
ดูดไขมัน Vaser ดีจริงไหม? กำจัดไขมันเร็ว น้ำหนักเยอะ ไขมันหนาก็เอาอยู่
การดูดไขมันด้วยเครื่อง Vaser ถือเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่มีไขมันสะสมปริมาณมาก หรือมีปัญหาไขมันดื้อ ไขมันหนา ที่ลดได้ยากด้วยวิธีปกติ Vaser ใช้เทคโนโลยีพลังงานอัลตราซาวด์ในการแยกเซลล์ไขมัน ทำให้การกำจัดไขมันทำได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ช่วยลดโอกาสในการเสียเลือดมาก
ในปัจจุบัน Vaser ได้ถูกพัฒนามาเป็น Vaser Smooth 2.2 ซึ่งออกแบบมาเพื่อช่วยให้การดูดไขมันมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมลดปัญหาผิวไม่เรียบเนียนหลังดูดไขมัน ช่วยให้ผิวกระชับ และมีพลังงานในการแยกเซลล์ไขมันสูงกว่าแบบเดิม ซึ่งจะช่วยให้แพทย์สามารถเก็บไขมันส่วนเกินได้เร็วยิ่งขึ้น เรามาทำความรู้จักกับการดูดไขมันเวเซอร์กัน
เลือกอ่านตามหัวข้อได้ที่นี่
ดูดไขมัน Vaser คืออะไร?
การดูดไขมัน Vaser คือ เทคโนโลยีดูดไขมันที่ใช้พลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ในการสร้างความร้อนเพื่อสลายไขมันใต้ผิวหนัง โดยจัดอยู่ในกลุ่ม Ultrasound-assisted Liposuction เช่นเดียวกับเครื่องดูดไขมันระบบพลังงานคลื่นเสียงอื่น ๆ แต่ Vaser มีพลังงานที่สูงกว่า จึงเหมาะกับเคสที่มีไขมันหนาแน่น เช่น ผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก ไขมันสะสมหนา หรือผู้ชายที่มีโครงสร้างไขมันแข็งแรงและจับตัวกันแน่น การใช้ Vaser จึงช่วยแยกเซลล์ไขมันออกได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่า
หลักการทำงานของเครื่องดูดไขมันพลังเสียง Vaser
Vaser Smooth 2.2 ใช้พลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ในการแยกเซลล์ไขมันใต้ชั้นผิวหนัง โดยการส่งคลื่นพลังงานผ่านหัวดูดไขมัน (Cannula) ซึ่งทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือน ไขมันที่อยู่ในชั้นใต้ผิวจะถูกทำให้สั่นจนแตกตัวออกมาเป็นอนุภาคขนาดเล็กในลักษณะของเหลว ไขมันเหลวตัวนี้จะไม่สามารถนำไปเติมต่อได้ เนื่องจากเซลล์ไม่มีชีวิต และจะถูกดูดออกจากร่างกายโดยใช้หัวดูดที่เชื่อมต่อกับถังเก็บไขมัน
คุณสมบัติเด่นอีกประการของ Vaser Smooth 2.2 คือการควบคุมพลังงานให้เสถียรระหว่างการทำงาน ช่วยลดความเสี่ยงต่อการทำลายเนื้อเยื่อข้างเคียง เช่น เส้นประสาท เส้นเลือด และเนื้อเยื่อผิว ทั้งยังช่วยลดโอกาสการเกิดปัญหาผิวไหม้ ผิวไม่เรียบเนียน หรือผิวเป็นคลื่นหลังดูดไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงเหมาะสำหรับกลุ่มที่มีพังผืดเยอะ ไขมันหนาแน่น หรือผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ผิวที่เรียบเนียนหลังทำในระยะยาว
เครื่องดูดไขมัน Vaser ทั่วไปและ Vaser Smooth 2.2 ต่างกันไหม?
Vaser Smooth 2.2 คือเครื่องดูดไขมันเวเซอร์รุ่นหนึ่งที่ได้รับการพัฒนาประสิทธิภาพให้เหนือกว่ารุ่นเดิม ตัวเครื่องมีการออกแบบหัวท่อดูดไขมันให้สามารถสลายพังผืดใต้ผิวหนังได้ดีขึ้น ลดปัญหาเซลลูไลท์ ผิวเปลือกส้ม และช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวได้มากขึ้น ทำให้ผิวเรียบเนียนและกระชับหลังดูดไขมัน ช่วยลดโอกาสการเกิดปัญหาผิวบุ๋มหรือเป็นคลื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ความแตกต่างระหว่าง Vaser Smooth 2.2 กับรุ่นดั้งเดิมอย่าง Vaser คือ ตัวเครื่อง Vaser Smooth 2.2 มีพลังงานที่เสถียรกว่า สามารถกำจัดไขมันได้รวดเร็วขึ้น ทำให้แพทย์ใช้เวลาน้อยลงขณะดูดไขมัน นอกจากนี้ยังช่วยดูแลผิวให้เรียบเนียนกว่าเดิม โดยเฉพาะในเคสที่มีพังผืดหรือไขมันหนาแน่นมาก จึงทำให้ Vaser Smooth 2.2 ได้รับความนิยมในการดูดไขมันในกลุ่มผู้ที่มีน้ำหนักมาก ไขมันสะสมเยอะมาเป็นเวลานาน
ตำแหน่งที่นิยมใช้ Vaser ดูดไขมัน มีจุดไหนบ้าง?
การดูดไขมันด้วย Vaser ได้รับความนิยมในการดูดไขมันบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะในบริเวณที่ไขมันมีความหนาแน่นสูง หรือมีพังผืดจับตัวหนา ตำแหน่งที่นิยมใช้ Vaser ดูดไขมัน ได้แก่
- ต้นแขน ลดไขมันสะสมที่ต้นแขนเพื่อให้แขนเรียวกระชับ ลดอาการแขนใหญ่ แขนย้อย แขนห้อย
- หน้าท้อง ดูดไขมันหน้าท้องทั้งส่วนบนและล่าง รวมถึงบริเวณเอว ช่วยให้เอวคอดชัดเจนยิ่งขึ้น
- แผ่นหลังและปีกหลัง กำจัดไขมันสะสมบริเวณหลัง และบริเวณปีกเสื้อชั้นในที่มักลดเองได้ยาก
- รอบเอว ลดไขมันที่ทำให้พุงหรือเอวดูใหญ่ ช่วยเก็บหุ่นให้ได้สัดส่วนโค้งเว้าสวยงาม
- ต้นขา ดูดไขมันต้นขาด้านใน ด้านนอก รวมถึงช่องว่างระหว่างขา เพื่อให้ขาดูเรียวยาว
- เหนียงและกรอบหน้า กำจัดไขมันใต้คางและแนวกรอบหน้า ช่วยสร้างกรอบหน้าให้คมชัดมากขึ้น
- น่องและเข่า ดูดไขมันสะสมรอบน่องและบริเวณเข่า ช่วยให้ขาดูเรียวขึ้นอย่างดูเป็นธรรมชาติ
ใครบ้างที่เหมาะกับการดูดไขมัน Vaser?
การดูดไขมันด้วย Vaser เหมาะสำหรับผู้ที่มีปริมาณไขมันสะสมจำนวนมาก หรือมีชั้นไขมันหนาแน่น โดยเฉพาะเคสที่ต้องกำจัดไขมันอย่างรวดเร็วและแม่นยำ ตัวอย่างกลุ่มคนที่เหมาะกับการดูดไขมันด้วย Vaser ได้แก่
- ผู้ที่มีปริมาณไขมันสะสมจำนวนมาก หรือมีชั้นไขมันหนาในหลายบริเวณ
- ผู้ที่มีการรวมตัวของไขมันหนาแน่น เช่น เคสดูดไขมันผู้ชาย
- ผู้ที่มีความกังวลเกี่ยวกับรูปร่าง ต้องการปรับสัดส่วนให้สมส่วนยิ่งขึ้น
- ผู้ที่ออกกำลังกาย ควบคุมอาหารแล้ว แต่สัดส่วนบางจุดยังไม่ลดลง
- ผู้ที่ต้องการกำจัดไขมันส่วนเกินออก โดยไม่ได้มีแผนจะนำไขมันไปเติมเต็มส่วนอื่น
ขั้นตอนการดูดไขมัน Vaser ตั้งแต่ต้นจนจบ
การดูดไขมันด้วย Vaser Smooth 2.2 เป็นกระบวนการที่เน้นการสลายไขมันอย่างนุ่มนวลและแม่นยำ โดยใช้เทคโนโลยีพลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ที่สามารถแยกไขมันออกจากเนื้อเยื่อข้างเคียงได้อย่างปลอดภัย ขั้นตอนดำเนินไปอย่างเป็นระบบตั้งแต่ต้นจนจบ ดังนี้
เปิดแผลดูดไขมัน
แพทย์จะทำการเปิดแผลขนาดเล็กไม่เกิน 5 มิลลิเมตร ในบริเวณที่จะทำการดูดไขมัน เพื่อเป็นช่องทางสำหรับสอดหัวดูดไขมัน (Cannula) เข้าไปใต้ผิวหนัง ซึ่งเป็นชั้นไขมันระงับความเจ็บปวด
แพทย์จะทำการใส่สารระงับความเจ็บปวดหรือ Tumescent เข้าไปยังชั้นไขมันใต้ผิวหนัง ซึ่งจะประกอบไปด้วยสารประกอบต่าง ๆ ที่ช่วยลดการอักเสบและกระตุ้นให้เส้นเลือดเกิดการหดตัว เพื่อช่วยลดความเจ็บปวด ลดปริมาณการเสียเลือดมาก และทำให้ไขมันแยกตัวออกจากเนื้อเยื่อได้ง่ายขึ้นแยกเซลล์ไขมันด้วยพลังงานคลื่นเสียง Vaser
ใช้หัวเข็มปล่อยพลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ไปยังชั้นไขมัน เพื่อทำให้ไขมันแตกตัวเป็นของเหลว กระบวนการนี้ต้องมีการควบคุมอุณหภูมิอย่างแม่นยำ เพื่อป้องกันความร้อนเกินที่อาจทำให้ผิวไหม้ หรือเกิดปัญหาผิวเป็นคลื่นหลังทำดูดไขมันออกมาจากใต้ชั้นผิวหนัง
เมื่อดูดไขมันออกจากใต้ชั้นผิวหนังเรียบร้อยแล้ว แพทย์จะทำการดูดไขมันในรูปแบบของเหลวออกมาอย่างนุ่มนวล ผ่านท่อดูดไขมันที่เชื่อมต่อกับระบบ Vaser โดยไขมันจะถูกลำเลียงผ่านท่อสุญญากาศเข้าสู่ถังเก็บไขมันแบบระบบปิด เพื่อป้องกันการปนเปื้อนการปิดแผลและระบายของเหลว
หลังดูดไขมันเสร็จสิ้น จะมีการเย็บแผลแบบเปิด (Open Drainage Technique) เพื่อช่วยระบายของเหลวที่ตกค้างออกจากร่างกาย และลดโอกาสการสะสมของของเหลวใต้ผิวหนังจนเกิดเป็นก้อนแข็งใต้ผิว (Seroma) ซึ่งต้องรักษาด้วยการนวดเดรนน้ำเหลือง
เตรียมตัวอย่างไรก่อนดูดไขมันด้วย Vaser?
การเตรียมตัวอย่างเหมาะสมก่อนเข้ารับการดูดไขมันเวเซอร์มีความสำคัญอย่างมาก เพื่อช่วยลดความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อน และทำให้การฟื้นตัวหลังทำเป็นไปอย่างราบรื่น การเตรียมตัวจะมีข้อแตกต่างเล็กน้อยขึ้นอยู่กับว่าดูดไขมันโดยใช้ยาชาเฉพาะที่ หรือวางยาสลบ โดยเบื้องต้น แนวทางการเตรียมตัวก่อนดูดไขมัน Vaser มีดังนี้
- พักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6–8 ชั่วโมงก่อนทำ เพื่อป้องกันอาการอ่อนเพลีย เมายาสลบ หรือวิงเวียนศีรษะหลังทำ
- งดอาหารและเครื่องดื่มทุกชนิดอย่างน้อย 8 ชั่วโมงก่อนทำ (เฉพาะกรณีวางยาสลบ)
- งดสูบบุหรี่อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ก่อนทำ เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงของภาวะขาดออกซิเจนและทำให้แผลหายช้า
- สวมเสื้อผ้าหลวม สีเข้ม ใส่สบาย เพื่อความสะดวกขณะเปลี่ยนชุด และเนื่องจากหลังดูดไขมัน ของเหลวอาจซึมจากแผล ทำให้เห็นรอยหรือคราบได้ชัด
- พาญาติหรือเพื่อนมาด้วยอย่างน้อย 1 คน เพื่อความปลอดภัยในการเดินทางกลับ (โดยเฉพาะกรณีที่ดมยาสลบ)
- ล้างสีเล็บและตัดเล็บมืออย่างน้อย 1 นิ้ว (เฉพาะกรณีวางยาสลบ) เพื่อให้วิสัญญีแพทย์สามารถตรวจเช็กการไหลเวียนของเลือดและออกซิเจนได้
- งดแต่งหน้า ทาครีม โลชั่น หรือผลิตภัณฑ์ใด ๆ บนใบหน้าและร่างกาย
- งดใส่เครื่องประดับทุกชนิด รวมถึงคอนแทคเลนส์ ฟันปลอม หรืออุปกรณ์เสริมอื่น ๆ
- แจ้งแพทย์หากมีฟันโยกหรือปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพฟัน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุระหว่างใส่ท่อช่วยหายใจ (โดยเฉพาะกรณีวางยาสลบ)
การดูแลตัวเองหลังดูดไขมัน
เวเซอร์
การดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมหลังการดูดไขมันด้วย Vaser Smooth 2.2 มีบทบาทสำคัญในการช่วยลดอาการบวมช้ำ ป้องกันภาวะแทรกซ้อน และทำให้ผลลัพธ์ของรูปร่างกระชับเรียบเนียนยิ่งขึ้น การปฏิบัติตัวอย่างถูกต้องตามคำแนะนำของแพทย์จะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้อย่างราบรื่น ดังนี้
- ใส่ชุดกระชับอย่างต่อเนื่องตามแพทย์แนะนำ อย่างน้อย 4–6 สัปดาห์ เพื่อช่วยลดบวมและทำให้ผิวแนบกระชับกับชั้นกล้ามเนื้อ
- ประคบเย็นบริเวณที่ทำในช่วง 48–72 ชั่วโมงแรก เพื่อช่วยลดอาการบวมและช้ำ
- รับประทานยาแก้อักเสบและยาแก้ปวดตามที่แพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอ ไม่ควรซื้อยามาทานเอง
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก การยกของหนัก หรือการขยับตัวรุนแรง ในช่วง 1 เดือนแรกหลังดูดไขมัน
- รักษาความสะอาดบริเวณแผลอย่างเคร่งครัด และปฏิบัติตามคำแนะนำการทำแผลทุกครั้งเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- หลีกเลี่ยงการแช่น้ำ อบซาวน่า หรือว่ายน้ำในช่วง 3–4 สัปดาห์แรก จนกว่าแผลจะหายสนิท
- เข้ารับการตรวจติดตามผลตามนัด เพื่อให้แพทย์ประเมินการฟื้นตัวและผลลัพธ์อย่างต่อเนื่อง
- ควบคุมอาหาร เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อช่วยลดอาการบวมและฟื้นฟูร่างกายได้ดีขึ้น
ข้อดี-ข้อเสียของการดูดไขมัน Vaser
การดูดไขมันด้วยเวเซอร์ สามารถตอบโจทย์ทั้งเรื่องปริมาณไขมันที่กำจัดได้ และคุณภาพผิวหลังการดูดไขมัน อย่างไรก็ตามเช่นเดียวกับการดูดไขมันแบบอื่น ๆ Vaser ก็มีทั้งข้อดีและข้อจำกัดที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจ ดังนี้
ข้อดีของการดูดไขมัน Vaser
- สามารถดูดไขมันได้แทบทุกส่วนในร่างกาย ทั้งจุดเล็กและจุดใหญ่
- ดูดไขมันได้ในปริมาณมาก ใช้เวลาไม่นานในการทำ ลดโอกาสเสียเลือดมาก
- มีประสิทธิภาพในการกำจัดพังผืดใต้ผิวหนัง โดยเฉพาะกรณีที่เคยดูดไขมันมาก่อน
- เหมาะกับผู้ที่มีชั้นไขมันหนาแน่น และต้องการสัดส่วนที่ลดลงอย่างชัดเจน
- ช่วยลดลักษณะเซลลูไลท์และผิวเปลือกส้มได้ในบางกรณี
- มีคุณสมบัติกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ส่งผลให้ผิวเรียบเนียนกระชับมากขึ้นหลังทำ
- เห็นความเปลี่ยนแปลงของสัดส่วนได้ทันทีหลังทำ และดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะฟื้นตัว
ข้อเสียของการดูดไขมัน Vaser
- มีความเสี่ยงเรื่องผิวไหม้หากควบคุมพลังงานและอุณหภูมิไม่ดีพอ ต้องทำโดยแพทย์ที่เคยดูดไขมันมาก่อนเท่านั้น
- ไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยมาก เพราะ Vaser เน้นกำจัดไขมัน ไม่ได้ยกกระชับผิวโดยตรง
- มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการดูดไขมันแบบ Manual หรือเครื่องรุ่นเก่า
- ไขมันที่ได้จากการใช้พลังงานด้วย Vaser ไม่เหมาะสำหรับนำไปเติมไขมันต่อ (Fat Grafting)
ดูดไขมัน Vaser ราคาเท่าไหร่?
ราคาการดูดไขมันด้วย Vaser Smooth 2.2 จะมีความแตกต่างกันไปตามนโยบายของแต่ละโรงพยาบาล โดยราคาจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น พื้นที่ที่ต้องการดูดไขมัน ปริมาณไขมันที่สะสม ระดับความยากง่ายของเคส รวมถึงเทคนิคการระงับความเจ็บปวดที่ใช้
ราคาดูดไขมันเวเซอร์เริ่มต้นที่ตำแหน่งละ 25,000 บาท โดยราคาเบ็ดเสร็จจะประเมินตามรายละเอียดเฉพาะบุคคล เช่น ขนาดร่างกาย ปริมาณไขมัน และวิธีการรักษาที่เหมาะสม ทั้งนี้ควรระวังการเลือกบริการดูดไขมันที่มีราคาถูกเกินมาตรฐาน เพราะอาจส่งผลต่อความปลอดภัย คุณภาพของผลลัพธ์ และความเรียบเนียนของผิว
ดูดไขมัน Vaser เจ็บไหม?
การดูดไขมันด้วย Vaser Smooth 2.2 เป็นดูดไขมันที่มีการใช้พลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ในการแยกเซลล์ไขมัน ซึ่งจะก่อให้เกิดความร้อนใต้ผิว หลังจากการดูดไขมัน อาจมีอาการปวดตึงหรือรู้สึกระบมบริเวณที่ดูดไขมันบ้างในช่วง 3–7 วันแรก แต่โดยทั่วไปอาการเหล่านี้จะอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ด้วยการรับประทานยาแก้ปวดตามที่แพทย์สั่ง และจะค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับภายใน 1–2 สัปดาห์ การดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมหลังทำจะช่วยลดอาการไม่สบาย และช่วยให้ฟื้นตัวได้ราบรื่นยิ่งขึ้น
สรุป
การดูดไขมัน Vaser โดยเฉพาะ Vaser Smooth 2.2 คือเครื่องดูดไขมันที่พัฒนาขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกำจัดไขมันให้รวดเร็ว แม่นยำ การใช้พลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ช่วยให้ไขมันแตกตัวกลายเป็นของเหลว ทำให้สามารถดูดออกได้ง่ายขึ้น พร้อมลดปัญหาเซลลูไลท์ และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ผิวเรียบเนียนกระชับหลังทำ
เทคโนโลยีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันหนาแน่น ต้องการลดสัดส่วนอย่างชัดเจน รวมถึงผู้ที่เคยออกกำลังกายแต่ไขมันบางส่วนยังคงสะสมอยู่ การเลือกดูดไขมันด้วย Vaser ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ที่เคยดูดไขมันมาก่อน และเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตอบโจทย์ในระยะยาว
บริการแนะนำ
We always take care of your mobility
24/7 Emergency
Tell : 064 445 5666