loader image
ดูดไขมันเหนียง

ดูดไขมันเหนียง กำจัดไขมันใต้คาง ลดปัญหาเหนียงคอ คางสองชั้น

       ดูดไขมันเหนียง เป็นหัตถการที่ช่วยกำจัดไขมันสะสมบริเวณใต้คางและลำคออย่างถูกจุด เหมาะสำหรับผู้ที่มีคางสองชั้น กรอบหน้าไม่ชัด หรือมีเหนียงจากพันธุกรรมและอายุที่เพิ่มขึ้น ซึ่งแม้จะควบคุมอาหารหรือออกกำลังกายก็ยากต่อการแก้ไขโดยธรรมชาติ การดูดไขมันเหนียงจึงเป็นทางเลือกที่ช่วยปรับใบหน้าให้เรียวขึ้น กรอบหน้าคมชัดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัดใหญ่ และสามารถฟื้นตัวได้ในเวลาอันรวดเร็วภายใต้การดูแลของแพทย์

เลือกอ่านตามหัวข้อได้ที่นี่

ดูดไขมันเหนียงคืออะไร

     ดูดไขมันเหนียง คือหัตถการที่ใช้เทคนิคทางการแพทย์ในการกำจัดไขมันส่วนเกินบริเวณใต้คางและลำคอ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มักมีไขมันสะสมและยากต่อการลดลงด้วยวิธีธรรมชาติ เช่น การควบคุมอาหารหรือออกกำลังกาย การดูดไขมันบริเวณนี้จะช่วยลดความหนาของชั้นไขมัน ทำให้แนวกรอบหน้าชัดเจนขึ้น ลดลักษณะของคางสองชั้นหรือเหนียงหย่อนคล้อย โดยเป็นหัตถการที่ใช้เครื่องมือขนาดเล็ก แผลเล็ก ฟื้นตัวไว และให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติหากทำโดยแพทย์ที่มีทักษะและประสบการณ์

ดูดไขมันเหนียงช่วยอะไรได้บ้าง

การดูดไขมันเหนียงไม่ได้เป็นเพียงเรื่องความสวยงาม แต่ยังช่วยแก้ปัญหาเฉพาะจุดที่ส่งผลต่อภาพลักษณ์และความมั่นใจในชีวิตประจำวัน ประโยชน์ของการดูดไขมันเหนียง เช่น

  • ลดไขมันสะสมใต้คางที่ลดยากด้วยวิธีทั่วไป
  • แก้ไขคางสองชั้นหรือเหนียงหย่อนคล้อย
  • ทำให้กรอบหน้าคมขึ้น ใบหน้าดูเรียวยาว
  • ช่วยปรับสมดุลสัดส่วนระหว่างใบหน้าและลำคอ
  • เพิ่มความมั่นใจเมื่อถ่ายรูปหรือมองจากมุมข้าง

ดูดไขมันเหนียงเหมาะกับใคร

     การดูดไขมันเหนียงเหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมใต้คางแต่ยังมีความยืดหยุ่นของผิวเพียงพอ ไม่ต้องการผ่าตัดใหญ่ และต้องการปรับใบหน้าให้เรียวชัดเจนดูเป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการเห็นผลไวและไม่ต้องพักฟื้นนาน ผู้ที่เหมาะกับการดูดไขมันเหนียง ได้แก่

  • ผู้ที่มีไขมันใต้คางหรือเหนียงชัดเจน
  • กรอบหน้าไม่ชัด แม้น้ำหนักตัวปกติ
  • มีคางสองชั้นจากกรรมพันธุ์หรืออายุ
  • ต้องการปรับใบหน้าให้เรียวขึ้นโดยไม่ผ่าตัด
  • มีผิวยืดหยุ่นดีและไม่มีโรคประจำตัวรุนแรง

ดูดไขมันเหนียงไม่เหมาะกับใคร

      แม้การดูดไขมันเหนียงจะเป็นหัตถการที่ให้ความปลอดภัย แต่ก็มีข้อจำกัดในบางกลุ่มผู้เข้ารับบริการ โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพหรือโครงสร้างผิวที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวัง หรือเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน ผู้ที่ไม่เหมาะกับการดูดไขมันเหนียง ได้แก่

  • ผู้ที่มีผิวหนังใต้คางหย่อนคล้อยมาก (เหมาะกับการผ่าตัดยกกระชับมากกว่า)
  • ผู้ที่มีไขมันน้อยแต่กระดูกคางเล็กหรือคางหด (ต้องประเมินเรื่องโครงสร้างก่อน)
  • ผู้ที่มีโรคประจำตัวควบคุมไม่ได้ เช่น เบาหวานขั้นรุนแรง โรคเลือด
  • หญิงตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร
  • ผู้ที่มีความคาดหวังเกินจริง เช่น คาดว่าจะหน้าเรียวขึ้นอย่างรวดเร็วหรือผิวตึงเหมือนการยกกระชับ

เปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียของการดูดไขมันเหนียง

      การดูดไขมันเหนียงเป็นหนึ่งในหัตถการที่ได้รับความนิยม เนื่องจากสามารถเปลี่ยนรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้นได้อย่างชัดเจนโดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ อย่างไรก็ตาม แม้จะมีข้อดีหลายด้าน แต่ก็ยังมีข้อจำกัดบางประการที่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ และนี่คือข้อดี–ข้อเสียของการดูดไขมันเพื่อประกอบการตัดสินใจอย่างเหมาะสม

ข้อดีของการดูดไขมันเหนียง

  • ลดไขมันใต้คางอย่างถูกจุด เห็นผลชัดเจน
  • ปรับใบหน้าให้ดูเรียว กรอบหน้าชัดขึ้น
  • ไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ แผลเล็ก ฟื้นตัวไว
  • ใช้เวลาในการทำไม่นาน โดยทั่วไปไม่เกิน 1 ชั่วโมง
  • เหมาะกับคนที่ต้องการเปลี่ยนแปลงใบหน้าแต่ไม่อยากพักฟื้นนาน

ข้อเสียของการดูดไขมันเหนียง

  • อาจเกิดอาการบวม ช้ำ หรือตึงบริเวณใต้คางในช่วง 3–7 วันแรก
  • หากผิวหนังหย่อนมาก อาจต้องทำหัตถการเพิ่มเติมเพื่อกระชับผิว
  • ไม่เหมาะกับผู้ที่มีโครงหน้าหรือกระดูกคางไม่สมดุล ซึ่งอาจไม่เห็นผลชัดเจน
  • หากดูดโดยแพทย์ที่ไม่มีความชำนาญ อาจเกิดผิวไม่เรียบ หรือเกิดคลื่นใต้ผิวหนัง
  • จำเป็นต้องใส่ชุดกระชับใบหน้าในช่วงแรก เพื่อช่วยให้ผิวแนบเรียบและฟื้นตัวได้ดี

เปรียบเทียบหัตถการที่ช่วยลดเหนียง แก้ปัญหาคางสองชั้น

      การลดเหนียงหรือคางสองชั้นสามารถทำได้หลายวิธี โดยขึ้นอยู่กับลักษณะปัญหา เช่น ปริมาณไขมัน ความหย่อนคล้อยของผิว หรือโครงสร้างใบหน้าแต่ละคน หัตถการแต่ละแบบมีข้อดี ข้อจำกัดที่แตกต่างกัน การเลือกวิธีที่เหมาะสมจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและให้ความปลอดภัย

ดูดไขมันเหนียง

ช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินใต้คางออกโดยตรง เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมชัดเจน กรอบหน้าไม่ชัด ต้องการผลลัพธ์เร็วและชัดเจนในครั้งเดียว เหมาะกับผู้ที่ผิวยังยืดหยุ่นดี ไม่ต้องการผ่าตัดใหญ่ และยอมรับระยะพักฟื้นช่วงสั้นได้

ฉีดเมโสแฟตเหนียง

เป็นการฉีดสารลดไขมันบริเวณใต้คาง เหมาะกับผู้ที่มีไขมันสะสมเล็กน้อย ไม่เร่งเห็นผล และสามารถทำต่อเนื่องได้หลายครั้ง จุดเด่นคือไม่ต้องพักฟื้น แต่ผลลัพธ์ช้ากว่าและไม่ชัดเจนเท่าการดูดไขมัน

การยกกระชับผิวด้วย HIFU

ใช้คลื่นอัลตราซาวด์พลังงานสูงยิงลึกถึงชั้น SMAS เพื่อกระตุ้นการหดตัวของผิว เหมาะกับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยแต่ไม่มีไขมันมาก ช่วยยกแนวกรอบหน้าให้ดูคมชัดโดยไม่ต้องผ่าตัด เห็นผลค่อยเป็นค่อยไป และไม่มีแผล

การยกกระชับผิวด้วย RF

ใช้คลื่นความถี่วิทยุเพื่อฟื้นฟูเส้นใยคอลลาเจนและกระชับผิว เหมาะกับผู้ที่มีผิวไม่แน่น ไม่กระชับ แต่ไม่มีไขมันสะสม จุดเด่นคือทำได้บ่อย ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น แต่ผลลัพธ์อาจไม่ชัดเจนหากผิวหย่อนมาก

การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการดูดไขมันเหนียง

       ก่อนดูดไขมันเหนียงควรมีการเตรียมตัวล่วงหน้าอย่างเหมาะสม ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาชัดเจนและลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นหลังหัตถการ

  • ปรึกษาแพทย์ผู้ทำการรักษา แพทย์จะประเมินรูปหน้า ปริมาณไขมัน และความยืดหยุ่นของผิว เพื่อวางแผนการดูดไขมันให้เหมาะกับโครงสร้างแต่ละบุคคล
  • ตรวจสุขภาพเบื้องต้น อาจรวมถึงการตรวจเลือดหรือซักประวัติโรคประจำตัว เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการทำหัตถการ
  • งดสูบบุหรี่และแอลกอฮอล์ 1–2 สัปดาห์ก่อนทำ เพื่อลดโอกาสการอักเสบและช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น
  • งดยาบางชนิด เช่น แอสไพริน หรือยาละลายลิ่มเลือด เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะเลือดออกระหว่างการทำหัตถการ

ขั้นตอนการดูดไขมันเหนียง

       ขั้นตอนการดูดไขมันเหนียงใช้เวลาไม่นาน และมักดำเนินการด้วยวิธีที่ไม่ซับซ้อนภายใต้การดูแลของแพทย์ โดยเน้นให้เกิดบาดเจ็บต่อเนื้อเยื่อน้อย โดยมีขั้นตอนการรักษาดังนี้

  • ทำความสะอาดผิวและกำหนดตำแหน่งที่จะดูดไขมัน แพทย์จะมาร์กจุดและถ่ายภาพเพื่อเปรียบเทียบผลลัพธ์ก่อน–หลัง
  • ให้ยาชาเฉพาะที่บริเวณใต้คาง เพื่อลดความรู้สึกเจ็บขณะทำ และทำให้ผู้เข้ารับบริการรู้สึกผ่อนคลาย
  • ใช้ท่อดูดไขมันขนาดเล็กเข้าสู่ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง ท่อจะเคลื่อนไหวอย่างนุ่มนวลเพื่อดูดไขมันออก โดยใช้เครื่องมือที่ทันสมัย เช่น PAL หรือ WAL
  • ใส่ผ้ากดกระชับหรือ Face Garment หลังทำทันที เพื่อควบคุมการบวมและช่วยให้ผิวแนบกระชับกับโครงสร้างใหม่

การดูแลตนเองหลังเข้ารับการดูดไขมันเหนียง

      การดูแลตนเองหลังทำอย่างถูกต้องจะช่วยลดอาการบวม ฟื้นตัวเร็วขึ้น และได้ผลลัพธ์ที่เรียบเนียนตามที่ต้องการ พร้อมลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ และการดูแลตัวเองที่เหมาะสมควรปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้

  • ใส่ Face Garment ตามคำแนะนำของแพทย์ โดยปกติควรใส่ต่อเนื่อง 24 ชั่วโมงในช่วง 3–5 วันแรก และต่อวันละ 8–12 ชั่วโมงในช่วง 2–3 สัปดาห์
  • พักผ่อนให้เพียงพอและหลีกเลี่ยงการก้มศีรษะนาน ๆ เพื่อลดอาการบวมและป้องกันการสะสมของของเหลว
  • ประคบเย็นเบา ๆ ในช่วง 24–48 ชั่วโมงแรก ช่วยลดอาการบวมและฟกช้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่กระทบใบหน้า เช่น การนวด การกดหน้า หรือออกกำลังกายหนัก เพื่อให้เนื้อเยื่อบริเวณที่ดูดไขมันมีเวลาฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้จากการดูดไขมันเหนียง

       แม้การดูดไขมันเหนียงจะเป็นหัตถการที่มีความเสี่ยงต่ำเมื่อทำโดยแพทย์ที่มีความรู้และประสบการณ์ในสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน แต่ก็ยังอาจเกิดผลข้างเคียงบางประการได้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอาการชั่วคราวที่สามารถฟื้นตัวได้ภายในไม่กี่วัน หากได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม

  • อาการบวม ช้ำ และตึงผิวบริเวณใต้คาง เป็นอาการปกติที่พบบ่อย มักเกิดในช่วง 3–7 วันแรก และค่อย ๆ ทุเลาลงใน 1–2 สัปดาห์
  • ความรู้สึกชา หรือรู้สึกแปลก ๆ บริเวณผิว อาจเกิดจากการที่ท่อดูดไขมันเข้าใกล้เส้นประสาทตื้น ซึ่งมักหายได้เองภายในไม่กี่สัปดาห์ถึง 1–3 เดือน
  • ผิวไม่เรียบ หรือมีรอยบุ๋มเล็กน้อย เกิดจากการดูดไขมันไม่สม่ำเสมอ หรือเนื้อเยื่อยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ แพทย์จะช่วยประเมินและแนะนำวิธีแก้ไขเพิ่มเติมหากจำเป็น
  • การติดเชื้อบริเวณแผล พบได้น้อย หากมีอาการบวมแดง ร้อน เจ็บ หรือมีหนอง ควรรีบพบแพทย์โดยเร็ว
  • การเกิดก้อนแข็ง (Fibrosis) บางรายอาจพบก้อนแข็งใต้ผิวหนังหลังทำประมาณ 1–2 สัปดาห์ ซึ่งเกิดจากการจัดเรียงตัวของเนื้อเยื่อ สามารถบรรเทาได้ด้วยการนวดตามคำแนะนำของแพทย์

ดูดไขมันเหนียงพักฟื้นกี่วัน

       การดูดไขมันเหนียงถือเป็นหัตถการขนาดเล็กที่ใช้เวลาไม่นานและมีระยะพักฟื้นสั้นกว่าการดูดไขมันในส่วนอื่นของร่างกาย โดยทั่วไปผู้เข้ารับบริการสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ภายใน 1–3 วันแรก และอาการบวม ช้ำ หรือระบมจะค่อย ๆ ลดลงภายใน 5–7 วัน หากมีการใส่ Face Garment อย่างเหมาะสม และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

แม้อาการภายนอกจะดีขึ้นเร็ว แต่ร่างกายยังคงอยู่ในกระบวนการฟื้นฟูภายในในช่วง 2–4 สัปดาห์แรก โดยเฉพาะเรื่องของผิวที่ต้องใช้เวลาในการแนบกระชับกับแนวกรอบหน้าใหม่ สำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่เรียบเนียนและชัดเจน ควรใส่ชุดกระชับต่อเนื่องตามที่แพทย์แนะนำ และหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องใช้แรงบริเวณใบหน้า เช่น การนวด การออกกำลังกายหนัก หรือการก้มศีรษะนาน ๆ เพื่อไม่ให้รบกวนการฟื้นตัวของเนื้อเยื่อใต้คาง

ทำไมต้องดูดไขมันเหนียง ที่ AM International Hospital

       การดูดไขมันเหนียงเป็นหัตถการเล็กที่ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับรายละเอียดในการออกแบบกรอบหน้า ความแม่นยำของเทคนิค และการดูแลหลังทำอย่างต่อเนื่อง ที่ AM International Hospital การรักษาดำเนินการโดยแพทย์ที่มีทักษะ และประสบการณ์ด้าน Body Surgery โดยมีการประเมินองค์ประกอบใบหน้าอย่างรอบด้านก่อนวางแผนการรักษา

โรงพยาบาลมีการใช้เทคโนโลยีดูดไขมันหลากหลายชนิด เช่น PAL, WAL, RFAL เพื่อให้เหมาะกับสภาพผิวและชั้นไขมันในแต่ละราย รวมถึงระบบห้องผ่าตัดและการดูแลหลังหัตถการที่พัฒนาขึ้นสำหรับงานด้านความงามโดยเฉพาะ จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับใบหน้าอย่างพอดี ไม่หักโหม และต้องการความต่อเนื่องในการติดตามผลภายใต้การดูแลของทีมแพทย์ที่มีระบบสนับสนุนครบทุกขั้นตอน

ค่าบริการดูดไขมันเหนียง

     ดูดไขมันเหนียง ราคา โดยทั่วไปจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น เทคนิคที่ใช้ ปริมาณไขมันที่ต้องดูดออก ลักษณะโครงสร้างใบหน้า และระดับความซับซ้อนของแต่ละเคส โดยราคามักอยู่ที่ประมาณ 25,000–45,000 บาทในกรณีที่ใช้เทคนิคพื้นฐาน และอาจสูงขึ้นในกรณีที่ใช้เทคโนโลยีเฉพาะทาง เช่น PAL หรือ RFAL ที่ช่วยกระชับผิวร่วมด้วย ทั้งนี้ราคาจะรวมค่าตรวจประเมินก่อนทำ ค่าดูแลหลังหัตถการ และค่าอุปกรณ์บางรายการตามมาตรฐานของแต่ละสถานพยาบาล

สำหรับที่ AM International Hospital การประเมินค่าบริการดูดไขมันเหนียงจะดำเนินการโดยแพทย์ที่มีความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ในด้านการดูดไขมันเท่านั้น โดยจะมีการถ่ายภาพ วิเคราะห์โครงหน้า และประเมินความเหมาะสมก่อนสรุปราคาอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีค่าใช้จ่ายแฝง และสามารถเลือกแพ็กเกจที่เหมาะกับปัญหาของแต่ละบุคคลได้อย่างยืดหยุ่น ทั้งในแบบแผลเล็ก ฟื้นตัวไว หรือแบบที่ผสานเทคโนโลยีกระชับผิวร่วมด้วยเพื่อให้ผลลัพธ์ที่แนบเนียนยิ่งขึ้น

รีวิวดูดไขมันเหนียงจากผู้ใช้บริการจริง

       ประสบการณ์ตรงจากผู้ที่เคยเข้ารับบริการดูดไขมันเหนียงจริง คือข้อมูลสำคัญที่ช่วยให้หลายคนตัดสินใจได้อย่างมั่นใจมากขึ้น เพราะนอกจากจะได้เห็นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงแล้ว ยังช่วยสะท้อนถึงขั้นตอนการดูแล ความเปลี่ยนแปลงหลังทำ และการฟื้นตัวในแต่ละช่วงอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ รีวิวจากหลากหลายเคสยังแสดงให้เห็นว่า ผลลัพธ์ของการดูดไขมันเหนียงที่ดี ไม่ได้ขึ้นอยู่แค่กับเครื่องมือหรือเทคนิค แต่รวมถึงการประเมินอย่างละเอียดและการดูแลหลังหัตถการอย่างใกล้ชิดด้วย

รวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการดูดไขมันเหนียง

ดูดไขมันเหนียงอยู่ได้นานแค่ไหน?

ผลลัพธ์ของการดูดไขมันเหนียงสามารถอยู่ได้นานหลายปี หากน้ำหนักตัวคงที่และมีการดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม ไขมันที่ถูกดูดออกไปจะไม่กลับมาในตำแหน่งเดิม แต่หากมีการเพิ่มน้ำหนักมาก ก็อาจทำให้เกิดการสะสมของไขมันใหม่ได้

ผลลัพธ์ของการดูดไขมันเหนียงสามารถอยู่ได้นานหลายปี หากน้ำหนักตัวคงที่และมีการดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม ไขมันที่ถูกดูดออกไปจะไม่กลับมาในตำแหน่งเดิม แต่หากมีการเพิ่มน้ำหนักมาก ก็อาจทำให้เกิดการสะสมของไขมันใหม่ได้

ไม่ควรดูดไขมันในปริมาณมากเกินความเหมาะสม และควรทำโดยแพทย์ที่มีความเข้าใจโครงสร้างบริเวณคอ-คางอย่างแม่นยำ หลีกเลี่ยงการขยับศีรษะแรง ๆ หรือก้มเงยบ่อยในช่วง 1–2 สัปดาห์แรก และต้องใส่ Face Garment อย่างสม่ำเสมอตามคำแนะนำของแพทย์

ในช่วง 3–5 วันแรก ควรหลีกเลี่ยงการนอนตะแคงหรือนอนคว่ำ เพื่อป้องกันการกดทับและบวมน้ำบริเวณที่ดูดไขมัน แนะนำให้นอนหงายและหนุนศีรษะให้สูงเล็กน้อยเพื่อช่วยระบายน้ำเหลืองและลดอาการบวม

ขณะทำแทบไม่รู้สึกเจ็บเพราะมีการให้ยาชาเฉพาะที่ ส่วนใหญ่จะรู้สึกเพียงตึง ๆ หรือระบมหลังทำในช่วง 2–3 วันแรก ซึ่งสามารถบรรเทาได้ด้วยยาแก้ปวด และอาการเหล่านี้จะค่อย ๆ ดีขึ้นในระยะเวลาอันสั้น

ควรใส่ Face Garment อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมงในช่วง 3–5 วันแรก และใส่ต่อเนื่องวันละ 8–12 ชั่วโมงอย่างน้อย 2–3 สัปดาห์ เพื่อช่วยลดอาการบวม กระชับผิว และปรับกรอบหน้าให้เข้ารูป

อาการบวมมักเริ่มลดลงชัดเจนภายใน 5–7 วันแรก และจะดีขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วง 2–3 สัปดาห์ โดยสามารถเห็นแนวกรอบหน้าที่ชัดขึ้นได้เต็มที่ภายใน 1–3 เดือน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับการดูแลตนเองและสภาพผิวของแต่ละคน

สรุปเรื่องการดูดไขมันเหนียง

     การดูดไขมันเหนียงเป็นหัตถการที่ช่วยลดไขมันสะสมใต้คางได้อย่างถูกจุด ช่วยปรับใบหน้าให้ดูเรียวขึ้น กรอบหน้าคมชัดขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่และใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน เหมาะกับผู้ที่มีไขมันเหนียงจากพันธุกรรมหรืออายุที่เพิ่มขึ้น แต่ยังมีความยืดหยุ่นของผิวเพียงพอ หากทำโดยแพทย์ที่มีความรู้ในด้านการดูดไขมันร่วมกับการดูแลหลังทำอย่างถูกวิธี ผลลัพธ์จะสามารถอยู่ได้นานและช่วยเสริมความมั่นใจได้ในระยะยาว

แชร์ :