหน้า รวมไปถึงการเลือกใช้ตัวยาที่ผ่านมาตรฐาน นำเข้ามาจากบริษัทผู้ผลิตโดยตรง จึงจะเป็นการดูแลรักษาได้อย่างปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ตามมา
ดังนั้น ก่อนเข้ารับบริการโปรแกรมเมโสหน้าใสรีวิวจากผู้ใช้บริการจริงก็เป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญ ที่จะช่วยให้เราตรวจสอบได้ว่าคลินิกหรือแพทย์ที่เราจะฉีดด้วยนั้นมีทักษะในการรักษามากน้อยแค่ไหน ฉีดแล้วเห็นผลไหม และเกิดปัญหาขึ้นหรือเปล่า นอกจากรีวิวแล้วก่อนทำโปรแกรมเมโสหน้าใสราคาก็เป็นปัจจัยสำคัญที่เราจะต้องสอบถามให้แน่ใจว่ามีค่าบริการเท่าไหร่ ซึ่งราคาจะต้องไม่ถูกหรือแพงกว่ามาตรฐานของคลินิกทั่วไป
โปรแกรมเมโสหน้าใส มีข้อดี-ข้อควรระวังอะไรบ้าง
ก่อนเลือกตัดสินใจทำโปรแกรมเมโสหน้าใสเราต้องทราบก่อนว่าหัตถการนี้มีข้อดีอะไรบ้าง และมีจุดไหนที่เราต้องระมัดระวัง เพื่อการรักษาที่เข้ากับสภาพผิวและปัญหาที่เจอ
ข้อดี
- มีคุณสมบัติที่สามารถฟื้นฟูผิวภายในได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- เลือกสูตรการรักษาได้ตามปัญหาผิวที่ต้องการแก้ไข
- ใช้เวลาในการทำไม่นาน หลังทำเสร็จไม่ต้องพักฟื้น ใช้ชีวิตได้ปกติ
- เหมาะสำหรับคนที่ต้องการฟื้นฟูผิวในระยะเวลาที่รวดเร็ว หรือต้องออกงานสำคัญ
- สามารถบำรุงได้ทั่วทั้งใบหน้า ทำให้ผิวแข็งแรง
ข้อควรระวัง / ข้อกำจัด
- ผลลัพธ์ไม่ถาวร ต้องกลับมาทำซ้ำคือคงสภาพผลลัพธ์
- อาจมีรอยแดง รอยช้ำหลังฉีดเล็กน้อย โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวบาง
- หากได้รับตัวยาที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ได้ฉีดโดยแพทย์อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อ หรือแพ้ได้
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวมีผิวแพ้ง่ายควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสมในการรักษาทุกครั้ง
Q&A โปรแกรมเมโสหน้าใส
นอกจากข้อมูลเกี่ยวกับบริการโปรแกรมฉีดโบท็อกตามด้านบนแล้ว เรายังได้รวบรวมคำถามที่พบได้บ่อยและคำตอบเพื่อไขข้อสงสัย เพื่อเป็นรายละเอียดเพิ่มเติมในการศึกษาและทำความเข้าใจก่อนเข้ารับบริการ
โปรแกรมเมโสหน้าใส เจ็บไหม
ทำโปรแกรมเมโสหน้าใส เจ็บไหม ? ในระหว่างการรักษาอาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อยช่วงที่เข็มจิ้มลงบนผิว แต่คลินิกส่วนใหญ่จะมีการทายาชาเพื่อบรรเทาอาการเจ็บก่อนการรักษา
โปรแกรมเมโสหน้าใส ฉีดกี่ครั้งถึงจะดีขึ้น
โปรแกรมเมโสหน้าใส ฉีดกี่ครั้งเห็นผล ? โดยปรกติแล้วการทำในครั้งแรกก็จะสามารถเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นได้เลยในเรื่องความใสของผิว แต่มันจะเห็นผลได้อย่างชัดเจนก็ต่อเมื่อเข้ามารับบริการอย่างต่อเนื่อง 3-5 ครั้ง โดยในแต่ละครั้งแพทย์ก็จะแนะนำให้เว้นช่วงระยะห่างการประมาณ 1-2 สัปดาห์
โปรแกรมเมโสหน้าใส ผลลัพธ์อยู่ได้กี่เดือน
ผลลัพธ์จากการทำโปรแกรมเมโสหน้าใสจะสามารถอยู่ได้ประมาณ 1-3 เดือน ทั้งนี้ ระยะเวลาของผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวเดิม การดูแลตัวเองภายหลังจากการรักษา ถ้ามีพฤติกรรมการพักผ่อนน้อยหรือโดนแดดจัดเป็นประจำก็จะทำให้ผิวกลับมาหมองคล้ำได้เร็วขึ้น
โปรแกรมเมโสหน้าใส หลังฉีดมีผลข้างเคียงอะไรบ้าง
สำหรับผลข้างเคียงที่สามารถเกิดขึ้นได้หลังจากทำโปรแกรมเมโสหน้าใส นั่นก็คือ รอยเข็มหรือมีจุดเลือดออกเล็ก ๆ บริเวณที่ทำการรักษา ในบางเคสอาจมีอาการบวมตึงในบางจุด ซึ่งอาการเหล่านี้จะดีขึ้นและหายไปได้เองภายใน 1-3 วัน อย่างไรก็ตาม ควรทำกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน เพื่อป้องกันการติดเชื้อหรืออาการแพ้รวมไปถึงอาการที่ไม่พึงประสงค์อื่น ๆ
โปรแกรมเมโสหน้าใส ช่วยรักษาฝ้าได้ด้วยไหม
โปรแกรมเมโสหน้าใสในบางสูตรหรือบางยี่ห้อก็จะมีส่วนผสมที่ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน ดังนั้นการทำหัตถการนี้จึงมีส่วนช่วยลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำด้วย แต่ในกรณีที่มีปัญหาฝ้าลึกแพทย์จะแนะนำให้ทำควบคู่ไปกับการรักษาด้วยโปรแกรมเลเซอร์
โปรแกรมเมโสหน้าใสแบบทา ทำแล้วได้ผลไหม
แบบทาจะสามารถบำรุงผิวให้ดูดีหรือใสขึ้นได้ในระดับหนึ่ง แต่ตัวสารสกัดจะไม่สามารถซึมลงเข้าสู่ผิวได้ลึกเหมือนการฉีด ดังนั้นการทำโปรแกรมเมโสหน้าใสแบบทาจึงเห็นผลลัพธ์ได้ช้ากว่า และอาจจะต้องหมั่นทาอยู่เป็นประจำ ซึ่งแพทย์จะแนะนำให้ทำเสริมระหว่างที่เว้นช่วงการฉีดโปรแกรมเมโสหน้า ให้เกิดผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
หลังฉีดโปรแกรมเมโสหน้าใส ทำให้ผิวขาวถาวรไหม
โปรแกรมเมเโสหน้าใสมีคุณสมบัติช่วยปรับสีผิวให้ดูขาวกระจ่างใสขึ้นได้จริง แต่ไม่สามารถทำให้ขาวได้ถาวร เนื่องจากผลลัพธ์หลังฉีดจะสามารถคงอยู่ได้ราว ๆ 1-3 เดือน ซึ่งระยะเวลาก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิว การดูแลผิวหลังทำ หากใครที่ต้องการให้ผิวกระจ่างใสอย่างต่อเนื่องแนะนำให้เข้ามาทำซ้ำตามระยะเวลาที่แพทย์กำหนด ควบคู่ไปกับการใช้สกินแคร์บำรุง
สรุปโปรแกรมเมโสหน้าใส
โปรแกรมเมโสหน้าใสเป็นหัตถการที่ช่วยฟื้นฟูผิวให้ดูสุขภาพดีขึ้นได้ด้วยการฉีดสารสกัดที่จำเป็นเข้าสู่ผิวชั้นกลาง ทำให้หลังฉีดแล้วผิวดูฉ่ำวาว กระจ่างใส ชุ่มชื้น แต่งหน้าติดทนขึ้น ตอบโจทย์อย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวเร่งด่วน หรือต้องไปออกงานสำคัญ ใครที่กำลังมีปัญหาผิวหมองคล้ำต้องการกู้ผิวด้วยโปรแกรมเมโสหน้าใสสามารถขอคำปรึกษาหรือให้ทีมแพทย์ AM International Hospital ช่วยประเมินการรักษาเบื้องต้นได้ที่ LINE : @AMHospital
บริการแนะนำ
We always take care of your mobility
24/7 Emergency
Tell : 064 445 5666