โปรแกรม Vaser คือออะไร เทคโนโลยีดูดไขมันเฉพาะส่วน เสริมหุ่นให้เฟิร์มกระชับ

การดูดไขมันด้วยโปรแกรม Vaser ถือเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่มีไขมันสะสมปริมาณมาก หรือมีปัญหาไขมันดื้อ ไขมันหนา ที่ลดได้ยากด้วยวิธีปกติ โปรแกรม Vaser ใช้เทคโนโลยีพลังงานอัลตราซาวด์ในการแยกเซลล์ไขมัน ทำให้การกำจัดไขมันทำได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ช่วยลดโอกาสในการเสียเลือดมาก

ในปัจจุบัน โปรแกรม Vaser ได้ถูกพัฒนามาเป็นโปรแกรม Vaser Smooth 2.2 ซึ่งออกแบบมาเพื่อช่วยให้การดูดไขมันมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมลดปัญหาผิวไม่เรียบเนียนหลังดูดไขมัน ช่วยให้ผิวกระชับ และมีพลังงานในการแยกเซลล์ไขมันสูงกว่าแบบเดิม ซึ่งจะช่วยให้แพทย์สามารถเก็บไขมันส่วนเกินได้เร็วยิ่งขึ้น เรามาทำความรู้จักกับการดูดไขมันเวเซอร์กัน

เลือกอ่านตามหัวข้อด้านล่าง

โปรแกรม Vaser คืออะไร? (Vaser Defined)

การดูดไขมันโปรแกรม Vaser คือ เทคโนโลยีดูดไขมันที่ใช้พลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ในการสร้างความร้อนเพื่อสลายไขมันใต้ผิวหนัง โดยจัดอยู่ในกลุ่ม Ultrasound-assisted Liposuction เช่นเดียวกับเครื่องดูดไขมันระบบพลังงานคลื่นเสียงอื่น ๆ แต่โปรแกรม Vaser มีพลังงานที่สูงกว่า จึงเหมาะกับเคสที่มีไขมันหนาแน่น เช่น ผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก ไขมันสะสมหนา หรือผู้ชายที่มีโครงสร้างไขมันแข็งแรงและจับตัวกันแน่น การใช้โปรแกรม Vaser จึงช่วยแยกเซลล์ไขมันออกได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่า

หลักการทำงานของเครื่องโปรแกรม Vaser

โปรแกรม Vaser Smooth 2.2 ใช้พลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ในการแยกเซลล์ไขมันใต้ชั้นผิวหนัง โดยการส่งคลื่นพลังงานผ่านหัวดูดไขมัน (Cannula) ซึ่งทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือน ไขมันที่อยู่ในชั้นใต้ผิวจะถูกทำให้สั่นจนแตกตัวออกมาเป็นอนุภาคขนาดเล็กในลักษณะของเหลว ไขมันเหลวตัวนี้จะไม่สามารถนำไปเติมต่อได้ เนื่องจากเซลล์ไม่มีชีวิต และจะถูกดูดออกจากร่างกายโดยใช้หัวดูดที่เชื่อมต่อกับถังเก็บไขมัน

คุณสมบัติเด่นอีกประการของโปรแกรม Vaser Smooth 2.2 คือการควบคุมพลังงานให้เสถียรระหว่างการทำงาน ช่วยลดความเสี่ยงต่อการทำลายเนื้อเยื่อข้างเคียง เช่น เส้นประสาท เส้นเลือด และเนื้อเยื่อผิว ทั้งยังช่วยลดโอกาสการเกิดปัญหาผิวไหม้ ผิวไม่เรียบเนียน หรือผิวเป็นคลื่นหลังดูดไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงเหมาะสำหรับกลุ่มที่มีพังผืดเยอะ ไขมันหนาแน่น หรือผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ผิวที่เรียบเนียนหลังทำในระยะยาว

เครื่องดูดไขมันโปรแกรม Vaser ทั่วไปและโปรแกรม Vaser Smooth 2.2 ต่างกันไหม?

โปรแกรม Vaser Smooth 2.2 คือเครื่องดูดไขมันเวเซอร์รุ่นหนึ่งที่ได้รับการพัฒนาประสิทธิภาพให้เหนือกว่ารุ่นเดิม ตัวเครื่องมีการออกแบบหัวท่อดูดไขมันให้สามารถสลายพังผืดใต้ผิวหนังได้ดีขึ้น ลดปัญหาเซลลูไลท์ ผิวเปลือกส้ม และช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวได้มากขึ้น ทำให้ผิวเรียบเนียนและกระชับหลังดูดไขมัน ช่วยลดโอกาสการเกิดปัญหาผิวบุ๋มหรือเป็นคลื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ความแตกต่างระหว่างโปรแกรม Vaser Smooth 2.2 กับรุ่นดั้งเดิมอย่างโปรแกรม Vaser คือ ตัวเครื่องโปรแกรม Vaser Smooth 2.2 มีพลังงานที่เสถียรกว่า สามารถกำจัดไขมันได้รวดเร็วขึ้น ทำให้แพทย์ใช้เวลาน้อยลงขณะดูดไขมัน นอกจากนี้ยังช่วยดูแลผิวให้เรียบเนียนกว่าเดิม โดยเฉพาะในเคสที่มีพังผืดหรือไขมันหนาแน่นมาก จึงทำให้โปรแกรม Vaser Smooth 2.2 ได้รับความนิยมในการดูดไขมันในกลุ่มผู้ที่มีน้ำหนักมาก ไขมันสะสมเยอะมาเป็นเวลานาน

จุดเด่นของการดูไขมันด้วยโปรแกรม Vaser

การดูดไขมันเป็นหนึ่งในวิธีปรับสัดส่วนที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเทคโนโลยีโปรแกรม Vaser (เวเซอร์) ที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำและอ่อนโยนมากยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรูปร่างกระชับอย่างเป็นธรรมชาติ โดยลดผลกระทบที่ไม่จำเป็นต่อเนื้อเยื่อข้างเคียง ช่วยให้การฟื้นตัวเร็วและเห็นผลชัดเจน

ความจำเพาะเจาะจง

เทคโนโลยีโปรแกรมดูดไขมัน Vaser เป็นการใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวนด์ที่สามารถลดไขมันเฉพาะจุดได้อย่างแม่นยำ ไม่กระทบเส้นเลือด เส้นประสาท หรือเนื้อเยื่อรอบข้าง จึงเหมาะสำหรับบริเวณที่ต้องการความละเอียด เช่น หน้าท้องต้นแขน หรือแนวขอบเอว ทำให้ได้สัดส่วนที่ดูสมดุลและเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น

ความอ่อนโยน

เทคโนโลยีที่ต่างจากการดูดไขมันแบบเดิม โดยทำงานด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (Ultrasound) ทำให้เซลล์ไขมันกลายเป็นของเหลวและถูกดูดออกง่าย จึงมีความอ่อนโยน ลดความเจ็บ อาการช้ำ และอาการบวมหลังทำได้ดี ผู้เข้ารับบริการจึงสามารถฟื้นตัวได้เร็ว ไม่ต้องพักฟื้นนาน และมีโอกาสเกิดรอยช้ำน้อยลงเมื่อเทียบกับเทคนิคทั่วไป

ผิวกระชับ

อีกหนึ่งจุดเด่นของโปรแกรมเทคโนโลยี Vaser คือ ช่วยกระตุ้นการหดตัวของผิวหลังดูดไขมัน ทำให้ผิวบริเวณที่ทำดูดไขมันไม่หย่อนคล้อยในภายหลัง โดยเฉพาะบริเวณที่มักมีปัญหา เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา จึงเหมาะกับคนที่ต้องการรูปร่างกระชับโดยไม่ต้องพึ่งการทำศัลยกรรมยกกระชับผิว

โปรแกรมดูดไขมันด้วย Vaser ช่วยเรื่องอะไรบ้าง

โปรแกรมเทคโนโลยีดูดไขมัน Vaser ไม่ได้มีดีแค่ช่วยลดไขมันปรับสัดส่วนเท่านั้น แต่ยังตอบโจทย์ในด้านการปรับรูปร่างและความกระชับของผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงรูปร่างเฉพาะจุดโดยไม่ต้องพักฟื้นนาน หรือเจ็บตัวมากเกินความจำเป็น

  • ลดไขมันเฉพาะจุด โดยเฉพาะในเคสที่เคยออกกำลังกายแล้วยังมีไขมันส่วนเกินอยู่ เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา เอว
  • ลดไขมันปรับสัดส่วนในเคสไขมันหนาหรือรูปร่างใหญ่ เช่น เคสผู้ชาย เคสพลัสไซซ์ หรือผู้ที่มีชั้นไขมันหนาและมีไขมันดื้อ ซึ่งโปรแกรม Vaser สามารถลดไขมันหนาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้รูปร่างดูชัดและกระชับยิ่งขึ้น
  • ปรับรูปร่างให้ดูสมส่วนขึ้น ด้วยเทคนิคการเก็บรายละเอียดที่แม่นยำ สร้างเคิร์ฟหรือเน้นสัดส่วนได้อย่างเป็นธรรมชาติ
  • ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น ลดปัญหาผิวขรุขระจากไขมันสะสมหรือเซลลูไลท์
  • กระชับผิวหลังทำ ไม่ทำให้ผิวหย่อนคล้อยตามมา เหมาะกับคนที่มีผิวบางหรือเริ่มมีปัญหาผิวหย่อน

โปรแกรม Vaser ดูดไขมันส่วนไหนได้บ้าง

โปรแกรมการดูดไขมันด้วย Vaser ได้รับความนิยมในการดูดไขมันบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะในบริเวณที่ไขมันมีความหนาแน่นสูง หรือมีพังผืดจับตัวหนา ตำแหน่งที่นิยมใช้โปรแกรม Vaser ดูดไขมัน ได้แก่

  • ต้นแขน ลดไขมันสะสมที่ต้นแขนเพื่อให้แขนเรียวกระชับ ลดอาการแขนใหญ่ แขนย้อย แขนห้อย
  • หน้าท้อง ดูดไขมันหน้าท้องทั้งส่วนบนและล่าง รวมถึงบริเวณเอว ช่วยให้เอวคอดชัดเจนยิ่งขึ้น
  • แผ่นหลังและปีกหลัง กำจัดไขมันสะสมบริเวณหลัง และบริเวณปีกเสื้อชั้นในที่มักลดเองได้ยาก
  • รอบเอว ลดไขมันที่ทำให้พุงหรือเอวดูใหญ่ ช่วยเก็บหุ่นให้ได้สัดส่วนโค้งเว้าสวยงาม
  • ต้นขา ดูดไขมันต้นขาด้านใน ด้านนอก รวมถึงช่องว่างระหว่างขา เพื่อให้ขาดูเรียวยาว
  • เหนียงและกรอบหน้า กำจัดไขมันใต้คางและแนวกรอบหน้า ช่วยสร้างกรอบหน้าให้คมชัดมากขึ้น
  • น่องและเข่า ดูดไขมันสะสมรอบน่องและบริเวณเข่า ช่วยให้ขาดูเรียวขึ้นอย่างดูเป็นธรรมชาติ

โปรแกรม Vaser เหมาะกับใคร

โปรแกรมการดูดไขมันด้วย Vaser เหมาะสำหรับผู้ที่มีปริมาณไขมันสะสมจำนวนมาก หรือมีชั้นไขมันหนาแน่น โดยเฉพาะเคสที่ต้องกำจัดไขมันอย่างรวดเร็วและแม่นยำ ตัวอย่างกลุ่มคนที่เหมาะกับการดูดไขมันด้วยโปรแกรม Vaser ได้แก่

  • ผู้ที่มีปริมาณไขมันสะสมจำนวนมาก หรือมีชั้นไขมันหนาในหลายบริเวณ
  • ผู้ที่มีการรวมตัวของไขมันหนาแน่น เช่น เคสดูดไขมันผู้ชาย
  • ผู้ที่มีความกังวลเกี่ยวกับรูปร่าง ต้องการปรับสัดส่วนให้สมส่วนยิ่งขึ้น
  • ผู้ที่ออกกำลังกาย ควบคุมอาหารแล้ว แต่สัดส่วนบางจุดยังไม่ลดลง
  • ผู้ที่ต้องการกำจัดไขมันส่วนเกินออก โดยไม่ได้มีแผนจะนำไขมันไปเติมเต็มส่วนอื่น

ข้อดีและข้อจำกัดของการดูดไขมันด้วยโปรแกรม Vaser

การดูดไขมันด้วยเวเซอร์ สามารถตอบโจทย์ทั้งเรื่องปริมาณไขมันที่กำจัดได้ และคุณภาพผิวหลังการดูดไขมัน อย่างไรก็ตามเช่นเดียวกับการดูดไขมันแบบอื่น ๆ โปรแกรม Vaser ก็มีทั้งข้อดีและข้อจำกัดที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจ ดังนี้

 ข้อดีของการดูดไขมันด้วยโปรแกรม Vaser

  • สามารถดูดไขมันได้แทบทุกส่วนในร่างกาย ทั้งจุดเล็กและจุดใหญ่
  • ดูดไขมันได้ในปริมาณมาก ใช้เวลาไม่นานในการทำ ลดโอกาสเสียเลือดมาก
  • มีประสิทธิภาพในการกำจัดพังผืดใต้ผิวหนัง โดยเฉพาะกรณีที่เคยดูดไขมันมาก่อน
  • เหมาะกับผู้ที่มีชั้นไขมันหนาแน่น และต้องการสัดส่วนที่ลดลงอย่างชัดเจน
  • ช่วยลดลักษณะเซลลูไลท์และผิวเปลือกส้มได้ในบางกรณี
  • มีคุณสมบัติกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ส่งผลให้ผิวเรียบเนียนกระชับมากขึ้นหลังทำ
  • เห็นความเปลี่ยนแปลงของสัดส่วนได้ทันทีหลังทำ และดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะฟื้นตัว

ข้อจำกัดของการดูดไขมันด้วยโปรแกรม Vaser

  • มีความเสี่ยงเรื่องผิวไหม้หากควบคุมพลังงานและอุณหภูมิไม่ดีพอ ต้องทำโดยแพทย์ที่เคยดูดไขมันมาก่อนเท่านั้น
  • ไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยมาก เพราะโปรแกรม Vaser เน้นกำจัดไขมัน ไม่ได้ยกกระชับผิวโดยตรง
  • มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการดูดไขมันแบบ Manual หรือเครื่องรุ่นเก่า
  • ไขมันที่ได้จากการใช้พลังงานด้วยโปรแกรม Vaser ไม่เหมาะสำหรับนำไปเติมไขมันต่อ (Fat Grafting)

ก่อนดูดไขมันด้วยโปรแกรม Vaser ต้องเตรียมตัวอย่างไร

การเตรียมตัวอย่างเหมาะสมก่อนเข้ารับการดูดไขมันเวเซอร์มีความสำคัญอย่างมาก เพื่อช่วยลดความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อน และทำให้การฟื้นตัวหลังทำเป็นไปอย่างราบรื่น การเตรียมตัวจะมีข้อแตกต่างเล็กน้อยขึ้นอยู่กับว่าดูดไขมันโดยใช้ยาชาเฉพาะที่ หรือวางยาสลบ โดยเบื้องต้น แนวทางการเตรียมตัวก่อนโปรแกรมดูดไขมัน Vaser มีดังนี้

  • พักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6–8 ชั่วโมงก่อนทำ เพื่อป้องกันอาการอ่อนเพลีย เมายาสลบ หรือวิงเวียนศีรษะหลังทำ
  • งดอาหารและเครื่องดื่มทุกชนิดอย่างน้อย 8 ชั่วโมงก่อนทำ (เฉพาะกรณีวางยาสลบ)
  • งดสูบบุหรี่อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ก่อนทำ เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงของภาวะขาดออกซิเจนและทำให้แผลหายช้า
  • สวมเสื้อผ้าหลวม สีเข้ม ใส่สบาย เพื่อความสะดวกขณะเปลี่ยนชุด และเนื่องจากหลังดูดไขมัน ของเหลวอาจซึมจากแผล ทำให้เห็นรอยหรือคราบได้ชัด
  • พาญาติหรือเพื่อนมาด้วยอย่างน้อย 1 คน เพื่อความปลอดภัยในการเดินทางกลับ (โดยเฉพาะกรณีที่ดมยาสลบ)
  • ล้างสีเล็บและตัดเล็บมืออย่างน้อย 1 นิ้ว (เฉพาะกรณีวางยาสลบ) เพื่อให้วิสัญญีแพทย์สามารถตรวจเช็กการไหลเวียนของเลือดและออกซิเจนได้
  • งดแต่งหน้า ทาครีม โลชั่น หรือผลิตภัณฑ์ใด ๆ บนใบหน้าและร่างกาย
  • งดใส่เครื่องประดับทุกชนิด รวมถึงคอนแทคเลนส์ ฟันปลอม หรืออุปกรณ์เสริมอื่น ๆ
  • แจ้งแพทย์หากมีฟันโยกหรือปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพฟัน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุระหว่างใส่ท่อช่วยหายใจ (โดยเฉพาะกรณีวางยาสลบ)

ขั้นตอนการดูดไขมันด้วยโปรแกรม Vaser ที่ AM International Hospital

การดูดไขมันด้วยโปรแกรม Vaser Smooth 2.2 เป็นกระบวนการที่เน้นการสลายไขมันอย่างนุ่มนวลและแม่นยำ โดยใช้เทคโนโลยีพลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ที่สามารถแยกไขมันออกจากเนื้อเยื่อข้างเคียงได้อย่างปลอดภัย ขั้นตอนดำเนินไปอย่างเป็นระบบตั้งแต่ต้นจนจบ ดังนี้

  1. เปิดแผลดูดไขมัน

    แพทย์จะทำการเปิดแผลขนาดเล็กไม่เกิน 5 มิลลิเมตร ในบริเวณที่จะทำการดูดไขมัน เพื่อเป็นช่องทางสำหรับสอดหัวดูดไขมัน (Cannula) เข้าไปใต้ผิวหนัง ซึ่งเป็นชั้นไขมัน
  2. ระงับความเจ็บปวด

    แพทย์จะทำการใส่สารระงับความเจ็บปวดหรือ Tumescent เข้าไปยังชั้นไขมันใต้ผิวหนัง ซึ่งจะประกอบไปด้วยสารประกอบต่าง ๆ ที่ช่วยลดการอักเสบและกระตุ้นให้เส้นเลือดเกิดการหดตัว เพื่อช่วยลดความเจ็บปวด ลดปริมาณการเสียเลือดมาก และทำให้ไขมันแยกตัวออกจากเนื้อเยื่อได้ง่ายขึ้น
  3. แยกเซลล์ไขมันด้วยพลังงานคลื่นเสียงโปรแกรม Vaser

    ใช้หัวเข็มปล่อยพลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ไปยังชั้นไขมัน เพื่อทำให้ไขมันแตกตัวเป็นของเหลว กระบวนการนี้ต้องมีการควบคุมอุณหภูมิอย่างแม่นยำ เพื่อป้องกันความร้อนเกินที่อาจทำให้ผิวไหม้ หรือเกิดปัญหาผิวเป็นคลื่นหลังทำ
  4. ดูดไขมันออกมาจากใต้ชั้นผิวหนัง

    เมื่อดูดไขมันออกจากใต้ชั้นผิวหนังเรียบร้อยแล้ว แพทย์จะทำการดูดไขมันในรูปแบบของเหลวออกมาอย่างนุ่มนวล ผ่านท่อดูดไขมันที่เชื่อมต่อกับระบบโปรแกรม Vaser โดยไขมันจะถูกลำเลียงผ่านท่อสุญญากาศเข้าสู่ถังเก็บไขมันแบบระบบปิด เพื่อป้องกันการปนเปื้อน
  5. การปิดแผลและระบายของเหลว

    หลังดูดไขมันเสร็จสิ้น จะมีการเย็บแผลแบบเปิด (Open Drainage Technique) เพื่อช่วยระบายของเหลวที่ตกค้างออกจากร่างกาย และลดโอกาสการสะสมของของเหลวใต้ผิวหนังจนเกิดเป็นก้อนแข็งใต้ผิว (Seroma) ซึ่งต้องรักษาด้วยการนวดเดรนน้ำเหลือง

การดูแลตัวเองหลังดูดไขมันด้วย

การดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมหลังการดูดไขมันด้วยโปรแกรม Vaser Smooth 2.2 มีบทบาทสำคัญในการช่วยลดอาการบวมช้ำ ป้องกันภาวะแทรกซ้อน และทำให้ผลลัพธ์ของรูปร่างกระชับเรียบเนียนยิ่งขึ้น การปฏิบัติตัวอย่างถูกต้องตามคำแนะนำของแพทย์จะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้อย่างราบรื่น ดังนี้

  • ใส่ชุดกระชับอย่างต่อเนื่องตามแพทย์แนะนำ อย่างน้อย 4–6 สัปดาห์ เพื่อช่วยลดบวมและทำให้ผิวแนบกระชับกับชั้นกล้ามเนื้อ
  • ประคบเย็นบริเวณที่ทำในช่วง 48–72 ชั่วโมงแรก เพื่อช่วยลดอาการบวมและช้ำ
  • รับประทานยาแก้อักเสบและยาแก้ปวดตามที่แพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอ ไม่ควรซื้อยามาทานเอง
  • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก การยกของหนัก หรือการขยับตัวรุนแรง ในช่วง 1 เดือนแรกหลังดูดไขมัน
  • รักษาความสะอาดบริเวณแผลอย่างเคร่งครัด และปฏิบัติตามคำแนะนำการทำแผลทุกครั้งเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
  • หลีกเลี่ยงการแช่น้ำ อบซาวน่า หรือว่ายน้ำในช่วง 3–4 สัปดาห์แรก จนกว่าแผลจะหายสนิท
  • เข้ารับการตรวจติดตามผลตามนัด เพื่อให้แพทย์ประเมินการฟื้นตัวและผลลัพธ์อย่างต่อเนื่อง
  • ควบคุมอาหาร เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อช่วยลดอาการบวมและฟื้นฟูร่างกายได้ดีขึ้น

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังการดูดไขมันด้วย Vaser

แม้การดูดไขมันด้วยเทคโนโลยีโปรแกรม Vaser จะมีความอ่อนโยนและมีความแม่นยำ แต่การดูแลตัวเองหลังทำก็ยังเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากอาจมีอาการข้างเคียงเล็กน้อยที่เกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติของกระบวนการฟื้นฟูร่างกาย ซึ่งมักไม่เป็นอันตรายและสามารถหายไปเองภายในระยะเวลาที่เหมาะสม โดยผลข้างเคียงที่อาจพบได้หลังทำ ได้แก่ 

  • บวมช้ำบริเวณที่ทำการดูดไขมัน เป็นอาการปกติหลังทำ อาจเกิดขึ้นได้ภายใน 1 – 3วัน และจะค่อย ๆ จางลงภายใน 1 – 2 สัปดาห์
  • รู้สึกตึงหรือระบมกล้ามเนื้อเล็กน้อย มักเกิดในช่วง 3 – 7 วันแรก โดยเฉพาะบริเวณที่ดูดในปริมาณมากหรือใกล้กับกล้ามเนื้อ
  • ผิวบริเวณที่ดูดยังไม่เรียบในช่วงแรก ในช่วง 1 – 3 สัปดาห์แรก ก่อนที่ผิวจะค่อย ๆ กระชับและปรับตัวเรียบเนียน
  • มีของเหลวซึมจากแผลดูดไขมัน มักเกิดภายใน 24 – 48 ชั่วโมงแรก เป็นของเหลวที่ร่างกายขับออกจากบริเวณที่ดูดไขมัน
  • อาการชาบางจุดใต้ผิวหนัง เกิดจากเส้นประสาทเล็ก ๆ ถูกกระทบชั่วคราว มักจะหายได้เองภายใน 2 – 6 สัปดาห์

โปรแกรม Vaser ต่างจากเทคนิคการดูดไขมันอื่นๆ อย่างไร

ในปัจจุบันมีเทคนิคดูดไขมันหลากหลายรูปแบบให้เลือก ซึ่งแต่ละวิธีก็มีข้อดีและข้อจำกัดต่างกันออกไป หนึ่งในเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยม คือ ดูดไขมันด้วยเทคโนโลยีโปรแกรม Vaser เนื่องจากมีจุดเด่นด้านความแม่นยำและการกระชับผิวดี แต่หลายคนอาจยังสงสัยว่าโปรแกรม Vaser แตกต่างจากเทคนิคอื่นอย่างไร โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีดูดไขมัน Body-Jet ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน และการดูดไขมันแบบดั้งเดิม

โปรแกรม Vaser กับโปรแกรม Body-Jet

สำหรับการดูดไขมันด้วยเทคโนโลยี Body-Jet เป็นการใช้แรงดันน้ำในการแยกไขมันออกจากเนื้อเยื่อ ก่อนจะดูดออกจากร่างกาย ข้อดี คือ ช่วยลดการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อโดยรอบ และเหมาะกับการนำไขมันที่ดูดออกมาฉีดไขมันต่อ แต่ในบางกรณีอาจลดไขมันได้ไม่ลึกเท่าที่ต้องการ โดยเฉพาะในบริเวณที่มีไขมันหนาแน่น

ในขณะที่การดูดไขมันด้วยเทคโนโลยีโปรแกรม Vaser เป็นการใช้พลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวนด์เพื่อทำให้ไขมันเป็นของเหลวก่อนดูดออก ทำให้สามารถดูดไขมันออกได้อย่างง่ายดาย เหมาะกับบริเวณที่ต้องการปรับสัดส่วนให้ชัดเจน และยังมีข้อดีในด้านการกระชับผิวร่วมด้วย

โปรแกรม Vaser กับโปรแกรมดูดไขมันแบบดั้งเดิม

ในกรณีที่ใช้เทคนิคการดูดไขมันแบบดั้งเดิมสมัยก่อน เป็นการใช้วิธีการดูดไขมันออกด้วยเครื่อง (manual suction) ซึ่งเป็นแรงดูดแบบสุญญากาศร่วมกับแรงมือแพทย์ โดยไม่ได้มีเทคโนโลยีใด ๆ ช่วยเลย ส่งผลให้การดูดไขมันออกอาจติดเนื้อเยื่ออื่นร่วมด้วย หลังทำแล้วเกิดรอยช้ำมาก ฟื้นตัวนาน ต้องลางานหลายวัน และเสี่ยงต่อผิวไม่เรียบในบางเคส

ส่วนการดูดไขมันด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ อย่างเทคโนโลยีโปรแกรม Vaser จึงเป็นทางเลือกที่อ่อนโยนกว่า เพราะช่วยแยกไขมันออกจากเนื้อเยื่อก่อนดูดไขมันออก จึงลดการบาดเจ็บของเส้นเลือดและเส้นประสาท มีความแม่นยำ ทำให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วกว่า และให้ผลลัพธ์ที่เรียบเนียน ผิวกระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

วิธีเลือกสถานพยาบาลที่ทำโปรแกรม Vaser

การดูดไขมันด้วยเทคโนโลยีโปรแกรม Vaser เป็นหัตถการที่ต้องอาศัยทั้งเทคโนโลยีที่ทันสมัยและทักษะของแพทย์ผู้ทำหัตถการอย่างใกล้ชิด การเลือกสถานพยาบาลที่เหมาะสมจึงไม่ใช่เพียงเรื่องของความสวยงาม แต่ยังเกี่ยวข้องกับการดูแลให้เกิดความปลอดภัย และผลลัพธ์ในระยะยาวที่มั่นใจได้

ศัลยแพทย์ที่มีทักษะและมีประสบการณ์

ควรเลือกทำกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ตรงในโปรแกรมการดูดไขมันด้วย Vaser โดยเฉพาะ เพราะแม้เทคโนโลยีจะทันสมัยแค่ไหน แต่การออกแบบรูปร่าง การเลือกหัวดูด และการจัดการชั้นผิว ล้วนเป็นทักษะที่ต้องอาศัยประสบการณ์ การดูเคสรีวิวจริงที่เคยทำหัตถการโดยแพทย์ท่านนั้น ๆ รวมถึงการสื่อสารที่ดีระหว่างแพทย์และผู้รับบริการ จะช่วยให้เข้าใจเป้าหมายร่วมกัน รวมถึงได้ผลลัพธ์ที่เหมาะกับแต่ละบุคคล

สถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน

สถานพยาบาลควรได้รับอนุญาตและได้รับการรับรองอย่างถูกต้อง มีห้องหัตถการหรือห้องผ่าตัดที่ได้มาตรฐาน ปลอดเชื้อ และมีทีมแพทย์-พยาบาลดูแลอย่างใกล้ชิดต่อเนื่อง การใช้เครื่องดูดไขมันที่ผ่านการรับรองก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่ไม่ควรมองข้าม เพราะมีผลต่อประสิทธิภาพ การดูแลให้ปลอดภัย และการฟื้นตัวหลังทำ

รีวิวจากผู้ใช้บริการโปรแกรม Vaser กับ AM International Hospital

ส่วนหนึ่งของรีวิวดูดไขมันด้วยโปรแกรม Vaser จากผู้เข้ารับบริการที่ AM International Hospital แสดงให้เห็นถึงผลลัพธ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน ทั้งสัดส่วนที่เล็กลง ผิวกระชับ เรียบเนียน โดยใช้ระยะเวลาพักฟื้นสั้น และยังได้รับเสียงตอบรับที่ดีในด้านความมั่นใจที่มีมากขึ้นในรูปร่างของตัวเอง

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการดูดไขมันด้วยโปรแกรม Vaser (FAQ)

Q: การดูดไขมันด้วยโปรแกรม Vaser เจ็บไหม?

การดูดไขมันด้วยโปรแกรม Vaser Smooth 2.2 เป็นดูดไขมันที่มีการใช้พลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ในการแยกเซลล์ไขมัน ซึ่งจะก่อให้เกิดความร้อนใต้ผิว หลังจากการดูดไขมัน อาจมีอาการปวดตึงหรือรู้สึกระบมบริเวณที่ดูดไขมันบ้างในช่วง 3–7 วันแรก แต่โดยทั่วไปอาการเหล่านี้จะอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ด้วยการรับประทานยาแก้ปวดตามที่แพทย์สั่ง และจะค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับภายใน 1–2 สัปดาห์ การดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมหลังทำจะช่วยลดอาการไม่สบาย และช่วยให้ฟื้นตัวได้ราบรื่นยิ่งขึ้น

หลังดูดไขมันด้วยโปรแกรม Vaser หรือแม้แต่เทคโนโลยีอื่น ๆ ให้ผลลัพธ์ที่อยู่ได้นาน เพราะเซลล์ไขมันถูกกำจัดออกไปแล้ว แต่ทั้งนี้ เซลล์ไขมันที่เหลืออยู่จะมีการขยายตัวได้ตลอดเวลา และไขมันใหม่อาจกลับมาสะสมได้อีก หากละเลยการดูแลตัวเอง ซึ่งหากต้องการให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน ๆ แนะนำให้ดูแลตัวเองอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ ทั้งการควบคุมอาหารและการออกกำลังกาย

แนะนำให้ใส่ 4 – 6 สัปดาห์ หรือในบางกรณี แพทย์แนะนำให้ใส่ 1 – 3 เดือน โดยในช่วง 1 เดือนแรกให้ใส่ตลอด 24 ชั่วโมง ยกเว้นเวลาอาบน้ำ เพื่อช่วยลดอาการบวมช้ำและช่วยให้ผิวหนังกระชับเรียบเนียน ซึ่งหลังจากนี้ ให้ลดเวลาใส่เหลือ 12 ชั่วโมงต่อวัน

โดยทั่วไปแล้ว หลังทำการดูดไขมันด้วยเทคโนโลยีโปรแกรม Vaser ในช่วง 2 – 7 วันก็สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันหรือกลับไปทำงานได้ตามปกติ แต่บางรายอาจยังมีอาการบวมช้ำอยู่บ้าง โดยในบางเคสจะใช้เวลาพักฟื้นเต็มที่ในช่วง 1 – 2 สัปดาห์ (ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันที่ดูดออกและตำแหน่งที่ดูดไขมัน)

การดูดไขมันหลายตำแหน่งสามารถทำได้ภายในการรักษาเพียงครั้งเดียว เช่น การดูดหน้าท้องร่วมกับเอว หรือต้นแขนร่วมกับต้นขา ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันรวมที่ต้องดูด และความปลอดภัยของร่างกายเป็นหลัก

 

ในกรณีที่มีปริมาณไขมันมากหรือมีหลายจุดที่ต้องการดูดไขมันออก แพทย์อาจแนะนำให้แบ่งการทำออกเป็นรอบ ๆ เพื่อลดความเสี่ยงและให้ร่างกายฟื้นตัวได้อย่างเหมาะสม เช่น iรอบแรกดูดไขมันเฉพาะครึ่งบนของร่างกายก่อน แล้วค่อยทำครึ่งล่างในรอบถัดไป โดยทิ้งช่วงเวลาห่างกันประมาณ 3 – 6 เดือน

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการดูดไขมันด้วยโปรแกรม Vaser (FAQ)

สรุปการดูดไขมันกระชับรูปร่างด้วยเครื่องโปรแกรม Vaser

การดูดไขมันโปรแกรม Vaser โดยเฉพาะโปรแกรม Vaser Smooth 2.2 คือเครื่องดูดไขมันที่พัฒนาขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกำจัดไขมันให้รวดเร็ว แม่นยำ การใช้พลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ช่วยให้ไขมันแตกตัวกลายเป็นของเหลว ทำให้สามารถดูดออกได้ง่ายขึ้น พร้อมลดปัญหาเซลลูไลท์ และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ผิวเรียบเนียนกระชับหลังทำ

เทคโนโลยีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันหนาแน่น ต้องการลดสัดส่วนอย่างชัดเจน รวมถึงผู้ที่เคยออกกำลังกายแต่ไขมันบางส่วนยังคงสะสมอยู่ การเลือกดูดไขมันด้วยโปรแกรม Vaser ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ที่เคยดูดไขมันมาก่อน และเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตอบโจทย์ในระยะยาว

แชร์ :