มัดรวม 15 อาหารลดไขมันในเส้นเลือด รู้ไว้ห่างไกลโรค!

15 อาหารลดไขมันในเส้นเลือด ตัวช่วยสำคัญที่ช่วยป้องกันภัยเงียบจากอาหารแสนอร่อยที่มีอยู่แทบทุกหัวมุมถนน รวมถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เสี่ยงต่อการเกิดโรค โดยเฉพาะโรคหลอดเลือด หากปล่อยไว้นานอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว แต่หากเลือกกินอาหารที่เหมาะสมก็สามารถลดความเสี่ยงเหล่านี้ได้อย่างมาก ไปรู้จักกับอาหารที่ช่วยลดไขมันในเส้นเลือดทั้ง 15 อย่างนี้กัน!
15 อาหารลดไขมันในเส้นเลือด มีอะไรบ้าง? เลือกให้ถูก ป้องกันโรคหัวใจ
15 อาหารลดไขมันในเส้นเลือด มีอะไรบ้าง? การเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมคือหัวใจสำคลัญของการป้องกันภาวะไขมันในเลือดสูง ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด หลายครั้งที่พฤติกรรมการบริโภคอาหารในชีวิตประจำวันทำให้ร่างกายได้รับไขมันมากเกินไปโดยไม่รู้ตัว แต่การปรับเปลี่ยนเล็กน้อยด้วยการเลือกอาหารที่มีคุณสมบัติช่วยลดไขมันในเส้นเลือด สามารถช่วยปกป้องหัวใจให้แข็งแรงในระยะยาวได้ มาดูกันว่าเราควรเลือกกินอะไรบ้าง
ปลาแซลมอน
ปลาแซลมอนเป็นแหล่งสำคัญของกรดไขมันโอเมก้า-3 มีคุณสมบัติช่วยลดระดับไตรกลีเซอไรด์ เพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) รวมทั้งลดการอักเสบของหลอดเลือดและส่งเสริมการไหลเวียนโลหิต ปัจจุบันสามารถหาซื้อได้ทั่วไปตามซูเปอร์มาร์เก็ต ถือเป็นอาหารชนิดแรกที่แพทย์มักแนะนำในการลดไขมันในเส้นเลือดถั่วและเมล็ดพืช
ถั่วและเมล็ดพืชมีไขมันชนิดดี ได้แก่ ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวและเชิงซ้อน ซึ่งมีคุณสมบัติลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี เพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดดี อีกทั้งมีเส้นใยอาหารหรือไฟเบอร์ที่ช่วยลดการดูดซึมไขมัน และสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดการอักเสบในหลอดเลือด การรับประทานถั่วอบเป็นของว่างง่าย ๆ สามารถช่วยลดไขมันในเส้นเลือดได้ข้าวโอ๊ต
ข้าวโอ๊ตเป็นอาหารที่มีไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำสูง โดยเฉพาะเบต้ากลูแคน (Beta Glucan) โดยเฉพาะเบต้ากลูแคน (Beta Glucan) ช่วยลดการดูดซึมคอเลสเตอรอลและลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีในเลือด ทั้งยังช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและส่งเสริมสุขภาพหัวใจน้ำมันมะกอก
น้ำมันมะกอกอุดมด้วยไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีและเพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดดี รวมถึงมีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น โพลีฟีนอล (Polyphenols) ที่ช่วยลดการอักเสบของหลอดเลือด การเลือกใช้น้ำมันมะกอกแทนน้ำมันที่มีไขมันอิ่มตัว เช่น น้ำมันหมู น้ำมันมะพร้าว และน้ำมันปาล์ม จึงมีประโยชน์ต่อหลอดเลือดและหัวใจอะโวคาโด
อะโวคาโดเป็นแหล่งไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว มีส่วนช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี และเพิ่มคอเลสเตอรอลดี มีเส้นใยอาหารและวิตามินอีที่ช่วยลดการอักเสบและการดูดซึมไขมัน ปัจจุบันหาได้ง่าย การเพิ่มอะโวคาโดในมื้ออาหารยังช่วยเพิ่มความหลากหลายทางโภชนาการอีกด้วยผักใบเขียว
ผักใบเขียวหลากหลายชนิดมีไฟเบอร์ละลายน้ำได้ที่ช่วยลดการดูดซึมไขมันที่ไม่ดีเข้าสู่ร่างกาย มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ลูทีน และโพลีฟีนอล อีกทั้งยังมีไนเตรตธรรมชาติที่ช่วยขยายหลอดเลือดและลดความดันโลหิต การบริโภคผักใบเขียวเป็นประจำจึงเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพในระยะยาวกระเทียม
กระเทียมมีสารอัลลิซิน (Allicin) ซึ่งช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีและไตรกลีเซอไรด์ในเลือด ทั้งยังเพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดดีและลดการสะสมของไขมันในหลอดเลือด มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและลดการอักเสบ ซึ่งกระเทียมสับหรือหั่นจะมีแนวโน้มหลั่งสารอัลลิซินได้มากกว่าด้วยเบอร์รี
เบอร์รีมีสารต้านอนุมูลอิสระชนิดแอนโทไซยานิน (Anthocyanins) ที่ช่วยลดการอักเสบและป้องกันการทำลายหลอดเลือด อันส่งผลให้มีความเสี่ยงของโรคต่าง ๆ เช่น โรคหลอดเลือดแดงแข็ง (Atherosclerosis) ที่เกิดจากจากไขมันในเลือดสูง ทั้งยังมีเส้นใยอาหารที่ช่วยควบคุมการดูดซึมคอเลสเตอรอล และควบคุมระดับไขมันในเลือด การรับประทานเบอร์รีเป็นของว่างหรือคู่กับโยเกิร์ตไขมันต่ำ ก็ช่วยควบคุมระดับไขมันในเส้นเลือดได้ดีชาเขียว
ชาเขียวเป็นเครื่องดื่มสุดฮิตในหมู่คนรักสุขภาพ มีสารคาเทชิน (Catechins) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระช่วยลดการดูดซึมและลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี และที่สำคัญคือมีส่วนในการเผาผลาญไขมัน ช่วยลดไขมันสะสมในหลอดเลือดได้ การดื่มชาเขียวแบบไม่ใส่น้ำตาล ก็เป็นอีกทางเลือกการลดไขมันในเส้นเลือดได้ดีทีเดียวครับถั่วเหลือง
ถั่วเหลืองอุดมไปด้วยโปรตีนจากพืชที่ช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี โดยไม่กระทบกับคอเลสเตอรอลชนิดดี และมีไอโซฟลาโวน (Isoflavones) ช่วยลดการอักเสบและป้องกันไขมันสะสมในหลอดเลือด รวมถึงมีเส้นใยอาหารช่วยควบคุมการดูดซึมไขมันได้ ถั่วเหลืองจึงเป็นหนึ่งใน 15 อาหารลดไขมันในเส้นเลือดที่น่าสนใจอย่างมากแอปเปิ้ล
แอปเปิลอุดมไปด้วยไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำได้ เช่น เพคติน (Pectin) ซึ่งช่วยลดการดูดซึมคอเลสเตอรอลในลำไส้ และมีสารต้านอนุมูลอิสระอย่างโพลีฟีนอล ที่ช่วยลดการอักเสบและป้องกันความเสียหายของหลอดเลือด การทานแอปเปิลสัก 1 ลูกทุกวันเป็นประจำนั้นช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีได้ขิง
ขิงมีสารอาหารอย่างจินเจอรอล (Gingerol) และโชกาออล (Shogaol) ที่ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล LDL และไตรกลีเซอไรด์ นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณที่ช่วยลดน้ำตาลในเลือด ช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมันและลดการอักเสบในหลอดเลือด แถมยังสามารถต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง แต่เพราะเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อน จึงควรทานในปริมาณที่พอเหมาะมะเขือเทศ
ไลโคปีน (Lycopene) ที่เราคุ้นหูกันดีในมะเขือเทศ คือสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล LDL และป้องกันการสะสมของไขมันในหลอดเลือด มีโพแทสเซียมและไฟเบอร์ที่ช่วยปรับสมดุลระดับไขมันและลดความดันโลหิต แต่ทั้งนี้ แนะนำให้บริโภคมะเขือเทศที่ผ่านการปรุงสุกจะได้รับไลโคปีนมากกว่าการรับประทานแบบสดโยเกิร์ตไขมันต่ำ
โยเกิร์ตไขมันต่ำอุดมไปด้วยโพรไบโอติกส์ (Probiotics) ที่ช่วยปรับสมดุลแบคทีเรียในลำไส้ เพิ่มประสิทธิภาพในการเผาผลาญไขมันและลดการดูดซึม LDL นอกจากนี้ยังมีโปรตีนและแคลเซียมที่ช่วยให้หัวใจมีสุขภาพที่ดีได้อีกด้วยดาร์กช็อกโกแลต
สารต้านอนุมูลอิสระอีกตัวอย่างฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) ในดาร์กช็อกโกแลต มีคุณสมบัติช่วยเพิ่มระดับ HDL และลด LDL รวมถึงช่วยปรับปรุงการไหลเวียนและลดการอักเสบในหลอดเลือด การทานดาร์กช็อกโกแลตที่มีโกโก้เข้มข้นอย่างน้อย 70% ในปริมาณที่พอดีจึงช่วยเสริมสุขภาพหลอดเลือดของเรานั่นเอง
แจกตาราง! มัดรวมสารอาหารลดไขมันในเส้นเลือด
มาดูการสรุปกันว่า 15 อาหารลดไขมันในเส้นเลือดแต่ละชนิดควรรับประทานในปริมาณเท่าไรจึงเหมาะสม นอกจากนี้ หากต้องการเพิ่มความหลากหลายหรือเบื่ออาหารรูปแบบเดิม ๆ ยังสามารถนำข้อมูลสารอาหารที่รวบรวมไว้นี้ไปค้นหาเพิ่มเติมได้ว่า สารอาหารแต่ละชนิดนั้นสามารถพบได้ในอาหารประเภทใดบ้าง เพื่อให้สามารถปรับมื้ออาหารในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัวและดีต่อสุขภาพ
อาหาร | ปริมาณที่ควรรับประทาน/วัน | สารอาหารที่ช่วยลดไขมันไม่ดี (LDL) | |
1 | ปลาแซลมอน | 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ (ประมาณ 100-150 กรัม/ครั้ง) | กรดไขมันโอเมก้า-3 |
2 | ถั่วและเมล็ดพืช | 1/4 ถ้วย (ประมาณ 30 กรัม) | ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวและเชิงซ้อน, ไฟเบอร์ |
3 | ข้าวโอ๊ต | 1/2 – 1 ถ้วย (ประมาณ 40-80 กรัม) | เบต้ากลูแคน (ไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำได้) |
4 | น้ำมันมะกอก | 1-2 ช้อนโต๊ะ (ประมาณ 15-30 มิลลิลิตร) | กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว, โพลีฟีนอล |
5 | อะโวคาโด | 1/2 ลูก (ประมาณ 50-70 กรัม) | กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว, ไฟเบอร์, วิตามินอี |
6 | ผักใบเขียว | 1-2 ถ้วย (ประมาณ 100-150 กรัม) | ไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำ, ลูทีน, โพลีฟีนอล |
7 | กระเทียม | 1-2 กลีบ (ประมาณ 2-4 กรัม) | อัลลิซิน |
8 | เบอร์รี | 1/2 – 1 ถ้วย (ประมาณ 50-100 กรัม) | แอนโทไซยานิน, ไฟเบอร์ |
9 | ชาเขียว | 1-2 แก้ว (ประมาณ 240-480 มิลลิลิตร) | คาเทชิน (สารต้านอนุมูลอิสระ) |
10 | ถั่วเหลือง | 1/2 ถ้วย (ประมาณ 100 กรัม) | โปรตีนจากพืช, ไอโซฟลาโวน, ไฟเบอร์ |
11 | แอปเปิ้ล | 1 ลูก (ประมาณ 150-200 กรัม) | เพคติน (ไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำได้), โพลีฟีนอล |
12 | ขิง | 1-2 ชิ้น (ประมาณ 2-5 กรัม) | จินเจอรอล, โชกาออล |
13 | มะเขือเทศ | 1-2 ลูก (ประมาณ 150-200 กรัม) | ไลโคปีน, โพแทสเซียม, ไฟเบอร์ |
14 | โยเกิร์ตไขมันต่ำ | 1 ถ้วย (ประมาณ 150-200 กรัม) | โปรไบโอติก, โปรตีน, แคลเซียม |
15 | ดาร์กช็อกโกแลต | 1-2 แผ่น (ประมาณ 20-30 กรัม) | ฟลาโวนอยด์ |
แจกทริค! นอกจากเลือกทานอาหาร จะลดไขมันในเลือดแบบไหนได้อีก?
นอกจากการเลือกทานอาหารที่เหมาะสมแล้ว ยังมีอีกหลายวิธีที่สามารถช่วยลดไขมันในเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวันบางอย่างสามารถช่วยเสริมการลดไขมันและป้องกันโรคหัวใจได้ดียิ่งขึ้น มาดูกันว่ามีวิธีใดบ้างที่สามารถนำไปใช้เพื่อดูแลสุขภาพหลอดเลือดได้
ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เช่น วิ่ง ปั่นจักรยาน หรือว่ายน้ำ ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมันสะสม เพิ่มระดับไขมันชนิดดี ลดระดับฮอร์โมนคอร์ติซอล และเพิ่มความไวต่ออินซูลิน ส่งผลให้ระดับน้ำตาลและไขมันในเลือดสมดุล ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนโลหิต ลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ลดอาหารที่มีไขมันทรานส์
การหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันทรานส์ เช่น ขนมอบและของทอด จะช่วยลดระดับไขมันชนิดไม่ดีและป้องกันการลดลงของไขมันชนิดดี ส่งผลให้ลดการสะสมไขมันในหลอดเลือด และช่วยระบบไหลเวียนโลหิตทำงานได้ดีขึ้นนอนหลับให้เพียงพอ
การนอนหลับที่เพียงพอจะช่วยลดระดับฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการสะสมไขมัน และช่วยให้ร่างกายตอบสนองต่ออินซูลินได้ดีขึ้น ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดมีความสมดุล พร้อมเพิ่มการหลั่ง Growth Hormone ส่งเสริมการเผาผลาญไขมันอย่างมีประสิทธิภาพลดแอลกอฮอล์และบุหรี่
การงดหรือลดการบริโภคแอลกอฮอล์และบุหรี่ ช่วยลดการผลิตไขมันชนิดไม่ดีและป้องกันการลดลงของไขมันชนิดดี รวมถึงลดการอักเสบของหลอดเลือดจากสารพิษที่มากับบุหรี่และแอลกอฮอล์ ตับจะสามารถจัดการไขมันส่วนเกินได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดและหัวใจได้
สรุป
การเลือกรับประทาน 15 อาหารลดไขมันในเส้นเลือด เป็นหนึ่งในวิธีการดูแลสุขภาพที่สามารถเริ่มต้นได้ด้วยตนเอง โดยเน้นที่สารอาหารที่มีคุณสมบัติลดระดับไขมันในเลือดและป้องกันการอักเสบของหลอดเลือด นอกจากนี้ การปรับพฤติกรรมการดำเนินชีวิต เช่น การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง เช่น บุหรี่และแอลกอฮอล์ ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยสร้างสมดุลในร่างกาย อย่างไรก็ตาม หากมีความกังวลว่าตนเองอาจมีภาวะไขมันในเลือดสูง ควรเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับคำแนะนำที่เหมาะสมต่อไป