โปรแกรมฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี? เลือกฉีดรุ่นไหนดี อัปเดต 2025 ที่ AM International Hospital

หลายคนที่มีความสนใจในการแก้ไขรูปหน้าด้วยโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ แต่ยังไม่มีข้อมูลที่มากพอว่าควรฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี เพราะในปัจจุบันมีหลายแบรนด์ที่เข้ามาเป็นทางเลือกในการแก้ไขปัญหาผิวทั้งจากยุโรป อเมริกา หรือเกาหลี ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็จะมีความโดดเด่น และเหมาะแก่การแก้ไขปัญหาผิวในจุดที่แตกต่างกันออกไป ทั้งยังมีระยะเวลาการคงตัวที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งในบทความนี้จะพาไปแนะนำยี่ห้อโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ที่น่าสนใจ เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้เข้ารับบริการนำข้อมูลเหล่านี้ไปประกอบการตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
เลือกโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี? คำถามยอดฮิตก่อนตัดสินใจฉีด
การเลือกโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ให้เหมาะสม ไม่ใช่แค่เลือกยี่ห้อดังเพียงเท่านั้น แต่ต้องคำนึงถึงหลายปัจจัยร่วมกัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ให้ความปลอดภัย และคงอยู่ได้ในระยะยาว สำหรับใครที่กำลังลังเลว่าจะฉีดโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี หรือยี่ห้อไหนดี ควรเริ่มจากการพิจารณาจากองค์ประกอบเหล่านี้
- เลือกโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน – ก่อนตัดสินใจฉีกควรตรวจสอบว่าสารเติมเต็มที่เราฉีดนั้นได้ผ่านการรับรองมาตรฐาน หรือมีการนำเข้ามาอย่างถูกต้องหรือไม่ สามารถเช็กได้จากเลขทะเบียน หรือเลข lot. นำเข้า ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็จะมีจุดสังเกตที่แตกต่างกัน
- เลือกโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ให้เหมาะกับตำแหน่งที่ฉีด – แต่ละยี่ห้อจะมีรุ่นที่ออกแบบมาฉีดเฉพาะจุด เช่น ฉีดบริเวณขมับ ร่องแก้ม ใต้ตา หรือคาง โดยเนื้อเจลจะมีความแข็ง-นุ่มที่แตกต่างกัน เพื่อให้รองรับกับโครงสร้างและการเคลื่อนไหวของผิวในบริเวณนั้น สำหรับคำถามที่ว่าโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานกี่เดือน ก็ต้องขึ้นอยู่กับการเลือกชนิดและปริมาณให้เหมาะสมกับใต้ตาเช่นเดียวกัน
- เลือกให้เข้ากับสภาพผิวและโครงหน้า – บางคนที่มีผิวบาง อาจจะต้องใช้สารเติมเต็มที่มีลักษณะเนื้อนุ่ม ไม่แข็ง เพื่อลดโอกาสการเกิดไหล หรือเป็นก้อน หรือผู้ที่ต้องการยกกระชับหรือเติมเต็มวอลลุ่มในจุดที่ยุบตัวลงค่อนข้างมาก อาจจะต้องใช้สารเติมเต็มที่เป็นเนื้อแน่นเพื่อโครงสร้างที่ดูชัดเจน
- ระยะเวลาการคงอยู่ของแต่ละยี่ห้อ – โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แต่ละรุ่นหรือแต่ละยี่ห้อ มีอายุการใช้งานที่แตกต่างกัน โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 6-18 เดือน ทั้งนี้ปริมาณที่ใช้ เช่น โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ 1cc ก็มีผลต่อความคงทนของสารเติมเต็มเช่นเดียวกัน ถ้าต้องการให้ผลลัพธ์อยู่ได้ในระยะยาว ควรเลือกรุ่นที่เหมาะกับจุดที่ฉีด
อย่างไรก็ตาม การเลือกโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ที่มีประสบการณ์และความรู้ในการรักษา แพทย์จะมีการประเมินและวางแผนการเลือกใช้สารเติมเต็ม ใช้เทคนิคการฉีดให้เหมาะสมกับสภาพผิวและตำแหน่งที่ต้องการแก้ไขแบบรายบุคคล รวมถึงคำแนะนำในการดูแลตัวเองหลังโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดูดีและให้ความปลอดภัย
ทำไมโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ/รุ่น ถึงแตกต่างกัน?
แม้ว่า “โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์” จะเป็นสารเติมเต็มประเภทเดียวกัน แต่ละยี่ห้อหรือแม้แต่แต่ละรุ่นภายในแบรนด์เดียวกัน กลับให้ผลลัพธ์และสัมผัสที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด นั่นเป็นเพราะองค์ประกอบหลายอย่างที่ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับปัญหาและบริเวณที่ฉีดเฉพาะทาง ดังนี้
เทคโนโลยีการผลิตและโครงสร้างโมเลกุล
จุดเริ่มต้นของความแตกต่างในสารเติมเต็มแต่ละยี่ห้อคือ “เทคโนโลยีการผลิต” ซึ่งแต่ละบริษัทจะมีกรรมวิธีเฉพาะ เช่น เทคโนโลยี Vycross ของ Juvederm ที่ผสมผสานโมเลกุลใหญ่และเล็กเข้าด้วยกัน เพื่อให้เนื้อสารเติมเต็มมีความเรียบเนียนและกระจายตัวดี หรืออย่างเทคโนโลยี NASHA ของ Restylane ที่เน้นความเป็นเนื้อเจลที่คงตัว เหมาะกับการปรับรูปหน้าแบบเป็นโครง ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้ส่งผลโดยตรงต่อความรู้สึกของเนื้อสารเติมเต็มและผลลัพธ์หลังฉีด
คุณสมบัติทางกายภาพ
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แต่ละรุ่นมีคุณสมบัติทางกายภาพที่แตกต่างกัน เช่น
- ความแข็ง (Firmness) เหมาะกับการเติมเต็มเพื่อเสริมโครงสร้าง เช่น คาง หรือขมับ
- ความยืดหยุ่น (Elasticity) ช่วยให้สารเติมเต็มสามารถปรับตัวตามสีหน้าได้ดี จึงเหมาะกับบริเวณที่มีการขยับบ่อย เช่น ร่องแก้ม
- ความสามารถในการปั้นทรง (Moldability) บางรุ่นสามารถปั้นทรงได้ง่ายจึงเหมาะกับการเก็บรายละเอียดเล็ก ๆ บนใบหน้า
- การอุ้มน้ำ (Hydration Capacity) ช่วยให้ผิวดูฟู อิ่มน้ำ เหมาะกับบริเวณใต้ตา ร่องลึก หรือผิวแห้งขาดน้ำ
คุณสมบัติเหล่านี้ล้วนมีผลต่อการเลือกใช้โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ให้ตรงกับจุดประสงค์การรักษาและความต้องการของแต่ละบุคคล
ขนาดโมเลกุลและการเชื่อมพันธะ (Crosslink)
สารเติมเต็มนั้นผลิตจากกรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid) ซึ่งมีการเชื่อมพันธะกันในรูปแบบต่าง ๆ หรือที่เรียกว่า “Crosslink” ยิ่งโมเลกุลมีขนาดใหญ่และมีการเชื่อมพันธะมาก โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์จะอยู่ได้นานขึ้น และมีความคงตัวสูงขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็อาจมีเนื้อสัมผัสที่แข็งกว่ารุ่นอื่น ๆ ซึ่งอาจไม่เหมาะกับบางบริเวณ เช่น ใต้ตา หรือริมฝีปากที่ต้องการความนุ่มและยืดหยุ่น
ทั้งเทคโนโลยีการผลิต โครงสร้างโมเลกุล คุณสมบัติทางกายภาพ และระดับการ Crosslink ล้วนเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อและรุ่นมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน และนั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมแพทย์จึงต้องเลือกโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ให้เหมาะกับปัญหาที่ต้องการแก้ไข รวมถึงตำแหน่งที่ฉีด เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาสวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ และเกิดความเสี่ยงน้อยสำหรับผู้เข้ารับบริการ
รู้จักโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แบรนด์ที่ผ่าน อย. ไทย และนิยมใช้ในปัจจุบัน
การเลือกโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพควรเลือกแบรนด์ที่ได้รับการรับรองจาก อย. ไทยเท่านั้น โดยแต่ละยี่ห้อจะมีคุณสมบัติเฉพาะ และเหมาะสำหรับการฉีดในจุดที่แตกต่างกัน ทั้งบริเวณใต้ตา ปาก คาง ขมับ ร่องแก้ม หรือผิวหน้าโดยรวม ซึ่งจะตอบโจทย์ทั้งความสวยงามและมาตรฐานการให้ความปลอดภัยได้ดีที่สุด มาดูกันว่าแต่ละยี่ห้อนิยมใช้ฉีดจุดไหน พร้อมราคาประเมินเริ่มต้น
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ Restylane (สวีเดน)
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์จากประเทศสวีเดน นำเข้าโดยบริษัท Galderma ใช้เทคโนโลยี NASHA และ OBT มีจุดเด่นที่ความหลากหลายของเนื้อสารเติมเต็ม และเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก ราคาเริ่มต้น: 12,000 – 18,000 บาท/cc
Restylane Lyft (Perlane)
Restylane Lyft มีลักษณะเนื้อแน่น ปั้นทรงได้ดี เหมาะกับการฉีดเพื่อเสริมโครงหน้า เช่น คาง กรอบหน้า โหนกแก้ม หรือขมับ ช่วยเพิ่มมิติและความคมชัดให้ใบหน้า สารเติมเต็มรุ่นนี้ยังมีคุณสมบัติในการยกกระชับผิวในระดับหนึ่ง ทำให้เป็นที่นิยมในกลุ่มคนที่เริ่มมีความหย่อนคล้อย และต้องการความชัดเจนของรูปหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน
Restylane Defyne/Volyme
เป็นรุ่นที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การเติมเต็มในชั้นผิวที่ลึกและต้องการความยืดหยุ่นสูง โดยเฉพาะบริเวณที่มีการเคลื่อนไหวบ่อยครั้ง เช่น ร่องแก้ม มุมปาก แก้มตอบ หรือขมับที่ยุบตัวลงตามวัย ช่วยยกกระชับและปรับโครงสร้างใบหน้าให้ดูอิ่มฟู ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 12–18 เดือน
Restylane Refyne/Kysse
สำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่นุ่มนวล ดูเป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะบริเวณที่ต้องการความอ่อนโยน เช่น ปากและใต้ตา มีเนื้อบางเบาและยืดหยุ่นสูง กระจายตัวได้ดี ไม่เป็นก้อน เหมาะอย่างยิ่งกับผู้ที่อยากได้ลุคที่ดูเป็นธรรมชาติ สามารถอยู่ได้ประมาณ 12 เดือน
Restylane Vital Light
เป็นโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์เนื้อละเอียดที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเน้นเรื่องการฟื้นฟูคุณภาพผิวโดยเฉพาะ เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้ง ขาดความยืดหยุ่น หรือมีริ้วรอยเล็ก ๆ ทั่วใบหน้า โดยเฉพาะในบริเวณที่ผิวบางและบอบบาง เช่น ร่องแก้ม หน้าผาก รอบดวงตา หรือบริเวณลำคอและหลังมือ จุดเด่นของรุ่นนี้คือช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวจากภายใน อุ้มน้ำได้ดี ทำให้ผิวดูฉ่ำวาว อิ่มฟู และสุขภาพดีขึ้นอย่างชัดเจนหลังฉีดต่อเนื่องประมาณ 3–5 ครั้ง สามารถอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ Juvederm (อเมริกา)
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ juvederm เป็นสารเติมเต็มที่ผลิตโดยบริษัท Allergan ในประเทศสหรัฐอเมริกา ยี่ห้อนี้จะขึ้นชื่อเรื่องความนุ่ม ละมุน ฉีดแล้วดูเป็นธรรมชาติ เข้ากับผิวได้ดี ผลิตด้วยเทคโนโลยี Vycross และ Hylacross ทำให้เนื้อโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์สามารถคงสภาพอยู่ได้นาน ปัจจุบันมีทั้งหมด 7 รุ่น และรุ่นที่ได้รับความนิยม เช่น Voluma, Volift, Vobella
Juvederm Voluma/Volux
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์เนื้อแข็ง ช่วยขึ้นรูปหน้าให้คมชัด เหมาะกับการเสริมคาง เติมกรอบหน้า หรือขมับให้มีสัดส่วนดูเป็นธรรมชาติ ผลลัพธ์อยู่ได้นาน ประมาณ 18–24 เดือน
Juvederm Volift
เนื้อสารเติมเต็มนุ่มปานกลาง ยืดหยุ่นดี เหมาะสำหรับร่องแก้ม ปาก หรือจุดที่ต้องการความพอดีระหว่างการเติมเต็มและความดูเป็นธรรมชาติ ผลลัพธ์อยู่ได้นาน ประมาณ 12–18 เดือน
Juvederm Volbella/Volite
เนื้อเจลนิ่ม ละเอียด เหมาะสำหรับจุดที่ผิวบาง เช่น ใต้ตา ปาก หรือใช้เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวดูฉ่ำวาวสุขภาพดี ผลลัพธ์อยู่ได้นาน ประมาณ 9–12 เดือน
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ Belotero (สวิตเซอร์แลนด์)
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ Belotero นำเข้ามาโดยบริษัท Merz Aesthetics จุดเด่นของสารเติมเต็มยี่ห้อนี้คือการใช้เทคโนโลยี CPM (Cohesive Polydensified Matrix) ในการผลิตทำให้เนื้อเจลมีความบางเบา เรียบเนียน ไม่เป็นก้อน อีกทั้งยังกระจายตัวได้ดี เหมาะแก่การฉีดผิวชั้นตื้น ซึ่งปัจจุบันมีให้เลือกใช้หลายรุ่น แต่รุ่นที่ได้รับความนิยมคือ รุ่น Volume หรือ Revive ที่เป็นรุ่นสำหรับปรับคุณภาพผิว เพิ่มความชุ่มชื้น
Belotero Volume
สารเติมเต็มรุ่นนี้เนื้อแน่น ช่วยเพิ่มสัดส่วนและโครงให้กับใบหน้า เหมาะสำหรับเติมเต็มส่วนลึก เช่น ขมับ แก้มตอบ ให้ดูอิ่มฟูขึ้นอย่างดูเป็นธรรมชาติ ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 12–18 เดือน
Belotero Intense
เนื้อสารเติมเต็มมีความเข้มข้น เหมาะสำหรับเติมเต็มร่องลึกปานกลาง เช่น ร่องแก้ม มุมปาก ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้นโดยไม่ดูแข็งหรือดูหลอกตาจนเกินไป ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน
Belotero Balance/Soft
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เหมาะสำหรับฉีดริ้วรอยตื้น ใต้ตา หรือจุดที่ต้องการความเรียบเนียนอย่างดูเป็นธรรมชาติ ดูไม่หลอกตาจนเกินไป โดยผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 6–12 เดือน
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น ๆ ที่น่าสนใจ
นอกจากโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แบรนด์หลักอย่าง Restylane, Juvederm และ Belotero แล้ว ยังมีโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์อีกหลายยี่ห้อที่ได้รับความนิยมและผ่านมาตรฐาน อย.ไทย ซึ่งบางยี่ห้อก็มีจุดเด่นเฉพาะตัวทั้งในแง่ของความยืดหยุ่น ความเป็นธรรมชาติ หรือความคุ้มค่า จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าในงบประมาณที่เหมาะสม หรืออยากทดลองโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ในระดับเริ่มต้น โดยเฉพาะหากคลินิกที่เลือกมีการนำเข้าจากแหล่งที่เชื่อถือได้และมีการควบคุมคุณภาพอย่างเคร่งครัด
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ Neuramis
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ Neuramis สารเติมเต็มยี่ห้อนี้ผลิตขึ้นโดยบริษัท Medyceles จากเกาหลี ที่มีเทคโนโลยี SHAPE ในการผลิตโดยเน้นความบริสุทธิ์และให้ความปลอดภัยในการฉีด และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์นิวรามิสสามารถแก้ไขจุดบกพร่องบนใบหน้าได้ในราคาที่ย่อมเยากว่ายี่ห้ออื่น ๆ ปัจจุบันมีที่ผ่านการรับรองมาตรฐานมีทั้งหมด 3 รุ่น ผลลัพธ์อยู่ได้เฉลี่ย 6-8 เดือน
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ e.p.t.q.
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ e.p.t.q. อีกหนึ่งสารเติมเต็มที่น่าสนใจในกลุ่มโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ราคาย่อมเยา มาพร้อมกระบวนการผลิต 3 ขั้นตอน คือ ZEEP Technology ที่ช่วยลดสิ่งตกค้าง, 2CM Technology เพื่อควบคุมขนาดโมเลกุลให้เหมาะกับแต่ละจุด และ Downing Process ช่วยให้เนื้อเจลมีความเรียบเนียนและฉีดได้ดี สามารถขึ้นทรงได้ชัดเจน อาจระยะเวลาอาจอยู่ได้นานไม่เท่าฝั่งยุโรป โดยผลลัพธ์อยู่ได้เฉลี่ย 6-12 เดือน
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ Yvoire
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ Yvoire เป็นสารเติมเต็มที่พัฒนาขึ้นโดย LG Chem ทำให้เนื้อเจลมีความละเอียด ปั้นทรงได้ง่าย และใช้เทคโนโลยี HICE ทำให้เนื้อเจลสามารถคงรูปได้ดีและมีความยืดหยุ่นสูง และอีกนึ่งจุดเด่นสำคัญเลยก็คือการผลิตไซริงค์ที่ให้ความเสถียรได้ดี ดันยาเข้าไปง่าย ลดการเกิดฟองอากาศ โดยผลลัพธ์อยู่ได้เฉลี่ย 6-12 เดือน
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ Perfectha
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ Perfectha ผลิตโดย ObvieLine Laboratories จากฝรั่งเศส ที่เด่นในเรื่องเนื้อเจลที่มีความละเอียด กระจายตัวได้ดี และมีเทคโนโลยี E-BRID เพื่อให้โครงสร้างเจลสามารถคงรูปและยืดหยุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยผลลัพธ์อยู่ได้เฉลี่ย 6-12 เดือน
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ Definisse
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ Definisse พัฒนาขึ้นโดยบริษัท Relife ในเครือ Menarini Group จากอิตาลี ความโดดเด่นของยี่ห้อนี้คือมีความคงตัว และช่วยยกกระชับผิวได้ดี โดยใช้ XTR Technology ในการควบคุมความหนาแน่นของเนื้อเจล และยังช่วยลดโอกาสแพ้ หรือาอการบวมหลังฉีด โดยผลลัพธ์อยู่ได้เฉลี่ย 6-18 เดือน
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ Mesofiller
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ Mesofiller ผลิตโดย Mesoestetic ที่เน้นการเติมเต็มที่ดูเป็นธรรมชาติ ใช้เทคโนโลยี Monophasic Reticulated HA Gel ที่ทำให้เนื้อเจลสัมผัสนุ่ม ฉีดแล้วไม่เป็นก้อน และยังมีให้เลือกหลายรุ่นตามระดับความลึกของปัญหาผิว อีกจุดเด่นของยี่ห้อนี้คือมีรุ่นที่ใช้สำหรับฉีดจุดซ่อนเร้นได้โดยเฉพาะ ผลลัพธ์อยู่ได้เฉลี่ย 9-12 เดือน
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ Teoxane
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ Teoxane เป็นผลิตภัณฑ์จากสวิตเซอร์แลนด์ โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี Preserved Network Technology (PNT) ที่ช่วยรักษาโครงสร้างของ HA ให้มีความใกล้เคียงธรรมชาติ ทำให้เนื้อเจลมีความยืดหยุ่น กลืนไปกับผิวได้อย่างแนบเนียนแม้ฉีดในจุดที่มีการเคลื่อนไหวบ่อย ก็ไม่ไหลหรือแข็งเป็นก้อน ทั้งยังมีหลายรุ่นให้เลือกใช้ตามความลึกของชั้นผิวและจุดที่ต้องการแก้ไข ผลลัพธ์อยู่ได้เฉลี่ย 3-18 เดือน
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ Revolax
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ Revolax เป็นสารเติมเต็มจากเกาหลี ที่พัฒนาโดยการใช้เทคโนโลยี HEXALink ช่วยให้สารเติมเต็มมีความเสถียรและยืดหยุ่น แต่ความหนาแน่นของเนื้อเจลในแต่ละรุ่นจะไม่เหมือนกัน เพื่อให้เหมาะแก่การนำไปฉีดแก้ไขปัญหาในจุดที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ทุกรุ่นของโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์รีโวแลกซ์ยังมีส่วนผสมของยาชา เพื่อลดอาการเจ็บระหว่างฉีด โดยผลลัพธ์อยู่ได้เฉลี่ย 12-18 เดือน
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ Volifil
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ Volifil เป็นสารเติมเต็มที่ผลิตโดยบริษัท BNC Korea ยี่ห้อนี้มีจุดเด่นในเรื่องการคงรูปได้ดี ไม่ไหลหรือย้อยง่าย ด้วยการผลิตจากเทคโนโลยี HCCL™ (Highly Completed Cross-Linking) สร้างในเนื้อเจลมีความหนาแน่น ปั้นทรงได้ชัดเจน และยังเหมาะกับการใช้เติมเต็มจุดที่ต้องการความคมชัดของใบหน้า โดยผลลัพธ์อยู่ได้เฉลี่ย 9-12 เดือน
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ Hyafilia
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ Hyafilia มีคุณสมบัติเด่นในด้านการใช้กระบวนการผลิตแบบ ART Technology ทำให้เนื้อเจลมีความเสถียร แน่น กระจายตัวได้ดี และสามารถขึ้นรูปได้ง่าย เข้ากับผิวได้ดูเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเติมเต็มผิวเล็กน้อยไปจนถึงการปรับใบหน้าในชั้นลึก ปัจจุบันใีหลายรุ่นให้เลือกใช้ตามความเหมาะสมในการแก้ไขปัญหา โดยผลลัพธ์อยู่ได้เฉลี่ย 6-12 เดือน
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ Ultra V Hyal Filler
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ Ultra V Hyal Filler ผลิตด้วย R Square Technology ที่นำเอาสองอนุภาค HA มาไว้ด้วยกัน ทำให้สารเติมเต็มมีประสิทธิภาพ สามารถยึดเกาะกับผิวได้อย่างแข็งแรง เกลี่ยง่าย ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ฉีดง่าย เรียบเนียนไปกับผิว มีหลายรุ่นให้เลือกตามความลึกของชั้นผิวและจุดที่ต้องการแก้ไข ไม่ว่าจะเป็น การเติมเต็มหรือการยกกระชับผิว โดยผลลัพธ์อยู่ได้เฉลี่ย 8-24 เดือน
ตารางเปรียบเทียบโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อยอดนิยม
ยี่ห้อ | จุดเด่น | บริเวณที่เหมาะสม | ระยะเวลาผลลัพธ์ | ราคาโดยประมาณ (เริ่มต้น/1cc) |
Restylane | เนื้อเจลหลากหลาย มีทั้งเนื้อนิ่มและเนื้อแน่น ปั้นทรงได้ดี ดูเป็นธรรมชาติ | ปาก, ใต้ตา, ร่องแก้ม, แก้มตอบ | 6–18 เดือน | 13,000–20,000 บาท |
Juvederm | เนื้อเจลละเอียด ยืดหยุ่นสูง ปั้นทรงง่าย คงรูปดี ไม่ไหล ไม่เป็นก้อน | คาง, กรอบหน้า, ปาก, ใต้ตา, ร่องแก้ม | 6–24 เดือน | 13,000–22,000 บาท |
Belotero | เนื้อเจลเนียนละเอียด กระจายตัวดี เหมาะกับงานละเอียดและริ้วรอยตื้น | ขมับ, ร่องแก้ม, ใต้ตา, ริ้วรอยเล็กๆ | 6–18 เดือน | 12,000–18,000 บาท |
ทำไมราคาโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ/รุ่น ถึงแตกต่างกัน?
หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมราคาโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ถึงมีความแตกต่างกันมาก ทั้งที่ดูเหมือนว่าเป็นการฉีดสารเติมเต็มเหมือนกัน แต่ความจริงแล้ว “ราคาโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์” ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ได้วัดกันแค่ปริมาณหรือแบรนด์เพียงอย่างเดียว โดยปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ ได้แก่
- ต้นกำเนิดและแบรนด์ สารเติมเต็มจากประเทศอเมริกาและยุโรป มักมีต้นทุนสูงกว่าสารเติมเต็มจากเกาหลี เนื่องจากผ่านมาตรฐานและการรับรองที่เข้มงวดกว่า
- เทคโนโลยีการผลิต แต่ละยี่ห้อมีเทคโนโลยีที่แตกต่าง เช่น เทคโนโลยีการเชื่อมโมเลกุล หรือความยืดหยุ่นของเจล ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพและความเป็นธรรมชาติหลังฉีด
- ประเภทของเนื้อเจล สารเติมเต็มมีทั้งเนื้อเจลแข็ง นิ่ม และเนื้อเจลสำหรับงานผิว ซึ่งแต่ละประเภทจะมีคุณสมบัติและราคาที่ต่างกัน
- ระยะเวลาการคงผลลัพธ์ ยิ่งอยู่ได้นาน ราคาก็มักจะสูงขึ้นตาม เช่น สารเติมเต็มที่อยู่ได้นาน 18–24 เดือน มักมีราคาสูงกว่ารุ่นที่อยู่ได้แค่ 6 เดือน
- มาตรฐานคลินิกและผู้ฉีด คลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้สารเติมเต็มแท้ และมีแพทย์ที่มีประสบการณ์โดยตรง ราคาจะสูงกว่า แต่ปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่น่าเชื่อถือ
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แล้วเห็นผลทันทีเลยไหม? อยู่ได้นานแค่ไหน?
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังทำ โดยเฉพาะในจุดที่มีการเติมเต็มอย่างชัดเจน เช่น คาง ร่องแก้ม หรือปาก ซึ่งจะเห็นความแตกต่างได้ตั้งแต่วันแรก แต่ผลลัพธ์ที่แท้จริงจะเริ่มชัดเจนขึ้นภายใน 3–7 วันหลังจากที่อาการบวมยุบลง และเนื้อเจลเริ่มเซตตัวเข้ากับผิวอย่างสมบูรณ์
ระยะเวลาที่โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์จะคงอยู่ได้นั้นขึ้นอยู่กับรุ่นของสารเติมเต็ม พื้นที่ที่ฉีด และการดูแลหลังทำ โดยทั่วไปแล้วโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์จะอยู่ได้นานประมาณ 6–18 เดือน บางรุ่นสามารถอยู่ได้ถึง 24 เดือน หากใช้ฉีดในบริเวณที่มีการเคลื่อนไหวน้อย เช่น ขมับหรือแก้มตอบ อย่างไรก็ตาม การดูแลตัวเองหลังฉีด เช่น หลีกเลี่ยงแสงแดด การกดบีบ หรือทำหัตถการที่ก่อให้เกิดความร้อน ก็เป็นอีกปัจจัยที่ช่วยยืดอายุของโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ได้เช่นกัน
คุณหมอชวนคุย เลือกโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดีที่เหมาะสำหรับเรา?
แม้โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อจะมีคุณสมบัติที่โดดเด่นต่างกัน แต่การเลือกใช้สารเติมเต็มที่เหมาะสม ไม่ได้ตัดสินใจจาก “การเลือกโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี” เพียงอย่างเดียว เพราะปัจจัยสำคัญที่สุดคือ ความเหมาะสมกับสภาพผิว ปัญหา และโครงสร้างใบหน้าของแต่ละคน – อ้างอิงจาก นพ.วัชพล ธนมิตรามณี (คุณหมอเมฆ เลข ว. 46184)
การปรึกษาแพทย์ก่อนฉีดสารเติมเต็มจึงเป็นขั้นตอนที่ไม่ควรมองข้าม เพราะแพทย์จะประเมินทั้งโครงหน้า ลักษณะปัญหา และผลลัพธ์ที่ต้องการ เพื่อเลือกสารเติมเต็มที่มีคุณสมบัติเข้ากันได้อย่างเหมาะสม เช่น บางคนอาจต้องใช้สารเติมเต็มเนื้อแน่นเพื่อยกกระชับ แต่บางเคสอาจเหมาะกับเนื้อเจลนิ่มที่ช่วยเติมเต็มแบบบางเบา
นอกจากนี้แพทย์ยังสามารถแนะนำ ตำแหน่งการฉีด ปริมาณที่เหมาะสม และเทคนิคเฉพาะบุคคล เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาสวยและมีความสมดุล ดังนั้นการเลือกโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ที่ดี ไม่ได้อยู่ที่แบรนด์ดังหรือราคาสูงเสมอไป แต่อยู่ที่การวางแผนโดยผู้ที่มีความชำนาญอย่างแท้จริง
ทำไมควรปรึกษาเรื่องโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์และฉีดที่ AM International Hospital?
เมื่อพูดถึงโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติคือสิ่งสำคัญมาก ไม่ใช่แค่การเลือกยี่ห้อที่ดีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการวางแผนการรักษาโดยแพทย์ และการใช้สารเติมเต็มแท้ที่สามารถตรวจสอบได้ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาสวยอย่างมั่นใจ AM International Hospital จึงให้ความสำคัญในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ ไปจนถึงการดูแลโดยทีมแพทย์ที่มีทักษะในการใช้สารเติมเต็ม
มีโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์หลากหลายแบบ ตอบโจทย์ทุกปัญหา
AM International Hospital รวบรวมโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์หลากหลายตัวที่ผ่าน อย. ไทย ทั้ง Restylane, Juvederm, Belotero และอื่น ๆ เพื่อให้สามารถเลือกใช้ได้ตรงกับปัญหาและความต้องการของแต่ละบุคคล
ทีมแพทย์ผู้ที่มีความชำนาญด้านการปรับรูปหน้าด้วยโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์
ดูแลโดยทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการฉีดสารเติมเต็มโดยเฉพาะ เข้าใจลักษณะเนื้อเจลแต่ละรุ่น และมีทักษะในการออกแบบการฉีดเพื่อผลลัพธ์ที่สวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ
ประเมินและออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคล
ก่อนการฉีดทุกครั้ง แพทย์จะทำการประเมินสภาพผิว โครงสร้างใบหน้า และเป้าหมายของคนไข้ เพื่อออกแบบแนวทางการรักษาเฉพาะบุคคล ให้ผลลัพธ์ออกมาสมดุลและตรงใจ
รับประกันโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แท้ 100% ตรวจสอบได้
มั่นใจได้ในคุณภาพทุกหลอด ด้วยโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ของแท้จากบริษัทผู้ผลิตโดยตรง สามารถขอตรวจสอบกล่อง ยี่ห้อ รุ่น และเลขล็อตได้ พร้อมบริการเปิดกล่องต่อหน้า เพื่อความสบายใจของผู้รับบริการ
สรุป การเลือกโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ที่ใช่ คือก้าวแรกสู่ผลลัพธ์ที่น่าพอใจและปลอดภัย
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ควรเริ่มจากการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน มีแหล่งผลิตที่ชัดเจน ซึ่งแบรนด์ที่ดีจะให้เนื้อสัมผัสที่ดูเป็นธรรมชาติ สามารถสลายได้เอง ไม่ก่อให้เกิดสารตกค้างในร่างกาย ต่างจากของปลอมที่มักใช้สารแปลกปลอม อย่างซิลิโคนเหลว ซึ่งอาจทำให้เกิดการอักเสบหรือติดเชื้อได้ ปัจจุบันมีแบรนด์โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ให้เลือกได้หลายรุ่นตามปัญหาและตำแหน่งที่ฉีด ควรให้แพทย์เป็นผู้ประเมินให้เหมาะกับปัญหาและโครงหน้าของผู้รับบริการ
Post Info
Social Media


โปรแกรมฟิลเลอร์กรอบหน้าช่วยอะไรบ้าง ฉีดตรงไหนดี เติมเต็มรูปหน้าให้คมชัด

ฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์หลุมสิวดีไหม เห็นผลนานแค่ไหน ต่างจากวิธีอื่นอย่างไร

ฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์อยู่ได้นานไหม เห็นผลนานแค่ไหน มีปัจจัยอะไรบ้าง

ฉีดโปรแกรมโบท็อกแล้วตาแข็ง อันตรายไหม หายเองไหนภายในกี่วัน
ฉีดโปรแกรมโบท็อกซ์แล้วตาแ

โปรแกรมฟิลเลอร์กรอบหน้าช่วยอะไรบ้าง ฉีดตรงไหนดี เติมเต็มรูปหน้าให้คมชัด
โปรแกรมฟิลเลอร์กรอบหน้าช่

ฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์หลุมสิวดีไหม เห็นผลนานแค่ไหน ต่างจากวิธีอื่นอย่างไร
ฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์หลุมสิว

ฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์อยู่ได้นานไหม เห็นผลนานแค่ไหน มีปัจจัยอะไรบ้าง
ไขข้อสงสัย โปรแกรมฟิลเลอร

ฟิลเลอร์ Restylane ดีไหม มีรุ่นอะไรบ้าง สรุปครบในบทความเดียว
รู้จักกับโปรแกรมฟิลเลอร์

เจาะลึก 2 วิธีทำให้นมใหญ่ทางการแพทย์ แบบไหนที่ใช่สำหรับเรา
เปรียบเทียบ 2 วิธีทำให้นม