loader image

หลังฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ต้องดูแลตัวเองอย่างไรบ้าง มีเรื่องอะไรที่ต้องระวังเป็นพิเศษ

หลังฉีดฟิลเลอร์

    หลังฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ไม่ว่าจะเป็นริมฝีปาก ร่องแก้ม ใต้ตา คาง ขมับ หรือในบริเวณใดก็ตาม ข้อปฏิบัติหลังฉีดโปรแกรม filler ถือเป็นขั้นตอนที่เราไม่ควรมองข้าม เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดูดีและช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงตามมา เราควรดูแลตัวเองอย่างถูกต้องโดยเฉพาะในช่วง 24-72 ชั่วโมงแรก ซึ่งจะมีผลต่อการคงรูปของสารเติมเต็ม ในบทความนี้ก็เลยจะพาไปดูวิธีการดูแลตัวเองที่เหมาะสม ว่าเราควรดูแลตัวเองอย่างไรเพื่อให้สารเติมเต็มอยู่ได้นานและเกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงหลังฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ห้ามอะไรบ้างและข้อควรระวังที่ต้องรู้

เลือกอ่านตามหัวข้อได้ที่นี่

ข้อปฏิบัติหลังฉีดโปรแกรม Filler ควรดูแลตัวเองอย่างไร

    คำถามที่พบบ่อยเวลาฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ก็คือผลลัพธ์ เช่น โปรแกรมฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้กี่เดือน  ? หรือการฉีดสารเติมเต็มในตำแหน่งอื่น ๆ จะอยู่ได้นานแค่ไหน คำตอบก็คือในแต่ละตำแหน่งจะสามารถคงอยู่ได้ราว ๆ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น บริเวณที่ฉีด ยี่ห้อ หรือปริมาณที่ใช้ และที่สำคัญเลยก็คือการดูแลตัวเองที่ถูกต้องหลังฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ โดยเราแบ่งรายละเอียดออกมาได้ดังนี้

ข้อปฏิบัติหลังฉีดโปรแกรม Filler  เสร็จ  

    หลังฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์เสร็จแล้วในช่วงแรก อาจมีอาการบวม แดง ช้ำหรืออาการคันเล็กน้อยในบริเวณที่ฉีด ซึ่งถือเป็นอาการปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้ ข้อปฏิบัติหลังฉีดโปรแกรม filler ในช่วงแรกนี้ควรงดการสัมผัส เกาในบริเวณที่ฉีด เพราะอาจทำให้สารเติมเต็มเคลื่อนที่หรือเกิดการอักเสบได้ง่าย หรือหลังฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์คางก็ไม่ควรนอนคว่ำหรือนั่งเท้าคาง เพราะอาจเกิดการกดทับได้ และถ้าหากฉีดไปแล้ว 1 ชั่วโมง สามารถลอกแผ่นปลาสเตอร์ออกได้ หรือใครที่ไม่ได้รับประทานยาฆ่าเชื้อมาก่อนฉีดแนะนำให้ทานได้เลยหลังฉีดเสร็จ นอกจากนี้ทางคลินิกหรือสถานพยาบาลจะมีการจ่ายยาแก้ปวด ลดบวมให้เพื่อบรรเทาอาการ และเพื่อการฟื้นตัวที่เร็วยิ่งขึ้น

ข้อปฏิบัติหลังฉีดโปรแกรม Filler 3-48 ชั่วโมง

    ภายใน 3-48 ชั่วโมงถือเป็นช่วงที่ยังต้องให้ความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ เพราะหากดูแลตัวเองไม่เหมาะสม อาจทำให้สารเติมเต็มเคลื่อนที่ได้ ดังนั้นข้อปฏิบัติหลังฉีดโปรแกรมfiller ใน 3-48 ชั่วโมงแรก มีดังนี้

  • หลังฉีด 3 ชั่วโมง – หลังฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำร้อนหรือผลิตภัณฑ์ที่ออกฤทธิ์รุนแรง หากต้องการทำความสะอาดผิวหน้า แนะนำให้ใช้น้ำสะอาดในอุณหภูมิปกติพร้อมกับผลิตภัณฑ์ที่เป็นสูตรอ่อนโยนต่อผิว ป้องกันการระคายเคือง และเมื่อฉีดไปแล้ว 6 ชั่วโมงจะเป็นระยะเวลาที่ยาชาหมดฤทธิ์ หากมีอาการบวมสามารถประคบเย็นเพื่อบรรเทาอาการให้ดีขึ้นได้ แนะนำให้ค่อย ๆ ประคบเบา ๆ
  • หลังฉีด 24-48 ชั่วโมง – ในช่วงนี้จะเป็นช่วงที่อาจเห็นรอยบวมจากเข็มได้ชัดขึ้น แต่มันจะค่อย ๆ ยุบลงไปเอง สามารถล้างหน้า ทาครีมได้ตามปกติ และควรอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เย็นสบาย หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น การออกกำลังกาย การอบซาวน่า การดื่มแอลกอฮอล์ เพราะพฤติกรรมเหล่านี้อาจเป็นผลทำให้เลือดสูบฉีดและมีอาการบวมแดงเพิ่มขึ้นได้

ข้อปฏิบัติหลังฉีดโปรแกรม Filler 3-14 วัน

  • ในช่วง 3 วัน – อาการบวม ช้ำต่าง ๆ จะเริ่มลดลง และเป็นช่วงที่ผู้เข้ารับบริการสามารถแสดงสีหน้าหรือเคลื่อนไหวใบหน้าได้ตามปกติ สำหรับผู้ที่ฉีดสารเติมเต็มบริเวณที่ต้องขยับใบหน้าบ่อย ๆ อย่างบริเวณริมฝีปาก ร่องแก้ม ดังนั้นหลังฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ปาก หรือหลังฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ร่องแก้ม แนะนำให้หลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวหรือแสดงสีหน้าที่รุนแรง เพราะเป็นช่วงที่สารเติมเต็มกำลังเริ่มเข้าที่
  • ในช่วง 7-10 วัน – อาจจะยังมีรอยเขียวช้ำหลงเหลืออยู่บ้างเพียงเล็กน้อย แต่มันจะจางลงเองโดยไม่ต้องประคบร้อน เพราะความร้อนอาจส่งผลต่อสารเติมเต็มที่ฉีดเข้าไป
  • หลังฉีด 14 วัน – เป็นช่วงที่อาการบวมต่าง ๆ จะหายไปเกือบทั้งหมด และเป็นช่วงที่สารเติมเต็มกลืนกับผิวและเข้ากับร่างกายได้ดี สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ไม่ว่าจะเป็นการดูแลผิว การออกกำลังกาย หรือการรับประทานอาหาร แต่ยังควรหลีกเลี่ยงการเผชิญความร้อนจัด

ข้อปฏิบัติหลังฉีดโปรแกรม Filler ครบ 1 เดือน

    หลังฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ 1 เดือน ไม่แนะนำให้เข้ารับบริการโปรแกรมเลเซอร์หรือหัตถการอื่น ๆ ที่ให้พลังงานความร้อนสูงลงลึกใต้ชั้นผิว เพราะความร้อนอาจส่งผลต่อการเปลี่ยนรูปของสารเติมเต็ม หรือทำให้สารเติมเต็มเสื่อมสภาพเร็วขึ้นกว่าที่ควร หากใครต้องการทำหัตถการอื่น ๆ เพิ่มเติม แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ให้เรียบร้อยถึงความต้องการและปัญหาที่ต้องการแก้ไข เพื่อให้แพทย์ประเมินการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล

ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นหลังฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์

     ถึงแม้ว่าการฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์จะเป็นหัตถการที่ให้ความปลอดภัยหากอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ แต่ในขณะเดียวกันมันก็ยังมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนบางประการได้ โดยเฉพาะในช่วงหลังฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ ไม่ว่าจะเป็น

  • อาการบวม แดง ช้ำ – มักจะพบได้บ่อยในช่วง 1-3 วันแรกหลังฉีด เป็นอาการปกติที่เกิดขึ้นได้ ไม่เป็นอันตราย เพราะมันเกิดจากปฏิกิริยาของร่างกายขณะที่สารเติมเต็มเข้าสู่ผิว ซึ่งมันจะดีขึ้นได้เอง
  • ผิวไม่เรียบเนียน หรือคล้ำเจอก้อน – อาจเกิดจากการกระจายตัวของสารเติมเต็มที่ยังไม่สมบูรณ์ โดยเฉพาะในช่วงที่โปรแกรมฟิลเลอร์ยังไม่เข้าที่ ซึ่งมันจะดีขึ้นใน 2-3 สัปดาห์
  • โปรแกรมฟิลเลอร์เคลื่อน ไหล – เกิดจากการสัมผัส กด หรือขยับใบหน้ามากเกินไปในช่วงที่สารเติมเต็มยังไม่เข้าที่ อาจทำให้มันผิดรูปได้
  • อาการปวดตึง – หลังฉีดไปแล้วหากมีอาการปวดมาก หรือเจ็บอย่างต่อเนื่อง อาจเป็นไปได้ว่าเกิดการอักเสบหรือกดทับเส้นประสาท หากมีอาการดังกล่าวแนะนำให้รีบกลับมาพบแพทย์โดยเร็ว
  • การติดเชื้อ – อาจเกิดขึ้นจากการบริเวณที่ฉีดไม่สะอาด หรือมีการดูแลตัวเองไม่เหมาะสม จนทำให้เกิดอาการบวมแดง เป็นตุ่มหนอง ต้องรีบรักษาด้วยยาฆ่าเชื้อ

บางอาการเป็นอาการปกติที่มักเกิดขึ้นได้บ่อยเช่น บวม แดง หรือช้ำเล็กน้อยเพียงไม่กี่วันก็ดีขึ้น แต่สำหรับใครที่มีอาการอื่น ๆ แทรกซ้อน เช่น มีอาการอักเสบ ติดเชื้อ ปวดตึง หรือรู้สึกเจ็บแปล๊บ ๆ อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ แนะนำให้รีบกลับมาพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุและวิธีการรักษาที่ถูกต้อง

คำถามที่พบบ่อยหลังฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์

     ก่อนฉีดเราก็มักจะเกิดคำถามว่า ฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ที่ไหนดี ?” “ต้องใช้ยี่ห้ออะไร?” หรือ”ฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ 1 cc  พอไหม?” เพราะทุกคนก็อยากได้สิ่งที่ดีให้กับตัวเอง และแน่นอนว่าหลังฉีดเสร็จก็มักจะมีข้อสงสัยตามมาไม่แพ้กัน โดยเฉพาะในช่วงหลังทำใหม่ ๆ ที่หลายคนยังไม่มั่นใจว่าควรดูแลตัวเองอย่างไรดี และนี่คือ 3 ข้อสงสัยที่พบบ่อยหลังฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์

1. หลังฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ห้ามกินอะไรบ้าง

     หลังฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ควรหลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มบางประเภทที่อาจกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ หรือทำให้ร่างกายฟื้นตัวช้าลง เช่น

  • แอลกอฮอล์ – เพราะอาจทำให้เส้นเลือดขยายตัว บวมช้ำมากขึ้น และสารเติมเต็มเคลื่อนตำแหน่งได้ง่าย
  • อาหารหมักดองและของแสลง – เช่น ปลาร้า กะปิ ไข่ดอง อาหารดิบ เพราะเสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือระคายเคืองต่อผิว
  • ของหวานจัดและเค็มจัด – อาหารเหล่านี้จะส่งผลต่อการฟื้นตัวของผิว และอาจทำให้บวมน้ำได้
  • อาหารเผ็ดร้อน – มีส่วนกระตุ้นให้เลือดสูบฉีดแรงขึ้น และอาจทำให้บวมช้ำมากขึ้น

2. หลังฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ควรทานอะไรดี

     อาหารที่ช่วยส่งเสริมการฟื้นตัวหลังฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ ควรเป็นอาหารที่มีประโยชน์และอุดมด้วยสารที่ช่วยต้านการอักเสบของผิว เช่น

  • ผักใบเขียวและผลไม้สด – เช่น บร็อคโคลี ผักโขม ส้ม ฝรั่ง ที่มีวิตามินซีสูง ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและลดการอักเสบ
  • อาหารโปรตีนสูง – เช่น ปลา ไข่ เต้าหู้ เพื่อช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อ
  • อาหารที่ย่อยง่าย – และควรหลีกเลี่ยงการเคี้ยวแรงในช่วง 1–3 วันแรกหากฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์บริเวณปากหรือกราม
  • น้ำเปล่า – ควรดื่มน้ำให้มาก ๆ อย่างน้อยวันละ 1.5–2 ลิตร เพื่อช่วยให้โปรแกรมฟิลเลอร์คงรูปและยืดอายุการใช้งาน

3. หลังฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นได้ไหม

     ในช่วง 24 ชั่วโมงแรกหลังฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ ควรหลีกเลี่ยงการล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นจัดหรือน้ำร้อน เพราะความร้อนสามารถทำให้เส้นเลือดขยายตัว กระตุ้นให้เกิดอาการบวมมากขึ้น และอาจมีผลต่อการคงรูปของสารเติมเต็มได้

ดังนั้น หากต้องการล้างหน้าแนะนำให้ใช้น้ำเย็นหรือน้ำอุณหภูมิห้อง และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยนต่อผิว ไม่มีแอลกอฮอล์หรือสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง เพื่อลดโอกาสการอักเสบหรือระคายเคืองบริเวณที่ฉีด

แชร์ :

สรุป

     การดูแลตัวเองหลังฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาสวยดูเป็นธรรมชาติและอยู่ได้นานขึ้น หากเราละเลยหรือดูแลไม่ถูกวิธี อาจเสี่ยงต่ออาการบวมช้ำ สารเติมเต็มเคลื่อนที่ หรือเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ง่าย หากทำตามข้อปฏิบัติหลังฉีดโปรแกรม filler ตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดจะช่วยให้โปรแกรมฟิลเลอร์เซ็ตตัวเข้าที่ได้ดี และลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงในระยะยาว

กรอกฟอร์ม ปรึกษาหมอ ฟรี!