loader image

Rib Removal ผ่าตัดซี่โครงปรับเอวคอด อันตรายไหม? ทำความเข้าใจก่อนทำ

Rib Removal

หุ่นนาฬิกาทรายหรือหุ่นที่มีเอวคอดเห็นทรวดทรง เป็นอีกหนึ่งความฝันของสาว ๆ หลายคนที่ต้องการปั้นหุ่นให้ดูดีขึ้น ใส่เสื้อผ้าสวย แต่การจะปั้นด้วยตัวเองยังอาจเป็นเรื่องยากของบางคน ทำให้การผ่าตัด Rib Removal กลายมาเป็นตัวช่วยที่กำลังเป็นที่พูดถึง ด้วยการผ่าตัดซี่โครงปรับเอวคอด เพื่อลดความกว้างของช่วงเอว ทำให้ลำตัวดูเล็กและโค้งเว้ามากขึ้น 

ผลลัพธ์ที่ได้ คือ รูปร่างที่ชัดเจนคล้ายหุ่นนาฬิกาทราย แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นการผ่าตัดใหญ่ที่มีความเสี่ยงเนื่องจากค่อนข้างรุกรานโครงสร้างร่างกายมาก และต้องอาศัยความชำนาญสูง ทำให้หลายคนอาจยังลังเลว่า “การทำ Rib Removal อันตรายไหม” ซึ่งผู้ที่สนใจควรทำความเข้าใจทั้งข้อดีและข้อเสียก่อนตัดสินใจเข้ารับการรักษา

เลือกอ่านตามหัวข้อด้านล่าง

Rib Removal Surgery คืออะไร?

Rib Removal Surgery คือ การทำผ่าตัดซี่โครงให้เอวเล็ก โดยส่วนใหญ่ศัลยแพทย์จะเลือกตัดกระดูกซี่โครงคู่ล่างที่ไม่ได้ยึดติดกับกระดูกสันหลังส่วนหน้า การตัดกระดูกซี่โครงหรือ Rib Removal จะช่วยทำให้ช่วงเอวดูกระชับและคอดเว้ามากขึ้น คล้ายการลดความกว้างของโครงสร้างกระดูก

แม้จะเป็นการผ่าตัดเพื่อความงาม แต่จริง ๆ แล้ว Rib Removal จัดเป็นการศัลยกรรมใหญ่ที่ต้องทำผ่าตัดโดยศัลยแพทย์ที่มีความรู้ทั้งด้านกายวิภาคศาสตร์ ศัลยกรรมตกแต่ง และด้านการดูแลให้ความปลอดภัยในการผ่าตัด โดยผู้ที่สนใจควรเข้าใจถึงผลลัพธ์ที่ได้ซึ่งมีทั้งข้อดีในแง่รูปร่าง และความเสี่ยงที่ต้องพิจารณาไปพร้อมกัน

ทำไมหลายคนถึงสนใจการทำ Rib Removal?

ความฝันของหลาย ๆ คน คือ การมีเอวคอดเว้าและรูปร่างสวยงามเหมือนหุ่นนาฬิกาทราย ซึ่งในบางกรณีการปั้นเอวให้เล็กลงด้วยวิธีต่าง ๆ อาจมีข้อจำกัด ดังนั้น การทำ Rib Removal จึงกลายเป็นทางเลือกที่ได้รับความสนใจจากผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนและรวดเร็ว เนื่องจากเป็นการทำศัลยกรรมที่สามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างรูปร่างได้โดยตรง

นอกจากเหตุผลด้านความสวยความงามที่เป็นปัจเจกแล้ว เทรนด์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากคนดังหรือไอดอลที่มีหุ่นโค้งเว้าสวย ก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้ Rib Removal เป็นที่พูดถึงและได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในกลุ่มที่ต้องการรูปร่างตามอุดมคติของหุ่นนาฬิกาทราย (Hourglass Ideal) การทำ Rib Removal จึงไม่เพียงแต่เป็นการแก้ไขรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น แต่ยังเป็นการตอบสนองต่อความคาดหวังทางสุนทรียศาสตร์อีกด้วย

Rib Removal เหมาะกับใครบ้าง?

Rib Removal เป็นหัตถการที่ช่วยปรับเอวให้คอดและลำตัวดูโค้งเว้าอย่างชัดเจน แต่ไม่ใช่ทุกคนที่เหมาะกับการผ่าตัดนี้ ผู้ที่สนใจควรพิจารณาสภาพร่างกายและเป้าหมายความงามอย่างรอบคอบ 

  • คนที่มีลักษณะช่วงเอวกว้างแต่ซี่โครงล่างเด่น ต้องการลดเอวเร่งด่วนปรับรูปร่างให้ดูคอดและโค้งเว้ามากขึ้น
  • คนที่สุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัวที่เป็นข้อห้ามสำหรับการผ่าตัดใหญ่
  • คนที่เคยใช้วิธีอื่นแล้วผลลัพธ์ไม่ชัด เช่น ดูดไขมันหน้าท้องหรือดูดไขมันเอว แต่ยังไม่พอใจกับรูปร่าง
  • คนที่ต้องการเปลี่ยนรูปร่างอย่างชัดเจนและยาวนาน โดยเข้าใจว่าผลลัพธ์เป็นการปรับโครงสร้างร่างกายแบบถาวร ซึ่งร่างกายจะไม่สามารถสร้างเนื้อเยื่อหรือกระดูกซี่โครงทดแทนใหม่ได้

กระบวนการทำ Rib Removal ทำอย่างไร

การทำ Rib Removal หรือการตัดซี่โครงปรับเอวคอด เป็นการผ่าตัดที่ต้องอาศัยความชำนาญของศัลยแพทย์ เพราะเกี่ยวข้องกับการปรับโครงสร้างกระดูกของร่างกายโดยตรง ซึ่งมีขั้นตอนและกระบวนการ ดั้งนี้

ตัดซี่โครง

ภาพจำลองตำแหน่งซี่โครงลอย คู่ที่ 11 และ 12

การวินิจฉัยและปรึกษาแพทย์

ในการทำผ่าตัด Rib Removal ศัลยแพทย์จะประเมินรูปร่างของลำตัวและสัดส่วนโดยละเอียด รวมถึงการเอกซเรย์เพื่อดูตำแหน่งและโครงสร้างของซี่โครงลอย เพื่อพิจารณาว่าสามารถนำซี่โครงคู่ใดออกได้บ้าง (โดยทั่วไปคือซี่โครงคู่ที่ 10, 11 และ 12) และจะนำออกกี่คู่

 

นอกเหนือจากนี้ แพทย์จำเป็นต้องประเมินรูปร่างและองค์ประกอบอื่น ๆ ของผู้รับบริการด้วย โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีไขมันสะสมตามหน้าท้องและรอบเอวมาก ศัลยแพทย์อาจแนะนำให้เพิ่มการดูดไขมันเข้าไปด้วย เพื่อกำจัดไขมันส่วนเกินที่บดบังกระดูกซี่โครงออก ให้สามารถเข้าถึงการผ่าตัดระดับกระดูกได้ง่ายขึ้น

การทำเครื่องหมายระบุตำแหน่งที่ต้องการ

ศัลยแพทย์จะทำเครื่องหมายบริเวณที่จะทำการผ่าตัด (มักจะเป็นบริเวณด้านหลังของลำตัวใกล้กับซี่โครง) เพื่อให้การผ่าตัดมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น

การระงับความรู้สึก

ผู้เข้ารับบริการจะได้รับการดมยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์ เพื่อให้แน่ใจว่าผู้รับบริการจะรู้สึกสบายตัวและไม่เจ็บปวดตลอดระยะเวลาการผ่าตัด ซึ่งจะช่วยป้องกันอาการตื่นตระหนกขณะที่รู้สึกตัวระหว่างผ่าตัดด้วย

การเปิดแผล

ศัลยแพทย์จะเปิดแผลขนาดเล็กตามแนวที่กำหนดไว้บริเวณด้านหลังหรือด้านข้างลำตัว ตามแนวที่ซ่อนอยู่ใต้กระดูกซี่โครง ซึ่งพยายามให้แผลซ่อนอยู่ในบริเวณที่มองเห็นได้ยาก หรือขึ้นอยู่กับเทคนิคของศัลยแพทย์ว่ามีแนวทางในการจัดการรอยแผลผ่าตัดอย่างไรบ้าง

การแยกเนื้อเยื่อและการตัดซี่โครง

แพทย์จะค่อย ๆ แยกเนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อที่หุ้มซี่โครงออกอย่างระมัดระวัง จากนั้นจึงเล็มหรือตัดกระดูกซี่โครงลอยออกตามความยาวที่กำหนด โดยต้องดูแลไม่ให้เกิดความเสียหายต่อเส้นประสาทและอวัยวะภายในที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งขั้นตอนนี้ต้องอาศัยความละเอียดและความชำนาญสูงเพื่อหลีกเลี่ยงการทำลายเส้นประสาทหรืออวัยวะข้างเคียง หลังจากตัดซี่โครงเรียบร้อยแล้วศัลยแพทย์จะทำการเย็บแผลอย่างประณีต

การดูแลหลังตัดซี่โครง

ส่วนใหญ่การผ่าตัดซี่โครงออกจะใช้เวลาประมาณ 2-4 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับเทคนิคและจำนวนซี่โครงที่ตัดออก หลังผ่าตัดเสร็จ ผู้เข้ารับบริการจำเป็นต้องพักฟื้นในโรงพยาบาล 1-2 สัปดาห์แรก โดยจะต้องมีการฝึกหายใจอย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลข้างเคียงอันตรายและสามารถใช้ชีวิตได้ปกติ

ข้อดี-ข้อเสียของ Rib Removal

การตัดสินใจทำ Rib Removal หรือตัดซี่โครง เพื่อปรับรูปร่างเอวคอดเป็นการผ่าตัดใหญ่ที่มาพร้อมกับทั้งข้อดีที่ดึงดูดใจและความเสี่ยงที่ต้องพิจารณาอย่างจริงจัง ผู้ที่สนใจจึงควรชั่งน้ำหนักข้อดีและข้อเสียให้รอบด้านก่อนตัดสินใจ

ข้อดีของการตัดซี่โครง

  • เอวเล็กลงและโค้งเว้าเห็นชัด ข้อดีหลักของการทำ Rib Removal คือการสร้างความต่างของขนาดระหว่างรอบเอวและสะโพกได้อย่างมาก ทำให้ได้รูปร่างแบบหุ่นนาฬิกาทรายหรือ Wasp Waist (เอวตัวต่อหรือเอวต่อ คือ ลักษณะช่วงเอวคอดมาก ๆ เห็นสะโพกผายชัด)
  • ประโยชน์ทางการแพทย์ ในบางกรณี เช่น เพื่อบรรเทาอาการของโรคบางชนิด เช่น Iliocostalis Syndrome, Thoracic Outlet Syndrome หรือ Rib Flaring ซึ่งเป็นการรักษาเพื่อแก้ไขปัญหาทางสุขภาพ ไม่ใช่เพื่อความงามเพียงอย่างเดียว

 

ข้อเสียของการตัดซี่โครง

  • ความเสี่ยงต่ออวัยวะภายใน การตัดซี่โครงเป็นการศัลยกรรมที่มีความเสี่ยงอย่างมาก เนื่องจากเกี่ยวข้องกับโครงสร้างกระดูกใกล้ช่องท้อง อาจมีความเสี่ยงที่อวัยวะภายในจะทะลุ (Perforated Internal Organs) หากศัลยแพทย์ขาดความชำนาญ
  • มักรู้สึกเจ็บและต้องพักฟื้นนาน หลังการตัดซี่โครง อาจทำให้รู้สึกเจ็บบริเวณแผลผ่าตัด (ขึ้นอยู่กับเทคนิคการผ่าตัดที่เลือกใช้) และมาพร้อมกับระยะเวลาพักฟื้นที่ยาวนานกว่าการทำศัลยกรรมอื่น ๆ
  • เป็นการศัลยกรรมที่แก้ไขไม่ได้ หากเกิดความไม่พึงพอใจในภายหลัง ก็ไม่สามารถย้อนกลับหรือแก้ไขให้เป็นเหมือนเดิมได้ เนื่องจากซี่โครงที่ถูกนำออกไปแล้วจะไม่สามารถงอกกลับมาหรือถูกปลูกถ่ายกลับคืนได้เลย
  • ความยากในการหาแพทย์ที่มีความชำนาญ เนื่องจาก Rib Removal ยังคงเป็นที่ถกเถียง จึงอาจเป็นเรื่องยากที่จะค้นหาศัลยแพทย์ตกแต่งที่มีประสบการณ์และได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการในประเทศไทย หลายคนจึงเลือกไปทำ Rib Removal ในต่างประเทศ ซึ่งก็ยังไม่สามารถรับรองได้จริงว่าแพทย์ที่ต่างประเทศจะสามารถทำแล้วได้ผลลัพธ์ที่ดูแลให้ปลอดภัยได้หรือไม่ จึงอาจเป็นการเพิ่มโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ง่ายขึ้น

ความเสี่ยงและข้อควรระวังจากการตัดซี่โครง Rib Removal

การทำ Rib Removal ตัดซี่โครงให้เอวเล็ก แม้จะช่วยสร้างเอวคอดและรูปร่างสวยงาม แต่ก็เป็นหัตถการใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างกระดูกและอวัยวะภายใน การทำ Rib Removal จึงมีความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้เช่นเดียวกับการผ่าตัดใหญ่ทุกชนิด ซึ่งผู้ที่ต้องการตัดซี่โครงจำเป็นต้องตระหนักถึงผลกระทบเหล่านี้อย่างถี่ถ้วน เพราะความเสี่ยงบางประการอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตหรือส่งผลกระทบในระยะยาวได้

  • ความเสียหายต่ออวัยวะภายใน มีความเสี่ยงที่อวัยวะที่อยู่ใกล้เคียง เช่น ปอด จะได้รับบาดเจ็บ ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะร้ายแรงอย่างภาวะปอดแฟบ (Pneumothorax) ได้
  • ปัญหาเกี่ยวกับการหายใจ การนำซี่โครงออกอาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบทางเดินหายใจ ทำให้เกิดอาการ หายใจลำบาก หรือลดความสามารถในการขยายตัวของปอดในระยะยาวได้
  • การบาดเจ็บของเส้นประสาท เส้นประสาทจำนวนมากวิ่งอยู่ใกล้ซี่โครง การผ่าตัดอาจทำให้เส้นประสาทบาดเจ็บ ซึ่งส่งผลให้เกิด อาการชา, รู้สึกเสียวแปลบ, หรือปวดเรื้อรังในบริเวณที่ผ่าตัด
  • ความเสี่ยงจากการใช้ยาสลบ ไม่ว่าจะเป็นปฏิกิริยาแพ้ยาหรือภาวะแทรกซ้อนที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพพื้นฐานของผู้ป่วย จึงควรเลือกทำภายใต้การดูแลของวิสัญญีแพทย์ร่วมด้วยเท่านั้น
  • การติดเชื้อและเลือดออก เป็นความเสี่ยงทั่วไปของการผ่าตัด อาจเกิดการติดเชื้อหลังผ่าตัดซึ่งต้องใช้ยาปฏิชีวนะ หรือมีเลือดออกมากเกินไปในระหว่างหรือหลังผ่าตัด
  • ปัญหาแผลเป็น บริเวณที่เปิดแผลเพื่อทำ Rib Removal อาจทิ้งร่องรอยแผลเป็นที่มองเห็นได้ ซึ่งเป็นข้อกังวลด้านความงามสำหรับคนบางกลุ่ม

การดูแลตัวเองหลังทำ Rib Removal

หลังจากทำผ่าตัดกระดูกซี่โครง Rib Removal การดูแลตัวเองอย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญต่อการฟื้นตัวและผลลัพธ์ที่ชัดเจน ช่วยลดความเสี่ยง ลดอาการบวม และทำให้เอวคอดและลำตัวโค้งเว้าได้ตามที่ตั้งใจ

  • พักผ่อนอย่างเพียงพอ หลีกเลี่ยงการออกแรงหนักหรือยกของหนักในช่วง 1–2 สัปดาห์แรก
  • ใส่ชุดยกกระชับช่วยพยุง ตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อช่วยคงรูปร่างและลดการบวม
  • ดูแลแผลผ่าตัด รักษาความสะอาดและเปลี่ยนผ้าพันแผลตามคำแนะนำ เพื่อลดโอกาสติดเชื้อ
  • ควบคุมอาหารและน้ำหนัก รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำเพียงพอ ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้น
  • ติดตามผลกับแพทย์ นัดตรวจแผลและประเมินการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าผลลัพธ์เป็นไปตามที่ต้องการ

เปรียบเทียบ Rib Removal กับวิธีอื่น ๆ

การปรับสัดส่วนช่วงเอวให้คอดและโค้งเว้า สามารถทำได้หลายวิธี ซึ่งแต่ละวิธีก็มีข้อดี ข้อจำกัด และผลลัพธ์ที่ต่างกัน การเข้าใจความแตกต่างจะช่วยให้เลือกวิธีที่เหมาะสมกับเป้าหมายและร่างกายของตัวเอง

การตัดซี่โครงและการดูดไขมันเอว

การดูดไขมันเอววิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดไขมันเฉพาะจุด แต่ไม่ได้แตะหรือปรับโครงสร้างกระดูก ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันและความยืดหยุ่นของผิวหนัง และอาจไม่สามารถสร้างเอวคอดแบบชัดเจนเท่าการตัดซี่โครง 

การออกกำลังกายลดเอว

การออกกำลังกายเฉพาะส่วนหรือท่าลดเอว อาจจะต้องใช้เวลาและความสม่ำเสมอ แต่สามารถลดไขมันและสร้างเอวคอดอย่างดูเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ ยังช่วยให้สุขภาพแข็งแรงและรูปร่างสมดุลโดยไม่เสี่ยงต่อการผ่าตัด อย่างไรก็ตาม สำหรับบางคนที่มีโครงสร้างซี่โครงกว้าง การออกกำลังกายเพียงอย่างเดียวอาจยังไม่สามารถปรับเอวให้คอดได้เต็มที่

การตัดซี่โครง Rib Removal และ Rib Remodeling (การงอกระดูกซี่โครง)

การตัดกระดูกซี่โครง Rib Removal เป็นการผ่าตัดที่มีความเสี่ยงสูง ต้องพักฟื้นนาน เพราะเป็นการตัดเอาและนำเอาซี่โครงออกไปจากร่างกาย ขณะที่การทำ Rib Remodeling หรือโปรแกรม Corset Waist เป็นเทคนิคที่ศัลยแพทย์จะทำการกรอผิวกระดูกให้สามารถปรับความโค้งงอได้ โดยจะไม่มีการตัดกระดูกทิ้ง ทำให้แผลมีขนาดเล็กกว่ามาก ฟื้นตัวได้ง่าย ผลข้างเคียงน้อย ซึ่งผู้ที่สนใจควรพิจารณาถึงผลลัพธ์ที่ต้องการกับความเสี่ยง ร่วมกับปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกเทคนิคที่เหมาะสมกับตนเอง

แชร์ :

สรุปบทความ

การทำผ่าตัดกระดูกซี่โครง หรือ Rib Removal เป็นการผ่าตัดใหญ่ที่มีทั้งข้อดีและความเสี่ยง จึงควรพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ แม้จะช่วยให้เอวคอดถาวรและผลลัพธ์ชัดเจน แต่ก็มีความเสี่ยงสูงและต้องใช้เวลาพักฟื้นมากกว่าวิธีอื่น ๆ ปัจจุบันยังมีทางเลือกปรับเอวคอดด้วยเทคนิคอื่น ๆ เช่น Rib Remodeling หรือ โปรแกรม Corset Waist ที่ไม่ต้องตัดซี่โครงออกโดยตรง ช่วยลดความเสี่ยงลงได้อย่างมาก ดังนั้น การปรึกษาศัลยแพทย์ผู้ที่มีทักษะและมีความชำนาญ เพื่อประเมินความเหมาะสมและหาทางออกที่ตรงกับความต้องการ จึงเป็นขั้นตอนสำคัญก่อนตัดสินใจทำหัตถการใด ๆ

กรอกฟอร์ม ปรึกษาหมอ ฟรี!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Thank You!

You details has been successfully submitted. Thanks!

ขอบคุณ!

ข้อมูลของคุณถูกส่งเรียบร้อยแล้ว 

ขอบคุณข้อเสนอแนะติชม