loader image

โปรแกรม Radiesse นวัตกรรมเพื่อผิวที่ดูกระชับและเรียบเนียน

พออายุมากขึ้นการดูแลผิวด้วยสกินแคร์อย่างเดียวคงไม่เพียงพอในการตอบโจทย์ความต้องการของผิวที่เริ่มสูญเสียความยืดหยุ่นและความกระชับ แต่โปรแกรม Radiesse เป็นทางเลือกที่ดีในการฟื้นฟูผิวอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยคุณสมบัติที่ช่วยเติมเต็มริ้วรอยลึก และยกกระชับผิวให้ดูเต่งตึงขึ้นได้หลังการฉีด ซึ่งทำให้ผลลัพธ์ยั่งยืนและดูเป็นธรรมชาติ ซึ่งในบทความนี้จะพาคุณไปรู้จักหัตถการนี้กันให้มากขึ้นว่ามันดีอย่างไร โปรแกรม Radiesse มีข้อเสียไหม ช่วยเรื่องอะไร และแตกต่างจากผลิตภัณฑ์อื่น ๆ อย่างไร

เลือกอ่านตามหัวข้อได้ที่นี่

โปรแกรม Radiesse คืออะไร

โปรแกรม Radiesse เป็นสารที่ช่วยปรับโครงสร้างผิวให้ดูอิ่มฟู กระชับ โดยมีส่วนประกอบหลักคือ Calcium Hydroxylapatite (CaHA) ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่พบได้ในกระดูกของร่างกายมนุษย์ มาพร้อมกับคุณสมบัติที่สามารถฟื้นฟูผิวได้แบบองค์รวม ไม่ว่าจะเป็น การปรับโครงสร้างเส้นใยใต้ชั้นผิว ทำให้ผิวดูสุขภาพดี แข็งแรง มีความชุ่มชื้น เพิ่มความยืดหยุ่น ลดเลือนริ้วรอยและร่องลึกบนใบหน้าได้ตั้งแต่ระดับปานกลางไปจนถึงระดับรุนแรง และยังช่วยยกกระชับปรับรูปหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หลักการทำงานของโปรแกรม Radiesse

โปรแกรม Radiesse มีการทำงานผ่าน 2 กระบวนการหลัก ๆ โดยในระยะแรก เมื่อฉีดเข้าไปในผิวตัวสารที่ฉีดเข้าไปจะช่วยเติมเต็มบริเวณที่ขาดวอลลุ่ม ทำให้ผิวดูอิ่มฟูขึ้น ริ้วรอยต่าง ๆ ดูจางลง ผิวแลดูเต่งตึงและเรียบเนียนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และหลังจากผ่านไปประมาณ 4 สัปดาห์ ตัวสารจะเริ่มสลายไปตามธรรมชาติ เหลือเพียงอนุภาค CaHA ซึ่งจะทำหน้าที่กระตุ้นกระบวนการฟื้นฟูของผิวโดยการส่งเสริมการสร้างเส้นใยโปรตีน ทำให้เกิดการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ที่แข็งแรงขึ้น

โปรแกรม Radiesse เหมาะกับใคร

  • ผู้ที่มีอายุ 30-35 ปีขึ้นไป และเริ่มเผชิญกับปัญหาผิวเสื่อมสภาพจากอายุที่เพิ่มขึ้น
  • ผู้ที่ต้องการยกกระชับใบหน้า แก้ไขความหย่อนคล้อย และปรับกรอบหน้าให้คมชัดขึ้น
  • ผู้ที่มีสภาพผิวอ่อนแอ ดูไม่สดใส หรือไม่ได้รับการบำรุงมาเป็นเวลานาน
  • ผู้ที่มีปัญหาผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น และดูหมองคล้ำ
  • ผู้ที่มีริ้วรอยลึกบริเวณต่างๆ เช่น ร่องแก้ม มุมปาก หรือรอยย่นรอบริมฝีปาก
  • ผู้ที่มีรอยเหี่ยวย่นบริเวณหลังมือ คอ และเนินอก และต้องการฟื้นฟูผิวบริเวณดังกล่าว
  • ผู้ที่ต้องการเสริมสร้างความแข็งแรงให้ผิวและคงความอ่อนเยาว์ในระยะยาว

โปรแกรม Radiesse มีคุณสมบัติช่วยเรื่องอะไรบ้าง

โปรแกรม Radiesse เป็นสารนอกจากจะช่วยเติมเต็มผิวแล้ว ยังช่วยปรับโครงสร้างผิวให้แข็งแรงและกระชับขึ้นจากภายใน ด้วยอนุภาค Calcium Hydroxylapatite (CaHA) ที่ช่วยเสริมสร้างเนื้อเยื่อผิวใหม่ ทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้ระยะยาวและดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น โดยคุณสมบัติหลักของโปรแกรม Radiesse ได้แก่

  • เติมเต็มริ้วรอยและร่องลึก เช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก รอยย่นรอบปาก และร่องใต้ตา ทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น
  • ช่วยยกกระชับผิวที่เริ่มหย่อนคล้อย โดยเฉพาะบริเวณแก้ม กรอบหน้า และลำคอ ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น
  • ฟื้นฟูสุขภาพผิว ทำให้ผิวแข็งแรงและเพิ่มความยืดหยุ่นผิวได้จากภายใน
  • เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ลดความแห้งกร้านและช่วยให้ผิวดูสดใส สุขภาพดีขึ้น
  • ฟื้นฟูผิวที่เริ่มมีริ้วรอยและความหย่อนคล้อยในบริเวณอื่นนอกจากใบหน้า เช่น หลังมือ คอ และเนินอก

โปรแกรม Radiesse ฉีดบริเวณไหน

โปรแกรม Radiesse มีคุณสมบัติที่สามารถฉีดได้หลายบริเวณเพื่อช่วยฟื้นฟูและปรับโครงสร้างผิวให้แข็งแรงขึ้น ซึ่งไม่เพียงแต่ใช้สำหรับการเติมเต็มริ้วรอยบนใบหน้าเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้ปรับกระชับผิวในบริเวณอื่น ๆ ที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยหรือเสื่อมสภาพตามวัย และบริเวณที่สามารถฉีดโปรแกรม Radiesse ได้มีดังนี้

  • ใบหน้า – ฉีดเพื่อช่วยเติมเต็มร่องลึกและปรับโครงสร้างผิวบริเวณร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก มุมปาก ขมับ และกรอบหน้า ช่วยให้ใบหน้าดูยกกระชับและมีมิติมากขึ้น
  • คาง – ใช้ในการปรับรูปคางให้ได้สัดส่วนที่สมดุล ดูเรียวขึ้น และช่วยเสริมแนวกรอบหน้าให้ชัดเจน
  • ลำคอ – ช่วยลดริ้วรอยบริเวณลำคอ และเพิ่มความกระชับให้กับผิวบริเวณนี้
  • หลังมือ – ฟื้นฟูผิวบริเวณหลังมือที่เริ่มมีความเหี่ยวย่น หรือมองเห็นเส้นเลือดชัดเกินไป ปรับให้ดูเรียบเนียนและเต่งตึงขึ้น
  • เนินอก – ช่วยลดริ้วรอยบริเวณเนินอกที่เกิดจากอายุที่เพิ่มขึ้น หรือการเสื่อมสภาพของผิว ทำให้ผิวดูเรียบเนียนและอ่อนเยาว์ขึ้น

โปรแกรม Radiesse มีกี่รุ่น

  • โปรแกรม Radiesse – เป็นรุ่นเดิมของโปรแกรมเรเดียสที่มีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูและแก้ไขปัญหาผิวในระดับปานกลางถึงรุนแรง เช่น รอยพับลึกบนใบหน้า ร่องแก้ม ช่วยเสริมโครงสร้างผิวจากภายใน ทำให้ผิวดูเต่งตึงขึ้น ฟื้นฟูความชุ่มชื้น ให้ผิวดูอิ่มฟู ซึ่งรุ่นนี้จะไม่มีส่วนผสมของยาชา
  • โปรแกรม Radiesse Plus – รุ่นนี้จะมีความแตกต่างจากรุ่นแรกโดยการเพิ่มส่วนผสมของ Lidocaine (ยาชา) อยู่ในปริมาณ 0.3% ซึ่งช่วยลดความเจ็บปวดระหว่างการฉีดได้เป็นอย่างดี อีกทั้งโปรแกรม Radiesse Plus ยังมีความคงตัวได้ดี สามารถสร้างโครงหน้าหรือสร้างกรอบหน้าได้ชัดขึ้น

โปรแกรม Radiesse และโปรแกรม Sculptra ต่างกันไหม

โปรแกรม Radiesse vs โปรแกรม Sculptra ฉีดตัวไหนดีกว่ากัน ? เป็นคำถามที่หลายคนมักถามกันอยู่บ่อย ๆ ถึงความแตกต่างของสองตัวนี้ เราเลยทำตารางเปรียบเทียบจุดแตกต่างเพื่อให้ทุกท่านได้เข้าใจกันมากยิ่งขึ้น

โปรแกรม Radiesse

ความแตกต่าง

โปรแกรม Sculptra

Calcium Hydroxylapatite (CaHA)

ส่วนประกอบ

Poly-L-lactic Acid (PLLA)

ช่วยเติมเต็มผิวและช่วยเพิ่มวอลลุ่มให้กับใบหน้า

จุดเด่น

ช่วยฟื้นฟูและเสริมความแข็งแรงของผิวจากภายใน

ริ้วรอยร่องลึกระดับปานกลางถึงมาก เช่น ร่องแก้ม

เหมาะสำหรับ

ฟื้นฟูใบหน้าที่สูญเสียไขมันและยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย

เห็นการเปลี่ยนแปลงหลังฉีด ผลลัพธ์คงอยู่ 12-18 เดือน

ระยะเวลาที่เห็นผล

ค่อย ๆ ปรากฏผลหลังทำ 2-3 สัปดาห์ ผลลัพธ์คงอยู่ 2 ปี

ข้อควรปฏิบัติก่อน-หลังทำโปรแกรม Radiesse

เพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพและเป็นไปตามที่หวัง ควรมีการเตรียมพร้อมผิว และการดูแลตัวเองที่ดี ดังนี้

การเตรียมตัวก่อนทำหัตถการ 

  • งดดื่มแอลกอฮอล์และทานอาหารเสริมบางชนิด – ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด รวมไปถึงอาหารเสริมอย่างวิตามิน E, น้ำมันปลา, แอสไพริน และยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือดอย่างน้อย 3-7 วัน เพื่อลดความเสี่ยงต่ออาการบวมช้ำ
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ – ช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้นและพร้อมรับการรักษา
  • หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าหรือการใช้ครีมที่มีสารผลัดเซลล์ผิว – ก่อนเข้ารับบริการควรทำความสะอาดใบหน้าให้สะอาด และหลีกเลี่ยงสกินแคร์ที่ทำให้ผิวเกิดความระคายเคือง
  • แจ้งแพทย์หากมีโรคประจำตัวหรือมีการใช้ยาใด ๆ อยู่ – เพื่อให้แพทย์ประเมินความเหมาะสมต่อการรักษา

 

การดูแลตัวเองหลังทำหัตถการ 

  • งดจับ กด หรือนวดบริเวณที่ฉีด – เพื่อป้องกันไม่ให้สารเติมเต็มกระจายตัวผิดตำแหน่ง
  • หลีกเลี่ยงความร้อนสูง – เช่น ซาวน่า อบไอน้ำ หรือการออกกำลังกายอย่างหนักในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรก
  • ดื่มน้ำให้มากๆ – ช่วยให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ และทำให้ผิวฟื้นตัวเร็วขึ้น
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ – เพื่อลดความเสี่ยงต่ออาการบวมและการอักเสบ
  • สามารถประคบเย็นได้หากมีอาการบวม – แต่ไม่ควรกดหรือสัมผัสแรง ๆ

โปรแกรม Radiesse มีข้อควรระวังอะไรบ้าง

ถึงแม้ว่าโปรแกรม Radiesse จะสามารถแก้ไขปัญหาผิวให้ดูดีขึ้นได้โดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผิว แต่ก็จะมีข้อควรระวังหรือข้อจำกัดบางประการสำหรับคนบางกลุ่มที่ควบทราบก่อนใช้บริการ

  • ผู้ที่มีโรคประจำตัว ประวัติแพ้ยาชา หรือใช้ยาประจำ ควรปรึกษาแพทย์ล่วงหน้าก่อนเข้ารับบริการ
  • หากมีปัญหาผิวหนังอักเสบ หรือมีการติดเชื้อบริเวณที่จะฉีด ควรรักษาให้หายก่อนเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน
  • สตรีมีครรภ์และคุณแม่ที่อยู่ระหว่างให้นมบุตร ควรหลีกเลี่ยงการทำหัตถการนี้
  • ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือดหรือภาวะเลือดออกผิดปกติ ไม่แนะนำให้เข้ารับการฉีด
  • หากเคยมีประวัติแพ้สารในผลิตภัณฑ์ หรือมีอาการแพ้รุนแรง ควรแจ้งแพทย์ก่อนตัดสินใจเข้ารับบริการ

Before-After โปรแกรม Radiesse

โปรแกรม Radiesse รีวิวจากผู้มาใช้บริการ ซึ่งก่อนฉีดใบหน้าจะดูหย่อนคล้อย และมีริ้วรอยร่วมด้วยตามจุดต่าง ๆ บนใบหน้า โดยหลังจากฉีดโปรแกรมเรเดียสไปแล้วผิวหน้าดูยกกระชับขึ้น ริ้วรอยต่าง ๆ ดูลดเลือนลง (*ผลการรักษาขึ้นอยู่กับรายบุคคล)

โปรแกรม Radiesse ราคาเท่าไหร่

โปรแกรม Radiesse ราคาเพียง 29,000 บาท ทั้งนี้ ราคาของโปรแกรมอาจขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ปริมาณที่ใช้ จำนวนจุดที่ฉีด และสภาพผิวของแต่ละบุคคล แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนเพื่อประเมินราคาอย่างถูกต้องและเหมาะสมกับความต้องการของแต่ละบุคคล

Q&A : โปรแกรม Radiesse

รวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโปรแกรม Radiesse

โปรแกรม Radiesse กับโปรแกรมฉีด Filler เหมือนกันไหม

หลายคนอาจเกิดข้อสงสัยว่าทั้งสองหัตถการนี้เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร เพราะในหลาย ๆ คลินิกก็มักจะเรียกว่าโปรแกรม Radiesse Filler ซึ่งในความเป็นจริงแล้วแม้ทั้งสองโปรแกรมจะถูกนำมาใช้เพื่อเติมเต็มและปรับรูปหน้า แต่มันก็จะมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ตรงที่ส่วนประกอบของโปรแกรมเรเดียสจะเป็น CaHA ที่ช่วยให้ผิวดูแน่นกระชับหรือดูเฟิร์มขึ้น แต่โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์จะเป็น HA ที่เน้นเติมเต็มร่องลึก เพิ่มความยืดหยุ่นและช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ดังนั้นทั้งสองโปรแกรมนี้จึงไม่ใช่หัตถการเดียวกัน เพียงแต่ให้ผลลัพธ์ที่คล้ายคลึงกันนั่นเอง

โปรแกรม Radiesse นับว่าเป็นสารที่สามารถนำมาฉีดเข้าสู่ผิวได้โดยไม่เป็นอันตราย เนื่องจากมีส่วนประกอบหลักเป็น Calcium Hydroxylapatite (CaHA) ซึ่งเป็นสารคล้ายกับแร่ธาตุในกระดูกของร่างกายเรา อย่างไรก็ตามหลังฉีดอาจมีผลข้างเคียงที่สามารถพบได้ เช่น

  • อาการบวมแดงหรือช้ำเล็กน้อย – จะค่อยๆดีขึ้นภายใน 3-7 วัน
  • อาการเจ็บหรือระบมเล็กน้อย – จะดีขึ้นและหายได้เองใน 1-2 วัน
  • เป็นก้อนหรือตุ่มนูนเล็กๆ – พบได้ในกรณีที่ฉีดตื้นเกินไป สามารถกลับเข้าไปให้แพทย์ช่วยแก้ไขได้

โดยปกติแล้วอาการข้างเคียงเหล่านี้มักไม่รุนแรง และสามารถบรรเทาได้ด้วยการประคบเย็นหรือรับประทานยาแก้ปวด แต่หากใครที่มีอาการผิดปกติรุนแรงควรรีบเข้าปรึกษาแพทย์โดยเร็ว

ความเจ็บจากการฉีดโปรแกรม Radiesse ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีดและระดับความไวของผิวแต่ละคน แต่โดยทั่วไปแล้วจะให้ความรู้สึกเจ็บน้อยกว่าที่คิด เนื่องจากแพทย์จะมีการผสมยาชาเข้าไปด้วยเพื่อลดความเจ็บขณะฉีด นอกจากนี้ยังมีการใช้เข็มปลายทู่เพื่อลดการเจ็บของเนื้อเยื่อ และทำให้รู้สึกเจ็บได้น้อยกว่าการใช้เข็มปลายแหลมปกติ

โปรแกรม Radiesse จะคล้ายกับโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์นั่นก็คือหลังฉีดจะเห็นการเปลี่ยนแปลงได้เลยในด้านการเติมเต็มใบหน้า ผิวจะดูอิ่มฟูขึ้น และผลลัพธ์จะชัดเจนขึ้นเรื่อยๆใน 2-4 สัปดาห์ ซึ่งเป็นช่วงที่โปรแกรมเรเดียสเกิดการกระจายตัวใต้ชั้นผิว ส่วนจำนวนครั้งในการฉีดขึ้นอยู่กับปัญหาและความต้องการของเรา หากต้องการปรับรูปหน้าเพียงเล็กน้อย ก็อาจจะฉีดเพียง 1 ครั้ง หรือหากต้องการกระชับผิวหรือต้องการเห็นผลในระยะยาวแนะนำให้กลับมาฉีดซ้ำปีละ 1 ครั้ง

หลังฉีดจะสามารถคงสภาพอยู่ได้ประมาณ 12-18 เดือน โดยขึ้นอยู่กับการตอบสนองของร่างกายของแต่ละบุคคล รวมไปถึงการดูแลตัวเองหลังฉีดซึ่งเป็นปัจจัยที่มีผลต่อระยะเวลาการคงอยู่ของโปรแกรม Radiesse  สำหรับใครที่ต้องการคงผลลัพธ์อย่างต่อเนื่องก็สามารถกลับมาฉีดซ้ำได้ตามระยะเวลาที่แพทย์กำหนด 

สามารถทำร่วมกับหัตถการอื่นๆได้เพื่อเสริมผลลัพธ์ให้ดียิ่งขึ้น เช่น ทำร่วมกับโปรแกรมฉีดโบท็อกเพื่อลดริ้วรอยและปรับรูปหน้าให้ดูเร็วขึ้น หรือทำร่วมกับโปรแกรม Ultherapy หรือโปรแกรม Thermage เพื่อช่วยกระชับผิวให้ได้ผลลัพธ์แบบชัดเจน หรือหัตถการความงามอื่น ๆ ที่แพทย์ประเมินแล้วว่าสามารถทำร่วมกันได้

โปรแกรม Radiesse(FAQ)

สรุปโปรแกรม Radiesse

โปรแกรม Radiesse เป็นโปรแกรมเติมเต็มผิวที่ช่วยฟื้นฟูและยกกระชับใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยสาร Calcium Hydroxylapatite (CaHA) ซึ่งช่วยเติมเต็มริ้วรอยลึกและลดความหย่อนคล้อยให้ผิวดูเรียบเนียนและเต่งตึงขึ้นหลังฉีด ผลลัพธ์ที่ได้ดูเป็นธรรมชาติและฟื้นฟูผิวในระยะยาว สำหรับใครที่ต้องการให้แพทย์ช่วยประเมินสภาพผิว หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรม Radiesse สามารถทักเข้ามาได้ที่ AM International Hospital เรายินดีให้คำปรึกษาและดูแลอย่างใกล้ชิด

แม้ Body-Jet จะมีข้อดีหลายประการ แต่ก็ยังมีข้อจำกัดบางประการที่ควรพิจารณา เช่น ค่าใช้จ่ายที่สูง หรือข้อจำกัดในกรณีที่ต้องการกำจัดไขมันในปริมาณมาก ดังนั้นการเลือกสถานพยาบาลที่มีมาตรฐาน พร้อมทีมแพทย์ที่มีความสามารถและเทคโนโลยีที่ทันสมัย จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาตอบโจทย์และเหมาะสม

แชร์ :