
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ (Filler) คืออะไร? รู้ลึก ทุกเรื่องสารเติมเต็ม ที่ AM International Hospital
โปรแกรมฟิลเลอร์คือทางเลือกที่น่าสนใจ และตอบโจทย์สำหรับคนยุคใหม่ทุกไลฟ์สไตล์ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการปรับความสมดุลของใบหน้าให้ดูเข้าที่และสมส่วนกันมากยิ่งขึ้น หรือผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับร่องลึกบนใบหน้า ซึ่งการเติมโปรแกรมฟิลเลอร์นี้จะช่วยเติมเต็มร่องลึก และปรับโครงหน้าให้แลดูอ่อนเยาว์ลง โดยเห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรกแบบไม่ต้องพักฟื้น ฉีดเสร็จกลับไปใช้ชีวิตหรือทำงานได้ตามปกติ แต่ก่อนตัดสินใจฉีดควรรู้ข้อมูลและรายละเอียดในการรักษา เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีคุณภาพและดูแลให้ปลอดภัย
เลือกอ่านตามหัวข้อได้ที่นี่
โปรแกรมฟิลเลอร์ คืออะไร? ไขข้อสงสัยสารเติมเต็มยอดนิยม
โปรแกรมฟิลเลอร์ (Filler) คือ การรักษาทางเวชศาสตร์ความงามที่ใช้ “สารเติมเต็ม” เพื่อฟื้นฟูและปรับรูปหน้า โดยสารที่นิยมใช้มากที่สุดคือ Hyaluronic Acid (HA) ซึ่งเป็นสารประกอบที่พบได้ตามธรรมชาติในร่างกายมนุษย์ โดยเฉพาะในชั้นผิวหนัง ข้อต่อ และดวงตา
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อลดเลือนริ้วรอย เติมเต็มร่องลึก หรือเพิ่มวอลุ่มในบริเวณที่มีการยุบตัวของชั้นไขมันหรือกระดูก เช่น ร่องแก้ม ใต้ตา ขมับ คาง หรือริมฝีปาก รวมถึงช่วยยกกระชับผิวให้เรียบเนียน อิ่มฟู แลดูอ่อนเยาว์ขึ้น นอกจากนี้ฟิลเลอร์ยังมีคุณสมบัติในการกักเก็บความชุ่มชื้น ส่งผลให้ผิวมีความยืดหยุ่นและเนียนกระจ่างใสยิ่งขึ้น
โปรแกรมสารเติมเต็มประเภท HA มีข้อดีคือสามารถสลายตัวได้เองตามกลไกธรรมชาติของร่างกายภายในระยะเวลาประมาณ 6–18 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ ปริมาณที่ใช้ และตำแหน่งที่ฉีด โดยไม่ทิ้งสารตกค้างสะสมและสามารถฉีดซ้ำได้ภายใต้การดูแลของแพทย์
ส่วนประกอบหลักของฟิลเลอร์
สารเติมเต็มที่ได้รับการรับรองว่าโปรแกรมการฉีดสามารถดูแลให้ปลอดภัยในการใช้ทางการแพทย์ต้องเป็นประเภท Hyaluronic Acid (HA) ที่มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
- มีโครงสร้างใกล้เคียงกับ HA ในร่างกาย จึงลดความเสี่ยงในการเกิดอาการแพ้หรือผลข้างเคียงที่รุนแรง
- ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) ประเทศไทย
- มีความบริสุทธิ์สูง และเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย เช่น เทคโนโลยี cross-linking ที่ช่วยให้โมเลกุลของ HA มีความคงตัว ยืดอายุการสลายตัวในร่างกาย
- มีหลากหลายรุ่นตามการใช้งาน เช่น โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์เนื้อแข็งสำหรับปั้นกรอบหน้า และโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์เนื้อนิ่มสำหรับบริเวณผิวที่บอบบาง เช่น ใต้ตา
ประเภทของโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ที่ควรรู้
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท โดยมีรายละเอียด ดังนี้
- โปรแกรมฟิลเลอร์แบบชั่วคราว (Temporary filler)
แบบชั่วคราวจะสามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ โดยมี Hyaluronic Acid เป็นส่วนประกอบหลักในการเติมเต็มผิว ปัจจุบันได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายเพราะให้ความปลอดภัยต่อผิว ทั้งยังสามารถแก้ไขได้ง่ายด้วยการฉีดสลายออก หรือกลับมาเติมใหม่ได้เรื่อย ๆ - โปรแกรมฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวร (Semi Permanent Filler)
โปรแกรมฟิลเลอร์ชนิดที่สามารถสลายได้เช่นเดียวกัน แต่ไม่สามารถสลายออกได้ทั้งหมด มักมีส่วนประกอบอย่าง Polyalkylimide, PLLA (Poly-L-lactic acid) หรือ Calcium Hydroxyapatite) เป็นต้น - โปรแกรมฟิลเลอร์แบบถาวร (Permanent Filler)
โปรแกรมฟิลเลอร์แบบถาวร เช่น ซิลิโคนเหลว หรือพาราฟิน จะไม่สามารถสลายได้เอง เมื่อฉีดไปแล้วผลลัพธ์จะอยู่แบบถาวร เป็นกลุ่มที่ยังไม่ผ่านการรับรองอย่างถูกต้องในด้านความปลอดภัย เพราะหลังฉีดไปแล้วอาจเกิดสิ่งตกค้างในชั้นผิว หรือเกิดเป็นก้อนแข็งได้
โปรแกรมฟิลเลอร์ เหมาะกับใคร
โปรแกรมฟิลเลอร์เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเติมร่องลึก ปรับโครงหน้าให้ดูมีมิติ อ่อนเยาว์ หรือแก้ไขปัญหาผิวที่เหมาะสำหรับบุคคลดังต่อไป
- ผู้ที่มีริ้วรอยร่องลึก เช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ร่องใต้ตาทำให้ใบหน้าดูโทรม แก่กว่าวัย
- ผู้ที่ที่ปัญหาใบหน้าไม่สมส่วน ต้องการปรับรูปหน้า เช่น เติมคางให้เรียวยาว เติมขมับให้เต็ม
- ผู้ที่มีปัญหาผิวแห้ง ขาดน้ำ ต้องการเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
- ผู้ที่ต้องการเพิ่มความอวบอิ่มให้ใบหน้า เช่น การเติมริมฝีปากให้ดูอวบอิ่มขึ้น
- ผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาผิวจากอายุที่เพิ่มขึ้น เช่น สูญเสียไขมันจนทำให้ใบหน้าดูซูบตอบลง
- ผู้ที่ต้องการปรับใบหน้าแต่ไม่อยากผ่าตัดศัลยกรรม และไม่มีเวลาพักฟื้น
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ต่างจากโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ (Botox) อย่างไร? เลือกใช้อะไรให้เหมาะกับปัญหา
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์และโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ (Botox) แม้จะเป็นหัตถการที่ใช้เพื่อปรับสัดส่วนใบหน้าและลดเลือนริ้วรอยเช่นเดียวกัน แต่มีกลไกการทำงานที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์เป็นสารเติมเต็มที่ใช้ฉีดเพื่อเพิ่มปริมาตรให้กับผิวในบริเวณที่ยุบตัว เช่น ร่องแก้ม ใต้ตา หรือริมฝีปาก โดยเน้นการเติมเต็มจากภายในเพื่อให้ผิวดูอิ่มฟูและเรียบเนียนขึ้น
ส่วนโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์คือ สาร Botulinum Toxin Type A ที่ทำหน้าที่ยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด ช่วยลดการหดตัวของกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นสาเหตุของริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้า เช่น รอยตีนกา หน้าผาก และรอยย่นระหว่างคิ้ว
การเลือกใช้โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์หรือโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ขึ้นอยู่กับลักษณะปัญหาของแต่ละบุคคล หากมีปัญหาใบหน้าดูโทรม มีร่องลึก หรือสูญเสียปริมาตรใบหน้าจากการยุบตัวของไขมัน โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์จะเหมาะสมในการช่วยเติมเต็มและคืนความอ่อนเยาว์ให้กับใบหน้า แต่หากมีริ้วรอยที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ เช่น ยิ้ม ขมวดคิ้ว หรือเลิกหน้าผาก โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์จะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง?
โปรแกรมฉีดฉีดฟิลเลอร์ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การเติมเต็มริ้วรอยเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นหัตถการที่สามารถตอบโจทย์ปัญหาด้านโครงสร้างใบหน้าและคุณภาพผิวได้อย่างหลากหลาย ด้วยคุณสมบัติของ Hyaluronic Acid (HA) ซึ่งสามารถเติมปริมาตรสัดส่วน เพิ่มความชุ่มชื้น และปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว์แบบดูเป็นธรรมชาติ การวางแผนโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์อย่างถูกต้องและเหมาะสมในแต่ละจุด จึงช่วยฟื้นฟูความสดใสให้กับใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เติมเต็มริ้วรอย ร่องลึก ให้ผิวดูเรียบเนียน อ่อนเยาว์
ช่วยลดเลือนริ้วรอยจากวัยหรือการยุบตัวของชั้นผิว เช่น ร่องแก้ม ร่องมุมปาก และรอยลึกบนใบหน้า โดยการเติมสาร HA เข้าไปในผิวเพื่อให้ดูเต็มตื้นขึ้นอย่างดูเป็นธรรมชาติ
ปรับรูปหน้า เพิ่มมิติ ให้ใบหน้าสมส่วน
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์สามารถใช้เติมเต็มในจุดที่ต้องการปรับรูปหน้า เช่น คาง หน้าผาก ขมับ หรือกรอบหน้า เพื่อเสริมสัดส่วนให้ใบหน้าดูสมดุล คมชัด และได้สัดส่วนที่กลมกลืนมากยิ่งขึ้น
แก้ไขปัญหาใต้ตาคล้ำ ลึก โหล ให้ดูสดใสขึ้น
เหมาะสำหรับผู้ที่มีร่องลึกหรือเบ้าตาลึก ซึ่งทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้า การเติมโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยให้ผิวบริเวณนั้นดูเรียบเนียนขึ้น ลดความหมองคล้ำ และให้ภาพลักษณ์โดยรวมดูสดชื่นขึ้น
เติมริมฝีปากให้อวบอิ่ม ชุ่มชื้น ทรงสวย
ช่วยเพิ่มปริมาตรสัดส่วนให้ริมฝีปากที่บางหรือขาดรูปทรงให้ดูอวบอิ่มได้สัดส่วน พร้อมเพิ่มความชุ่มชื้น ลดความแห้ง แตก ลอก ให้ริมฝีปากดูสุขภาพดีและมีความสมส่วนมากยิ่งขึ้น
เพิ่มความชุ่มชื้น ปรับปรุงคุณภาพผิว
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์สามารถช่วยเติมน้ำให้ผิวในชั้นลึก ทำให้ผิวดูอิ่มฟู เปล่งปลั่ง และกระจ่างใสขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น หรือริ้วรอยเล็ก ๆ ที่เกิดจากผิวขาดน้ำ
ตำแหน่งยอดนิยมในการฉีดฟิลเลอร์บนใบหน้า
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์บนใบหน้า สามารถปรับรูปหน้า ฟื้นฟูโครงสร้างผิว และแก้ไขจุดบกพร่องได้อย่างเห็นผลทันที โดยไม่ต้องผ่าตัด แต่ละตำแหน่งมีเป้าหมายเฉพาะในการแก้ไขปัญหาบนใบหน้า ช่วยให้ใบหน้าดูสมดุล สดใส และอ่อนเยาว์ยิ่งขึ้น ภายใต้การดูแลจากแพทย์
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาใต้ตาลึก เบ้าตาลึก หรือร่องใต้ตาชัดเจน ซึ่งส่งผลให้ใบหน้าดูโทรมและเหนื่อยล้า การเติมโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์บริเวณนี้ช่วยให้ใต้ตาดูเต็มขึ้น ลดรอยคล้ำ และคืนความสดใสให้กับดวงตา
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
ร่องแก้มลึกเป็นหนึ่งในสัญญาณของผิวที่สูญเสียคอลลาเจนและไขมัน โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์สามารถเติมเต็มร่องลึกให้ตื้นขึ้น ช่วยลดเงาใต้ตาและบริเวณข้างจมูก ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์คาง
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์บริเวณคางช่วยปรับความยาวและรูปทรงของคางให้ดูสมส่วน ส่งเสริมความสมดุลของใบหน้า และเพิ่มปริมาตรสัดส่วนให้ใบหน้าดูเรียวยาวขึ้น โดยเฉพาะเมื่อมองจากด้านข้าง
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ปาก
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความอวบอิ่มให้ริมฝีปาก แก้ไขริมฝีปากที่บาง แห้ง หรือขาดรูปทรง โดยโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์จะช่วยเติมปริมาตร เพิ่มความชุ่มชื้น และปรับรูปปากให้ได้สัดส่วนอย่างดูเป็นธรรมชาติ
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ขมับ
ขมับที่ตอบหรือยุบตัวลงส่งผลให้ใบหน้าดูอิดโรย และขาดปริมาตรสัดส่วน โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์จะช่วยเติมเต็มบริเวณนี้ให้ได้รูปโค้งสวย ทำให้ใบหน้าดูอิ่มเอิบและมีความสมดุลจากด้านข้างมากยิ่งขึ้น
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
หน้าผากที่แบนหรือมีรอยบุ๋มเล็ก ๆ สามารถแก้ไขได้ด้วยการเติมโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ให้ดูโหนกนูนเรียบเนียน ช่วยปรับรูปหน้าส่วนบนให้ละมุน และทำให้ภาพรวมใบหน้าดูอ่อนโยนและหวานขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ขั้นตอนการทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ที่ AM International Hospital
เพื่อให้ได้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนและสวยงาม โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ที่ AM International Hospital จึงดำเนินกระบวนการภายใต้แนวทางที่เป็นระบบ ครอบคลุมทั้งการประเมิน วิเคราะห์ และดูแลอย่างใกล้ชิดโดยทีมแพทย์ ดังนี้
- พบแพทย์เพื่อปรึกษา ประเมินปัญหา และวางแผนการรักษา โดยแพทย์จะทำการวิเคราะห์ปัญหาเฉพาะบุคคล วางแผนตำแหน่งและปริมาณโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับเป้าหมายของผู้เข้ารับบริการ
- เตรียมผิว ทำความสะอาด และทายาชา โดยแพทย์และเจ้าหน้าที่พยาบาลจะช่วยทำความสะอาดผิวหน้าอย่างละเอียด พร้อมทายาชาเพื่อลดความรู้สึกเจ็บและเพิ่มความสบายผิวขณะทำหัตถการ
- แพทย์ทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ด้วยเทคนิคที่ถูกต้องและเหมาะสม โดยคำนึงถึงสัดส่วน ความลึกของชั้นผิวและกล้ามเนื้อ และโครงสร้างของใบหน้า
- ประเมินผลลัพธ์หลังฉีดทันที และรับคำแนะนำการดูแล โดยแพทย์จะตรวจเช็กผลทันทีหลังทำ พร้อมแนะนำการดูแลตัวเอง เช่น หลีกเลี่ยงการจับหรือกดทับบริเวณที่ฉีด และงดกิจกรรมที่กระทบต่อผิวและกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด
ข้อดี VS ข้อควรรู้ของโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ แม้จะมีข้อดีหลายด้าน แต่ก็ยังมีสิ่งสำคัญที่ควรรู้และพิจารณาก่อนตัดสินใจ เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ได้รับสามารถตอบโจทย์ได้มากยิ่งขึ้น
ข้อดี
- เห็นผลลัพธ์หลังทำได้ทันทีหรือภายในไม่กี่วัน
- ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล ไม่มีบาดแผลใหญ่
- ใช้เวลาในการทำไม่นาน (ประมาณ 30–60 นาที)
- พักฟื้นน้อย สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
- ช่วยปรับรูปหน้าให้ดูสมส่วนและอ่อนเยาว์อย่างดูเป็นธรรมชาติ
- หากไม่พอใจในผลลัพธ์ สามารถสลายโปรแกรมฟิลเลอร์ (HA) ได้
ข้อควรรู้
- ผลลัพธ์อยู่ได้ชั่วคราว ประมาณ 6–18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของสารเติมเต็มและตำแหน่งที่ฉีด
- จำเป็นต้องฉีดซ้ำหากต้องการรักษารูปทรงหรือผลลัพธ์ไว้ต่อเนื่อง
- ควรเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์ และใช้โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แท้ผ่าน อย. เท่านั้น
- หากฉีดโดยผู้ที่ไม่มีความชำนาญ อาจเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น บวม ช้ำ อุดตันเส้นเลือด หรือรูปหน้าไม่สมดุล
- หลีกเลี่ยงโปรโมชั่นราคาถูกเกินจริง ซึ่งอาจมาพร้อมกับโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ปลอมหรือไม่มีมาตรฐานทางการแพทย์
วิธีเลือกโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ ยี่ห้อไหนดี? รุ่นไหนเหมาะกับบริเวณไหน?
การเลือกยี่ห้อและรุ่นของโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อผลลัพธ์ของการรักษา เพราะแต่ละรุ่นมีคุณสมบัติ เนื้อสัมผัส และความเหมาะสมที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงควรเลือกใช้โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองจาก อย. ไทย และเหมาะสมกับปัญหาเฉพาะจุด โดยสามารถพิจารณาได้จากตัวอย่างยี่ห้อและรุ่นที่ได้รับความนิยมดังนี้

โปรแกรมฟิลเลอร์ Restylane
โปรแกรมฟิลเลอร์ Restylane จากสวีเดน ที่มีเทคโนโลยี NASHA™ และ obt ช่วยให้เนื้อเจลสามารถคงรูปได้ดี มีความยืดหยุ่นตามความเคลื่อนไหวของใบหน้า เหมาะสำหรับเติมเต็มใต้ตา ร่องแก้ม และคาง มีหลายรุ่นให้เลือกใช้เหมาะกับทุกสภาพผิว ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 6-18 เดือน

โปรแกรมฟิลเลอร์ Juvederm
โปรแกรมฟิลเลอร์จากอเมริกา โดยมี 2 เทคโนโลยีคือ Hylacross™ และ Vycross™ ทำให้เนื้อเจลเนียนละเอียด ฉีดแล้วให้ความเป็นธรรมชาติ นิยมใช้กับใต้ตา ปาก และยกกระชับปรับรูปหน้า โดยโปรแกรมฟิลเลอร์ Juvederm ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 8-24 เดือน

โปรแกรมฟิลเลอร์ Belotero
โปรแกรมฟิลเลอร์ Belotero จากสวิตเซอร์แลนด์ มีเทคโนโลยี CPM™ ทำให้เวลาที่ฉีดเข้าไปแล้ว เนื้อเจลสามารถกลืนกับผิวได้ดี ลดโอกาสเกิดก้อนใต้ชั้นผิว เหมาะสำหรับฉีดบริเวณผิวที่บาง เช่น ใต้ตาและร่องแก้ม ทั้งยังมีรุ่นที่เหมาะแก่การปรับสภาพผิวโดยเฉพาะอีกด้วย ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 6-18 เดือน

โปรแกรมฟิลเลอร์ Neuramis
เป็นอีกหนึ่งโปรแกรมฟิลเลอร์ Neuramis จากเกาหลี โดยมีเทคโนโลยี SHAPE™ ทำให้เนื้อเจลมีความคงรูปได้ดีและมีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับฉีดเติมเต็มร่องลึกบนใบหน้าหรือปั้นทรงได้สวย ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน

โปรแกรมฟิลเลอร์ Neuramis
เป็นอีกหนึ่งโปรแกรมฟิลเลอร์ Neuramis จากเกาหลี โดยมีเทคโนโลยี SHAPE™ ทำให้เนื้อเจลมีความคงรูปได้ดีและมีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับฉีดเติมเต็มร่องลึกบนใบหน้าหรือปั้นทรงได้สวย ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน

โปรแกรมฟิลเลอร์ Teoxane
เป็นโปรแกรมฟิลเลอร์จากสวิตเซอร์แลนด์ ใช้เทคโนโลยี RHA™ ทำให้ตัวเนื้อเจลยืดหยุ่นดีตามการเคลื่อนไหวของใบหน้าและปรับเข้ากับผิวหน้าได้ดี ฉีดแล้วไม่เป็นก้อน นิยมใช้กับริมฝีปาก ใต้ตา และขมับ ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 9-18 เดือน

โปรแกรมฟิลเลอร์ MesoFiller
ฟิลเลอร์จากสเปน โดยใช้เทคโนโลยี Densimatrix ทำให้เนื้อเจลมีความสม่ำเสมอ ลดการจับตัวกันเป็นก้อน มีความคงรูปได้ดี ความพิเศษของยี่ห้อนี้คือมีรุ่นที่เหมาะสำหรับฉีดจุดซ่อนเร้นโดยเฉพาะ ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน

โปรแกรมฟิลเลอร์ Revolax
โปรแกรมฟิลเลอร์จากเกาหลี มีเทคโนโลยี Monophasic ทำให้ได้เนื้อเจลที่มีความเรียบเนียน เกลี่ยง่าย และกระจายตัวได้ดี เหมาะสำหรับเติมร่องลึก ปรับโครงหน้า เช่นบริเวณคาง ร่องแก้ม กรอบหน้า และขมับ ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 12-18 เดือน

โปรแกรมฟิลเลอร์ Ultra V Hyal Filler
โปรแกรมฟิลเลอร์จากเกาหลีที่ใช้เทคโนโลยี R Square หรือ R2 ทำให้เนื้อเจลยึดเกาะกับผิวและคงรูปได้ดี ให้ความยืดหยุ่นสูงและเกลี่ยง่าย เหมาะสำหรับนำมาเพิ่มวอลลุ่มผิว ยกกระชับกรอบหน้า เติมเต็มร่องลึก ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 12-18 เดือน
ไม่ว่าจะเลือกยี่ห้อใดก็ตาม ควรเลือกให้เหมาะสมกับความต้องการและปรึกษาแพทย์ก่อนฉีดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับความปลอดภัย
วิธีตรวจสอบโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แท้
การเลือกใช้โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ที่เป็นของแท้ถือเป็นหัวใจสำคัญของการลดความเสี่ยงในการรับบริการ เพราะฟิลเลอร์ปลอมอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงรุนแรง เช่น การอักเสบ ติดเชื้อ หรืออุดตันเส้นเลือด เพื่อป้องกันความเสี่ยงเหล่านี้ จึงควรตรวจสอบผลิตภัณฑ์ก่อนฉีดด้วยวิธีต่อไปนี้
- ตรวจสอบเลข อย. และเอกสารกำกับภาษาไทย โปรแกรมฟิลเลอร์แท้ทุกกล่องต้องมีเลขทะเบียน อย. 13 หลัก พร้อมชื่อยา ชื่อผู้ผลิต และรายละเอียดเป็นภาษาไทยบนกล่องและแผ่นกำกับยา
- สังเกตลักษณะบรรจุภัณฑ์ที่สมบูรณ์ กล่องต้องไม่บุบ ฉีกขาด หรือมีร่องรอยเปิดใช้มาก่อน ต้องมีซีลครบ และฉลากชัดเจน ไม่มีรอยแก้ไขหรือปลอมแปลง
- สแกน QR code หรือสอบถามข้อมูลจากบริษัทผู้นำเข้าได้ โปรแกรมฟิลเลอร์แท้จากผู้นำเข้าอย่างถูกต้องจะมี QR Code ให้สแกนเพื่อตรวจสอบข้อมูลสินค้า หรือสามารถสอบถามบริษัทผู้นำเข้าโดยตรง
- คลินิกต้องแกะกล่องใหม่ให้ดูต่อหน้า และให้กล่องกลับบ้าน เพื่อความโปร่งใสและตรวจสอบได้ภายหลัง ควรให้แพทย์แกะกล่องโปรแกรมฟิลเลอร์ต่อหน้า พร้อมแสดงรายละเอียด และให้กล่องพร้อมสติกเกอร์ Lot Number กลับไปด้วยทุกครั้ง
โปรแกรมฟิลเลอร์ แต่ละจุดควรฉีดกี่ cc
ปริมาณโปรแกรมฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดในแต่ละจุดบนใบหน้าและร่างกาย ขึ้นอยู่กับลักษณะผิวและปัญหาของแต่ละบุคคล เช่น ระดับความลึกของผิว หรือขนาดของพื้นที่ที่ต้องการแก้ไข รวมไปถึงผลลัพธ์ที่ต้องการ และนี่คือปริมาณที่เหมาะสมที่แพทย์มักประเมินในการฉีดแต่ละจุด
- ใต้ตา – ใช้สารเติมเต็มประมาณ 1-2 cc/ข้าง
- ร่องแก้ม – ใช้สารเติมเต็มประมาณ 1-2 cc/ข้าง
- คาง – ใช้สารเติมเต็มประมาณ 1-2 cc
- ริมฝีปาก – ใช้สารเติมเต็มประมาณ 1-2 cc
- ขมับ – ใช้สารเติมเต็มประมาณ 2-4 cc
- หน้าผาก – ใช้สารเติมเต็มประมาณ 1-2 cc
- แก้มส้ม – ใช้สารเติมเต็มประมาณ 1-2 cc
โปรแกรมฟิลเลอร์กับโปรแกรมฉีดไขมัน ต่างกันไหม
โปรแกรมฟิลเลอร์และโปรแกรมฉีดไขมันมีจุดประสงค์เดียวกันก็คือการปรับเพื่อให้ผิวดูเต่งตึงขึ้น แต่อย่างไรก็ตามทั้งสองหัตถการก็มีความแตกต่างกันในด้านของสารที่ใช้ วิธีการรักษา โดยมีรายละเอียดดังนี้
ความแตกต่าง | โปรแกรมฟิลเลอร์ | โปรแกรมฉีดไขมัน |
สารที่ใช้ | Hyaluronic Acid (HA) | เซลล์ไขมันจากในร่างกาย |
วิธีการรักษา | สารเติมเต็มจะถูกฉีดเข้าไปในชั้นผิวเพื่อเติมเต็มริ้วรอยร่องลึก หรือเพิ่มปริมาณผิวตามจุดต่าง ๆ | ดูดไขมันส่วนเกินในร่างกายมาผ่านกระบวนการปั่นแยกเซลล์ จนได้ไขมันที่ต้องการมาฉีดให้ผิวดูเต่งตึงขึ้น |
ผลลัพธ์ | หลังฉีดเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ในครั้งแรก และสามารถคงอยู่ได้ราว ๆ 6-18 เดือน | สามารถอยู่ได้นานในระยะยาว หากเซลล์ไขมันที่ฉีดเริ่มเกาะเข้ากับเนื้อเยื่อผิวได้ดี |
ข้อดี | มีกระบวนการรักษาที่ไม่ซับซ้อน ไม่ต้องพักฟื้น แก้ไขได้ง่าย | ใช้ไขมันตัวเอง ไม่เสี่ยงต่ออาการแพ้ |
ข้อจำกัด | ผลลัพธ์ที่ได้ไม่ถาวร ต้องฉีดซ้ำตามระยะเวลาที่เหมาะสม | มีกระบวนการรักษาที่ซับซ้อน และต้องใช้ระยะเวลาพักฟื้น |
เลือกโรงพยาบาลให้บริการโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์อย่างไรให้ได้มาตรฐาน ไม่เสี่ยง
แม้โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์จะเป็นหัตถการที่ไม่ต้องผ่าตัด แต่หากดำเนินการโดยแพทย์ที่ไม่มีความชำนาญ หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน ก็อาจก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ฟิลเลอร์ไหล ติดเชื้อ หรือแม้กระทั่งเส้นเลือดอุดตันได้ ดังนั้นการเลือกสถานพยาบาลที่น่าเชื่อถือจึงเป็นปัจจัยสำคัญ เพื่อให้โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ได้รับการดูแลให้ปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่สวยงามตามต้องการ
เป็นคลินิกหรือโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐาน มีใบอนุญาตถูกต้อง
สถานพยาบาลต้องได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการจากกระทรวงสาธารณสุข และติดป้ายเลขที่ใบอนุญาต 11 หลักอย่างชัดเจน สามารถตรวจสอบได้ผ่านเว็บไซต์ของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.)
แพทย์เป็นผู้ชำนาญการด้านโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์
แพทย์ต้องมีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมจากแพทยสภา และควรมีประสบการณ์ด้านการให้บริการโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ รวมถึงสามารถวิเคราะห์รูปหน้าและแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลได้อย่างแม่นยำ
ใช้โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แท้ 100% สามารถตรวจสอบที่มาได้
ต้องมีเลขทะเบียน อย. บนกล่อง พร้อมฉลากภาษาไทย และเอกสารกำกับผลิตภัณฑ์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย กล่องต้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์ มี QR Code ให้ตรวจสอบจากเว็บไซต์บริษัทผู้นำเข้า และควรให้ผู้เข้ารับบริการเห็นการแกะกล่องต่อหน้า พร้อมรับกล่องกลับบ้าน
มีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริงที่หลากหลายและน่าเชื่อถือ
ควรมีภาพรีวิวก่อน-หลังฉีด หรือวิดีโอจากผู้ใช้บริการจริง ทั้งในเว็บไซต์ของโรงพยาบาลและแพลตฟอร์มภายนอก เพื่อช่วยยืนยันความโปร่งใสและคุณภาพการให้บริการ พร้อมตรวจสอบว่าโรงพยาบาลไม่มีประวัติร้องเรียน มีกรณีที่เคยเกิดอันตรายหรือผลข้างเคียงที่รุนแรงหลังทำ
มีการดูแลและติดตามผลหลังการรักษา
โรงพยาบาลควรให้คำแนะนำการดูแลหลังฉีด พร้อมติดตามผลในช่วง 1–2 สัปดาห์ เพื่อประเมินความเปลี่ยนแปลง และแก้ไขหากมีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้น โดยไม่ปล่อยให้ผู้เข้ารับบริการดูแลตัวเองเพียงลำพัง
การเตรียมตัวก่อนฉีด และการดูแลตัวเองหลังทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์
หากว่าเราต้องการให้ผลลัพธ์ของการฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ออกมาดูดีและตอบโจทย์ การเตรียมตัวก่อนฉีด รวมไปถึงการดูแลหลังฉีดถือเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งข้อที่ควรปฏิบัติมีดังนี้
ข้อควรปฏิบัติก่อนทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์
- ศึกษาข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับการฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์
- ก่อนฉีด 1 สัปดาห์ ควรงดทานอาหารเสริมที่มีผลต่อการไหลเวียนของเลือด เช่น แอสไพริน วิตามินอี ไอบูโพรเฟน หรือน้ำมันปลา เป็นต้น
- ก่อนฉีด 24 ชั่วโมง ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อให้ผิวได้รับความชุ่มชื้นทำให้สารเติมเต็มเซตตัวได้ดี
- แจ้งแพทย์ให้ทราบเกี่ยวกับโรคประจำตัว อาการแพ้ยา หรือยาที่ทานประจำเพื่อความปลอดภัย
วิธีดูแลตัวเองและข้อห้ามหลังทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์
- 24-48 ชั่วโมงหลังฉีด หลีกเลี่ยงการนวด กด หรือสัมผัสบริเวณที่ฉีด เพื่อป้องกันไม่ให้สารเติมเต็มเคลื่อนที่
- 24 ชั่วโมงแรก ควรหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางเพื่อไม่ให้เกิดการรบกวนผิว
- 24 ชั่วโมงหลังฉีด หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ เพื่อป้องกันการอักเสบหรือบวม
- 3-7 วันหลังฉีด หลีกเลี่ยงการโดนความร้อน เช่น การแช่น้ำร้อน อาบแดด การออกกำลังกายหนัก
- ดื่มน้ำเยอะ ๆ เพื่อให้โปรแกรมฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น
คำแนะนำเพิ่มเติมจากทีมแพทย์ที่ AM International Hospital
ทีมแพทย์ผู้ชำนาญการของ AM International Hospital แนะนำว่า ก่อนตัดสินใจเข้ารับบริการโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ ควรให้ความสำคัญกับการปรึกษาและวางแผนกับแพทย์ก่อน เพื่อให้เข้าใจถึงปัญหาของตนเองอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาริ้วรอย ร่องลึก หรือโครงสร้างใบหน้าที่ต้องการปรับรูป ซึ่งจะช่วยให้การเลือกตำแหน่ง ปริมาณ และรุ่นของฟิลเลอร์เป็นไปอย่างเหมาะสมและดูแลให้ความปลอดภัยได้อย่างถูกต้อง
นอกจากนี้ หลังทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แล้ว ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เช่น หลีกเลี่ยงการสัมผัส กด หรือนวดบริเวณที่ฉีด งดออกกำลังกายหนักและกิจกรรมที่มีความร้อนสูงในช่วง 48 ชั่วโมง และเข้ารับการติดตามผลตามนัดหมาย เพื่อประเมินผลลัพธ์และความเรียบร้อยของสารเติมเต็มในชั้นผิว ซึ่งการดูแลหลังฉีดอย่างถูกต้องจะช่วยให้สารเติมเต็มคงรูป สวยเนียน และอยู่ได้นานขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ
รีวิวโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ที่ AM International Hospital
ตัวอย่างภาพเปรียบเทียบผลลัพธ์ก่อนและหลังฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ใต้ตา ปาก หน้าผาก ขมับ และคางจากผู้ที่เคยเข้ารับบริการ ซึ่งหลังจากฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์เข้าไปแล้วผิวดูเต่งตึง เรียบเนียน อิ่มเอิบ และดูสมดุลกับใบหน้ามากขึ้น (*ผลการรักษาขึ้นอยู่กับรายบุคคล)
โปรแกรมฟิลเลอร์ อันตรายไหม
โปรแกรมฟิลเลอร์เป็นหัตถการที่ให้ความปลอดภัย เนื่องจากสารเติมเต็ม HA เป็นสารที่ถูกผลิตขึ้นมาเลียนแบบสารที่มีอยู่ในร่างกายของเราอยู่แล้วตามธรรมชาติ แต่เมื่ออายุมากขึ้นมันจะค่อย ๆ ลดลง ดังนั้นมันจึงเข้ากันได้ดีกับผิว และสามารถนำมาเติมเต็ม ปรับโครงหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม แม้ว่ามันจะเป็นหัตถการที่ไม่ก่อให้เกิดอันตราย แต่ก็ควรเลือกใช้บริการกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน และฉีดโดยแพทย์ที่มีความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ในการรักษา รวมถึงการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองมาอย่างถูกต้องเพื่อความปลอดภัย และไม่เพื่อไม่ให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ตามมา
ฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ที่ไหนดี ? 5 วิธีเช็กคลินิกที่ได้มาตรฐาน
การเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานเป็นถือสิ่งสำคัญ และเพื่อให้มั่นใจว่าการฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์จะมีความปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ดี โดยสามารถเราตรวจสอบได้ด้วย 5 วิธีดังนี้
- มีใบอนุญาตถูกต้องจากกระทรวงสาธารณสุข – คลินิกหรือสถานพยาบาลจะต้องมี ป้ายชื่อสถานพยาบาลและเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก ที่ออกโดยกระทรวงสาธารณสุข โดยเราสามารถตรวจสอบได้เองที่เว็บไซต์ของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
- แพทย์มีใบประกอบวิชาชีพ และมีความรู้ด้านโปรแกรมฟิลเลอร์ – แพทย์ผู้ทำการรักษาจะต้องมีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมจากแพทยสภา ที่เราสามารถตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์ของแพทยสภา และควรมีทักษะ ประสบการณ์ด้านโปรแกรมฟิลเลอร์
- ใช้โปรแกรมฟิลเลอร์แท้ที่ผ่านการรับรอง ตรวจสอบได้ – โปรแกรมฟิลเลอร์ที่นำมาใช้ต้องเป็นผลิตภัณฑ์จากบริษัทผู้ผลิต และสามารถตรวจสอบเลขที่ อย. บนกล่องผลิตภัณฑ์
- มีรีวิวโปรแกรมฟิลเลอร์จากผู้มาใช้บริการจริง – ก่อนฉีดควรดูรีวิวจากผู้ใช้จริง ทั้งในเว็บไซต์ของคลินิก รวมไปถึงแพลตฟอร์มอื่น ๆ และตรวจสอบว่าคลินิกไม่มีประวัติร้องเรียนหรือเคสอันตราย
- มีราคาที่เหมาะสม – คลินิกหรือสถานพยาบาลต้องให้บริการโปรแกรมฟิลเลอร์ราคาที่สมเหตุสมผล ไม่ถูกกว่ามาตรฐาน เพื่อป้องกันไม่ให้เจอผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือเป็นของปลอม
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ ราคาเท่าไหร่?
โปรแกรมฟิลเลอร์ราคาจะอยู่ที่ 9,900 บาทขึ้นไป ซึ่งค่าบริการขึ้นอยู่หลายปัจจัย เช่น สภาพผิว ยี่ห้อ ปริมาณที่ใช้ ตำแหน่งที่ฉีด ไปจนถึงเทคนิคการรักษาของแพทย์ที่จะมีการประเมินและวางแผนแบบรายบุคคล
Q&A : โปรแกรมฟิลเลอร์
หากใครที่กำลังสนใจโปรแกรมฟิลเลอร์ แต่ยังมีข้อสงสัยอื่น ๆ เพิ่มเติม เราได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ให้เข้าใจกันมากยิ่งขึ้น
โปรแกรมฟิลเลอร์ ฉีดเจ็บไหม ?
โดยทั่วไปแล้วการฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์จะให้ความรู้สึกเจ็บน้อย เนื่องจากในบางยี่ห้อหรือบางรุ่นจะมีส่วนผสมของยาชารวมอยู่ด้วย จึงช่วยบรรเทาความเจ็บระหว่างฉีด นอกจากนี้แพทย์จะมีการใช้ยาชาเฉพาะที่ร่วมกับการประคบเย็น เพื่อให้ผู้เข้ารับบริการรู้สึกเจ็บน้อยลงขณะทำหัตถการ หากใครที่มีความกังวลสามารถปรึกษาแพทย์เพื่อขอยาชา หรือให้แพทย์วางแผนใช้เทคนิคการฉีดที่ช่วยลดความเจ็บได้
โปรแกรมฟิลเลอร์ บวมกี่วัน ?
อาการบวมหลังฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ถือเป็นเรื่องปกติ โดยทั่วไปจะอาการบวมจะอยู่ประมาณ 1-3 วันแรก หลังจากนั้นมันจะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 5-7 วัน ซึ่งในระหว่างนี้สามารถรับประทานยาตามที่แพทย์จ่าย ร่วมกับการประคบเย็นเพื่อบรรเทาอาการบวมให้ลดลงได้
โปรแกรมฟิลเลอร์ กี่วันเห็นผล อยู่ได้นานกี่เดือน ?
หลังจากฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์จะสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีด แต่มันจะยังไม่ใช่ผลลัพธ์ที่เสร็จสมบูรณ์ เนื่องจากในช่วงระยะแรกอาจมีรอยแดง อาการบวมเกิดขึ้นเล็กน้อย แต่เมื่อผ่านไปแล้ว 2 สัปดาห์ก็จะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้น โดยมันจะคงสภาพระยะเวลาอยู่ได้ประมาณ 6-18 เดือน ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับสภาพผิว ปริมาณที่ฉีด ยี่ห้อที่ใช้ในการรักษาที่ทำให้ผลลัพธ์มีระยะเวลาที่ต่างกัน
หลังฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไร ?
หลังฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ควรหลีกเลี่ยงอาอาหารรสจัด เค็ม เผ็ด ของหมักดอง อาหารที่มีโซเดียมสูงหรืออาหารทะเล อาหารดิบ เนื่องจากอาหารเหล่านี้เมื่อทานเข้าไปแล้วอาจทำให้เกิดอาการบวม ช้ำได้ง่าย นอกจากนี้พวกของดิบที่ไม่ผ่านการปรุงสุกยังอาจเสี่ยงต่อการอักเสบอีกด้วย หากใครที่ต้องการให้สารเติมเต็มเข้าที่ได้เร็วและอยู่ได้นานควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำให้เพียงพอและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
ถ้าโปรแกรมฟิลเลอร์สลายแล้ว จะทำให้หน้าแก่หรือเหี่ยวลงไหม ?
เมื่อโปรแกรมฟิลเลอร์สลายไปแล้วจะไม่ทำให้หน้าดูเหี่ยวหรือแก่ลงกว่าตอนก่อนฉีด แต่ใบหน้าจะกลับเข้าสู่สภาวะเดิมตามธรรมชาติ เนื่องจากสารเติมเต็ม HA มีคุณสมบัติช่วยในการเติมเต็มร่องลึก เพิ่มความชุ่มชื้นพร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เมื่อมันสลายไปแล้วผิวหน้าก็อาจจะไม่ได้ดูเต่งตึงเท่ากับช่วงที่มีสารเติมเต็ม
โปรแกรมฟิลเลอร์ ควรเว้นระยะห่างเท่าไหร่ถึงจะกลับมาฉีดใหม่ได้ ?
โปรแกรมฟิลเลอร์สามารถกลับมาฉีดใหม่ได้ โดยระยะเวลาที่ฉีดครั้งถัดไปขึ้นอยู่กับการสลายตัวของสารเติมเต็มและตำแหน่งที่ฉีด แต่โดยทั่วไปแล้วควรเว้นระยะห่างกันประมาณ 6 เดือนไปจนถึง 1 ปี อย่างไรก็ตาม หากต้องการฉีดซ้ำควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินปริมาณและวางแผนการรักษาให้เหมาะสมกับแต่ละคน
หลังโปรแกรมฟิลเลอร์สลาย สามารถเปลี่ยนยี่ห้อได้ไหม ?
สามารถเปลี่ยนยี่ห้อได้หากโปรแกรมฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปสลายออกหมดแล้ว หรืออยู่ในปริมาณที่ไม่ได้ส่งผลต่อการฉีดครั้งถัดไป ซึ่งถ้าสารเติมเต็มยังสลายไม่หมดแต่ต้องการฉีดเพิ่ม ควรให้แพทย์ประเมินก่อน เพราะสารเติมเต็มแต่ละยี่ห้อมีคุณสมบัติรวมไปถึงความหนาแน่นที่ไม่เหมือนกัน ก่อนฉีดแพทย์จึงต้องพิจารณาความเข้ากันได้ของตัวยา
ถ้าฉีดแล้วยังไม่พอใจแก้ไขได้ไหม ?
ในกรณีที่ฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ไปแล้วรู้สึกว่ายังไม่พอใจ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของรูปทรง ปริมาณ หรือผลลัพธ์ที่ได้ สามารถแก้ไขได้ 2 วิธีหลัก ๆ คือ
- เติมโปรแกรมฟิลเลอร์เพิ่ม – หากฉีดไปแล้วยังไม่ได้ปริมาณที่เพียงพอ สามารถฉีดเพิ่มได้หลังจากสารเติมเต็มเริ่มเซตตัว มักใช้ระยะเวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์
- สลายโปรแกรมฟิลเลอร์ – บางเคสฉีดแล้วเป็นก้อน ไม่เรียบเนียน หรือไม่ได้รูปทรงตามที่ต้องการ สามารถใช้ Hyaluronidase (เอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดส) สลายออกได้
สรุป รับบริการโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์อย่างตอบโจทย์ ที่ AM International Hospital
โปรแกรมฟิลเลอร์ คือ หัตถการที่ช่วยแก้ไขปัญหาผิวด้วยการใช้สารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) เป็นสารที่มีคุณสมบัติในการเติมเต็มผิวที่ขาดปริมาตร เพิ่มความชุ่มชื้น พร้อมปรับใบหน้าให้ดูมีมิติขึ้นได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น และสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ
สำหรับใครที่สนใจโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แต่ยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับปัญหาผิวและการปรับโครงหน้า AM International Hospital พร้อมให้คำปรึกษาและดูแลอย่าใกล้ชิดในทุก ๆ เคส โดยทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์ พร้อมเลือกใช้เทคนิคให้เข้ากับปัญหาแบบรายบุคคลด้วยโปรแกรมฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้ผู้เข้ารับบริการได้ผลลัพธ์ตอบโจทย์ความต้องการและปลอดภัยในเวลาเดียวกัน
บริการแนะนำ
We always take care of your mobility
24/7 Emergency
Tell : 064 445 5666