loader image

โปรแกรม Ultherapy ตัวเลือกยอดฮิตพิชิตผิวกระชับ

ถ้าให้นึกถึงการยกกระชับผิวก็ต้องโปรแกรม Ultherapy หนึ่งในนวัตกรรมด้านความงามที่ช่วยยกกระชับผิว พร้อมลดเลือนริ้วรอยแห่งด้วยพลังงานคลื่นอัลตราซาวนด์ที่ลงลึกถึงใต้ชั้นผิว สามารถแก้ไขปัญหาผิวหย่อนคล้อยได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น เหมาะสำหรับคนที่ต้องการกรอบหน้าชัด หรือต้องการผิวที่ดูกระชับขึ้นกว่าเดิม แต่สำหรับใครที่อยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรมอัลเทอราปีว่าเหมาะกับใคร ? ช่วยผิวเรื่องอะไรบ้าง ? ทำแล้วดียังไง ? และมีความแตกต่างจากโปรแกรมยกกระชับอื่นอย่างไร บทความนี้มีคำตอบ !

เลือกอ่านตามหัวข้อได้ที่นี่

โปรแกรม Ultherapy คืออะไร

โปรแกรม Ultherapy คือ เทคโนโลยีที่ใช้คลื่นโฟกัสอัลตราซาวนด์ความถี่สูงเพื่อยกกระชับผิว โดยเน้นส่งพลังงานลงไปยังชั้น SMAS ซึ่งเป็นโครงสร้างสำคัญที่ช่วยพยุงผิวหน้า ทำให้ผิวกระชับขึ้นดูเป็นธรรมชาติ และคลื่นที่ใช้นั้นเป็นชนิดเดียวกับอัลตราซาวนด์ทางการแพทย์ที่ใช้ตรวจครรภ์ จึงดูแลฟื้นฟูได้ปลอดภัยต่อผิว อีกทั้งยังมีระบบสแกนภาพชั้นผิวแบบเรียลไทม์ที่ช่วยให้แพทย์สามารถวิเคราะห์และกำหนดจุดปล่อยพลังงานได้อย่างเหมาะสม ทำให้การรักษามีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ปัญหาผิว

หลักการทำงานของเทคโนโลยีอัลตราซาวนด์ 

เทคโนโลยีอัลตราซาวนด์ที่ใช้ในโปรแกรม Ultherapy จะทำงานโดยการส่งพลังงานคลื่นเสียงความถี่สูงแบบเฉพาะเจาะจง (Microfocused Ultrasound – MFU-V) ลงไปสู่ชั้นผิวในระดับที่ลึกและแม่นยำ พลังงานนี้จะถูกเปลี่ยนเป็นความร้อนด้วยอุณหภูมิประมาณ 60-70°C ซึ่งเป็นระดับที่เหมาะสมในการช่วยกระชับเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังโดยไม่ทำลายผิวชั้นบน และความพิเศษของโปรแกรม Ultherapy คือสามารถส่งพลังงานลงไปถึงชั้น SMAS (Superficial Musculoaponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นเนื้อเยื่อที่ช่วยพยุงผิวและเป็นชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ใช้ผ่าตัดดึงหน้า การทำงานในระดับนี้ช่วยให้ผิวดูยกกระชับขึ้นและกรอบหน้าชัดขึ้นดูเป็นธรรมชาติ

โปรแกรม Ultherapy ช่วยผิวในเรื่องอะไรได้บ้าง

ด้วยการทำงานของตัวเครื่องโปรแกรม Ultherapy ที่ส่งพลังงานเข้าไปได้ลึกถึงชั้น SMAS มายังมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่แสดงผลหน้าจอการรักษาแบบ Real Time ทำให้แพทย์สามารถเข้าไปจัดการปัญหาได้ถูกจุดและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้โปรแกรมนี้เป็นการรักษาที่ครอบคลุมได้หลายปัญหาผิว ไม่ว่าจะเป็น

  • ช่วยยกกระชับผิวและลดความหย่อนคล้อย ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ลง
  • ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนกระชับและเต่งตึงมากยิ่งขึ้น
  • ช่วยลดริ้วรอยและร่องลึกบริเวณหน้าผาก รอบดวงตา และร่องแก้ม
  • ช่วยปรับใบหน้าให้ดูเรียวขึ้น กระชับผิวบริเวณแนวกลางให้ใบหน้าเข้ารูปมากยิ่งขึ้น
  • ช่วยกระชับผิวบริเวณลำคอและเนินอก และลดรอยย่นให้ผิวเรียบเนียน

โปรแกรม Ultherapy เหมาะกับใคร สภาพผิวแบบไหน

โปรแกรม Ultherapy เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวและต้องการฟื้นฟูแก้ไขให้ดีขึ้นโดยไม่ต้องการผ่าตัด หรือฉีดสารชนิดอื่น ๆ เข้าสู่ร่างกาย ซึ่งก็จะตอบโจทย์สำหรับผู้ที่มีปัญหาหรือสภาพผิวเหล่านี้

  • ผู้ที่เริ่มมีผิวหย่อนคล้อย มีริ้วรอย และต้องการป้องกันการเสื่อมของผิว
  • ผู้ที่มีปัญหาแนวกรามหย่อนคล้อย และต้องการให้กรามชัดขึ้น
  • ผู้ที่มีร่องแก้มลึกและริ้วรอยรอบดวงตา
  • ผู้ที่มีเหนียงใต้คางหรือมีปัญหาคอเหี่ยวย่น
  • ผู้ที่มีปัญหาหนังตาตก หางตาตกและคิ้วตก
  • ผู้ที่ไม่ต้องการทำศัลยกรรมผ่าตัดดึงหน้า

โปรแกรม Ultherapy ทำบริเวณไหนได้บ้าง

โปรแกรม Ultherapy คือโปรแกรมที่สามารถทำได้หลายจุดบนร่างกาย โดยเน้นบริเวณที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยและริ้วรอย

  1. ใบหน้า – ปรับรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้น สามารถยกกระชับทั่วใบหน้าให้ผิวดูอ่อนเยาว์และเต่งตึง
  2. หางตาและรอบดวงตา – ยกกระชับหนังตาบน แก้ไขหนังตาตก ลดริ้วรอยบริเวณรอบดวงตา 
  3. แนวกรามและคาง – ปรับใบหน้าให้ดูเรียวเป็น V Shape มากขึ้น หรือกระชับแนวกลางลดปัญหาเหนียงใต้คาง
  4. ลำคอ – ลดความหย่อนคล้อยและรอยย่นบริเวณลำคอให้ดูกระชับขึ้น
  5. เนินอก – ลดริ้วรอยและความหย่อนคล้อยบริเวณเนินหน้าอก

โปรแกรม Ultherapy กับโปรแกรม Thermage ต่างกันอย่างไร

แม้ว่าทั้ง 2 โปรแกรมจะช่วยยกกระชับผิวได้ดีเหมือนกันทั้งคู่ แต่ก็จะมีเทคโนโลยีการรักษาที่ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน ดังนั้น เราก็เลยจะยกทั้งสองหัตถการนี้มาเปรียบเทียบให้เห็นความแตกต่างได้ง่ายขึ้น เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจ

โปรแกรม Ultherapy

ข้อแตกต่าง

โปรแกรม Thermage

คลื่นเสียงอัลตราซาวนด์ (Microfocused Ultrasound – MFU)

พลังงานที่ใช้

คลื่นวิทยุความถี่สูง (Radio Frequency – RF)

ลงลึกถึงชั้น SMAS ชั้นเดียวกับที่ใช้ผ่าตัดดึงหน้า

ระดับความลึกในการรักษา

ชั้นหนังแท้ (Dermis) และชั้นไขมันใต้ชั้นผิว 

ยกกระชับปรับรูปหน้าให้ตึงขึ้น ด้วยการทำปฏิกิริยาเส้นใยคอลลาเจนในชั้นผิวระดับลึก

ผลลัพธ์

ช่วยให้ผิวดูกระชับขึ้น ลดริ้วรอย และกระตุ้นการเผาผลาญไขมันใต้ชั้นผิว

ผิวหย่อนคล้อย แนวกรามไม่ชัด หนังตาตก

เหมาะกับผิวแบบไหน

ผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอย ผิวไม่เรียบเนียน

เห็นการเปลี่ยนแปลงในครั้งแรก และเริ่มเห็นผลชัดเจนใน 2-3 เดือน 

ระยะเวลาเห็นผล

เห็นการเปลี่ยนแปลงในครั้งแรก และดีขึ้นใน 2-3 เดือน

12-18 เดือน

ระยะเวลาที่คงสภาพ

6-12 เดือน

สรุป โปรแกรม Ultherapy จะเหมาะกับคนที่ต้องการยกกระชับลึกถึงชั้น SMAS ให้ผิวดูตึงขึ้น ส่วนโปรแกรม Thermage เหมาะกับคนที่ต้องการกระชับผิว ลดริ้วรอย และลดไขมันใต้ผิว อย่างไรก็ตาม ทั้งสองโปรแกรมนี้สามารถทำร่วมกันได้ เพื่อให้ผลลัพธ์ชัดเจนและครอบคลุมทุกปัญหาผิว

ข้อดีและข้อควรระวังของโปรแกรม Ultherapy

โปรแกรม Ultherapy นับว่าเป็นเทคโนโลยีการยกกระชับใบหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด แน่นอนว่าก็ต้องมีข้อดีหลายประการที่ทำให้โปรแกรมนี้ได้รับความนิยมในปัจจุบัน แต่นอกจากข้อดีแล้วก่อนทำเราก็ควรต้องทราบถึงข้อควรระวังเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นไปตามคาด โดยไม่เกิดอันตรายตามมา

 ข้อดี

  • ยกกระชับผิวหน้าได้ถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับการทำศัลยกรรมดึงหน้า
  • ฟื้นฟูแก้ไขปัญหาได้ถึงต้นเหตุด้วยเทคโนโลยีการแสดงผลบนหน้าจอแบบ Real Time
  • สามารถปรับพลังงานได้หลากหลาย เพิ่มความยืดหยุ่นในการรักษา
  • สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ
  • ไม่มีการผ่าตัด ไม่มีการฉีดตัวยาอื่น ๆ และหลังทำไม่ต้องพักฟื้น
  • ให้ผลลัพธ์อยู่ได้ในระยะยาว

ข้อควรระวัง

  • อาจรู้สึกตึง ๆ หรือเจ็บเล็กน้อยขณะทำ เมื่อส่งคลื่นพลังงานเข้าไปกระตุ้นผิว แต่สามารถบรรเทาได้ด้วยยาชา
  • หลังทำอาจมีอาการบวม แดง เกิดขึ้นเล็กน้อย
  • ผู้ที่มีโรคประจำตัว โรคผิวหนัง หรือมีปัญหาเกี่ยวกับเส้นประสาทควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำ
  • ระมัดระวังเครื่องโปรแกรมที่ไม่ได้มาตรฐาน เพราะอาจทำให้เกิดผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ตามมา

Before&After โปรแกรม Ultherapy

โปรแกรม Ultherapy รีวิวจากผู้ใช้บริการที่หลายคนมักพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เห็นความเปลี่ยนแปลงของผิวที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน โดยก่อนเข้ารับบริการผิวหน้าดูหย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัด ไปแล้ว ผิวดูกระชับขึ้น รู้สึกถึงความแน่นของผิวที่มากขึ้นกว่าเดิม (*ผลการรักษาขึ้นอยู่กับรายบุคคล)

โปรแกรม Ultherapy ราคาเท่าไหร่

โปรแกรม Ulthera ราคาอยู่ที่ 12000 บาท แต่ทั้งนี้ ราคาจะขึ้นอยู่กับบริเวณที่ต้องการทำ การใช้จำนวนไลน์พลังงาน รวมถึงโปรโมชั่นพิเศษที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงในแต่ละช่วงเวลา หากต้องการทราบรายละเอียดที่เหมาะสมกับสภาพผิวและความต้องการของแต่ละบุคคล แนะนำให้เข้ารับการปรึกษากับแพทย์ เพื่อทำการวิเคราะห์ผิวหน้าและวางแผนการรักษาอย่างละเอียด โดยค่าใช้จ่ายอาจแตกต่างกันไปตามลักษณะปัญหาของแต่ละเคส

ใช้บริการโปรแกรม Ultherapy ที่ไหนดี

สำหรับการทำโปรแกรม Ultherapy แม้ว่าจะเป็นเทคโนโลยีที่ได้ผ่านมาตรฐาน แต่ความชำนาญของแพทย์และมาตรฐานของสถานพยาบาลก็มีผลอย่างมากต่อผลลัพธ์ที่ได้ ดังนั้น ก่อนตัดสินใจควรพิจารณาจากปัจจัยต่อไปนี้

  • มาตรฐานและความสะอาดของคลินิก – ควรเลือกคลินิกที่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และมีมาตรฐานด้านความสะอาด
  • แพทย์มีความรู้และทักษะในการรักษา – การทำโปรแกรม Ultherapy ต้องอาศัยเทคนิคและความแม่นยำของแพทย์ในการส่งพลังงานไปยังชั้นผิวที่เหมาะสม ควรเลือกคลินิกที่มีแพทย์ที่มีองค์ความรู้และทักษะด้านการใช้โปรแกรมเลเซอร์
  • รีวิวจากผู้ใช้บริการจริง – ควรศึกษาผลลัพธ์จากผู้ที่เคยใช้บริการจากคลินิกนั้น ๆ เพื่อดูคุณภาพของการให้บริการ
  • ให้คำปรึกษาและติดตามผลหลังทำ – คลินิกที่ดีควรมีบริการให้คำปรึกษาก่อนทำและติดตามผลหลังทำ เพื่อให้ผู้เข้ารับบริการได้เกิดความมั่นใจว่าได้รับการดูแลที่เหมาะสม
  • มีราคาที่เหมาะสม – การทำโปรแกรม Ultherapy ราคาถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญ ควรเลือกคลินิกที่มีราคาที่สมเหตุสมผล ต้องไม่ถูกหรือแพงจนเกินไป

Q&A : โปรแกรม Ultherapy

รวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโปรแกรม Ultherapy

โปรแกรม Ultherapy เจ็บไหม

โปรแกรม Ulthera เจ็บไหม ? ต้องบอกกันตามตรงว่าระดับความเจ็บของการทำโปรแกรม Ultherapy ขึ้นอยู่กับรายบุคคล แต่โดยทั่วไปแล้วจะรู้สึกอุ่น ๆ ตึง ๆ บริเวณที่ทำ โดยเฉพาะบริเวณที่มีเนื้อเยื่อบางอย่างแนวขากรรไกร คาง และหน้าผาก สำหรับปัจจัยที่ส่งผลต่อความเจ็บได้นั่นก็คือ

  • ความหนาของชั้นไขมันใต้ผิวหนัง
  • ความไวของเส้นประสาท
  • ความเข้มข้นของพลังงาน

อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่กลัวเจ็บแพทย์จะมีการใช้ยาชาเฉพาะที่ก่อนทำเพื่อบรรเทาอาการ และมีการปรับระดับพลังงานตามความเหมาะสมของสภาพผิว โดยสรุปแล้วการทำโปรแกรมอัลเทอราปีอาจมีความรู้สึกเจ็บเล็กน้อยถึงปานกลาง

หลังทำ Ultherapy อาจมีผลข้างเคียงบางอย่างที่พบได้ทั่วไป ได้แก่

  • ผิวบวมแดง – อาการนี้อาจเกิดขึ้นได้เล็กน้อยหลังธรรมแต่จะหายไปภายในไม่กี่ชั่วโมง
  • อาการตึงหรือชาใต้ผิวหนัง – คลื่นอัลตราซาวนด์เข้าไปกระตุ้นชั้น SMAS อาจทำให้รู้สึกตึงหรือหน่วงใต้ชั้นผิวประมาณ 1-2 สัปดาห์
  • อาการบวมเล็กน้อย – บางรายอาจมีอาการบวมเกิดขึ้นในช่วง 3-7 วันหลังทำหัตถการ
  • รอยช้ำเล็กน้อย – เป็นผลข้างเคียงที่พบได้น้อย ซึ่งจะหายไปได้เองใน 1-2 สัปดาห์
  • รู้สึกจี๊ดๆใต้ผิวหนัง – บางรายอาจรู้สึกจี๊ด ๆ ใต้ผิวในช่วง 2-3 สัปดาห์แรก

อาการข้างเคียงเหล่านี้เป็นอาการที่เกิดขึ้นเพียงแค่ชั่วคราวและมักหายไปได้เอง ไม่ได้เป็นอันตรายต่อผิวแต่อย่างใด แต่สำหรับใครที่มีอาการรุนแรงหรือผิดปกติควรเข้าปรึกษาแพทย์ทันทีเพื่อหาสาเหตุและวิธีการรักษาที่เหมาะสม

จริง ๆ แล้วโปรแกรม Ultherapy ไม่จำเป็นต้องทำบ่อย แนะนำให้ทำปีละ 1 ครั้ง เพราะพลังงานที่ส่งเข้าไปจะช่วยฟื้นฟูผิวให้กระชับขึ้นได้ในระยะยาว โดยหลังทำจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นเลยจากการหดตัวของชั้นผิว และผลลัพธ์จะเริ่มชัดเจนใน 2-3 เดือนหลังทำ แต่สำหรับใครที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยมากแพทย์อาจจะพิจารณาให้ทำซ้ำใน 6-12 เดือนเพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น

โปรแกรม Ultherapy เป็นเทคโนโลยีการยกกระชับผิวที่ให้ผลลัพธ์ค่อนข้างยาวนานเมื่อเปรียบเทียบกับหัตถการอื่น ๆ ซึ่งหลังทำจะอยู่ได้ประมาณ 12-18 เดือน ทั้งนี้ ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น อายุ สภาพผิว รวมไปถึงไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน  

โปรแกรม Ultherapy มาทำร่วมกับโปรแกรมอื่นได้เพื่อเสริมประสิทธิภาพการยกกระชับ และลดริ้วรอย เช่น ทำร่วมกับโปรแกรมฉีดโบท็อก โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ หรือโปรแกรมยกกระชับเครื่องอื่น ๆ แต่ในบางหัตถการจะไม่สามารถทำพร้อมกันได้ในวันเดียว เนื่องจากความร้อนของคลื่นอังตราซาวนด์อาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นฟูผิวได้ อาจจะต้องเว้นระยะห่างแต่ละหัตถการราวๆ 2-4 สัปดาห์ หรือตามที่แพทย์กำหนด  

สรุปโปรแกรม Ultherapy

โปรแกรม Ultherapy เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวด้วยคลื่นอัลตราซาวนด์ที่สามารถลงลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ใช้ในการทำศัลยกรรมดึงหน้า ช่วยให้ผิวดูตึงขึ้น ลดความหย่อนคล้อย และปรับกรอบหน้าให้ชัดขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติและค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 2-3 เดือน หากใครที่ต้องการปรึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรมอัลเทอราปี สามารถเข้ามาสอบถามหรือให้แพทย์ช่วยประเมินการรักษาเบื้องต้นได้ที่ AM International Hospital

แชร์ :