Baby Fat คืออะไร ช่วยเรื่องใดได้บ้าง
Baby Fat คือ คำที่หลายคนอาจคุ้นหูกันมาบ้างและได้รับความสนใจมากขึ้น แต่บางคนอาจยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร และขึ้นชื่อว่าไขมันแล้ว ทำไมถึงดี? ทำไมถึงยิ่งมียิ่งดี? วันนี้เราจะชวนมาหาคำตอบอย่างละเอียดว่า Baby Fat คืออะไร มีแล้วดีอย่างไร สาเหตุอะไรบ้างที่ทำให้ Baby Fat หายไปจนใบหน้าดูโทรม ดูแก่ก่อนวัย แล้วจะมีวิธีใดที่จะช่วยเพิ่มหรือทดแทน Baby Fat ที่หายไปได้
Baby Fat คืออะไร
Baby Fat คือ ไขมันตามธรรมชาติหรือไขมันกรรมพันธุ์ที่ติดตัวเรามาตั้งแต่เกิดทุกคน หรือที่หลายคนอาจเรียกว่า “ไขมันวัยเยาว์ หรือ ไขมันที่ทำให้หน้าแลดูเด็ก” ซึ่งพบได้ในวัยเด็กไปจนถึงวัยรุ่น สังเกตได้ว่าตอนเราเด็ก ๆ ใบหน้าดูแน่น เด้ง โดยเฉพาะบริเวณแก้มที่อิ่มฟู ผิวหน้าแน่นกระชับ ผิวดูเรียบเนียนแลดูสดใส สีผิวสม่ำเสมอ ถึงแม้ว่าไขมัน Baby Fat คือ ไขมันที่เราทุกคนมี แต่เมื่อเวลาผ่านไปและอายุมากขึ้น หลายคนเริ่มเห็นว่ามีปัญหาผิวหน้าและรูปหน้าเปลี่ยนไป นั่นเป็นเพราะสูญเสียชั้นไขมันส่วนนี้ไป รวมถึงร่างกายที่ผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินได้น้อยลง
ร่างกายสูญเสีย Baby Fat เมื่อไหร่
เป็นที่น่าสังเกตว่า Baby Fat คือ ไขมันวัยเยาว์ที่สะสมอยู่ในปริมาณเหมาะสม ทำให้ใบหน้าแลดูอ่อนวัย แต่เมื่ออายุมากขึ้นหรือตั้งแต่ 20 ปลาย ๆ ขึ้นไปถึง 30 ต้น ๆ ใบหน้าจะเริ่มสูญเสียไขมันส่วนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยเรื่องพันธุกรรม การเผาผลาญในร่างกาย การใช้ชีวิตประจำวัน การสูญเสียคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ใบหน้าดูซูบตอบ ขาดวอลลุ่ม ซึ่งบริเวณที่เห็นได้ชัด คือ หน้าผาก ขมับ แก้ม ใต้ตา ทำให้ใบหน้าส่วนนี้ดูลึกขึ้น
โดยเมื่อเริ่มเข้าสู่วัย 40 ปีขึ้นไป กระดูกบนหน้าเริ่มทรุดตัวร่วมกับไขมันที่หายไป ทำให้แก้มที่เคยเต่งตึงก็กลับหย่อนตกลงมา เห็นร่องแก้ม กรอบหน้าไม่ชัด เห็นเหนียงชัดเจน รวมถึงมีปัญหาผิวที่เหี่ยวย่น มีริ้วรอยทั้งเส้นบางและริ้วรอยร่องลึก ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูแก่ลง จะเห็นได้ว่า Baby Fat คือ ไขมันที่มีบทบาทสำคัญที่ทำให้คงความอ่อนเยาว์ได้ แต่เมื่อสูญเสียไปก็จะทำให้ใบหน้าดูแก่ลงนั่นเอง
หัตถการความงามที่ช่วยทดแทน Baby Fat ที่หายไป
สำหรับปัญหาสูญเสียไขมันวัยเยาว์ เราสามารถใช้วิธีเติมเต็มทดแทน Baby Fat จากชั้นไขมันที่บางลง รวมถึงคอลลาเจนและอีลาสตินที่หายไป ทำให้ใบหน้ากลับมาแลดูเด็กลง ยกกระชับปรับรูปหน้าให้ดูอิ่มเอิบ ด้วยหัตถการความงามที่ได้รับความนิยม 2 วิธี ได้แก่ การเติมไขมันใบหน้าและโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์
การเติมไขมัน
Baby Fat คือ ไขมันที่ช่วยให้ใบหน้าอิ่มฟู เต่งตึงยกกระชับ แต่หากขาดหายไปจากวัยที่มากขึ้น เราใช้วิธีเติมไขมันที่ใบหน้าได้ ด้วยการใช้ไขมันตัวเอง เหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากใช้สารแปลกปลอม ให้ผลลัพธ์ที่แลดูเป็นธรรมชาติ ด้วยการใช้เทคนิคการดูดไขมันส่วนเกินจากบริเวณต่าง ๆ ในร่างกาย อาทิ หน้าท้อง สะโพก หรือต้นขา จากนั้นนำมาปั่นคัดแยกเซลล์ไขมันแล้วฉีดเติมเต็มบริเวณที่ต้องการหลังฉีดไขมัน แล้วจะทำให้หน้าอ่อนวัย ร่องลึกริ้วรอยตื้นขึ้น ผิวพรรณสดใสขึ้น
ในกรณีที่ต้องการเน้นการเติมไขมันที่หน้า ไม่ได้เน้นการปรับสัดส่วน สามารถเลือกใช้เทคนิคดูดไขมันแบบ Manual Liposuction ที่ใช้แรงมือแพทย์ โดยใช้ท่อดูดไขมัน (Cannula ) ไปยังชั้นไขมันใต้ผิวหนัง แล้วใช้แรงกระทุ้งเพื่อให้ไขมันแตกตัว และใช้ไซริงค์ดูดไขมันออกมา ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ต้องอาศัยความแม่นยำของแพทย์ที่ต้องมีความชำนาญสูง เพราะหากควบคุมแรงกดได้ไม่ดี อาจส่งผลให้เกิดอาการบาดเจ็บกับเนื้อเยื่อใกล้เคียง หรืออาจโดนอวัยวะภายใน ดังนั้น ก่อนตัดสินใจเติมไขมันหน้าที่ไหนดี ควรเลือกอย่างละเอียดถี่ถ้วน
แต่ในกรณีที่ต้องการปรับสัดส่วนพร้อมเติมเต็มใบหน้า แนะนำให้ใช้เครื่องดูดไขมันพลังงานน้ำ หรือโปรแกรม Body-jet ช่วยทำให้เซลล์ไขมันแตกตัวอย่างอ่อนโยน ไม่ใช้ความร้อน จึงทำให้เซลล์ไขมันที่ได้นั้นยังมีชีวิตอยู่ จึงเหมาะกับการนำมาเติมไขมันใบหน้า ผสานกับเทคนิคการปั่นคัดแยกเซลล์ไขมันบริสุทธิ์ มีคุณภาพ และได้ขนาดโมเลกุลที่เหมาะกับการนำมาเติมที่ใบหน้า โดยสิ่งที่เติมเข้าไปทดแทน Baby Fat คือ ไขมันของผู้เข้ารับบริการเองและสามารถนำมาเติมได้หลายบริเวณ เช่น หน้าผาก ขมับ ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก หรือเติมแก้มส้ม
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์
อีกหนึ่งหัตถการความงามที่ได้รับความนิยมมากเช่นกัน คือ โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ ที่เป็นการใช้สารเติมเต็มประเภทกรดไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid หรือ HA) ซึ่งถูกสังเคราะห์เลียนแบบสาร HA ที่ร่างกายเราผลิตได้เอง ซึ่งปัจจัยที่ทำให้สาร HA ในโครงสร้างผิวเราขาดหายไปก็มาจากอายุที่มากขึ้นนั่นเอง ส่งผลให้ผิวขาดความชุ่มชื่น เกิดริ้วรอย ซึ่งสารเติมเต็ม HA จะช่วยเข้าไปทดแทน HA ที่ผลิตได้น้อยลง
นอกจากนี้ การทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ยังสามารถเติมเต็มทดแทนชั้นไขมันหรือ Baby Fat ที่ลดลงตามวัยได้เป็นอย่างดี ซึ่งไขมันบริเวณนี้เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ใบหน้าดูอิ่มเอิบและอ่อนเยาว์ การลดลงของ Baby Fat คือ ไขมันหน้าอ่อนวัยที่หายไปส่งผลให้ใบหน้าซูบตอบ ขาดวอลลุ่ม แก่ก่อนวัย และเห็นโครงกระดูกชัดเจนขึ้น สารเติมเต็ม HA จึงเป็นทางออกที่ช่วยเพิ่มความละมุนให้ใบหน้าอีกครั้ง โดยแพทย์จะประเมินโครงสร้างใบหน้าของแต่ละบุคคลอย่างละเอียด เพื่อกำหนดจุดฉีดและปริมาณสารเติมเต็มที่เหมาะสม เช่น บริเวณแก้มขมับ หน้าผาก ใต้ตา หรือร่องแก้มลึก ร่องน้ำหมาก รวมถึงสามารถใช้เทคนิคการฉีดยกกระชับปรับรูปหน้าได้ด้วย
การทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง ฉีดถูกชั้นถูกตำแหน่ง จะช่วยให้ใบหน้าดูอิ่มฟูขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งทื่อหรือดูแปลกตา ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและกลมกลืนกับใบหน้าเดิม อย่างไรก็ตาม การเลือกคลินิกและแพทย์ที่มีความชำนาญเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากแพทย์จะต้องมีความรู้ความเข้าใจกายวิภาคใบหน้าอย่างลึกซึ้ง เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ และให้ผลลัพธ์ที่ตรงตามความต้องการของผู้เข้ารับบริการ การปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดก่อนตัดสินใจจึงเป็นขั้นตอนที่ไม่ควรมองข้าม
การมี Baby Fat ดีอย่างไร
อย่างที่ทราบกันไปแล้วว่า Baby Fat คือ ไขมันตามธรรมชาติที่ยิ่งมีเยอะเท่าไหร่นั่นก็หมายความว่าเราสามารถคงความอ่อนวัยให้กับใบหน้าได้ ซึ่งมีผลดีต่อรูปหน้า โครงสร้างใบหน้า ช่วยชะลอผิวโทรมและผิวแก่ก่อนวัย
- เสริมสร้างโครงสร้างใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ Baby Fat ช่วยให้ใบหน้าดูอิ่มเอิบ แน่นเด้ง ทำให้ใบหน้าดูอ่อนวัยอยู่เสมอ และยังช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยร่องลึกก่อนวัยอันควร
- ป้องกันการยุบตัวของกระดูกและกล้ามเนื้อ ไขมันส่วนนี้ทำหน้าที่เป็นเหมือนเบาะรองรับและพยุงโครงสร้างใต้ผิวหนัง ช่วยชะลอการยุบตัวของกระดูกใบหน้าและการฝ่อตัวของกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติเมื่ออายุมากขึ้น
- ปกป้องผิวจากความเสียหาย Baby Fat ยังมีส่วนช่วยในการเป็นชั้นไขมันที่ปกป้องผิวจากปัจจัยภายนอก เช่น การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ หรือการบาดเจ็บเล็กน้อย ทำให้ผิวหน้าดูมีสุขภาพดีและมีความยืดหยุ่น
- ช่วยให้ใบหน้าดูสมดุลและสวยงาม การมีไขมันในปริมาณที่เหมาะสมทั่วใบหน้าจะช่วยสร้างความสมดุลและความสมมาตร ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูสวยงามและมีวอลลุ่ม
ปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อใบหน้า ทำให้ดูแก่กว่าวัย
นอกจากอายุที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการสูญเสียของ Baby Fat แล้ว ยังมีปัจจัยอื่น ๆ อีกมากมายที่เราอาจมองข้ามไป ซึ่งส่งผลให้เกิดความร่วงโรย ใบหน้าขาดวอลลุ่ม และมีริ้วรอย ทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัยอย่างเห็นได้ชัด
- แสงแดดและรังสียูวี ทำให้คอลลาเจนและอีลาสตินเสื่อมสภาพ เกิดริ้วรอย จุดด่างดำ ฝ้า กระ และผิวหนังหย่อนคล้อย
- มลภาวะและอนุมูลอิสระ เช่น ฝุ่น ควันพิษ และสารเคมีต่าง ๆ ก่อให้เกิดอนุมูลอิสระ ทำลายเซลล์ผิว ทำให้ผิวหมองคล้ำ เกิดริ้วรอย และดูแก่ก่อนวัย
- การสูบบุหรี่ สารนิโคตินในบุหรี่ทำลายคอลลาเจน ทำให้ผิวขาดออกซิเจน เส้นเลือดตีบ ผิวแห้งกร้าน เกิดริ้วรอยรอบปากและใบหน้าดูโทรม
- การดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้ร่างกายขาดน้ำ ผิวแห้งกร้าน ขาดความยืดหยุ่น และยังส่งผลต่อการทำงานของตับ ซึ่งสะท้อนออกมาทางผิวพรรณที่ดูไม่สดใส
- ความเครียดและการนอนหลับไม่เพียงพอ ทำให้ฮอร์โมนแปรปรวน และทำให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเองได้ไม่เต็มที่ ส่งผลให้ผิวหมองคล้ำ ใต้ตาคล้ำ และเกิดริ้วรอยก่อนวัย
- การแสดงสีหน้าบ่อย ๆ การขยับกล้ามเนื้อใบหน้าซ้ำ ๆ เช่น การขมวดคิ้ว การหรี่ตา หรือการยิ้มบ่อย ๆ โดยไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม ก็เป็นสาเหตุของริ้วรอยร่องลึกได้
- อาหารและการขาดสารอาหาร ส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพผิว ทำให้ผิวดูไม่แข็งแรงและแก่กว่าวัย
- ดื่มน้ำน้อย จะทำให้ผิวแห้ง ขาดความยืดหยุ่น และเกิดริ้วรอยเล็ก ๆ ได้ง่าย ผิวพรรณจึงดูไม่สดใสและหมองคล้ำ
- โรคประจำตัวและยาบางชนิด อาจส่งผลให้ผิวพรรณเปลี่ยนแปลง ดูร่วงโรย หรือมีปัญหาผิวได้
- พันธุกรรม มีส่วนกำหนดว่าเราจะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงของรูปหน้าและผิวหน้าเมื่อใด รวดเร็วแค่ไหน
สรุป
Baby Fat คือ ไขมันที่ทำให้หน้าดูเด็ก และถึงแม้ว่าจะเป็นไขมันตามธรรมชาติที่เราทุกคนมีตั้งแต่เกิด แต่ความอ่อนวัยก็กลับน้อยลง จากชั้นไขมันที่บางลง บวกกับองค์ประกอบอื่น ๆ ในโครงสร้างผิว อย่างคอลลาเจนและอีลาสตินก็สูญเสียตามไปด้วย รวมไปถึงกระดูกใบหน้าที่เริ่มทรุดตัวเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น แต่ในปัจจุบัน ด้วยเทคนิคทางการแพทย์ที่ก้าวหน้าและได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เราสามารถใช้วิธีที่จะช่วยเติมเต็มทดแทน Baby Fat ที่หายไป ด้วยการใช้ไขมันของตัวเอง และการใช้สารเติมเต็ม HA ที่จะช่วยเติมวอลลุ่มในบริเวณที่ขาดหาย แก้ไขบริเวณที่บกพร่อง เพื่อรูปหน้าที่ดูสมส่วน ใบหน้าแลดูอ่อนเยาว์
Post Info
Social Media



