loader image

ลดเหนียงใต้คาง ยังไงดี? แจกเคล็ดไม่ลับพิชิตไขมันเหนียง

ลดเหนียงใต้คาง

เหนียงใต้คาง! เป็นปัญหาติดหนึบบนใบหน้าที่ใครมีเป็นต้องปวดหัว แต่การลดเหนียงใต้คางก็ไม่ได้เป็นเรื่องยากอย่างที่คิด! เพราะปัจจุบันมีการคิดค้นวิธีลดเหนียงใต้คางแบบต่าง ๆ เพื่อมาตอบโจทย์ปัญหาน่าปวดหัวนี้ไว้หมดแล้ว แต่ไปดูดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง ลดเองที่บ้านได้หรือเปล่า? หรือมีทางลดเหนียงแบบเร่งด่วนไหม? ต้องทำยังไงไปติดตามกัน!

เลือกอ่านตามหัวข้อได้ที่นี่

เหนียงใต้คางเกิดจากอะไร?

เหนียงใต้คางเป็นหนึ่งในปัญหาที่ส่งผลต่อความมั่นใจในรูปลักษณ์อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็ตาม แม้บางคนจะมีน้ำหนักตัวอยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่ก็ยังพบปัญหาเหนียงได้เช่นกัน ซึ่งเกิดได้จากหลายปัจจัย ทั้งพันธุกรรม อายุที่เพิ่มขึ้น พฤติกรรมในชีวิตประจำวัน ไปจนถึงปัจจัยด้านโภชนาการและสุขภาพผิว การทำความเข้าใจสาเหตุเหล่านี้จะช่วยให้สามารถวางแผนการดูแลตัวเองได้อย่างเหมาะสม และป้องกันไม่ให้ปัญหาเหนียงรุนแรงขึ้นในอนาคต

  • พันธุกรรม ลักษณะของโครงสร้างใบหน้า รวมถึงแนวกรามและผิวหนังบริเวณคอ สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ หากสมาชิกในครอบครัวมีปัญหาเหนียงใต้คาง โอกาสที่จะมีปัญหาเดียวกันก็จะสูงขึ้น แม้ว่าจะมีน้ำหนักตัวอยู่ในเกณฑ์ปกติก็ตาม
  • น้ำหนักเกิน ภาวะน้ำหนักเกินหรือน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นทำให้เกิดการสะสมไขมันในบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย รวมถึงบริเวณคอและใต้คาง ส่งผลให้เกิดเหนียงใต้คางอย่างเห็นได้ชัด ไขมันส่วนเกินนี้อาจทำให้แนวกรามไม่คมชัด และโครงหน้าดูหย่อนคล้อย
  • อายุ เมื่ออายุมากขึ้น กระบวนการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินในผิวหนังจะลดลง ส่งผลให้ผิวหนังสูญเสียความกระชับและเกิดความหย่อนคล้อย นอกจากนี้ ไขมันและกล้ามเนื้อคอก็อาจสูญเสียแรงต้านตามธรรมชาติ ทำให้เหนียงเห็นได้ชัดเจนขึ้น
  • พฤติกรรม ท่าทางที่ไม่เหมาะสม เช่น การก้มหน้าใช้สมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน รวมถึงการนอนหมอนสูงเกินไป ส่งผลให้กล้ามเนื้อบริเวณคออ่อนแรงและทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อยได้ง่าย
  • การดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำและลดความยืดหยุ่นของผิวหนัง นอกจากนี้ยังส่งผลให้ร่างกายสะสมไขมันได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้เกิดความหย่อนคล้อยโดยเฉพาะในบริเวณใบหน้าและคอ
  • การสูบบุหรี่ ทำให้ได้รับสารพิษทำลายคอลลาเจนและอิลาสตินในผิวหนัง เร่งกระบวนการเสื่อมสภาพของผิว และทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อยเร็วขึ้น รวมถึงเพิ่มโอกาสในการเกิดเหนียงใต้คางได้
  • การรับประทานอาหารที่มีโซเดียมสูง ทำให้ร่างกายเกิดการบวมน้ำ ส่งผลให้ใบหน้าและคอดูบวมและขาดความกระชับในระยะยาว อีกทั้งยังเพิ่มการสะสมไขมันในร่างกายได้ง่ายขึ้น
  • การพักผ่อนไม่เพียงพอ ส่งผลเสียต่อกระบวนการซ่อมแซมเซลล์ผิว ทำให้ผิวหนังสูญเสียความยืดหยุ่นและความกระชับ ส่งผลให้ผิวหย่อนคล้อยโดยเฉพาะบริเวณใต้คาง

วิธีลดเหนียงใต้คางแบบธรรมชาติ

หากยังไม่ต้องการเสียค่าใช้จ่ายกับการทำหัตถการหรือศัลยกรรม การลดเหนียงใต้คางด้วยวิธีธรรมชาติถือเป็นอีกทางเลือกที่ดี ไม่เพียงแต่ช่วยให้คางกระชับขึ้น แต่ยังเสริมสุขภาพระยะยาวได้อีกด้วย ทั้งการบริหารใบหน้า การนวดหน้า และการดูแลโภชนาการ ล้วนมีบทบาทสำคัญ มาดูกันว่าทำอย่างไรได้บ้าง

ท่าบริหารใบหน้า ลดเหนียงใต้คาง

การออกกำลังกายใบหน้าเป็นวิธีช่วยเผาผลาญไขมันใต้คางอย่างค่อยเป็นค่อยไป จำเป็นต้องทำอย่างสม่ำเสมอเพื่อเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน ท่าที่แนะนำ ได้แก่

  • ท่าหมุนคอ (Neck rolls) หมุนคอช้า ๆ ไปทางขวาและซ้าย สลับกัน 5–10 รอบ ช่วยยืดกล้ามเนื้อด้านข้างคอและลดความตึงเครียด
  • ท่าลิ้นแตะเพดาน (Mewing) เปิดปากเล็กน้อย ใช้ลิ้นแตะเพดานปากและยืดออกไปข้างหน้า ค้างไว้ 10 วินาที ทำซ้ำ 5 ครั้ง ช่วยกระชับกล้ามเนื้อใต้คาง
  • ท่ากดคาง (Chin press) วางมือซ้อนกันใต้คาง กดคางลงกับมือ ค้างไว้ 10 วินาที ทำซ้ำ 5–10 ครั้ง ช่วยเสริมกล้ามเนื้อบริเวณลำคอ
  • ยื่นคางไปข้างหน้า (Jaw jut) ปิดปาก ยื่นขากรรไกรล่างไปข้างหน้า ค้างไว้ 5–10 วินาที ทำซ้ำ 10 ครั้ง เพื่อกระชับบริเวณกรามและคาง
  • ท่าบิดปากเอนหัวไปข้างหลัง (Pucker and tilt) ทำปากจู๋และเอนศีรษะไปข้างหลัง ค้างไว้ 5–10 วินาที ทำซ้ำ 10 ครั้ง ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของผิวใต้คางและลำคอ

ท่านวดหน้า ลดเหนียงใต้คาง

การนวดหน้าช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ลดการสะสมของไขมัน และเสริมความกระชับของผิว โดยควรใช้น้ำมันนวดหรือครีมบำรุงผิวเพื่อป้องกันการเสียดสีจนทำให้ผิวระคายเคือง โดยมีขั้นตอนดังนี้

  1. เตรียมผิวหน้า ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นและทำความสะอาดผิวให้สะอาดจากเครื่องสำอางหรือสิ่งสกปรก ทาครีมบำรุงผิว หรือ น้ำมันนวด (สามารถใช้น้ำมันมะพร้าว น้ำมันโจโจบา หรือครีมที่ให้ความชุ่มชื้นเพื่อไม่ให้ผิวแห้งระหว่างนวด)
  2. นวดคาง (Chin Lift Massage) ใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางของทั้งสองมือ วางนิ้วไว้ที่มุมคาง ค่อย ๆ นวดขึ้นไปตามเส้นแนวขากรรไกร ขึ้นไปจนถึงหู (ทำน้ำหนักกดเบา ๆ อย่ากดแรงเกินไป) นวดจากมุมคางไปทางหู 5-10 ครั้ง แล้วสลับไปนวดอีกด้าน

  3. นวดคอ (Neck Massage) ใช้นิ้วมือทั้งสองข้างจับจากใต้คางลงมาที่คอและไล่ไปตามลำคอไปที่หัวไหล่ นวดลงตามแนวกล้ามเนื้อคอเพื่อช่วยในการไหลเวียนของเลือดและลดการสะสมของของเหลวใต้ผิวหนัง ทำซ้ำหลายครั้งโดยเน้นจุดที่รู้สึกตึงหรือเครียด

  4. นวดจากมุมคางไปที่ข้างหู (Jawline Massage) ใช้ปลายนิ้วทั้งสองมือ วางที่ข้างคางแล้วค่อย ๆ นวดขึ้นไปตามกรอบหน้าไปที่หู ทำซ้ำ 10-15 ครั้ง เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด

  5. นวดบำรุงใต้คาง (Under Chin Massage) ใช้ปลายนิ้วที่วางที่ใต้คาง ค่อย ๆ กดแล้วไล่มือไปข้างบนตามแนวกรอบหน้า ทำซ้ำ 10-15 ครั้ง และควรเน้นที่จุดที่รู้สึกตึงหรือมีการสะสมของไขมัน

  6. บีบใต้คาง (Pinching Massage) ใช้ปลายนิ้วบีบเบา ๆ ที่บริเวณใต้คาง ขณะบีบให้ใช้นิ้วทำการบีบไปด้านข้าง เทคนิคนี้ช่วยให้ผิวกระชับและลดความหย่อนคล้อย

รวมสารอาหารสำคัญ อยากลดเหนียงใต้คางต้องรู้

นอกจากการออกกำลังกายและนวดหน้าแล้ว การเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมก็มีบทบาทสำคัญในการเสริมความกระชับและลดไขมันสะสมใต้คาง มาดูกันว่าเราควรทานอะไรเพื่อช่วยลดเหนียงใต้คางบ้าง

สารอาหารช่วยลดเหนียงคุณสมบัติตัวอย่างอาหาร
โปรตีนเสริมสร้างกล้ามเนื้อและช่วยให้ผิวกระชับเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ไข่ เต้าหู้ อกไก่ ปลา
โอเมก้า-3 และไขมันดีลดการอักเสบและช่วยให้ผิวแข็งแรง ยืดหยุ่น ไม่หย่อนคล้อยปลาแซลมอน ถั่วเปลือกแข็ง อะโวคาโด น้ำมันมะกอก
วิตามิน Cกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวใต้คางเต่งตึง ไม่เหี่ยวย่นส้ม ฝรั่ง เบอร์รี บรอกโคลี
คอลลาเจน และกรดอะมิโนช่วยฟื้นฟูความยืดหยุ่นของผิว ลดโอกาสเกิดเหนียงซ้ำน้ำซุปกระดูก ปลา คอลลาเจนเสริม
วิตามิน Eต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันริ้วรอยและช่วยให้ผิวกระชับถั่วอัลมอนด์ เมล็ดทานตะวัน น้ำมันมะกอก3
ไฟเบอร์ช่วยควบคุมน้ำหนัก ลดการสะสมไขมันใหม่ใต้คางผักใบเขียว ธัญพืชเต็มเมล็ด ถั่วต่าง ๆ
น้ำเปล่าดิ่มน้ำเปล่าให้เพียงพอเพื่อรักษาความชุ่มชื้นของผิวและช่วยให้ระบบเผาผลาญทำงานดีขึ้นน้ำแร่หรือน้ำดื่มสะอาดทั่วไป

ทางเลือกลดเหนียงใต้คางด้วยการแพทย์

เมื่อการลดเหนียงด้วยวิธีธรรมชาติอาจใช้เวลานาน หรือไม่ตอบโจทย์ในบางกรณี ปัจจุบันมีเทคโนโลยีและหัตถการทางการแพทย์หลายประเภทที่สามารถช่วยลดเหนียงใต้คางได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยแต่ละวิธีมีจุดเด่นและเหมาะสมกับสภาพปัญหาที่แตกต่างกัน ดังนี้

  • Meso Fat 

    Meso Fat คือเทคนิคฉีดสารสกัด เช่น เลซิติน (Lecithin) และสารสกัดอื่น ๆ เข้าไปในชั้นไขมันใต้คาง เพื่อช่วยสลายไขมันให้แตกตัว และขับออกจากร่างกายตามกระบวนการเผาผลาญตามธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันใต้คางปริมาณไม่มาก และต้องการลดเหนียงโดยไม่ต้องผ่าตัด ผลลัพธ์จะค่อย ๆ เห็นความเปลี่ยนแปลงภายใน 2–4 สัปดาห์หลังทำอย่างต่อเนื่อง

  • Morpheus8 

    Morpheus8 เป็นเทคโนโลยีที่ผสานการปล่อยพลังงานคลื่นความถี่วิทยุ (Radiofrequency) ผ่านเข็มขนาดเล็ก (Microneedling RF) ลงสู่ชั้นไขมันใต้ผิว ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ยกกระชับผิว และสลายไขมันใต้คางไปพร้อมกัน เหมาะสำหรับผู้ที่มีเหนียงร่วมกับปัญหาผิวหย่อนคล้อย สามารถเห็นผลได้หลังทำประมาณ 1–3 เดือน และช่วยให้ผิวกระชับนาน 6-12 เดือน

  • J Plasma

    J Plasma เป็นอุปกรณ์ที่ใช้พลังงานพลาสมาฮีเลียม (Helium Plasma Energy) ร่วมกับคลื่นความถี่วิทยุ เพื่อกำจัดไขมันส่วนเกินใต้คางและกระชับผิวในขั้นตอนเดียว พลังงานความร้อนที่ปล่อยออกมาอย่างแม่นยำช่วยให้เนื้อเยื่อหดตัวโดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อโดยรอบ เหมาะสำหรับผู้ที่มีเหนียงจากปัญหาผิวหย่อนคล้อยระดับปานกลางขึ้นไป และต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจน ปัจจุบันมีเครื่องมือให้เลือกหลากหลาย ยกตัวอย่างเช่น APYX ONE ที่มีขนาดเล็ก เหมาะกับการกระชับผิวลดเหนียงใต้คาง แผลจะมีขนาดค่อนข้างเล็ก จึงช่วยร่นระยะเวลาพักฟื้นได้ดี

  • Ultraformer III

    Ultraformer III คือเทคโนโลยีการยกกระชับผิวและสลายไขมันด้วยคลื่นอัลตราซาวด์พลังงานสูง (High-Intensity Focused Ultrasound: HIFU) ลงลึกสู่ชั้นไขมันใต้คางและชั้น SMAS โดยไม่ต้องผ่าตัด ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่และทำให้ผิวกระชับมากขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันเหนียงเล็กน้อยร่วมกับผิวหย่อนคล้อยในระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง เห็นผลลัพธ์ชัดเจนเต็มที่ภายใน 2–3 เดือนหลังทำ

  • ACCUtite

    ACCUtite เป็นเทคโนโลยีดูดไขมันขนาดเล็กที่ใช้พลังงานคลื่นวิทยุ (Radiofrequency Assisted Lipolysis: RFAL) เพื่อละลายไขมันใต้คาง และกระตุ้นการหดตัวของผิว เครื่องมือมีขนาดเล็กมาก เหมาะสำหรับการกำจัดไขมันบริเวณเล็ก ๆ เช่น คางและกรอบหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์รวดเร็วโดยไม่ต้องทำการผ่าตัดใหญ่

  • Double Chin Surgery

    Double Chin Surgery หรือการผ่าตัดเหนียง เป็นการผ่าตัดศัลยกรรมเพื่อลดเหนียงและปรับแนวกรอบหน้า โดยศัลยแพทย์จะกำจัดไขมันใต้คางทิ้ง พร้อมปรับแต่งกล้ามเนื้อและผิวหนังเพื่อให้ใบหน้าดูเรียวและได้สัดส่วนยิ่งขึ้น วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีเหนียงปริมาณมากหรือมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยอย่างรุนแรง และต้องการผลลัพธ์ระยะยาว ทั้งนี้ ควรปรึกษาศัลยแพทย์เพิ่มเติมเพื่อประเมินความเหมาะสมก่อนการตัดสินใจ

แชร์ :

สรุป

หากมีความกังวลใจเรื่องเหนียง ก็มีวิธีลดเหนียงใต้คางหลายวิธีให้เลือกทำได้หลายวิธี ตั้งแต่การออกกำลังกายใบหน้า นวดกระชับผิว หรือเลือกเทคโนโลยีทางการแพทย์เพื่อผลลัพธ์ที่รวดเร็ว รวมถึงการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น โปรตีน คอลลาเจน และไขมันดี จะช่วยให้ผิวกระชับและรักษาผลลัพธ์ได้นานขึ้น เมื่อดูแลทั้งภายในและภายนอกอย่างดีแล้ว กรอบหน้าเรียวสวยแบบคมชัด ก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม!

กรอกฟอร์ม ปรึกษาหมอ ฟรี!