
โปรแกรมฉีดโบท็อก คืออะไร ทำความรู้จักตัวช่วยลดริ้วรอย ปรับรูปหน้า
โปรแกรมฉีดโบท็อก (Botox) เป็นเทรนด์ความงามที่ไม่ต้องผ่าตัดซึ่งได้รับความนิยมมากทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย เพราะเป็นตัวช่วยในการลดริ้วรอยให้ใบหน้าดูอ่อนวัยและปรับรูปหน้าให้มีมิติยิ่งขึ้น หลายคนที่กำลังมีแพลนจะเข้ารับบริการนี้อาจสงสัยว่า “โปรแกรมฉีดโบท็อก คืออะไร มีหลักการทำงานอย่างไร ช่วยเรื่องอะไร หรือแม้กระทั่งการเลือกโปรแกรมฉีดโบท็อกยี่ห้อไหนดีให้เหมาะกับตัวเอง รวมถึงโปรแกรมฉีดโบท็อก ราคาเท่าไหร่ ฉีดโปรแกรมโบท็อกอยู่ได้กี่เดือน หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหาคำตอบเกี่ยวกับโปรแกรมความงามนี้อยู่ ทาง AM International Hospital เรามีข้อมูลทั้งหมดมาพร้อมเสิร์ฟเพื่อเป็นการเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเข้ารับบริการ
เลือกอ่านตามหัวข้อได้ที่นี่
โปรแกรมฉีดโบท็อก คืออะไร?
โปรแกรมฉีดโบท็อก (Botox) คือ หัตถการฉีดสารโปรตีนที่สกัดจากแบคทีเรีย Clostridium botulinum ซึ่งมีหลายชนิด แต่ชนิดที่นิยมนำมาใช้ในวงการความงามและการแพทย์คือ Botulinum Toxin A หรือ โบทูลินั่มท็อกซิน เอ ซึ่งมีคุณสมบัติในการยับยั้งการทำงานของเส้นประสาท ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว มีจุดประสงค์การรักษาเพื่อลดริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้า การปรับรูปหน้า และการรักษาอาการบางชนิด เช่น ปวดหัวไมเกรน อาการปวดคอ บ่า ไหล่ หรือออฟฟิศซินโดรม รวมถึงภาวะเหงื่อออกมากเกินไป โดยการใช้โบท็อกถือเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในวงการแพทย์และความงาม
โปรแกรมโบท็อก ออกฤทธิ์อย่างไร?
สารโปรตีนจาก Botulinum toxin A จะเข้าไปยับยั้งการส่งสัญญาณจากเส้นประสาทไปยังกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อในบริเวณที่ฉีดคลายตัวลงชั่วคราว ช่วยลดเลือนริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้า เนื่องจากกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดไม่สามารถขยับได้ จึงไม่เกิดเป็นรอยพับ นอกจากนี้ ยังช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อบริเวณกราม แขน และน่อง ช่วยยับยั้งเส้นประสาทที่ไปเลี้ยงต่อมเหงื่อ ลดการผลิตเหงื่อมากเกินไป และช่วยยกกระชับกรอบหน้าให้ดูชัดเจนและเรียบเนียนขึ้น
โปรแกรมฉีดโบท็อก ช่วยอะไร?
โปรแกรมฉีดโบท็อก (Botox) เป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมในการแก้ไขปัญหาความงามและสุขภาพหลายประการ โดยการฉีดโปรแกรมโบท็อกช่วยในการลดริ้วรอยและปรับรูปใบหน้า รวมถึงการรักษากลุ่มอาการบางอย่าง ที่จะช่วยให้การใช้ชีวิตประจำวันดีขึ้นและมีความมั่นใจยิ่งขึ้น
- โปรแกรมโบท็อกกราม – ลดขนาดกราม ทำให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น
- โปรแกรมโบท็อกปีกจมูก – ลดปีกจมูก ทำให้รูจมูกดูเรียวเล็ก
- โปรแกรมโบท็อกลิฟกรอบหน้า – ยกกระชับกรอบหน้าทำให้ดูชัด มีมิติ
- โปรแกรมโบท็อกหน้าผาก – ลดริ้วรอยบนหน้าผาก ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
- โปรแกรมโบท็อกลดริ้วรอย – ช่วยลดริ้วรอยบริเวณต่าง ๆ บนใบหน้า
- โปรแกรมโบท็อกตีนกา – ลดริ้วรอยที่ที่หางตาหรือรอยตีนกา
- โปรแกรมโบท็อกยกมุมปาก – ช่วยยกมุมปากที่ตก ให้กลับมาดูน่ารักสดใส
- โปรแกรมโบท็อกกระชับรูขุมขน – ช่วยให้รูขุมขนดูเล็กลง ผิวหน้าเรียบเนียน
- โปรแกรมโบท็อกลดโหนกแก้ม – ลดขนาดโหนกแก้มทำให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น
- โปรแกรมโบท็อกยกหางตา – ช่วยยกหางตาให้ดูกระชับและสดใส
- โปรแกรมโบท็อกยกคิ้ว – ยกคิ้วให้ดูสูงขึ้น ช่วยเพิ่มมิติให้ใบหน้า
- โปรแกรมโบท็อกแขน – ลดกล้ามเนื้อแขน ทำให้แขนแลดูเรียวขึ้น
- โปรแกรมโบท็อกน่อง – ลดขนาดน่อง ทำให้น่องดูเรียว
- โปรแกรมโบท็อกลดเหงื่อ – ช่วยลดการผลิตเหงื่อที่มากเกินไปตามรักแร้, ฝ่ามือ และฝ่าเท้า
- โปรแกรมโบท็อกรักแร้ – ลดเหงื่อรักแร้ที่เป็นสาเหตุของกลิ่นกาย ช่วยให้รู้สึกมั่นใจมากขึ้น
- โปรแกรมโบท็อกไมเกรน – ลดอาการปวดหัวไมเกรน
- โปรแกรมโบท็อกออฟฟิศซินโดรม – ช่วยคลายความตึงของกล้ามเนื้อคอ บ่า ไหล่ จากการนั่งทำงานนาน ๆ
โปรแกรมฉีดโบท็อก เหมาะกับใคร?
โปรแกรมฉีดโบท็อก (Botox) เป็นหัตถการเสริมความงามที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เพราะช่วยลดริ้วรอยและปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งโปรแกรมโบท็อกซ์เหมาะกับกลุ่มคนที่มีปัญหาและความต้องการ ดังนี้
- ผู้ที่ต้องการลดริ้วรอย เช่น รอยตีนกา รอยย่นหน้าผาก หรือรอยขมวดคิ้ว เพื่อให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น
- ผู้ที่มีกรามใหญ่จากกล้ามเนื้อ โบท็อกช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อกราม กล้ามเนื้อแขนและน่อง ทำให้ใบหน้าดูเรียวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
- ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องศัลยกรรม เช่น ลดกราม ลดโหนกแก้ม ยกกระชับผิวกรอบหน้า
- ผู้ที่มีปัญหาปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง เช่น ภาวะปวดคอ บ่า ไหล่ จากโรคออฟฟิศซินโดรม
- ผู้ที่มีเหงื่อออกมากผิดปกติ โดยเฉพาะบริเวณรักแร้ ฝ่ามือ หรือฝ่าเท้า โบท็อกช่วยลดเหงื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์รวดเร็วและไม่ต้องพักฟื้น เพราะโบท็อกเป็นหัตถการที่ทำง่าย ใช้เวลาสั้น และสามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้ทันที
โปรแกรมฉีดโบท็อกยี่ห้อไหนดี?
ในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์สารโบทูลินัม ท็อกซิน เอ หลากหลายยี่ห้อที่ได้รับความนิยม โดยแต่ละยี่ห้อมีคุณสมบัติและระยะเวลาของผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน ซึ่งสามารถตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย เช่น โบท็อกอเมริกา, เกาหลี และโบท็อกเยอรมัน
Allergan
โบท็อกอเมริกา Allergan เป็นหนึ่งในโบท็อกที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยคุณสมบัติการกระจายตัวยาที่ดีและออกฤทธิ์ได้อย่างแม่นยำ เหมาะกับการฉีดลดริ้วรอยและลดกราม สำหรับผลลัพธ์ของโบท็อก Allergan จะอยู่ได้ประมาณ 6 – 8 เดือน
Dysport
Dysport มีคุณสมบัติการกระจายตัวเป็นวงแคบ เหมาะกับการฉีดเพื่อลิฟกรอบหน้าด้วยการผสานกับเทคนิค Dermolift และยังฉีดเพื่อลดเหงื่อ รวมถึงลดกล้ามเนื้อ โดยสามารถอยู่ได้นานประมาณ 4 – 6 เดือน
Xeomin
Xeomin เป็นโบท็อกที่มีความบริสุทธิ์มาก ตัวยาไม่กระจุกตัวมากเกินไป ฉีดแล้วสวยแลดูเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งทื่อ ลดโอกาสการเกิดภาวะดื้อโบ ให้ผลลัพธ์นานประมาณ 4 – 6 เดือน
Nabota
โบท็อก Nabota เป็นอีกหนึ่งยี่ห้อที่ได้รับความนิยม ด้วยคุณสมบัติของตัวยาที่มีความบริสุทธิ์สูง การกระจายตัวของยาเป็นวงแคบ เหมาะกับฉีดลดริ้วรอย ลดกราม ลดกล้ามเนื้อน่องและแขน ให้ผลลัพธ์ประมาณ 6 – 8 เดือน
Aestox
โบท็อก Aestox ได้รับการยอมรับในวงการความงามอย่างมาก การกระจายตัวของยาแม่นยำและกระจายตัวดี ช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นธรรมชาติ เหมาะกับการฉีดเพื่อยกกระชับ ลดริ้วรอย หลังฉีดอยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน
Neuronox
Neuronox เป็นอีกหนึ่งโบท็อกที่มีคุณสมบัติการกระจายตัววงแคบ ให้ประสิทธิภาพดีเมื่อเทียบกับโบท็อกที่ผลิตในอเมริกา แต่ราคาถูกกว่า อาจมีข้อเสียตรงที่ออกฤทธิ์ไวและหมดฤทธิ์เร็ว ซึ่งให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 3 – 5 เดือน
Botulax
โบท็อกที่มีประสิทธิภาพแต่มาในราคาสบายกระเป๋า ตัวยากระจายตัววงกว้าง ให้ผลลัพธ์ที่อาจสั้นว่าโบท็อกที่ผลิตในเกาหลีอย่าง Nabota แต่กลับออกฤทธิ์ไวกว่า Neuronox ใช้ในการลดขนาดกล้ามเนื้อและลดริ้วรอยต่าง ๆ ให้ผลลัพธ์ประมาณ 4 – 6 เดือน
Hugel
Hugel เป็นผลิตภัณฑ์โบท็อกที่มาด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ช่วยให้ได้สารโบทูลินัม ท็อกซิน เอ บริสุทธิ์สูง ลดโอกาสการดื้อโบ ออกฤทธิ์ตรงจุด เห็นผลเร็ว เหมาะกับการฉีดลดริ้วรอย เก็บกรอบหน้า ลดกราม ลดน่อง ลดเหงื่อ หลังฉีดให้ผลลัพธ์ประมาณ 4 – 6 เดือน
สรุป โปรแกรมโบท็อกยี่ห้อไหนดีที่สุด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละบุคคล หากต้องการผลลัพธ์ที่ยาวนานและกระจายตัวดี โบท็อกอเมริกาก็เป็นทางเลือกที่ดี สำหรับโบท็อกเกาหลีก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเพราะให้ประสิทธิภาพที่ดีและยังมาในราคาที่สบายกระเป๋า สำหรับใครที่ยังตัดสินใจไม่ได้ แนะนำให้สอบถามและขอคำแนะนำจากแพทย์ เพื่อผลลัพธ์การรักษาที่ตรงจุดและตอบโจทย์กับความต้องการของคนไข้
โปรแกรมฉีดโบท็อก ราคาเท่าไหร่
โปรแกรมฉีดโบท็อก ราคาเพียง 6,900 บาท* ทั้งนี้ ราคาขึ้นอยู่กับยี่ห้อ, ปริมาณตัวยาที่ใช้ รวมถึงโปรโมชั่นที่จัดขึ้นตามช่วงเวลาต่าง ๆ แนะนำให้สอบถามเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่หรือเข้ามาตรวจวิเคราะห์สภาพผิว และวางแผนการรักษากับแพทย์อย่างละเอียด เพื่อรับทราบข้อมูลแบบรายบุคคล Case by Case
โปรแกรมฉีดโบท็อก รีวิวจากเคสคนไข้จริง
จากภาพจะเห็นได้ว่าก่อนเข้ารับบริการโปรแกรมโบท็อก คนไข้มีปัญหาริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้า ทั้งริ้วรอยหางตา (รอยตีนกา) ริ้วรอยระหว่างคิ้ว รอยยับย่นต่าง ๆ ปัญหากรามใหญ่ หลังจากรักษาด้วยโปรแกรมโบ ท็อกแล้วปัญหาที่เคยมีลดลง ผิวเรียบเนียน รูปหน้าเรียวขึ้น
ข้อปฏิบัติก่อนและหลังเข้ารับบริการ
การฉีดโปรแกรมโบท็อกช่วยลดริ้วรอยและปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ แต่เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียง ควรเตรียมตัวให้พร้อมก่อนฉีด และดูแลตัวเองอย่างถูกต้องหลังทำ เพื่อให้สารโบทูลินัม ท็อกซิน เอ ออกฤทธิ์ได้เต็มที่และอยู่ได้นานตามระยะเวลาที่เหมาะสม
การเตรียมตัวก่อนฉีดโปรแกรมโบท็อก
- งดยาและวิตามินบางชนิด อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนฉีด เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน วิตามินอี น้ำมันปลา และสารเสริมอาหารที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด เพื่อลดความเสี่ยงต่อรอยช้ำและอาการบวม
- หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และคาเฟอีน อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนฉีด เพราะอาจทำให้เส้นเลือดขยายตัวและเพิ่มโอกาสเกิดรอยช้ำ
- แจ้งแพทย์เกี่ยวกับประวัติสุขภาพ โดยเฉพาะหากมีโรคประจำตัว ภูมิแพ้ หรือใช้ยารักษาโรคบางชนิดที่อาจมีผลต่อการฉีดโปรแกรมโบท็อก
- ดื่มน้ำให้เพียงพอและพักผ่อนให้เต็มที่ เพื่อช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้ดีหลังฉีด
- หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าเยอะ ๆ ในวันฉีด เพื่อป้องกันการอักเสบหรือการระคายเคืองบริเวณที่ฉีด
การดูแลตัวเองหลังฉีดโปรแกรมโบท็อก
- หลีกเลี่ยงการนวดหรือกดจุดที่ฉีด อย่างน้อย 6 ชั่วโมงหลังทำ เพื่อลดความเสี่ยงที่ตัวยาจะกระจายไปยังกล้ามเนื้อบริเวณอื่น
- งดนอนราบหรือก้มศีรษะต่ำ ประมาณ 4-6 ชั่วโมงหลังฉีด เพื่อป้องกันการไหลของตัวยาไปยังตำแหน่งที่ไม่ต้องการ
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักและความร้อนสูง เช่น ซาวน่า อบไอน้ำ หรือการออกกำลังกายหนักภายใน 24 ชั่วโมงแรก
- ดื่มน้ำให้มากขึ้นและหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ เพื่อช่วยให้ตัวยาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- สังเกตอาการผิดปกติ เช่น หนังตาตก กล้ามเนื้ออ่อนแรง หรืออาการแพ้รุนแรง และรีบพบแพทย์หากมีอาการเหล่านี้
วิธีเช็กผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน
การรักษาด้วยโปรแกรมฉีดโบท็อกให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ควรมั่นใจว่าใช้ผลิตภัณฑ์สารโบทูลินัม ท็อกซิน เอ ที่ได้มาตรฐาน เพราะหากเป็นตัวยาของปลอมอาจทำให้เกิดอาการแพ้ ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามต้องการ หรือมีผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย จึงแนะนำให้เช็กตามรายละเอียด ดังนี้
- มีเลขทะเบียน อย. แสดงอย่างชัดเจนที่กล่องผลิตภัณฑ์
- กล่องและขวดบรรจุภัณฑ์ต้องสมบูรณ์ ไม่มีร่องรอยแกะ ดัดแปลง หรือสติ๊กเกอร์ทับข้อมูลเดิม ควรมีรายละเอียดผู้ผลิตและประเทศที่นำเข้าอย่างชัดเจน
- มีฉลากภาษาอังกฤษและไทย ระบุชื่อยาที่ถูกต้อง เช่น Botox (Allergan), Dysport, Xeomin หรือ Nabota พร้อมข้อมูลบริษัทผู้นำเข้าในประเทศไทย
- สังเกตเลขล็อตและวันหมดอายุ ต้องตรงกันระหว่างกล่องและขวด
- ลักษณะของตัวยา ในขวดจะมาในรูปแบบผงแห้งฝุ่นสีขาว ต้องผสมกับน้ำเกลือก่อนฉีด หากเป็นของเหลวใสในขวดตั้งแต่แรก อาจเป็นของปลอม
- ซื้อจากสถานพยาบาลที่เชื่อถือได้ ควรเลือกคลินิกที่ได้รับใบอนุญาตถูกต้อง มีแพทย์เป็นผู้ฉีด และสามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับบริการและผลิตภัณฑ์ที่ใช้ได้อย่างโปร่งใส
- ราคาสมเหตุสมผล ผลิตภัณฑ์ที่เป็นของแท้มีต้นทุนการนำเข้าสูง หากโปรแกรมฉีดโบท็อก ราคาถูกเกินไปหรือมีโปรโมชั่นล่อตาล่อใจมากเกินควร อาจเป็นของปลอมหรือเจือจาง
เลือกโปรแกรมฉีดโบท็อกที่ไหนดี ให้ได้ผลดีและปลอดภัย
ก่อนตัดสินใจเข้ารับบริการโปรแกรมฉีดโบท็อก การเลือกสถานพยาบาลและคลินิกเป็นสิ่งสำคัญ เพราะส่งผลต่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ได้ หากเลือกสถานพยาบาลที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจเสี่ยงต่อการใช้ตัวยาของปลอมหรือยาหิ้วที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือฉีดโดยผู้ที่ไม่ใช่แพทย์ หรือแพทย์ที่ไม่มีทักษะ โดยแนะนำให้ศึกษาข้อมูลและพิจารณาเลือกจากปัจจัย ดังนี้
- คลินิกต้องได้รับอนุญาตและมีมาตรฐาน ควรเป็นสถานพยาบาลที่มีใบอนุญาตถูกต้องจากกระทรวงสาธารณสุข และมีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง
- รักษาโดยแพทย์ ควรฉีดโปรแกรมโบท็อกโดยแพทย์ที่มีทักษะและมีประสบการณ์
- ใช้ผลิตภัณฑ์ได้มาตรฐาน ตรวจสอบว่าผลิตภัณฑ์ที่ใช้ต้องมีเลขทะเบียน อย. พร้อมแสดงข้อมูลบริษัทนำเข้าและฉลากที่ถูกต้อง
- มีการให้คำปรึกษาก่อนฉีด คลินิกที่ดีควรให้คำแนะนำเกี่ยวกับผลลัพธ์ ข้อควรระวัง และแนวทางการดูแลตัวเองก่อน-หลังฉีด
- ราคาสมเหตุสมผล หากเห็นว่าโปรแกรมฉีดโบท็อก ราคาถูกเกินจริง ควรตรวจสอบให้แน่ใจก่อนตัดสินใจ
- มีการติดตามผลหลังฉีด คลินิกควรมีบริการติดตามผลหลังทำ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีผลข้างเคียงและสามารถแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้
- บรรยากาศและความสะอาดของสถานพยาบาล สถานที่ควรสะอาด อุปกรณ์ต้องปลอดเชื้อ และมีมาตรการความปลอดภัยในการให้บริการ
Q&A : โปรแกรมฉีดโบท็อก
นอกจากข้อมูลเกี่ยวกับบริการโปรแกรมฉีดโบท็อกตามด้านบนแล้ว เรายังได้รวบรวมคำถามที่พบได้บ่อยและคำตอบเพื่อไขข้อสงสัย เพื่อเป็นรายละเอียดเพิ่มเติมในการศึกษาและทำความเข้าใจก่อนเข้ารับบริการ
โปรแกรมฉีดโบท็อกกี่วันเห็นผล
หลังฉีดสารโบทูลินัม ท็อกซิน เอ หลายคนสงสัยว่าหลังฉีดจะเห็นผลเมื่อไร สำหรับระยะเวลาของการแสดงผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีดและปฏิกิริยาของร่างกายแต่ละคน มาดูกันว่าต้องใช้เวลากี่วันจึงเห็นผลในแต่ละจุด
- ลดริ้วรอยบนใบหน้า (หน้าผาก, ตีนกา, ระหว่างคิ้ว) เริ่มเห็นผลภายใน 3-7 วัน เห็นผลชัดเจนใน 2 สัปดาห์
- ลดกราม ปรับหน้าเรียว เริ่มเห็นผลใน 2-4 สัปดาห์ เห็นผลเต็มที่ใน 6-8 สัปดาห์
- ลดน่องให้เรียวเล็ก เริ่มเห็นผลใน 3-4 สัปดาห์ เห็นผลเต็มที่ใน 2-3 เดือน
- ลดเหงื่อบริเวณรักแร้ ฝ่ามือ ฝ่าเท้า เริ่มเห็นผลใน 2-4 วัน เห็นผลชัดเจนใน 1-2 สัปดาห์
โปรแกรมโบท็อกอยู่ได้กี่เดือน
สำหรับผลลัพธ์หลังเข้ารับการฉีดโปรแกรมโบท็อกจะอยู่ได้นานโดยเฉลี่ย 3 – 8 เดือน* ทั้งนี้ ระยะเวลาการคงผลลัพธ์ที่ได้นั้น ขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่เลือกใช้ ตำแหน่งที่ฉีด ปริมาณที่ใช้ รวมถึงการดูแลตัวเองของแต่ละคน
โปรแกรมฉีดโบท็อก อันตรายไหม
โปรแกรมฉีดโบท็อกไม่เป็นอันตรายหากใช้ผลิตภัณฑ์แท้และทำการรักษาโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์การรักษา เพราะเป็นสารที่ใช้ในวงการแพทย์และความงามอย่างแพร่หลาย อย่างไรก็ตาม หากฉีดในปริมาณที่ไม่เหมาะสมหรือใช้ผลิตภัณฑ์ไม่ได้มาตรฐานอาจเกิดผลข้างเคียง เช่น หนังตาตก หน้าแข็งตึงเกินไป หรืออาการดื้อโบ เพื่อความปลอดภัย ควรเลือกฉีดกับสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานและตรวจสอบผลิตภัณฑ์ก่อนทำเสมอ
ต้องฉีดบ่อยแค่ไหน
การฉีดโปรแกรมโบท็อกควรเว้นระยะห่างประมาณ 3-4 เดือนต่อครั้ง เนื่องจากสารโบทูลินัมท็อกซินจะออกฤทธิ์ได้เต็มที่ในช่วงเวลานี้ หลังจากนั้นผลลัพธ์จะค่อย ๆ จางหายไป โดยทั่วไปไม่ควรฉีดบ่อยเกินไปเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดอาการดื้อโบท็อก
อาการดื้อโบคืออะไร เกิดจากอะไร
อาการดื้อโบท็อกเกิดจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายสร้างแอนติบอดีมาต่อต้านสารโบทูลินัมท็อกซิน ทำให้โบท็อกไม่สามารถออกฤทธิ์ได้ตามปกติ ฉีดแล้วไม่เห็นผล สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอาการดื้อโบ ได้แก่
- ฉีดถี่เกินไป ไม่เว้นระยะห่างที่เหมาะสม เช่น ฉีดซ้ำก่อน 3-4 เดือน ทำให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมา
- ใช้ปริมาณสูงเกินไป โดยเฉพาะการฉีดปริมาณมากติดต่อกันเป็นเวลานาน
- ใช้ผลิตภัณฑ์ปลอมหรือไม่ได้มาตรฐาน อาจมีสารปนเปื้อนที่กระตุ้นให้ร่างกายสร้างแอนติบอดีต่อต้าน
- พันธุกรรมและระบบภูมิคุ้มกันของแต่ละคน บางคนมีแนวโน้มดื้อโบได้ง่ายกว่าคนอื่น
วิธีป้องกันคือเลือกใช้สารโบทูลินัมท็อกซินของที่มีคุณภาพ ฉีดในปริมาณที่เหมาะสม และเว้นระยะห่างในการฉีดตามคำแนะนำของแพทย์
สรุป โปรแกรมฉีดโบท็อก
โปรแกรมฉีดโบท็อกเป็นเทรนด์ดูแลในด้านความงามและสุขภาพที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ทั้งในด้านลดริ้วรอย ปรับรูปหน้า ลดเหงื่อ ลดภาวะอาการปวดจากโรคออฟฟิศซินโดรม ลดอาการปวดหัวไมเกรน ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้คนไข้โดยไม่ต้องผ่าตัด สำหรับท่านที่สนใจแนะนำให้เข้ามาปรึกษาพร้อมรับการตรวจประเมิน รวมถึงวางแผนการรักษาโดยทีมแพทย์ AM International Hospital ที่มีทักษะและประสบการณ์ นอกจากนี้ เรายังมีการใช้ผลิตภัณฑ์สารโบทูลินัมท็อกซินที่ได้มาตรฐาน ตรวจสอบได้ทุกกล่อง พร้อมการติดตามดูแลตั้งแต่ก่อนและหลังการรักษา เพื่อให้คนไข้ได้รับประสบการณ์การรักษาที่ดีเสมอ
We always take care of your mobility
24/7 Emergency
Tell : 064 445 5666