หน้าบวมเกิดจากอะไร อันตรายไหม มีวิธีแก้ไขอย่างไรบ้าง

หน้าบวม

อาการหน้าบวมเป็นภาวะที่หลายคนอาจเคยเป็นโดยเฉพาะในตอนเช้าที่ตื่นนอนแล้วสังเกตว่าหน้ามีลักษณะบวม ตึง หรือรู้สึกไม่กระชับเหมือนปกติ ซึ่งในบางครั้งอาการนี้อาจหายไปได้เอง แต่ในบางกรณีกลับเป็นสัญญาณเตือนถึงปัญหาสุขภาพที่ควรใส่ใจ ความจริงหน้าบวมไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะอาจเกี่ยวข้องกับระบบทำงานภายในร่างกาย เช่น การทำงานของไต ภูมิคุ้มกัน หรือการอักเสบ หากละเลยอาจนำไปสู่โรคที่รุนแรงกว่าได้ ดังนั้นการทำความเข้าใจของอาการนี้ทำให้ได้วิธีการรักษาอย่างถูกวิธี

เลือกอ่านตามหัวข้อด้านล่าง

หน้าบวมอาการเป็นอย่างไร

หน้าบวมอาหารอย่างไร

โดยทั่วไปแล้วอาการหน้าบวมจะสังเกตได้จากลักษณะใบหน้าที่ผิดปกติไปจากเดิม เช่น ใบหน้าดูบวมขึ้นทั้งสองข้าง ตาบวม หนังตาตก หรือริมฝีปากบวม ในบางคนอาจมีอาการตึง เจ็บ หรือรู้สึกไม่สบายบริเวณผิวหน้า อาการเหล่านี้อาจเกิดขึ้นชั่วคราว เช่น หลังตื่นนอน หรืออาจเกิดต่อเนื่องนานหลายวัน


นอกจากนี้ ยังมีความแตกต่างที่สำคัญระหว่างหน้าบวมจากสาเหตุทั่วไป เช่น การดื่มน้ำมากเกินไปก่อนนอน กับหน้าบวมจากโรคหรือความผิดปกติของอวัยวะภายใน หากอาการบวมเกิดขึ้นบ่อย ๆ หรือรุนแรงขึ้น ควรรีบพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง

สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการหน้าบวม

อาารหน้าบวมอาจดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กแต่แท้จริงแล้วมีสาเหตุซ่อนอยู่มากมาย ทั้งจากพฤติกรรมในชีวิตประจำวันและปัญหาสุขภาพที่ควรใส่ใจ การทำความเข้าใจว่าหน้าบวมเกิดจากอะไร จะช่วยให้เราสามารถแก้ไขได้ตรงจุดและป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำ ดังนั้นเรามาดูกันว่าปัจจัยที่ทำให้เกิดหน้าบวมมีอะไรบ้าง

  1. การอักเสบ

    การอักเสบของเนื้อเยื่อหรือผิวหนัง เช่น สิวอักเสบ การติดเชื้อแบคทีเรีย หรือการบาดเจ็บ สามารถทำให้หน้าบวมได้อาการบวมที่เกิดจากการอักเสบมักมาพร้อมกับความร้อน รอยแดง และเจ็บ หากเกิดจากการติดเชื้อควรได้รับการรักษาอย่างถูกต้องเพื่อป้องกันการลุกลาม
  2. การภูมิแพ้

    หนึ่งในสาเหตุที่พบบ่อยคือการแพ้ ไม่ว่าจะเป็นการแพ้อาหาร การแพ้ยา หรือการแพ้สารบางชนิด อาหารแพ้มักทำให้หน้าบวม ตาบวม และบางครั้งอาจเกิดผื่นคันร่วมด้วย ในกรณีรุนแรงอย่างภาวะ Anaphylaxis อาจมีอาการหายใจติดขัดซึ่งเป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องรีบพบแพทย์เพื่อทำการรักษา
  3. การสะสมของเหลวในเนื้อเยื่อ

    เมื่อร่างกายมีความผิดปกติในการระบายของเหลวจะทำให้เกิดการสะสมของน้ำในเนื้อเยื่อ โดยเฉพาะใบหน้าและรอบดวงตาจึงเห็นเป็นอาการหน้าบวมการสะสมของเหลวอาจเกิดจากปัญหาหัวใจ ไต หรือระบบไหลเวียนเลือด
  4. บริโภคโซเดียมมากเกินไป

    การรับประทานอาหารที่มีโซเดียมสูง เช่น อาหารสำเร็จรูป บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ของหมักดอง หรืออาหารฟาสต์ฟู้ดสามารถทำให้ร่างกายกักเก็บน้ำมากขึ้น ส่งผลให้เกิดอาการหน้าบวมโดยเฉพาะในตอนเช้าซึ่งเป็นอาการที่พบได้บ่อยในคนรุ่นใหม่ที่ชอบอาหารรสจัดและรสชาติเค็ม
  5. โรคไต

    โรคไตถือเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้หน้าบวม เนื่องจากไตทำหน้าที่กรองของเสียและควบคุมน้ำในร่างกาย หากไตทำงานผิดปกติ น้ำและเกลือแร่จะคั่งอยู่ในร่างกายมากขึ้น ทำให้เกิดอาการบวมทั้งใบหน้า รอบดวงตา และอวัยวะอื่น ๆ เช่น ขาและเท้า
  6. การใช้ยาบางชนิด

    ยาบางประเภท เช่น สเตียรอยด์ ยาคุมกำเนิด หรือยาความดันบางชนิด อาจมีผลข้างเคียงทำให้ร่างกายกักเก็บน้ำ ส่งผลให้ใบหน้าบวมซึ่งมักหายไปเมื่อหยุดใช้ยานั้น ๆ แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการหยุดใช้ยาทุกครั้ง
  7. ตั้งครรภ์

    หญิงตั้งครรภ์มักพบกับอาการบวมตามร่างกายรวมถึงหน้าบวม เนื่องจากร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนและมีปริมาณของเหลวเพิ่มขึ้นในระบบไหลเวียน การบวมเล็กน้อยอาจเป็นเรื่องปกติแต่ถ้าบวมมากผิดปกติ

โรคไต หนึ่งสาเหตุที่ทำให้หน้าบวม

ไตเป็นอวัยวะที่มีบทบาทสำคัญต่อการขับของเสียและควบคุมสมดุลน้ำ หากไตทำงานบกพร่องน้ำและเกลือจะสะสมอยู่ในร่างกายส่งผลให้เกิดอาการหน้าบวม และอาการบวมส่วนอื่น ๆ เช่น ตาบวม ขาบวม หรือเท้าบวม ผู้ที่มีโรคไตเรื้อรังมักจะมีอาการบวมเป็นประจำ โดยอาจเกิดขึ้นตั้งแต่ระยะเริ่มต้นจนถึงระยะรุนแรง

 

อาการจากโรคไตแตกต่างจากการบวมทั่วไป เพราะมักเป็นต่อเนื่องไม่หายไปง่าย ๆ และบางครั้งจะรุนแรงมากขึ้นหากไม่ได้รับการรักษา ดังนั้นหากสังเกตว่าหน้าบวมร่วมกับอาการผิดปกติอื่น ๆ เช่น ปัสสาวะน้อยลง เหนื่อยง่าย หรือมีความดันโลหิตสูง ควรรีบตรวจสุขภาพไต

วิธีการรักษาหน้าบวมจากโรคไต

การรักษาหน้าบวมจากโรคไตต้องอาศัยการดูแลอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ เพราะต้นเหตุของปัญหาอยู่ที่การทำงานผิดปกติของไต โดยวิธีรักษาที่ใช้มีดังนี้

  1. ควบคุมอาหาร

    ผู้ป่วยโรคไตควรจำกัดการบริโภคโซเดียมและโปรตีนบางชนิดเพื่อลดการทำงานหนักของไตและควรเลือกรับประทานอาหารที่ช่วยควบคุมระดับน้ำและเกลือในร่างกายให้อยู่ในสมดุล
  2. ใช้ยา

    แพทย์อาจให้ยาปัสสาวะหรือยาประเภทอื่น เพื่อช่วยลดการบวมและควบคุมอาการต่าง ๆ ยาจะช่วยบรรเทาอาการแต่ไม่สามารถรักษาโรคไตให้หายขาดได้จำเป็นต้องติดตามการรักษาอย่างสม่ำเสมอ
  3. ฟอกไต (Dialysis)

    ในกรณีที่ไตไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ การฟอกไตถือเป็นวิธีสำคัญในการขับของเสียและน้ำส่วนเกินออกจากร่างกาย การฟอกไตช่วยลดอาการบวมได้อย่างชัดเจนและยืดอายุการทำงานของร่างกาย
  4. เปลี่ยนไต (Kidney Transplant)

    การปลูกถ่ายไตเป็นวิธีการรักษาที่ถือว่ามีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับผู้ป่วยโรคไตระยะสุดท้าย หากการฟอกไตไม่เพียงพอการเปลี่ยนไตจะช่วยให้ผู้ป่วยกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและลดอาการบวมได้
แชร์ :

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับหน้าบวม

หน้าบวม ตาบวม ควรทำอย่างไร?

หากหน้าบวมและตาบวมเพียงเล็กน้อยควรพักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงอาหารเค็ม ดื่มน้ำในปริมาณเหมาะสมและประคบเย็นเพื่อลดอาการอักเสบแต่ถ้าอาการไม่ดีขึ้นภายใน 2 – 3 วัน หรือมีอาการร่วมอื่น เช่น หายใจติดขัดควรรีบพบแพทย์ทันที

อาการหน้าบวมตอนเช้ามักเกิดจากการนอนหลังไม่เพียงพอ การนอนผิดท่าหรือการดื่มน้ำมากเกินไปก่อนนอน วิธีแก้คือปรับพฤติกรรมการนอน ลดการบริโภคโซเดียมและอาจทำการนวดหน้าเบา ๆ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด

โซเดียมทำให้ร่างกายกักเก็บน้ำมากขึ้น ส่งผลให้เกิดอาการหน้าบวมได้ง่าย โดยเฉพาะผู้ที่ชอบทานอาหารเค็ม หากต้องการลดอาการบวม ควรลดการบริโภคโซเดียมลง เลือกอาหารสดใหม่แทนอาหารแปรรูป และดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสม

สรุปบทความ

หน้าบวมเป็นอาการที่พบได้บ่อยและมีหลายสาเหตุ ตั้งแต่พฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น การนอนหลับไม่เพียงพอ การรับประทานอาหารเค็มไปจนถึงโรคที่ร้ายแรงอย่างโรคไตหรือการแพ้ยา การสังเกตอาการและรู้เท่าทันสาเหตุจึงมีความสำคัญอย่างมาก เพราะจะช่วยให้สามารถเลือกวิธีแก้ไขที่เหมาะสมได้ หากเป็นอาการเล็กน้อยก็สามารถดูแลตัวเองเบื้องต้นได้ แต่หากอาการรุนแรงหรือเกิดซ้ำบ่อย ๆ ควรรีบพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุ 

การดูแลตัวเองด้วยการควบคุมอาหาร ลดโซเดียม ดื่มน้ำให้เพียงพอ และพักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม สามารถช่วยลดปัญหาหน้าบวมได้ นอกจากนี้การเข้าใจร่างกายและพฤติกรรมบางอย่าง เช่น การดื่มแอลกอฮอล์ หรือการเลือกใช้หัตถการเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยให้เราดูแลได้ดียิ่งขึ้น 

สุดท้ายแล้วการใส่ใจสุขภาพและใจคือหัวใจสำคัญในการป้องกันอาการหน้าบวม เพราะเมื่อร่างกายแข็งแรง ระบบภายในทำงานสมดุล อาการบวมที่สร้างความกังวลก็จะลดลงทำให้คุณสามารถมีใบหน้าที่สดใสมั่นใจได้ทุก ๆ วัน

กรอกฟอร์ม ปรึกษาหมอ ฟรี!

Thank You!

You details has been successfully submitted. Thanks!

ขอบคุณ!

ข้อมูลของคุณถูกส่งเรียบร้อยแล้ว 

ขอบคุณข้อเสนอแนะติชม