เลเบียคืออะไร? รวมข้อสงสัย การตัดแต่งจุดซ่อนเร้นผู้หญิง
เลเบีย คือ ส่วนของอวัยวะเพศหญิงที่อยู่ภายนอก หรือที่เรียกกันว่า “แคม” ซึ่งแบ่งออกเป็นแคมใหญ่อยู่ด้านนอก และแคมเล็กอยู่ด้านใน ปัจจุบันผู้หญิงจำนวนมากให้ความสำคัญกับรูปทรงและความสวยงามของจุดซ่อนเร้นภายนอกมากขึ้น เนื่องจากรูปทรงของเลเบียที่ผิดปกติ เช่น ยื่นยาวออกมามากเกินไป หรือมีสีคล้ำ มักส่งผลกระทบต่อความมั่นใจในการสวมใส่เสื้อผ้า โดยเฉพาะชุดว่ายน้ำหรือชุดออกกำลังกายรัดรูป รวมถึงปัญหาทางสุขอนามัยที่ตามมา
การตกแต่งน้องสาวหรือการทำเลเบียจึงเป็นทางออกที่ช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้อย่างถูกจุด ซึ่งแตกต่างจากการผ่าตัดตกแต่งน้องสาว (Surgical Vaginal Rejuvenation) แบบอื่น ๆ ซึ่งเน้นเน้นไปที่การกระชับช่องคลอดที่อยู่ภายใน แต่การตกแต่งเลเบียมุ่งเน้นไปที่การปรับขนาด รูปร่าง และสีสันของอวัยวะเพศภายนอกให้มีความสวยงามและเหมาะสมกับสรีระมากขึ้น เพื่อเพิ่มความมั่นใจและแก้ไขปัญหาการเสียดสี
เลือกอ่านตามหัวข้อด้านล่าง
เลเบีย คืออะไร?
เลเบีย คือ อวัยวะเพศหญิงภายนอกที่ทำหน้าที่ปกป้องช่องคลอดและท่อปัสสาวะ โดยแบ่งออกเป็นสองส่วนหลัก ๆ ได้แก่ แคมใหญ่ (Labia Majora) ซึ่งเป็นกลีบเนื้อด้านนอกที่มักมีไขมันใต้ผิวหนังหนา และแคมเล็ก (Labia Minora) ซึ่งเป็นกลีบเนื้อด้านในที่มีลักษณะเป็นรอยพับ การมีรูปทรง ขนาด และสีสันของเลเบียที่แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลถือเป็นเรื่องปกติทางสรีรวิทยา แต่หากมีขนาดใหญ่หรือยื่นยาวมากเกินไปก็อาจทำให้เปิดปัญหาอื่น ๆ ตามมาได้
แคมเล็กนั้นมีลักษณะเป็นเนื้อเยื่อที่มีเส้นประสาทและหลอดเลือดจำนวนมาก ทำให้มีความไวต่อสัมผัส และมีบทบาทสำคัญในการให้ความชุ่มชื้นแก่ช่องคลอด แต่เมื่อเวลาผ่านไปหรือด้วยปัจจัยทางพันธุกรรม รูปทรงของแคมเล็กอาจยื่นยาว หย่อนคล้อย หรือมีรอยยับย่นและสีคล้ำ ซึ่งทำให้ผู้หญิงหลายคนเลือกใช้วิธีการศัลยกรรมตกแต่งน้องสาวแบบต่าง ๆ หรือเลเบียเพื่อปรับปรุงให้มีขนาดเล็กลง กระชับ และสมส่วนมากขึ้น
เลเบียไม่สวยมีลักษณะอย่างไร และเกิดจากอะไร?
การมีลักษณะที่แตกต่างกันของเลเบีย คือ สิ่งปกติที่เกิดขึ้นได้และเป็นความแตกต่างเฉพาะตัวในผู้หญิงแต่ละคน โดยส่วนใหญ่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่ในบางกรณีอาจเกิดความเปลี่ยนแปลงที่ทำให้หลายคนรู้สึกไม่มั่นใจ หรือส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ โดยสามารถสังเกตลักษณะที่มักพบได้บ่อย พร้อมสาเหตุและผลกระทบ ดังนี้
- เลเบียยาวหรือยื่นออกมานอกแคมใหญ่ เป็นลักษณะที่แคมเล็กมีความยาวเกินกว่าขอบของแคมใหญ่ออกมามาก ทำให้มองเห็นชัดเจนเมื่อสวมชุดรัดรูป เกิดจากพันธุกรรม ฮอร์โมน หรือพฤติกรรมที่มีแรงเสียดสีบริเวณจุดซ่อนเร้น เช่น ปั่นจักรยาน ใส่กางเกงรัดแน่นนาน ๆ ทำให้ระคายเคืองง่าย เจ็บเวลาออกกำลังกายหรือมีเพศสัมพันธ์ และอาจทำให้เกิดการหมักหมมของแบคทีเรีย
- เลเบียไม่สมมาตรหรือขนาดต่างกัน มักเกิดจากพัฒนาการของร่างกายแต่ละคนที่ไม่เท่ากัน หรือมีพฤติกรรมกดทับด้านใดด้านหนึ่งบ่อย ทำให้รู้สึกไม่มั่นใจเมื่อต้องใส่ชุดว่ายน้ำหรือชุดรัดรูป และบางรายรู้สึกผิดปกติขณะเดินหรือเคลื่อนไหว
- เลเบียมีสีคล้ำมากกว่าปกติ เกิดจากฮอร์โมน ความเสียดสี การตั้งครรภ์ หรือการเปลี่ยนแปลงตามวัย ทำให้รู้สึกกังวลเรื่องรูปลักษณ์ จนอาจส่งผลต่อสุขภาพจิตและความรู้สึกในความสัมพันธ์ต่อคู่รัก
- เลเบียหย่อนคล้อยหรือเหี่ยวย่น จากอายุที่มากขึ้น การคลอดบุตร หรือการเปลี่ยนแปลงของคอลลาเจนในผิว ทำให้รู้สึกไม่กระชับ ขาดความมั่นใจ อาจมีผลต่อการรับความรู้สึกระหว่างมีเพศสัมพันธ์
เลเบียไม่เท่ากัน แคมยื่น แคมย้วย เพราะมีเพศสัมพันธ์บ่อยเกินไปจริงไหม?
ความเชื่อที่ว่าการมีเพศสัมพันธ์บ่อยเกินไปเป็นสาเหตุทำให้เลเบียไม่เท่ากัน แคมยื่น หรือแคมย้วยนั้นไม่เป็นความจริง และเป็นเพียงความเข้าใจผิดที่แพร่หลายในสังคม จากหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ รูปทรงและขนาดของเลเบีย (แคมเล็กและแคมใหญ่) ส่วนใหญ่ถูกกำหนดโดยปัจจัยทางชีววิทยาและพันธุกรรม
สำหรับการมีเพศสัมพันธ์นั้นเป็นการเคลื่อนไหวที่ไม่ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อโครงสร้างของเนื้อเยื่อเลเบียจนทำให้เกิดการยื่นยาวหรือย้วยอย่างถาวร หากมีการยืดออกของเนื้อเยื่อชั่วคราวขณะมีเพศสัมพันธ์ ผิวหนังบริเวณนั้นก็จะคืนตัวสู่สภาพปกติได้ ซึ่งแม้ว่าการที่เรามีแคมยื่นหรือย้วยจะมีสาเหตุมาจากปัจจัยภายนอกได้บ้าง แต่ปัจจัยหลักก็ยังคงเป็นพันธุกรรมอยู่ดี ทำให้ลักษณะเลเบียของแต่ละคนมีรูปร่างไม่เหมือนกัน
หากยังไม่เห็นภาพ สามารถลองดูตัวอย่างได้จากงานประติมากรรมของ Jamie McCartney ศิลปินชาวอังกฤษ ที่มีชื่อว่า ‘The Great Wall of Vulva’ อันเป็นผลงานที่จัดแสดงแบบหล่ออวัยวะเพศหญิงภายนอก (Vulva casts) จำนวน 400 ชิ้น จากผู้หญิงอายุระหว่าง 18-76 ปี และมีภูมิหลังที่แตกต่างกัน ซึ่งเปิดประเด็นเรื่องความหลากหลายของรูปร่างเลเบียได้อย่างชัดเจน
ผลงานนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ไม่มีอวัยวะเพศหญิงใดที่เหมือนกัน ทั้งรูปทรง ขนาด สี และความยาวของแคมเล็กและแคมใหญ่มีความหลากหลายอย่างเหลือเชื่อ ซึ่งเป็นการทำลายมาตรฐานความงามที่ถูกจำกัด และพิสูจน์ว่าการมีเลเบียยื่นยาว เล็ก ใหญ่ หรือไม่สมมาตร เป็นเรื่องปกติทางธรรมชาติ ไม่ได้เกิดจากพฤติกรรมใด ๆ อย่างที่หลายคนเชื่อกัน
The Great Wall of Vulva’
ผลงานแบบหล่ออวัยวะเพศหญิงภายนอกจาก Jamie McCartney
ขอบคุณภาพจาก thegreatwallofvulva.com
การผ่าตัดตกแต่งเลเบีย คืออะไร?
การผ่าตัดตกแต่งเลเบีย (Labiaplasty) คือการศัลยกรรมที่ออกแบบมาเพื่อลดขนาด ปรับรูปทรง หรือแก้ไขความไม่สมมาตรของแคมเล็ก แคมใหญ่ หรือทั้งสองส่วนให้มีความสวยงามและเหมาะสมกับโครงสร้างร่างกายมากขึ้น โดยเป็นการแก้ไขอวัยวะเพศภายนอกเพื่อเพิ่มความมั่นใจในภาพลักษณ์ และช่วยลดปัญหาทางสรีรวิทยาที่เกิดจากการยื่นยาวของเลเบีย
ปัญหาเลเบียแบบไหนที่ควรตัดแต่ง
การตัดแต่งเลเบียไม่ใช่เรื่องของความสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่ในหลายกรณีเป็นการแก้ไขปัญหาที่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน หรือส่งผลต่อสุขภาพผิวบริเวณจุดซ่อนเร้น โดยเฉพาะในเคสที่ปัญหาเลเบียที่มีลักษณะ ดังนี้
- เลเบียยาวหรือยื่นผิดปกติ จนโผล่พ้นแคมใหญ่ เห็นชัดแม้ในขณะยืนหรือสวมใส่ชุดแนบเนื้อ
- เลเบียสองข้างไม่เท่ากันมาก ส่งผลต่อความมั่นใจหรือรู้สึกไม่สบายตัวขณะนั่ง เดิน หรือออกกำลังกาย
- เลเบียพับหรือบิดเบี้ยว ทำให้ทำความสะอาดได้ยาก เกิดการอับชื้นหรือกลิ่นไม่พึงประสงค์บ่อย
- มีอาการเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ หรือขณะใส่ชุดชั้นใน เพราะเลเบียโดนเสียดสีหรือกดทับ
หากรู้สึกว่าปัญหาเรื่องรูปลักษณ์ของเลเบีย คือ ส่วนที่สร้างปัญหาทางร่างกายหรือจิตใจ การทำการผ่าตัดตกแต่งโดยสูตินรีแพทย์ที่มีทักษะและมีประสบการณ์นับว่าเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ช่วยให้กลับมามั่นใจได้อีกครั้ง
ผ่าตัดเลเบีย มีกี่แบบ? แตกต่างกันอย่างไร?
วิธีการตกแต่งเลเบียนั้นมีหลากหลายเทคนิค ซึ่งแพทย์จะต้องทำการประเมินลักษณะ ขนาด และปัญหาของเลเบียอย่างละเอียด ก่อนที่จะวิเคราะห์และออกแบบการผ่าตัดที่เหมาะสมสำหรับผู้เข้ารับบริการแต่ละราย โดยแต่ละเทคนิคมีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกันไป ดังนี้
ผ่าตัดแต่งเลเบียตามแนวยาว (Direct Excision หรือ Trim Labiaplasty)
เป็นการผ่าตัดตามแนวของเลเบียหรือแคมเล็ก โดยแพทย์จะทำการกรีดขอบนอกทั้งสองข้างตามแนวยาวออก และเหลือเพียงเนื้อเยื่อส่วนในที่ติดกับช่องคลอดไว้ วิธีนี้ช่วยให้เลเบียที่ออกมาดูสวยงามและไม่เกิดการดึงรั้งของแผลมากเหมือนวิธีอื่น ๆ
ข้อดีที่สำคัญคือสามารถกำจัดกลีบส่วนที่มีสีคล้ำได้กว่า 80% และยังเป็นวิธีที่ดูแลให้ปลอดภัยได้ดีเพราะใช้เวลาในการทำไม่นาน ทำให้เสียเลือดน้อย และสามารถทำพร้อมกับการตัดแต่งปุ่มคลิตอริสได้ โอกาสในการติดเชื้อน้อย และให้ผลลัพธ์ที่สีผิวเลเบียมีความสม่ำเสมอ
ผ่าตัดแต่งเลเบียแบบตัดลิ่ม (Wedge Labiaplasty)
วิธีนี้เป็นการผ่าตัดโดยการตัดเนื้อเยื่อเป็นรูปตัววี (V-Wedge) โดยจะตัดลิ่มตรงกลางเลเบียหรือเยื้องลงส่วนล่างเล็กน้อย เพื่อกำจัดส่วนที่หนาของเลเบียออก จากนั้นจึงทำการเย็บแผลติดกัน
ข้อดีคือช่วยให้เห็นแผลน้อยมาก เนื่องจากมีการเย็บแผลในระยะสั้น ๆ เท่านั้น แต่ข้อจำกัดคือ อาจทำให้เกิดความรู้สึกตึงแผลได้ง่ายกว่าแบบอื่น เนื่องจากแผลผ่าตัดเป็นแนวขวาง และไม่สามารถกำจัดผิวแคมที่มีสีคล้ำได้ อย่างมีประสิทธิภาพเท่าแบบ Trim
ผ่าตัดแต่งเลเบียแบบตัดเยื่อด้านใน (De-Epithelialization Labiaplasty)
เป็นการผ่าตัดเอาเนื้อเยื่อที่อยู่ตรงกลางของแคมเล็กออก โดยจะยังเหลือเนื้อเยื่อส่วนนอกเอาไว้ จากนั้นจึงเย็บปิดแผลเข้าด้วยกัน วิธีนี้จะเน้นการเก็บส่วนนอกของแคมเล็กเอาไว้เพื่อให้เกิดความดูเป็นธรรมชาติมาก
ข้อดีคือ ผู้เข้ารับบริการจะรู้สึกตึงบริเวณแผลน้อยกว่าแบบตัดลิ่ม เพราะการเย็บแผลเป็นแนวยาวเสมือนการทำให้เลเบียดูหดตัวลงอย่างดูเป็นธรรมชาติ แต่มีข้อจำกัดเรื่องที่ไม่สามารถกำจัดผิวเลเบียที่มีสีคล้ำได้เหมือนแบบ Trim
ผ่าตัดแต่งเลเบียแบบตัวดับเบิลยู (Running W-labiaplasty)
เรียกอีกชื่อหนึ่งว่าการผ่าตัดเลเบียแบบซิกแซก (Zigzag Labiaplasty) โดยจะเป็นการทำแผลให้เป็นแนวหยักไปมาคล้ายฟันปลา ลักษณะหลังแผลสมานตัวแล้วจึงค่อนข้างสังเกตแผลได้ยาก เนื่องจากเป็นแผลที่มีขนาดเล็กกว่าแบบอื่น
ข้อดีคือช่วยลดความตึงของแผลได้ดี และสามารถทำร่วมกับการตกแต่งปุ่มคลิตอริสได้เช่นกัน ทั้งยังช่วยป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาดในการตัดเนื้อเยื่อเลเบียออกมากเกินไป แต่ต้องระวังเรื่องแผลฉีกขาดในช่วงแรกเนื่องจากแนวการเย็บเป็นแบบซิกแซก
ผ่าตัดแต่งเลเบียแบบตัวซี (Z-Plasty Labiaplasty)
เป็นการผ่าตัดแต่งเลเบียที่พัฒนามาจากการตัดแบบลิ่มเช่นเดียวกัน แต่จะตัดแต่งเป็นรูปตัวซี (Z) เพื่อให้แผลผ่าตัดสั้นกว่า และมีความตึงรั้งน้อยกว่าแบบลิ่ม เหมาะสำหรับผู้ที่มีเลเบียขนาดใหญ่ หรือเลเบียไม่เท่ากันบางประเภทที่ต้องการตัดแต่งให้แผลออกมาดูสวยงามยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม การผ่าตัดแบบตัวซีจะต้องอาศัยความชำนาญของแพทย์สูง เนื่องจากไม่ได้เหมาะกับการทำเลเบียทุกแบบ แต่จะเหมาะกับเลเบียที่มีความผิดปกติเฉพาะบางประเภทเท่านั้น
การผ่าตัดเลเบียมีข้อดีอย่างไร?
- ลดการเสียดสีและระคายเคือง โดยเฉพาะเวลาเดิน วิ่ง หรือออกกำลังกาย
- ช่วยให้ทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น ลดโอกาสเกิดกลิ่นอับหรือการติดเชื้อ
- เพิ่มความมั่นใจในรูปลักษณ์จุดซ่อนเร้น โดยเฉพาะเวลาสวมใส่ชุดชั้นในหรือชุดว่ายน้ำ
- ลดอาการเจ็บหรือไม่สบายขณะมีเพศสัมพันธ์ สำหรับผู้ที่เคยรู้สึกเจ็บจากการกดทับเลเบีย
- ช่วยให้แคมสองข้างดูสมดุลมากขึ้น เพิ่มความมั่นใจยิ่งขึ้น
ผ่าตัดตกแต่งเลเบีย เจ็บไหม?
การผ่าตัดตกแต่งเลเบีย คือ การทำผ่าตัดภายใต้การใช้ยาชาเฉพาะที่ จึงช่วยลดความรู้สึกเจ็บระหว่างทำได้มาก ผู้รับบริการส่วนใหญ่จะรู้สึกเพียงความอึดอัดเล็กน้อยในช่วงแรกหลังผ่าตัด
อาการดังกล่าวจะค่อย ๆ บรรเทาลงในไม่กี่วันหลังทำ หรือหากรู้สึกว่ามีอาการเจ็บหรือปวด แนะนำให้รับประทานยาแก้ปวดและยาอื่น ๆ ตามที่แพทย์สั่ง รวมถึงปฏิบัติตัวดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม ซึ่งจะช่วยให้แผลผ่าตัดฟื้นตัวเร็วและลดอาการเจ็บได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผ่าตัดเลเบีย VS รีแพร์ แตกต่างกันอย่างไรบ้าง?
หลายคนมักสับสนระหว่างการผ่าตัดตกแต่งเลเบียกับการทำรีแพร์ ซึ่งทั้งสองอย่างนี้จัดอยู่ในกลุ่มใหญ่ของศัลยกรรมรีแพร์น้องสาว (Vaginal Rejuvenation) เพียงแต่มีเป้าหมายและบริเวณการแก้ไขที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง การผ่าตัดเลเบียเน้นที่รูปลักษณ์ภายนอก ส่วนรีแพร์น้องสาวเน้นที่การทำงานของกล้ามเนื้อภายในช่องคลอด ดังตารางเปรียบเทียบดังนี้
| คุณสมบัติ | ผ่าตัดตกแต่งเลเบีย (Labiaplasty) | รีแพร์ช่องคลอด (Vaginoplasty) |
| บริเวณที่แก้ไข | อวัยวะเพศภายนอก (แคมเล็กและ/หรือแคมใหญ่) | อวัยวะเพศภายใน (ผนังและกล้ามเนื้อช่องคลอด) |
| วัตถุประสงค์ | ปรับขนาด รูปทรง สี และลดการเสียดสี | กระชับช่องคลอด เสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ |
| ปัญหาที่แก้ไข | เลเบียยื่นยาว ไม่สมมาตร สีคล้ำ เจ็บจากการเสียดสี | ช่องคลอดหย่อนคล้อย ช่องคลอดไม่กระชับหลังคลอด |
ทั้งนี้ ในประเทศไทยมักจะเรียกการทำรีแพร์น้องสาวว่าคือการกระชับช่องคลอดแบบผ่าตัดและไม่ผ่าตัด เป็นการเรียกแบบรวม ๆ แต่ความจริงแล้ว การทำรีแพร์น้องสาวนั้นมีแยกย่อยออกไปอีกหลากหลายประเภทตามวัตถุประสงค์และบริเวณที่ต้องการแก้ไข อย่างไรก็ตาม การทำผ่าตัดเลเบียและการทำรีแพร์น้องสาวก็เป็นการศัลยกรรมที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจและส่งผลต่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้ แต่ทั้งนี้ต้องอยู่ภายใต้การรักษาโดยสูตินรีแพทย์ที่มีทักษะและมีความชำนาญ
ขั้นตอนการผ่าตัดเลเบีย
- ปรึกษาแพทย์ เพื่อประเมินปัญหาและออกแบบรูปทรงเลเบียที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
- เตรียมร่างกายก่อนผ่าตัด เช่น งดวิตามินหรือยาบางชนิดตามคำแนะนำของแพทย์
- ทำความสะอาดบริเวณผ่าตัด และฉีดยาชาเฉพาะที่ เพื่อลดความรู้สึกเจ็บระหว่างทำหัตถการ
- เริ่มผ่าตัดและตกแต่งแคมเล็ก โดยใช้มีดผ่าตัดหรือเลเซอร์ ขึ้นอยู่กับเทคนิคของแพทย์
- เย็บแผลด้วยไหมละลาย อย่างประณีตเพื่อลดรอยแผลเป็นและให้แผลสมานตัวอย่างสวยงาม
- พักฟื้นและดูแลหลังผ่าตัด โดยแพทย์จะนัดติดตามผลอย่างใกล้ชิด
ก่อนทำศัลยกรรมตกแต่งเลเบีย เตรียมตัวอย่างไร?
- งดยาและอาหารเสริมบางชนิด เช่น แอสไพริน วิตามินอี หรือสมุนไพรที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด อย่างน้อย 7 วัน
- โกนขนบริเวณจุดซ่อนเร้นก่อนทำผ่าตัด และดูแลความสะอาดในช่วงก่อนผ่าตัด
- งดสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด
- เตรียมชุดหลวม ใส่สบาย สำหรับสวมหลังผ่าตัด ลดการเสียดสีและอับชื้น
- อาบน้ำและทำความสะอาดร่างกายก่อนเข้าห้องผ่าตัด เพื่อความสะอาดและลดความเสี่ยงการติดเชื้อ
- แจ้งแพทย์หากมีโรคประจำตัวหรือแพ้ยา เพื่อความปลอดภัยในระหว่างและหลังผ่าตัด
หลังทำเลเบีย ดูแลตัวเองอย่างไร?
การดูแลตัวเองหลังการทำผ่าตัดเลเบีย คือ ข้อควรปฏิบัติสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อให้การฟื้นตัวเป็นไปได้ด้วยดี แผลหายเร็ว และลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน ได้ผลลัพธ์ที่สวยตามต้องการ
- ประคบเย็นในช่วง 48 ชั่วโมงแรก เพื่อช่วยลดบวมและอาการเจ็บ
- งดออกกำลังกายและกิจกรรมที่มีแรงกระแทก เช่น วิ่ง ขี่จักรยาน หรือโยคะ ประมาณ 2 – 4 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ อย่างน้อย 4 – 6 สัปดาห์ หรือจนกว่าแผลจะหายสนิท
- สวมกางเกงชั้นในหลวม ระบายอากาศได้ดี เพื่อลดการเสียดสีและความอับชื้น
- ทำความสะอาดแผลด้วยน้ำสะอาด และซับเบา ๆ ให้แห้ง
- รับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด ทั้งยาแก้อักเสบและยาแก้ปวด
- หมั่นสังเกตอาการผิดปกติ เช่น แผลบวมแดงมาก มีกลิ่นผิดปกติ หรือมีหนอง ควรรีบพบแพทย์ทันที
อาการข้างเคียงที่อาจพบหลังทำเลเบียมีอะไรบ้าง?
แม้ว่าการผ่าตัดเลเบีย คือ หัตถการที่สามารถดูแลให้ปลอดภัยได้ภายใต้การดูแลโดยแพทย์ แต่ก็อาจมีอาการข้างเคียงบางอย่างเกิดขึ้นได้ ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นเพียงอาการชั่วคราวและจะดีขึ้นเมื่อดูแลอย่างเหมาะสม
- บวมและช้ำเล็กน้อย บริเวณแผลผ่าตัดในช่วง 7 วันแรก
- มีเลือดซึมหรืออาการคันเล็กน้อย ซึ่งเกิดจากกระบวนการฟื้นตัวของแผล
- รู้สึกตึงหรือเจ็บขณะเคลื่อนไหว เช่น เดิน นั่ง หรือเปลี่ยนท่าทาง
- แสบเมื่อปัสสาวะ ในช่วง 1 – 2 วันแรก
- แผลอาจติดเชื้อ (พบได้น้อย) โดยเฉพาะหากไม่รักษาความสะอาด
- แผลอาจหายช้าหรือเกิดพังผืด หากร่างกายมีการฟื้นตัวช้า หรือมีโรคประจำตัวบางอย่าง
ตกแต่งเลเบีย ราคาเท่าไหร่?
โดยเฉลี่ยแล้ว การทำศัลยกรรมตกแต่งเลเบีย ราคาจะเริ่มต้นอยู่ที่ 12,900 บาทขึ้นไป แต่ก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของโรงพยาบาลนั้น ๆ ว่ามีค่าใช้จ่ายส่วนไหนบ้าง ทั้งนี้ หากเจอการผ่าตัดเลเบียราคาถูก อย่างพึ่งนิ่งนอนใจ เพราะอาจหมายถึงความชำนาญของแพทย์ที่ไม่เพียงพอ อุปกรณ์ไม่เหมาะสม หรือห้องผ่าตัดไม่ได้คุณภาพ และอื่น ๆ ที่ทำให้สามารถบริการเลเบียราคาถูกได้
ผ่าตัดแคม ผ่าตัดเลเบีย ที่ไหนดี?
การผ่าตัดเลเบีย คือ หัตถการตกแต่งแคมเล็กที่ช่วยให้ผู้หญิงกลับมามีความมั่นใจในจุดซ่อนเร้นอีกครั้ง ทั้งในแง่ของรูปลักษณ์ การใช้ชีวิตประจำวัน รวมถึงการแต่งตัวได้หลากหลายสไตล์ มีความคล่องตัวขึ้น แต่ด้วยความที่เป็นหัตถการที่ต้องอาศัยความละเอียดอ่อนและความชำนาญเฉพาะทาง จึงควรเลือกทำผ่าตัดกับสูตินรีแพทย์ที่มีประสบการณ์ ซึ่งที่ AM International Hospital เราพร้อมให้บริการผ่าตัดเลเบียโดยสูตินรีแพทย์ และห้องผ่าตัดมาตรฐานและระบบความปลอดภัยที่ครอบคลุม เพื่อผลลัพธ์ที่สวยงาม มั่นใจ และการดูแลให้เกิดปลอดภัยในระยะยาว
Post Info
Social Media



