loader image

วิธีดูแลตัวเองหลังดูดไขมันให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ลดความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อน

วิธีดูแลหลังดูดไขมัน

     การทำโปรแกรมดูดไขมันไม่ใช่เพียงแค่กระบวนการนำไขมันส่วนเกินออกจากร่างกาย แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการดูแลสุขภาพและรูปร่างอย่างต่อเนื่องหลังดูดไขมัน การดูแลตนเองในช่วงพักฟื้นจึงมีบทบาทสำคัญอย่างมากในการป้องกันอาการแทรกซ้อน บรรเทาผลข้างเคียง และสร้างผลลัพธ์ที่ชัดเจนและก่อให้เกิดความปลอดภัย ดังนั้น การวางแผนดูแลตนเองอย่างถูกต้องตั้งแต่วันแรกหลังดูดไขมัน จะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็ว และยังช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดพังผืด รอยช้ำ หรือภาวะติดเชื้อต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในช่วงหลังผ่าตัด

เลือกอ่านตามหัวข้อได้ที่นี่

หลังดูดไขมันเสร็จภายใน 24 ชั่วโมง จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง?

     ช่วงเวลา 24 ชั่วโมงแรกหลังดูดไขมัน  ถือเป็นช่วงสำคัญที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นช่วงที่ร่างกายเริ่มตอบสนองต่อการผ่าตัด เช่น อาการบวม ช้ำ และการระบายน้ำเลือด ซึ่งหากดูแลอย่างเหมาะสมจะช่วยลดโอกาสการเกิดภาวะแทรกซ้อน

ใส่สายเดรนเพื่อระบายน้ำเลือดและยาชา

       สายเดรน (Drain) เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์ใช้สำหรับระบายน้ำเลือดและของเหลวส่วนเกินออกจากบริเวณที่ดูดไขมัน ซึ่งจะช่วยลดแรงดันใต้ผิวหนัง ป้องกันการเกิดก้อนแข็งหรือซีสต์ได้ในระยะยาว

แปะแผ่นแผ่นซึมซับหลังดูดไขมัน

       หลังดูดไขมัน แพทย์จะปิดแผลด้วยแผ่นซึมซับชนิดพิเศษ เพื่อช่วยซับของเหลวที่คั่งอยู่บริเวณแผล ลดความเสี่ยงการติดเชื้อ และช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น

ใส่ชุดกระชับเพื่อหยุดเลือด

       การใส่ชุดกระชับทันทีหลังดูดไขมันมีบทบาทในการหยุดเลือด ลดการบวม และช่วยพยุงผิวหนังให้แนบกับชั้นกล้ามเนื้อ ซึ่งส่งผลให้ผิวเรียบสม่ำเสมอและรูปร่างเข้ารูปมากขึ้น

แนะนำวิธีใส่ชุดกระชับหลังดูดไขมันอย่างถูกต้อง

  • ใส่ชุดกระชับต่อเนื่องอย่างน้อย 22 ชั่วโมงต่อวันในช่วง 2 สัปดาห์แรก
  • เลือกขนาดที่พอดี ไม่แน่นเกินไปจนรบกวนการไหลเวียนเลือด
  • ซักชุดกระชับด้วยมือ และตากในที่ร่มเพื่อยืดอายุการใช้งาน

วิธีดูแลตัวเองหลังดูดไขมัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี

  1. ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อช่วยขับสารตกค้าง
  2. หลีกเลี่ยงการยกของหนักหรือออกแรงในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังดูดไขมัน
  3. งดแอลกอฮอล์และบุหรี่เพื่อช่วยลดการอักเสบ
  4. รับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูงและลดของหวาน
  5. หลังดูดไขมัน แนะนำให้หลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่นจัดหรือแช่น้ำ
  6. เดินเบา ๆ ทุกวันเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนเลือด
  7. หมั่นสังเกตความผิดปกติ เช่น บวมแดงหรือมีไข้
  8. ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ทุกขั้นตอน
  9. หากมีอาการผิดปกติควรติดต่อพบแพทย์ทันที
  10. มาติดตามผลตามนัดแพทย์ทุกครั้ง

ถ้าไม่ดูแลตัวเองตามที่แพทย์แนะนำจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง?

     หากละเลยการดูแลตนเองหลังดูดไขมัน อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ เช่น รอยบุ๋มที่ผิวหนัง พังผืดแข็งตัว กลับมามีไขมันสะสมใหม่ หรือเกิดการติดเชื้อบริเวณแผลซึ่งอาจลุกลามจนต้องรักษาด้วยวิธีผ่าตัดเพิ่มเติม

ระยะเวลาการพักฟื้นหลังดูดไขมันในแต่ละสัปดาห์

สัปดาห์

การฟื้นตัวที่พบโดยทั่วไป

คำแนะนำเพิ่มเติม

สัปดาห์ที่ 1

มีอาการบวมช้ำ รู้สึกตึงบริเวณผ่าตัด

ใส่ชุดกระชับ 24 ชม. และหลีกเลี่ยงการออกแรง

สัปดาห์ที่ 2

อาการบวมหายไปบางส่วน เริ่มเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น

สามารถทำกิจวัตรเบา ๆ ได้

สัปดาห์ที่ 3-4

เริ่มเห็นรูปร่างชัดเจนขึ้น

ออกกำลังกายเบา ๆ ได้ตามคำแนะนำแพทย์

สัปดาห์ที่ 5-6

รูปร่างเริ่มเข้ารูป ผิวยุบตัว

เข้าสู่ช่วงฟื้นฟูผิว เช่น โปรแกรมนวด RF หรือโปรแกรม J Plasma

ผลข้างเคียงหลังดูดไขมันที่พบได้โดยทั่วไป

     แม้ว่าโปรแกรมดูดไขมันจะเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยม แต่ก็เหมือนกับการผ่าตัดรูปแบบอื่นที่อาจมีผลข้างเคียงตามมาได้ อาการเหล่านี้ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นชั่วคราวและสามารถฟื้นตัวได้หากมีการดูแลอย่างเหมาะสม โดยผลข้างเคียงหลังดูดไขมันที่มักพบ ได้แก่

  • รอยช้ำและบวม มักเกิดขึ้นภายใน 1-3 วันแรกหลังผ่าตัด และจะค่อย ๆ ลดลงภายใน 1-2 สัปดาห์
  • รู้สึกชา โดยเฉพาะบริเวณที่ทำการดูดไขมัน ร่างกายอาจต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์ในการฟื้นความรู้สึก
  • ผิวไม่เรียบในช่วงแรก อาจเกิดจากการที่ผิวหนังยังไม่แนบกับชั้นกล้ามเนื้ออย่างสมบูรณ์
  • รู้สึกตึงหรือเจ็บหน่วง โดยเฉพาะในตำแหน่งที่มีการดูดไขมันในปริมาณมาก

อ่านเพิ่มเติม : ดูดไขมันเจ็บไหม ดูดไขมันครั้งแรกต้องรู้!

ภาวะแทรกซ้อนหลังดูดไขมันที่ควรไปพบแพทย์

     ถึงแม้ว่าภาวะแทรกซ้อนหลังดูดไขมันจะพบไม่บ่อยนัก แต่หากเกิดขึ้นจะต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วนเพื่อป้องกันภาวะรุนแรงได้ ซึ่งการสังเกตอาการผิดปกติเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้เข้ารับการดูดไขมันไม่ควรมองข้าม โดยอาการที่ควรพบแพทย์ทันที ได้แก่

  • มีไข้สูง หนาวสั่น อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อในร่างกาย
  • แผลบวม แดง หรือมีหนอง เป็นสัญญาณว่าร่างกายกำลังตอบสนองต่อการติดเชื้อเฉพาะที่
  • เจ็บหน้าอก หายใจไม่สะดวก อาจเกี่ยวข้องกับภาวะลิ่มเลือดอุดตันในปอด (Pulmonary embolism) ซึ่งพบได้น้อยแต่เป็นอันตราย
  • มีเลือดไหลไม่หยุด หรือบวมผิดปกติ อาจเป็นภาวะเลือดคั่งใต้ผิวหนัง
  • ผิวหนังเปลี่ยนสี เป็นสีม่วงคล้ำหรือดำ อาจเกิดจากการไหลเวียนเลือดที่ผิดปกติหรือเนื้อตาย

โปรแกรมดูดไขมันที่ AM International Hospital

     การตัดสินใจเลือกสถานพยาบาลสำหรับการทำโปรแกรมดูดไขมัน ไม่ควรให้ความสำคัญกับเงื่อนไขพิเศษหรือค่าใช้จ่ายในการดูดไขมันราคาถูกเท่านั้น แต่ที่ AM International Hospital เราให้ความสำคัญในเรื่องผลลัพธ์ตอบโจทย์กับความต้องการของผู้เข้ารับบริการ ซึ่งเราให้การดูแลโดยทีมแพทย์ผู้ชำนาญการด้านการดูดไขมัน พร้อมด้วยการดูแลอย่างใส่ในทุกรายละเอียดตั้งแต่ต้นจนจบ

– ดูแลอย่างใกล้ชิดในทุกขั้นตอนโดยทีมแพทย์และวิสัญญีแพทย์

– มาพร้อมเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพ เช่น โปรแกรม Body Jet และโปรแกรม J Plasma ที่ช่วยลดการบอบช้ำ ฟื้นตัวเร็ว

– ออกแบบโครงสร้างโรงพยาบาลโดย RITTA พร้อมการบริการที่ให้การดูแลอย่างใกล้ชิด เป็นส่วนตัว

– ระบบติดตามอาการหลังผ่าตัด After Care โดยมีพยาบาลวิชาชีพดูแลรายบุคคล

– ความใส่ใจในผลลัพธ์ระยะยาว ไม่เพียงแค่ดูดไขมัน แต่เราดูแลจนกว่ารูปร่างจะเข้าที่

– พร้อมบริการให้คำปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจ

– บรรยากาศอบอุ่น สะอาด เพราะความสบายใจของผู้เข้ารับบริการคือสิ่งสำคัญ

อ่านเพิ่มเติม : ดูดไขมันพลังน้ำ คืออะไร มีข้อดีอะไรบ้าง

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการดูแลตัวเองหลังดูดไขมัน

หลังดูดไขมันจะทำให้เกิดแผลเป็นหรือเปล่า?

     โดยทั่วไป รอยแผลจากการดูดไขมันมีขนาดเล็กมาก (ประมาณ 0.5-1 ซม.) และแพทย์จะเลือกตำแหน่งซ่อนแผล เช่น บริเวณขอบชุดชั้นในหรือรอยพับของร่างกาย รอยแผลมักจางลงภายใน 3-6 เดือน หากดูแลแผลหลังดูดไขมันอย่างถูกวิธี เช่น หลีกเลี่ยงแดด และใช้ครีมลดรอยแผลเป็นตามคำแนะนำ

     หลังดูดไขมันสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ภายใน 3-7 วัน หากไม่มีอาการแทรกซ้อน ส่วนการออกกำลังกายหรือกิจกรรมที่ใช้แรงมาก ควรรอประมาณ 4-6 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ดูดไขมันและสภาพร่างกายแต่ละบุคคล

     ผลข้างเคียงที่พบบ่อย เช่น บวม ช้ำ รู้สึกตึง หรือชาเล็กน้อย ซึ่งมักหายไปได้เอง แต่ในกรณีที่เกิดไข้สูง แผลแดงร้อน มีหนอง หรือหายใจลำบาก ถือว่าเป็นสัญญาณอันตราย ควรพบแพทย์ทันที

     รอยช้ำหลังดูดไขมันจะเริ่มลดลงในช่วงวันที่ 5-7 และดีขึ้นภายใน 2 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันที่ถูกดูดออก และระบบไหลเวียนเลือดของแต่ละบุคคล การใส่ชุดกระชับและการเดินเบา ๆ จะช่วยให้การไหลเวียนดีขึ้นและอาการบวมช้ำหายเร็วขึ้น

   สามารถเดินได้ทันทีหลังผ่าตัด (หลังยาชาหมดฤทธิ์) และควรเริ่มเดินเบา ๆ ภายใน 24 ชั่วโมงแรก เพื่อป้องกันการเกิดลิ่มเลือดอุดตันบริเวณขา (DVT) และกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือด

ออกกำลังกายแบบเบา เช่น เดินเร็วหรือโยคะ สามารถเริ่มได้หลังสัปดาห์ที่ 2-3 ส่วนกิจกรรมที่มีแรงกระแทกสูง เช่น วิ่ง กระโดด หรือยกเวท ควรรอหลังสัปดาห์ที่ 4-6 และได้รับอนุญาตจากแพทย์ก่อนเสมอ

พังผืดหรือของเหลวที่สะสมใต้ผิวหนัง ซึ่งเป็นปฏิกิริยาตามธรรมชาติของร่างกายในการสมานแผล มักจะค่อย ๆ ยุบตัวลงใน 1-3 เดือน การนวดด้วยโปรแกรม RF หรือการนวดระบายน้ำเหลือง (Lymphatic drainage) จะช่วยให้ผิวเรียบเนียนและลดการเกิดก้อนไตได้

ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีโซเดียมสูง เช่น ของหมักดอง อาหารสำเร็จรูป อาหารมัน ของทอด และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะจะกระตุ้นให้เกิดการอักเสบและบวมนานขึ้น ควรเน้นทานโปรตีน ผัก ผลไม้ และน้ำเปล่ามากกว่า 2 ลิตรต่อวัน

     สามารถเริ่มนวดด้วยโปรแกรม RF ได้หลังจากแผลแห้งสนิทและไม่มีของเหลวไหลซึมออกมาแล้ว โดยปกติอยู่ในช่วงสัปดาห์ที่ 2-3 ทั้งนี้ควรให้แพทย์ประเมินก่อนเริ่มนวด เพื่อความปลอดภัยและป้องกันการกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ

แชร์ :

สรุป อยากได้ผลลัพธ์ดูดไขมันที่ดี ต้องดูแลตนเองอย่างถูกต้อง

        การดูแลตนเองหลังดูดไขมันเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาสวยงามและหลีกเลี่ยงภาวะแทรกซ้อนไม่พีงประสงค์ ดังนั้น การใส่ใจในทุกขั้นตอน ทั้งการใส่ชุดกระชับ การพักฟื้น และการติดตามผลกับแพทย์อย่างต่อเนื่องตามนัด จะช่วยลดโอกาสการเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายและมีผลต่อการฟื้นตัวของร่างกาย เพื่อรูปร่างที่สมส่วน เข้าที่ได้เร็วยิ่งขึ้น

กรอกฟอร์ม ปรึกษาหมอ ฟรี!