
ร่องแก้ม เกิดจากอะไร ร่องแก้มลึก ใบหน้าดูโทรมและความมั่นใจที่ลดลง ทำให้หลายคนคิดว่านี่เป็นเพียงสัญญาณแห่งวัยอันไม่สามารถหลีกหนีได้ แต่ความจริงแล้ว ร่องแก้มไม่ได้มีสาเหตุจากอายุเพียงอย่างเดียว เพราะพฤติกรรมในการใช้ชีวิตประจำวัน ทั้งแสงแดด การแสดงสีหน้า และสภาพแวดล้อมต่างเป็นตัวการที่ทำให้เกิดร่องแก้มปรากฎขึ้นเร็วกว่าที่ควร มาดูไปพร้อม ๆ กันเลยว่าร่องแก้ม เกิดจากอะไรบ้าง
เลือกอ่านตามหัวข้อด้านล่าง
ร่องแก้ม เกิดจากอะไร
ร่องแก้ม หรือเรียกอีกอย่างว่า “ร่องน้ำหมาก” เป็นรอยลึกพาดยาวจากปีกจมูกมายังมุมปาก เป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงของผิวหน้าตามอายุที่เพิ่มขึ้น โดยการเกิดร่องแก้มถือเป็นสัญญาณของอายุที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จึงทำให้หลายคนเกิดการกังวล โดยเฉพาะเมื่อก้าวเข้าสู่วัย 30 ปีขึ้นไป
ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในร่างกาย แต่มีหลายปัจจัยที่ทำให้ร่องแก้มเกิดขึ้นเร็วและชัดกว่าที่ควร บางคนอาจมีร่างแก้มเกิดขึ้นมาตั้งแต่อายุยังน้อย ร่องแก้ม เกิดจากภายในร่างกาย พันธุกรรม หรือมาจากพฤติกรรมชีวิตประจำวันที่ทำลายความยืดหยุ่นของผิว โดยมีการแบ่งปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดร่องแก้มได้เป็น 3 กลุ่มใหญ่ ได้แก่
รังสี UV
รังสีอัลตราไวโอเลต หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า รังสี UV เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร รวมไปถึงร่องแก้ม โดยรังสี UV มาจากแสงแดดสามารถทะลุเข้าสู่ชั้นผิวหนังได้ลึก ส่งผลถึงคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งเป็นโปรตีนที่ทำให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่นและมีความตึงกระชับ
เมื่อร่างกายได้รับรังสี UV อย่างต่อเนื่องโดยไม่มีการป้องกัน เช่น การไม่ทาครีมกันแดด หรืออยู่กลางแดดนานเกินไป ผิวจะเริ่มเสียหายอย่างเงียบ ๆ เรียกภาวะนี้ว่า “Photoaging” หรือการเสื่อมของผิวจากแสงแดดโดยตรง ทำให้ผิวแห้งกร้าน สูญเสียความชุ่มชื้น คอลลาเจนและอีลาสตินเสื่อมสภาพ ผิวหย่อนคล้อย เกิดความหมองคล้ำ จุดด่างดำ ร่องแก้มที่เกิดจากสาเหตุนี้จะเห็นชัดว่าร่องลึกขึ้น เพราะโครงสร้างผิวขาดการพยุงจากโปรตีนใต้ผิว
การขยับของใบหน้า
ร่องแก้มเกิดจากการแสดงสีหน้าแบบซ้ำ ๆ โดยไม่รู้ตัวได้เช่นกัน เช่น การยิ้ม หัวเราะ หรือพูด ซึ่งจะกระตุ้นให้กล้ามเนื้อใบหน้าบริเวณนั้นทำงานต่อเนื่องกันมากเกิดไป ส่งผลให้เกิดร่องลึกตามแนวกล้ามเนื้อที่เคลื่อนไหวบ่อย ๆ
ในช่วงวัยหนุ่มสาว ผิวยังมีความยืดหยุ่นสูง แม้จะเกิดการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อใบหน้าบ่อย ๆ ก็สามารถคืนตัวได้ดี แต่เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ความสามารถในการฟื้นตัวของผิวจะลดลง และเมื่อมีการเคลื่อนไหวซ้ำไปมาจะทำให้เกิดร่องลึกที่กลายเป็นร่องแก้มในอนาคต
นอกจากนี้ การนอนตะแคงหรือนอนคว่ำ ก็มีผลทำให้เกิดแรงกดทับบริเวณใบหน้าฝั่งหนึ่งเป็นประจำ ส่งผลให้ผิวหนังพับตัวและสร้างร่องลึกในระยะยาวได้เช่นกัน
พฤติกรรมการใช้ชีวิต
พฤติกรรมในชีวิตประจำวันที่ดูเหมือนเล็กน้อย แต่กลับส่งผลอย่างใหญ่หลวงต่อสุขภาพผิวโดยตรง คือการสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นสาเหตุของร่องแก้มที่เกิดจากการถูกทำลายโครงสร้างผิว
ควันบุหรี่ที่ประกอบด้วยสารเคมีมากกว่า 4,000 ชนิดนั้นสามารถทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวหนังได้ ลดการไหลเวียนของเลือดไปยังผิวหนัง ทำให้ผิวดูซีดเหลืองและขาดความสดใส อีกทั้งสารพิษจากควันที่เข้าสู่ร่างกายยังส่งผลต่อกล้ามเนื้อรอบปาก ทำให้เกิดรอยย่นบริเวณร่องแก้มและมุมปาก
ส่วนการดื่มแอลกอฮอล์ที่มีฤทธิ์ขับปัสสาวะนั้นทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำ ส่งผลให้ผิวแห้งและขาดความชุ่มชื้น ทั้งยังทำลายวิตามินและแร่ธาตุสำคัญอย่างวิตามิน A และ C ที่ช่วยบำรุงผิว ทำให้ผิวบางลงและลดความสามารถในการฟื้นฟูเซลล์ผิว หากดื่มแอลกอฮอล์บ่อยและในปริมาณมากจะทำให้ร่องแก้มลึกและเห็นชัดขึ้น
นอกจากการสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์แล้ว ยังมีพฤติกรรมอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อการเกิดร่องแก้มอย่างชัดเจน เช่น การนอนหลับไม่เพียงพอหรือพักผ่อนไม่พอ ซึ่งทำให้ผิวขาดการฟื้นฟูตัวเองอย่างเต็มที่ ความเครียดเรื้อรังที่สะสมก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ผิวเสียสมดุลและเกิดริ้วรอยได้ง่ายขึ้น รวมถึงการรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ ขาดสารอาหารสำคัญที่ช่วยบำรุงผิว ก็ยิ่งทำให้โครงสร้างผิวอ่อนแอและร่องแก้มลึกขึ้นในอนาคต
อายุที่เพิ่มมากขึ้น
ร่องแก้มเกิดจากอายุที่มากขึ้นได้เช่นกัน เพราะอายุของผิวเป็นสาเหตุพื้นฐานของการเกิดร่องแก้ม เนื่องมาจากกระบวนการทำงานของร่างกายโดยรวมช้าลง รวมถึงกระบวนการผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิวที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสารสำคัญที่ช่วยให้ผิวตึง ยืดหยุ่น และไม่หย่อนคล้อย
ในวัยเด็กจนถึงช่วงอายุประมาณ 25 ปี ร่างกายจะสามารถผลิตคอลลาเจนได้เต็มที่ ผิวจึงยังดูเต่งตึง ยืดหยุ่นดี ไม่มีร่องลึก แต่เมื่อร่างกายเข้าสู่ช่วงอายุ 30 ปีขึ้นไป ร่างกายจะเริ่มผลิตคอลลาเจนลดลงทุกปีโดยเฉลี่ยปีละ 1% – 1.5% และลดลงมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อถึงวัย 40 – 50 ปี ผลจากการที่คอลลาเจนลดลงนั้นทำให้ผิวบางลงและไม่สามารถพยุงโครงสร้างใบหน้าได้เหมือนเดิม ไขมันใต้ผิวหนังเริ่มเคลื่อนตัวลงตามแรงโน้มถ่วง บริเวณแก้มกระดูกใบหน้าหดตัวลงเล็กน้อย ทำให้เนื้อบริเวณแก้มและมุมปากย้อยลงมา ผิวจึงเริ่มหย่อนคล้อย
วิธีแก้ไขปัญหาร้องแก้ม ลดริ้วรอยแห่งไว
เมื่อร่องแก้มเริ่มลึกและเห็นชัดขึ้น ทำให้มีความรู้สึกที่ไม่มั่นใจ พยายามหาวิธีการมาปิดร่องแก้มที่เกิดขึ้นด้วยการเมคอัพหรือการแต่งภาพต่าง ๆ การดูแลผิวเพียงภายนอกอาจไม่เพียงพอ แต่การแก้ไขร่องแก้มอย่างตรงจุดต้องเริ่มจากการเข้าใจผิวพรรณ ใบหน้าของเรา เพื่อเลือกวิธีการดูแลที่เหมาะสม หลายคนจึงมองหาวิธีลดร่องแก้มและริ้วรอยที่ได้ผลจริง ทั้งแบบไม่ต้องเจ็บตัวไปจนถึงวิธีทางการแพทย์ที่เห็นผลรวดเร็ว
ในปัจจุบันมีทางเลือกหลากหลาย ทั้งการดูแลผิวด้วยสกินแคร์ การรับประทานอาหารเสริม ไปจนถึงหัตถการทางการแพทย์ เช่น โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ โปรแกรมฉีดโบท็อก หรือโปรแกรมฉีดไขมัน ซึ่งสามารถฟื้นฟูใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์เพื่อดูแลให้ปลอดภัยและเห็นผลจริง
ทาครีมบำรุง ลดริ้วรอย
การใช้ครีมบำรุงอย่างถูกวิธีเป็นพื้นฐานที่สำคัญที่สุดในการชะลอและลดร่องแก้ม เช่น เรตินอล เปปไทด์ ไฮยาลูรอนิก แอซิด และวิตามินซี ล้วนช่วยในด้านต่างกัน แต่จะได้ผลดีเมื่อเลือกให้เหมาะกับสภาพผิวและใช้เป็นประจำแบบมีระบบ
- เรตินอล (Retinol) ควรเริ่มจากความเข้มข้นต่ำหนึ่งถึงสองครั้งต่อสัปดาห์แล้วค่อยเพิ่มความถี่เมื่อผิวทนได้ดี เพราะเรตินอลกระตุ้นการผลัดเซลล์และสร้างคอลลาเจน แต่ก็อาจทำให้ระคายเคืองหากเริ่มใช้แรงเกินไป สามารถ “บัฟเฟอร์” โดยทามอยส์เจอไรเซอร์ก่อนหรือหลังเล็กน้อยเพื่อลดการแสบแดง และอย่าลืมทากันแดดทุกเช้าเพราะเรตินอลเพิ่มความไวต่อแดด
- เปปไทด์ (Peptides) ช่วยเสริมเกราะป้องกันผิว คืนความแข็งแรงให้เซลล์และลดการสูญเสียน้ำ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการบำรุงผิวระยะยาวโดยไม่เสี่ยงระคายเคืองสูง
- ไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) การจับน้ำไว้ในโครงสร้างผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้น อิ่มฟู และริ้วรอยตื้นขึ้นชั่วคราว
- วิตามินซี (Vitamin C) เหมาะสำหรับใช้ตอนเช้าเพราะช่วยต้านอนุมูลอิสระและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ควรเลือกสูตรที่มีความเสถียรและเก็บในบรรจุภัณฑ์ทึบแสงเพื่อรักษาประสิทธิภาพ การใช้คู่กับครีมกันแดดจะให้ผลดีที่สุดในการปกป้องผิวจากความเสียหายจากแสงแดด
การทาครีมอย่างสม่ำเสมอทุกเช้า – เย็น พร้อมการนวดเบา ๆ บริเวณร่องแก้มจะช่วยให้สารบำรุงซึมลึกและกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้ผิวกลับมาตึงกระชับได้ในระยะยาว
รับประทานอาหารเสริม
การดูแลจากภายในด้วยอาหารเสริมเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพของการดูแลผิว โดยเฉพาะในวัยที่คอลลาเจนลดลง อาหารเสริมก็มีส่วนช่วยเรื่องร่องแก้มและริ้วรอยได้ อย่างเช่น คอลลาเจนไตรเปปไทด์ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว, วิตามินซีส่งเสริมการดูดซึมคอลลาเจน, ซิงค์และวิตามินอีช่วยชะลอความเสื่อมของผิว, สารสกัดจากเมล็ดองุ่น, เปลือกสน, หรืออเซโรล่าเชอร์รี่ อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระหลากหลายชนิด ช่วยให้เซลล์ไม่ถูกทำร้ายจากอนุมูลอิสระได้ง่าย
ทั้งนี้ อาหารเสริมควรรับประทานอย่างต่อเนื่องเป็นประจำ เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ในระยะยาว โดยควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรอง อย. และผลิตจากแหล่งที่เชื่อถือได้
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ (Filler) หรือสารเติมเต็มเป็นวิธีแก้ร่องแก้มที่เห็นผลรวดเร็ว โดยแพทย์จะฉีดสารไฮยาลูรอนิก แอซิด เข้าไปบริเวณร่องริ้วรอยเพื่อเติมเต็มผิวให้ตื้นขึ้น ผิวดูเรียบเนียนและอ่อนเยาว์ทันทีหลังทำ แต่อย่างไรก็ตาม สารเติมเต็มนั้นมีอายุอยู่ได้ประมาณ 6 เดือน – 1 ปี แล้วแต่ชนิดของสารเติมเต็มและพฤติกรรมของผู้ใช้ ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน และใช้สารเติมเต็มคุณภาพเท่านั้น
โปรแกรมฉีดโบท็อก
โปรแกรมฉีดโบท็อก (Botox) คือการฉีดสารโบทูลินัม ท็อกซิน เข้าไปเพื่อคลายกล้ามเนื้อที่ทำให้เกิดร่องแก้มจากการแสดงสีหน้าซ้ำ ๆ เช่น การยิ้ม หรือหัวเราะแรง แม้ว่าโปรแกรมฉีดโบท็อกจะนิยมใช้กับริ้วรอยบริเวณหน้าผาก หางตา หรือระหว่างคิ้ว แต่ในบางกรณีแพทย์อาจแนะนำให้ใช้ร่วมกับโปรแกรมฟิลเลอร์ เพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นในการลดร่องแก้ม โดยโปรแกรมฉีดโบท็อกมักเห็นผลภายใน 3 – 7 วัน และอยู่ได้ประมาณ 3 – 6 เดือน ขึ้นอยู่กับการฉีดและร่างกายของแต่ละบุคคล
โปรแกรมฉีดไขมัน
การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน โดยเฉพาะฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอร์โรนที่ลดลงในช่วงวัยหมดประจำเดือน ส่งผลให้กล้ามเนื้อบริเวณลำคอหย่อนคล้อยลง และเยื่อบุทางเดินหายใจบวม ทำให้ทางเดินหายใจแคบลงขณะหลับ และเกิดการนอนกรนได้
References
https://www.medicalnewstoday.com/articles/174852
https://patchaclinic.com/cheek-wrinkle/
https://www.healthline.com/health/cheek-fillers
สรุปบทความ
ร่องแก้มไม่ได้เกิดขึ้นจากอายุเพียงอย่างเดียว แต่ร่องแก้ม เกิดจากการสะสมจากหลายปัจจัยสามารถดูแลและชะลอได้ด้วยวิธีการที่เหมาะสม การรู้สาเหตุ เช่น อายุที่มากขึ้น รังสี UV การแสดงสีหน้า หรือพฤติกรรมที่ทำร้ายผิว ช่วยให้เราสามารถปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตให้ดูแลผิวได้ดีขึ้น ในขณะเดียวกันก็มีทางเลือกมากมายในการฟื้นฟูร่องแก้ม ไม่ว่าจะเป็นการทาครีมบำรุง, อาหารเสริม, ไปจนถึง โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์, โปรแกรมฉีดโบท็อก หรือโปรแกรมฉีดฉีดไขมัน ขึ้นอยู่กับงบประมาณ ความพร้อม และระดับความลึกของร่องแก้มของแต่ละคน ทั้งนี้ การดูแลสุขภาพผิวควรทำทั้งจากภายนอกและภายใน พร้อมกับการปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวันอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลลัพธ์ที่ยั่งยืนในระยะยาว
หากท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการปรึกษาเกี่ยวกับการผ่าตัดรูปร่างและรายละเอียดอื่น ๆ เกี่ยวกับโปรแกรม After Care ของเรา สามารถติดต่อสอบถามทีมเจ้าหน้าที่ของ AM International Hospital ได้ตามช่องทางดังนี้
- Facebook : AM International Hospital
- Instagram : am_inter_hospital
- LINE Official : @amhospital
- เบอร์โทร : 064-445-5666
Post Info
Social Media