อยากกำจัดก้อนไขมันใต้รักแร้ ควรทำอย่างไร มีวิธีไหนบ้าง

ก้อนไขมันใต้รักแร้ เป็นหนึ่งในปัญหาที่หลายคนอาจรู้สึกไม่มั่นใจ โดยเฉพาะเวลาสวมเสื้อผ้าที่ต้องโชว์ช่วงแขนหรือชุดรัดรูป ซึ่งก้อนไขมันบริเวณนี้มักเกิดจากการสะสมของไขมันส่วนเกิน หรือในบางกรณีอาจเป็นเนื้อเยื่อส่วนเกินที่ยื่นออกมาจากเต้านมหรือรักแร้ ซึ่งไม่เพียงแต่ส่งผลต่อรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น แต่ยังอาจทำให้รู้สึกไม่สบายหรือเสียดสีเวลาเคลื่อนไหว หลายคนจึงมองหาวิธีในการกำจัดก้อนไขมันใต้รักแร้เพื่อคืนความมั่นใจให้กับตัวเอง ในบทความนี้เราจะพาไปดูว่าสาเหตุคืออะไร และมีวิธีไหนบ้างที่สามารถช่วยจัดการกับปัญหานี้ได้อย่างเห็นผลและมีความปลอดภัย
5 ปัจจัยที่ทำให้เกิดก้อนไขมันใต้รักแร้
ก้อนไขมันใต้รักแร้เป็นภาวะที่หลายคนพบเจอ โดยเฉพาะในผู้หญิง ซึ่งอาจเกิดจากหลายสาเหตุที่แตกต่างกัน ทั้งทางพันธุกรรม พฤติกรรมการใช้ชีวิต ไปจนถึงการเปลี่ยนแปลงภายในร่างกาย โดยการทำความเข้าใจถึงสาเหตุจะช่วยให้สามารถกำจัดก้อนไขมันใต้รักแร้ได้อย่างถูกจุดและให้ผลลัพธ์ที่ดี
1. กรรมพันธุ์
ในบางคนมีแนวโน้มที่ร่างกายจะสะสมไขมันในบริเวณเฉพาะจุด เช่น รอบเอว ต้นแขน หรือใต้รักแร้ ซึ่งถ่ายทอดมาจากพันธุกรรม หากคนในครอบครัวมีปัญหาก้อนไขมันใต้รักแร้ ก็มีโอกาสที่จะมีปัญหานี้เช่นกัน แม้จะมีรูปร่างสมส่วนโดยรวมก็ตาม
2. ไขมันส่วนเกิน
การรับประทานอาหารที่ให้พลังงานสูง ร่วมกับการออกกำลังกายไม่เพียงพอ อาจทำให้ร่างกายสะสมไขมันไว้ในหลายจุด รวมถึงบริเวณรักแร้ โดยเฉพาะในคนที่มีน้ำหนักเกินหรือภาวะโรคอ้วน ซึ่งมักจะเห็นเนื้อปูดออกมาได้ชัดเจนมากขึ้นเมื่อต้องสวมเสื้อรัดรูปหรือชุดชั้นในที่รัดแน่น
3. ความหย่อนคล้อย
เมื่ออายุเพิ่มขึ้นหรือหลังจากการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว ผิวหนังและกล้ามเนื้อบริเวณใต้แขนและรักแร้อาจเกิดความหย่อนคล้อย ส่งผลให้เกิดก้อนเนื้อหรือไขมันที่ยื่นออกมา ส่งผลต่อรูปลักษณ์และความมั่นใจ
4. การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
ฮอร์โมนในร่างกายมีบทบาทสำคัญต่อการสะสมไขมัน โดยเฉพาะในช่วงวัยรุ่น วัยหมดประจำเดือน หรือช่วงตั้งครรภ์ ซึ่งฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งอาจกระตุ้นให้ไขมันสะสมในบางบริเวณ เช่น หน้าอก สะโพก และบริเวณรักแร้ ทำให้เกิดก้อนไขมันใต้รักแร้ที่เห็นได้ชัด
5. เนื้อเยื่อเต้านมที่ผิดปกติ
ในบางกรณี ก้อนไขมันใต้รักแร้อาจไม่ใช่ไขมันแท้ แต่เป็นเนื้อเยื่อเต้านมที่แผ่ขยายออกไปในบริเวณรักแร้ ซึ่งเรียกว่า “Accessory Breast Tissue” หรือเนื้อเยื่อเต้านมส่วนเกิน โดยมักพบได้ตั้งแต่กำเนิด แต่จะเห็นชัดเจนขึ้นในช่วงที่ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง เช่น ช่วงมีประจำเดือนหรือให้นมบุตร
ก้อนไขมันใต้รักแร้อันตรายไหม
หลายคนที่พบว่ามีก้อนเนื้อหรือก้อนไขมันใต้รักแร้อาจรู้สึกกังวลว่าอาจจะเป็นสัญญาณของโรคร้ายหรือไม่ โดยทั่วไปแล้ว เป็นเพียงไขมันสะสมหรือเนื้อเยื่อส่วนเกินที่ไม่เป็นอันตราย อย่างไรก็ตาม หากก้อนมีลักษณะแข็ง เจ็บ มีการเปลี่ยนแปลงของผิวหนัง หรือโตเร็วผิดปกติ ควรพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด เพราะอาจเป็นสัญญาณของความผิดปกติอื่น ๆ ที่ไม่ควรมองข้าม ดังนั้น การสังเกตความเปลี่ยนแปลงของก้อนไขมันใต้รักแร้อย่างสม่ำเสมอจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ควรให้ความใส่ใจ
ก้อนไขมันใต้รักแร้ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างไร
แม้ว่าก้อนไขมันใต้รักแร้จะไม่ใช่ปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงในหลายกรณี แต่ก็มักจะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันไม่น้อย โดยเฉพาะเรื่องความมั่นใจในการแต่งตัว บางคนอาจหลีกเลี่ยงการใส่เสื้อแขนกุดหรือเสื้อรัดรูปเพราะไม่ต้องการให้ก้อนเนื้อบริเวณนั้นเห็นชัด นอกจากนี้ ก้อนไขมันใต้รักแร้อาจทำให้รู้สึกไม่สบายเวลาเคลื่อนไหวหรือออกกำลังกาย โดยเฉพาะหากมีการเสียดสีหรืออาการเจ็บร่วมด้วย ในบางรายที่ก้อนมีขนาดใหญ่ผิดปกติ อาจต้องปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาวิธีการรักษาที่เหมาะสม เพื่อให้กลับมาใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจและสะดวกสบายยิ่งขึ้น
3 วิธีการรักษาก้อนไขมันใต้รักแร้
ก้อนไขมันใต้รักแร้อาจสร้างความกังวลใจทั้งในแง่ความสวยงามและความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน แต่ในปัจจุบันมีหลายวิธีในการรักษา ซึ่งสามารถเลือกให้เหมาะกับสกับสาเหตุและความต้องการของแต่ละคนได้
1. การออกกำลังกาย
การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะการบริหารกล้ามเนื้อช่วงแขนและหน้าอก เช่น วิดพื้น ยกดัมเบล หรือว่ายน้ำ สามารถช่วยลดปริมาณไขมันส่วนเกินได้ในระดับหนึ่ง แม้จะไม่สามารถกำจัดก้อนไขมันใต้รักแร้ได้อย่างเฉพาะเจาะจง แต่ก็ช่วยให้รูปร่างกระชับและลดความหย่อนคล้อยลง ซึ่งการออกกำลังกายควรทำควบคู่กับการควบคุมอาหาร เพื่อผลลัพธ์ที่เห็นชัดเจนขึ้นในระยะยาว และช่วยป้องกันการสะสมไขมันใหม่ในอนาคต
2. การผ่าตัด
การผ่าตัดเหมาะสำหรับผู้ที่มีก้อนไขมันใต้รักแร้ขนาดใหญ่และโตขึ้นอย่างรวดเร็ว หรือมีลักษณะผิดปกติ เช่น ก้อนแข็ง ไม่เคลื่อนไหว เจ็บเมื่อสัมผัส หรือมีผิวหนังบริเวณรอบ ๆ เปลี่ยนแปลง ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของภาวะที่ไม่ใช่ไขมันธรรมดา เช่น ซีสต์ เนื้องอก หรือเนื้อเยื่อเต้านมส่วนเกิน (Accessory Breast Tissue)
ทั้งนี้ควรให้แพทย์ตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียดร่วมกับการทำอัลตราซาวด์หรือแมมโมแกรม เพื่อแยกแยะประเภทของก้อนก่อนตัดสินใจผ่าตัด โดยการผ่าตัดควรดำเนินการโดยศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ปลอดภัย ลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน และฟื้นตัวได้ดี
3. โปรแกรมดูดไขมันใต้รักแร้
การทำโปรแกรมดูดไขมันใต้รักแร้หรือที่เรียกกันว่า “โปรแกรมดูดไขมันนมน้อย” เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมสำหรับผู้ที่มี ก้อนไขมันใต้รักแร้ ซึ่งเกิดจากการสะสมของไขมันส่วนเกินบริเวณนี้ โดยเฉพาะในผู้หญิงที่มีเนื้อปลิ้นออกมาจากสายเสื้อชั้นใน ซึ่งการทำโปรแกรมดูดไขมันช่วยลดก้อนไขมันได้อย่างถูกจุด ทำให้วงแขนเรียวกระชับและดูสวยงามยิ่งขึ้น
ที่ AM International Hospital มีบริการโปรแกรมดูดไขมันนมน้อย โดยแพทย์ผู้ชำนาญการด้านการดูดไขมัน โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น โปรแกรม Vaser Smooth 2.2, โปรแกรม Body-jet, โปรแกรม Ultra Z และโปรแกรม MicroAire ซึ่งช่วยลดไขมันได้อย่างอ่อนโยนและมีประสิทธิภาพ พร้อมเทคนิคการเปิดแผลเล็ก ใช้เวลาพักฟื้นระยะสั้น ทำให้ผิวใต้วงแขนเรียบเนียน กล้าใส่เสื้อผ้าได้หลากหลายสไตล์ได้อย่างมั่นใจ
นอกจากนี้ ยังมีบริการ After Care ดูแลหลังการดูดไขมัน อย่างครอบคลุมและดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ผู้เข้ารับบริการฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วและเกิดความปลอดภัย หลีกเลี่ยงผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์ ช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาดีมีประสิทธิภาพ
อ่านเพิ่มเติม : ดูดไขมันอันตรายไหม ทำความเข้าใจก่อนตัดสินใจ
สรุป
ก้อนไขมันใต้รักแร้เป็นปัญหาสัดส่วนที่ส่งผลต่อความมั่นใจและการใช้ชีวิตประจำวัน ด้วยสาเหตุที่หลากหลาย ทั้งจากกรรมพันธุ์ ไขมันส่วนเกิน หรือความผิดปกติของเนื้อเยื่อ การหมั่นสังเกตความเปลี่ยนแปลงของร่างกาย และเลือกรูปแบบการรักษาที่เหมาะสม เช่น การออกกำลังกาย การผ่าตัด หรือโปรแกรมดูดไขมัน จึงเป็นสิ่งสำคัญ หากต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนและการดูแลให้เกิดความปลอดภัย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสม พร้อมกลับมามีวงแขนเรียบเนียน ไร้ก้อนไขมัน และสนุกกับการแต่งตัวมากขึ้น
Post Info
Social Media


โปรแกรมฟิลเลอร์กรอบหน้าช่วยอะไรบ้าง ฉีดตรงไหนดี เติมเต็มรูปหน้าให้คมชัด

ฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์หลุมสิวดีไหม เห็นผลนานแค่ไหน ต่างจากวิธีอื่นอย่างไร
