loader image
ดูดไขมันปีกหลัง

ดูดไขมันหลัง ลดปีกหลัง แก้หลังหนา ปรับหุ่นสวย ลำตัวเพรียวบาง

       ดูดไขมันหลัง โดยเฉพาะบริเวณปีกหลังหรือแนวชุดชั้นใน เป็นหนึ่งในหัตถการที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่มีไขมันสะสมชัดเจนบริเวณด้านข้างลำตัวหรือเหนือแนวสายบรา ซึ่งส่งผลให้แผ่นหลังดูหนาและไม่เรียบเมื่อต้องสวมใส่เสื้อผ้ารัดรูป การดูดไขมันบริเวณนี้จึงเป็นทางเลือกในการปรับรูปร่างให้ลำตัวด้านข้างเพรียวขึ้น เพิ่มความมั่นใจทั้งด้านหน้าและด้านหลัง

การดูดไขมันหลังจำเป็นต้องอาศัยเทคนิคที่แม่นยำ เนื่องจากเป็นบริเวณที่มีกล้ามเนื้อเคลื่อนไหวตลอดเวลา และมีความเชื่อมโยงกับเส้นประสาทและผิวหนังที่บางในบางตำแหน่ง การเลือกเทคโนโลยีและแพทย์ที่มีทักษะและประสบการณ์จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อผลลัพธ์ที่สวยงามดูเป็นธรรมชาติ

เลือกอ่านตามหัวข้อได้ที่นี่

ดูดไขมันปีกหลัง (Back Liposuction) คืออะไร

      การดูดไขมันปีกหลัง (Back Liposuction) คือหัตถการที่ช่วยขจัดไขมันส่วนเกินบริเวณด้านข้างของแผ่นหลังหรือ “ปีกหลัง” ซึ่งเป็นจุดที่ไขมันมักสะสมได้ง่ายและลดได้ยากแม้จะควบคุมอาหารหรือออกกำลังกาย โดยเฉพาะในผู้หญิงที่มักเกิดรอยนูนเหนือแนวสายบรา หรือในผู้ชายที่มีแผ่นหลังหนา ทำให้รูปร่างดูไม่สมส่วน การดูดไขมันในตำแหน่งนี้จึงช่วยให้แผ่นหลังดูเรียบ กระชับ และสวมใส่เสื้อผ้าได้สวยขึ้นจากทุกมุมมอง

ปีกหลังอยู่ตรงไหน

     “ปีกหลัง” คือบริเวณด้านข้างของแผ่นหลังตอนบน ไล่ตั้งแต่บริเวณรักแร้ไปจนถึงแนวสายบราในผู้หญิง หรือแนวขอบเสื้อในผู้ชาย บริเวณนี้มักเป็นจุดที่ไขมันสะสมได้ง่าย และมีโครงสร้างเชื่อมโยงกับกล้ามเนื้อหลังด้านนอก (latissimus dorsi) และผิวหนังที่ค่อนข้างบาง เมื่อมีไขมันสะสมมาก จะเห็นเป็นรอยนูนหรือพับของผิวหนังชัดเจน โดยเฉพาะเวลาใส่เสื้อผ้ารัดรูปหรือชุดชั้นใน

ไขมันปีกหลังมาจากไหน

ไขมันบริเวณปีกหลังมักเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การนั่งทำงานนาน ๆ ขาดการออกกำลังกาย หรือระบบเผาผลาญที่ทำงานช้าลงตามอายุ รวมถึงพันธุกรรมที่ทำให้บางคนมีแนวโน้มสะสมไขมันเฉพาะจุดได้ง่าย อีกทั้งปีกหลังยังเป็นตำแหน่งที่ออกกำลังให้เฉพาะเจาะจงได้ยาก จึงทำให้ไขมันที่สะสมในบริเวณนี้ดื้อต่อการลดด้วยวิธีทั่วไป

ดูดไขมันปีกหลังช่วยให้หลังเพรียวบางสวยได้อย่างไร

การดูดไขมันปีกหลังช่วยขจัดไขมันส่วนเกินที่ทำให้เกิดรอยนูนหรือปีกล้นออกจากแนวเสื้อผ้า ทำให้แผ่นหลังดูเรียบแนบกับลำตัวมากขึ้น ลดความหนาของด้านข้างลำตัวและปรับเส้นโค้งของช่วงเอวให้ชัดเจน ผลลัพธ์คือรูปร่างที่เพรียวบางและสมส่วนจากทุกมุมมอง โดยเฉพาะเมื่อสวมใส่เสื้อผ้าที่ต้องการโชว์สรีระ เช่น เดรสรัดรูป หรือชุดว่ายน้ำ

ใครบ้างที่เหมาะกับการดูดไขมันหลัง ลดปีกหลัง

      การดูดไขมันปีกหลังเหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมเฉพาะจุดบริเวณด้านข้างของแผ่นหลัง ซึ่งไม่สามารถกำจัดออกได้ด้วยวิธีทั่วไป เช่น การควบคุมอาหารหรือออกกำลังกาย โดยเฉพาะในกลุ่มที่ต้องการปรับรูปร่างให้แผ่นหลังเรียบเนียนและลำตัวดูเพรียวขึ้นอย่างชัดเจน โดยลักษณะของผู้ที่เหมาะกับการดูดไขมันหลัง ได้แก่

  • มีไขมันสะสมชัดเจนบริเวณปีกหลังหรือแนวขอบชุดชั้นใน
  • รูปร่างอยู่ในเกณฑ์ปกติหรือน้ำหนักคงที่ แต่ยังมีไขมันส่วนเกินเฉพาะจุด
  • มีผิวหนังบริเวณหลังที่ยังยืดหยุ่นดี สามารถหดตัวได้หลังดูดไขมัน
  • ต้องการปรับลำตัวให้เพรียวขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่
  • ไม่มีโรคประจำตัวรุนแรง และผ่านการประเมินสุขภาพโดยแพทย์ก่อนทำ

เปรียบเทียบภาพก่อนและหลังดูดไขมันปีกหลัง

     ผลลัพธ์ของการดูดไขมันปีกหลังสามารถสังเกตได้อย่างชัดเจนจากภาพก่อนและหลังทำ โดยเฉพาะในเรื่องของความเรียบเนียนของแผ่นหลัง เส้นเอวที่ชัดขึ้น และลำตัวที่ดูเพรียวบางลง การเปรียบเทียบภาพจึงเป็นเครื่องยืนยันประสิทธิภาพของหัตถการ รวมถึงช่วยให้เห็นความแตกต่างอย่างเป็นรูปธรรมในแต่ละบุคคล ทั้งนี้ ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปตามปริมาณไขมันเดิม คุณภาพผิว และการดูแลหลังทำ

เครื่องดูดไขมันหลัง - ปีกหลัง มีกี่แบบ แตกต่างกันอย่างไร

       การเลือกเครื่องดูดไขมันให้เหมาะกับ “ปีกหลัง” ต้องพิจารณาทั้งความหนาของไขมัน ความยืดหยุ่นของผิว และลักษณะเฉพาะของแต่ละบุคคล ปัจจุบันมีเครื่องมือหลากหลายที่สามารถนำมาใช้ดูดไขมันบริเวณนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยแต่ละชนิดมีข้อดีและข้อจำกัดต่างกัน ดังนี้

เครื่องดูดไขมันพลังคลื่นเสียงจากอเมริกา

ใช้คลื่นอัลตราซาวด์ช่วยสลายไขมันก่อนดูดออก เหมาะกับไขมันหนาแน่นและดื้อ ช่วยให้ดูดได้เกลี้ยงโดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อรอบข้าง

เครื่องดูดไขมันพลังงานน้ำ

ใช้แรงดันน้ำอ่อน ๆ แยกเซลล์ไขมันออกอย่างนุ่มนวล เหมาะสำหรับบริเวณที่ต้องการเจ็บน้อย ช้ำน้อย และสามารถนำไขมันไปเติมส่วนอื่นต่อได้

เครื่องดูดไขมันพลังคลื่นเสียงจากเกาหลี

ใช้คลื่นโปรแกรมเลเซอร์หรือพลังงานแสงความถี่เฉพาะเจาะจงช่วยละลายไขมัน เหมาะกับการเก็บรายละเอียดในตำแหน่งเล็ก เช่น ปีกหลัง หรือแนวรอยบรา

เครื่องดูดไขมันพลังงานกล

เป็นระบบสั่นแบบกลไกที่ช่วยให้แพทย์ควบคุมทิศทางการดูดได้แม่นยำ ลดการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อ เหมาะกับบริเวณที่ต้องการความละเอียดสูง

เครื่องยกกระชับสัดส่วน

ใช้คลื่น RF ลดไขมันและกระตุ้นการหดตัวของผิวในขั้นตอนเดียว เหมาะกับผู้ที่กังวลเรื่องผิวหย่อนคล้อยหลังดูดไขมัน

เครื่องกระชับผิวพร้อมลดไขมัน

ใช้พลังงานคลื่นวิทยุผสมกับคลื่นแม่เหล็กความถี่สูง ช่วยกระชับผิว ฟื้นฟูคอลลาเจน และลดไขมันชั้นตื้น เหมาะสำหรับเสริมผลลัพธ์หลังดูดไขมัน

เครื่องแก้ปัญหาผิวยับ โดยไม่ต้องผ่าตัด

ใช้พลังงานพลาสมาเย็นช่วยกระชับผิวจากชั้นใต้ผิวหนังโดยตรง เห็นผลได้หลังทำ เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวยับหรือไม่เรียบ

ควรเลือกดูดไขมันปีกหลังด้วยเครื่องมือไหนดี

       การเลือกเครื่องมือสำหรับดูดไขมันปีกหลังควรพิจารณาจากหลายปัจจัยร่วมกัน เช่น ความหนาแน่นของไขมัน ความยืดหยุ่นของผิวบริเวณหลัง ลักษณะของรอยพับหรือปีก และความต้องการผลลัพธ์เฉพาะบุคคล ไม่ใช่ทุกคนจะเหมาะกับเครื่องชนิดเดียวกัน แพทย์จึงมีบทบาทสำคัญในการประเมินและวางแผนเทคนิคที่เหมาะสมในแต่ละราย

หากต้องการเจ็บน้อย ช้ำน้อย และมีแผนจะเติมไขมันต่อ เช่น เติมสะโพกหรือหน้าก็สามารถเลือก Body-jet Program ได้ ในกรณีที่ไขมันหนาแน่นและต้องการความแม่นยำในการกำจัดไขมันดื้อ VASER Program จะเหมาะกว่า หากกังวลเรื่องผิวหย่อนคล้อยหรือผิวยับหลังทำ ควรใช้ BodyTite Program หรือ J-Plasma Program ร่วมด้วย เพื่อช่วยให้ผิวหลังดูเรียบตึงมากขึ้น ดังนั้นการเลือกเครื่องมือจึงไม่ควรอิงจากความนิยมเพียงอย่างเดียว แต่ควรอิงจาก “ความเหมาะสมของร่างกายและเป้าหมายของแต่ละบุคคล” ภายใต้การดูแลของแพทย์ที่มีทักษะและประสบการณ์ในการรักษา

คุณหมอชวนคุย ลดไขมันหลังมีกี่วิธี แล้วเมื่อไหร่ที่เราต้องดูดไขมันปีกหลัง

       การลดไขมันบริเวณแผ่นหลังสามารถทำได้หลายวิธี ตั้งแต่การควบคุมอาหาร ออกกำลังกายเฉพาะกลุ่มกล้ามเนื้อหลัง ไปจนถึงการใช้เครื่องมือช่วยกระชับผิวหรือลดไขมันแบบไม่ผ่าตัด เช่น HIFEM, RF หรือโปรแกรมเลเซอร์บางชนิด อย่างไรก็ตาม บริเวณปีกหลังมักเป็นจุดที่ “ไขมันดื้อ” และไม่ตอบสนองต่อวิธีทั่วไปได้ง่าย โดยเฉพาะในผู้หญิงที่มีรอยพับเหนือสายบรา หรือผู้ชายที่มีไขมันข้างลำตัวสะสมเรื้อรัง

การดูดไขมันปีกหลังจึงเหมาะกับผู้ที่ลองลดไขมันด้วยวิธีอื่นแล้วไม่เห็นผล หรือผู้ที่ต้องการปรับรูปร่างให้ชัดเจน เห็นผลรวดเร็ว และมีปีกหลังยื่นชัดจนส่งผลต่อบุคลิกภาพ เช่น ใส่เสื้อผ้าแล้วมีรอยปูดด้านข้างลำตัว หรือรู้สึกไม่มั่นใจเวลาใส่ชุดรัดรูป เมื่อเข้าสู่จุดนี้ แพทย์จะเป็นผู้ประเมินว่าจำเป็นต้องใช้การดูดไขมันหรือไม่ และควรใช้เทคนิคใดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เกิดความปลอดภัยและดูสวยงาม

การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการดูดไขมันปีกหลัง

       เพื่อให้การดูดไขมันปีกหลังได้ผลลัพธ์ที่ดี ควรมีการเตรียมตัวล่วงหน้าอย่างเหมาะสม ทั้งในด้านร่างกายและจิตใจ ได้แก่

  • แจ้งประวัติสุขภาพกับแพทย์ รวมถึงโรคประจำตัว ยาที่ใช้อยู่ และอาหารเสริมที่ทานประจำ เช่น ยาละลายลิ่มเลือดหรือวิตามินบางชนิดที่อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการบวมช้ำ
  • งดอาหารและน้ำก่อนทำหัตถการ หากมีการวางแผนให้ยาสลบ ควรงดอาหารและน้ำอย่างน้อย 6–8 ชั่วโมง
  • งดแอลกอฮอล์และบุหรี่ อย่างน้อย 1–2 สัปดาห์ก่อนทำ เพราะมีผลต่อระบบการฟื้นตัวของแผลและการไหลเวียนเลือด
  • เตรียมเสื้อผ้าที่ใส่สบาย ควรเลือกเสื้อผ้าที่ไม่รัดบริเวณลำตัว และสะดวกต่อการเปลี่ยนชุดกระชับหลังทำ

ขั้นตอนการดูดไขมันปีกหลัง

       กระบวนการดูดไขมันปีกหลังดำเนินภายใต้ทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์ ด้วยมาตรฐานที่เน้นผลลัพธ์ให้เกิดความปลอดภัยและตอบโจทย์ต่อความต้องการ

  • การประเมินและมาร์กตำแหน่ง แพทย์จะตรวจสอบปริมาณไขมัน ความหนาผิว และมาร์กตำแหน่งดูดไขมันเพื่อความแม่นยำ
  • การให้ยาระงับความรู้สึก ขึ้นอยู่กับแผนการรักษา อาจใช้ยาชาเฉพาะที่หรือวางยาสลบ โดยมีวิสัญญีแพทย์ดูแลตลอดขั้นตอน
  • กระบวนการดูดไขมัน แพทย์จะเปิดแผลขนาดเล็กในตำแหน่งที่มองไม่เห็นชัด แล้วใช้เครื่องมือดูดไขมันตามเทคนิคที่เลือก เช่น VASER Program หรือ Body-jet Program
  • การดูแลหลังหัตถการ หลังทำจะมีการใส่ชุดกระชับ และทีมแพทย์จะสังเกตอาการก่อนให้กลับบ้าน

การดูแลตนเองหลังเข้ารับการดูดไขมันปีกหลัง

       การดูแลหลังการดูดไขมันมีบทบาทสำคัญต่อการฟื้นตัวที่รวดเร็วและผลลัพธ์ที่เรียบเนียนดูเป็นธรรมชาติ

  • ใส่ชุดกระชับตามคำแนะนำ ช่วยลดบวม ป้องกันผิวเป็นคลื่น และช่วยให้ผิวแนบกระชับกับชั้นกล้ามเนื้อ ควรใส่ต่อเนื่องตามระยะเวลาที่แพทย์กำหนด
  • ดูแลแผลผ่าตัด หลีกเลี่ยงการให้แผลโดนน้ำ ทำความสะอาดด้วยน้ำเกลือ และเปลี่ยนผ้าปิดแผลตามคำแนะนำ
  • พักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการยกของหนักหรือออกแรงช่วง 1–2 สัปดาห์แรก เพื่อไม่ให้แผลปริหรือเกิดการอักเสบ
  • ติดตามผลกับแพทย์ เข้ารับการตรวจตามนัด เพื่อประเมินผลการฟื้นตัว ป้องกันภาวะแทรกซ้อน และตรวจความเรียบของผิวบริเวณที่ทำ

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้จากการดูดไขมันปีกหลัง

       แม้การดูดไขมันปีกหลังจะเป็นหัตถการที่ให้ความปลอดภัยเมื่อดำเนินการโดยแพทย์ที่มีความรู้ในการรักษา ภายใต้สภาพแวดล้อมที่ได้มาตรฐาน แต่ก็ยังอาจมีผลข้างเคียงเกิดขึ้นได้ ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่

  1. ผลข้างเคียงทั่วไป (พบได้บ่อยและมักหายเอง)
  • อาการบวมและช้ำ บริเวณที่ดูดไขมันอาจมีอาการบวมแดงหรือช้ำในช่วง 5–14 วันแรก ซึ่งเป็นปฏิกิริยาปกติของร่างกายต่อการบาดเจ็บเล็กน้อยจากหัตถการ
  • อาการเจ็บระบมหรือปวดตึง มักคล้ายกล้ามเนื้ออักเสบ โดยเฉพาะเวลาเคลื่อนไหวหรือเปลี่ยนท่าทาง ซึ่งสามารถบรรเทาได้ด้วยยาแก้ปวดที่แพทย์สั่ง
  • รู้สึกชาเฉพาะจุด อาจเกิดจากเส้นประสาทเล็ก ๆ ที่ถูกกระทบชั่วคราว อาการนี้มักค่อย ๆ หายภายใน 1–3 เดือน
  • น้ำเหลืองซึมจากแผล โดยเฉพาะในช่วง 1–3 วันแรก มักเกิดจากของเหลวในชั้นไขมันที่ร่างกายกำจัดออก และจะหยุดได้เอง
  1. ผลข้างเคียงที่อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ (พบได้น้อยแต่ต้องระวัง)
  • ติดเชื้อบริเวณแผลหรือใต้ผิวหนัง อาจเกิดจากการดูแลแผลไม่ถูกต้อง หรือสภาพแวดล้อมไม่สะอาด อาการที่ควรสังเกตได้แก่ แผลบวมแดง มีหนอง หรือมีไข้ร่วมด้วย
  • ผิวไม่เรียบ เป็นคลื่นหรือเป็นรอยบุ๋ม มักเกิดจากการดูแลหลังทำไม่เหมาะสม เช่น ไม่ใส่ชุดกระชับ หรือดูดไขมันไม่สมดุลในบางจุด
  • เลือดออกผิดปกติหรือเกิดก้อนเลือดใต้ผิวหนัง (Hematoma) แม้พบไม่บ่อย แต่หากเกิดขึ้นต้องรีบพบแพทย์เพื่อตรวจประเมิน
  • พังผืดแข็งใต้ผิว อาจเกิดจากกระบวนการสมานตัวของเนื้อเยื่อภายใน หากมีขนาดใหญ่หรือรู้สึกเจ็บ อาจต้องทำการรักษาเพิ่มเติม เช่น นวดเปิดพังผืดหรือใช้คลื่น RF ร่วม
  • ภาวะแทรกซ้อนจากยาสลบ เช่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ ความดันตก หรือแพ้ยา ซึ่งป้องกันได้ด้วยการประเมินสุขภาพอย่างละเอียด และการดูแลโดยวิสัญญีแพทย์

ดูดไขมันปีกหลังพักฟื้นกี่วัน กี่วันถึงจะกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ

        หลังดูดไขมันปีกหลัง ไม่จำเป็นต้องนอนพักในโรงพยาบาล สามารถกลับบ้านได้ภายในวันเดียว แต่ร่างกายยังต้องใช้เวลาปรับตัวอีกสักระยะ ช่วง 2–3 วันแรกอาจรู้สึกตึง ๆ บริเวณหลัง ยกแขนไม่คล่อง หรือมีอาการปวดระบมเล็กน้อย ซึ่งถือเป็นอาการปกติ หลังจากนั้นอาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ

ส่วนใหญ่สามารถกลับไปทำงานเบา ๆ ได้ภายใน 3–7 วัน และกลับมาใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงปกติภายใน 1–2 สัปดาห์ แต่ถ้าต้องออกกำลังกายหรือยกของหนัก แนะนำให้เว้นอย่างน้อย 3–4 สัปดาห์ เพื่อให้เนื้อเยื่อใต้ผิวฟื้นตัวเต็มที่ และลดความเสี่ยงผิวไม่เรียบในระยะยาว ทั้งนี้การใส่ชุดกระชับต่อเนื่องและมาตรวจตามนัด จะช่วยให้หุ่นเข้าที่เร็วขึ้น

ทำไมต้องดูดไขมันปีกหลัง ที่ AM International Hospital

      เพราะการดูดไขมันปีกหลังไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงาม แต่เกี่ยวข้องกับความแม่นยำ และการออกแบบรูปร่างอย่างสมดุล AM International Hospital จึงให้ความสำคัญกับทุกขั้นตอน ตั้งแต่การประเมินสรีระอย่างละเอียด ไปจนถึงการเลือกใช้เทคโนโลยีที่ตอบโจทย์เฉพาะจุด

ที่นี่ดูแลโดยทีมแพทย์ที่มีความรู้และประสบการณ์ด้านการดูดไขมันโดยเฉพาะ ใช้เครื่องมือทันสมัยที่เหมาะกับบริเวณปีกหลังซึ่งต้องการความละเอียดสูง เช่น VASER Program, Body-jet Program และ J-Plasma Program พร้อมระบบห้องผ่าตัดมาตรฐานโรงพยาบาลใหญ่ และการติดตามผลอย่างใกล้ชิดทุกเคส เพื่อให้มั่นใจได้ว่า ผลลัพธ์ที่ได้จะไม่ใช่แค่หลังเรียบ แต่ต้องเพรียวเนียนดูเป็นธรรมชาติ และให้ความปลอดภัยในระยะยาว

รีวิวดูดไขมันปีกหลังจากผู้ใช้บริการจริง

        เสียงสะท้อนจากผู้ที่เคยเข้ารับบริการดูดไขมันปีกหลังจริง คืออีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยยืนยันถึงผลลัพธ์ ที่ให้ความปลอดภัย และความพึงพอใจในการรักษา ทั้งในแง่รูปร่างที่เปลี่ยนแปลงชัดเจน และประสบการณ์การดูแลจากทีมแพทย์อย่างใกล้ชิดทุกขั้นตอน

ค่าบริการดูดไขมันปีกหลัง

       ค่าบริการดูดไขมันปีกหลังที่ AM International Hospital จะอยู่ที่ 25,000 บาทต่อตำแหน่ง โดยราคาขึ้นอยู่กับจำนวนตำแหน่งที่ต้องทำ ปริมาณไขมัน เทคนิคหรือเครื่องมือที่เลือกใช้ เช่น VASER Program, Body-jet Program หรือ J-Plasma Program รวมถึงการดูแลหลังหัตถการที่เพิ่มเติมในแต่ละเคส แพทย์จะเป็นผู้ประเมินและออกแบบแนวทางการรักษาเฉพาะบุคคล เพื่อให้เหมาะสมกับรูปร่าง เป้าหมาย และงบประมาณของแต่ละรายอย่างโปร่งใสและตรงไปตรงมา

รวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการดูดไขมันปีกหลัง

วิธีลดไขมันหลังมีอะไรบ้าง?

สามารถลดได้ด้วยการควบคุมอาหารและออกกำลังกายที่เน้นกล้ามเนื้อหลัง เช่น เวทเทรนนิ่ง ว่ายน้ำ หรือโยคะ แต่หากไขมันบริเวณปีกหลังมีลักษณะเป็น “ไขมันดื้อ” การดูดไขมันจะช่วยกำจัดได้ถูกจุดและเห็นผลชัดเจนกว่า

ระหว่างทำจะรู้สึกเจ็บน้อย เนื่องจากมีการให้ยาชาเฉพาะที่หรือยาสลบตามแผนการรักษา หลังทำอาจรู้สึกระบมหรือปวดตึงเล็กน้อยคล้ายกล้ามเนื้ออักเสบ ซึ่งสามารถบรรเทาได้ด้วยยาแก้ปวดและการดูแลอย่างเหมาะสม

ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันและเทคนิคที่ใช้ หากทำจุดเล็กหรือปริมาณไม่มาก อาจใช้เพียงยาชาเฉพาะที่ แต่หากดูดหลายตำแหน่งพร้อมกัน แพทย์อาจพิจารณาวางยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยและความสบายของผู้รับบริการ

ช่วยให้ผิวกระชับแนบกับชั้นกล้ามเนื้อ ลดการเกิดรอยนูนหรือผิวเป็นคลื่น ควบคุมอาการบวมช้ำ และช่วยให้รูปร่างเข้าที่เร็วขึ้น ถือเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลหลังทำที่ขาดไม่ได้

ควรใส่ตลอด 24 ชั่วโมงในช่วง 1–2 สัปดาห์แรก (ถอดเฉพาะเวลาอาบน้ำ) และสามารถลดระยะเวลาเหลือวันละ 8–12 ชั่วโมงในสัปดาห์ถัดไป รวมระยะเวลาประมาณ 4–6 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์และอาการของแต่ละบุคคล

สรุปเรื่องการดูดไขมันปีกหลัง

     การดูดไขมันปีกหลังเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพสำหรับผู้ที่ต้องการลดไขมันเฉพาะจุดบริเวณด้านข้างแผ่นหลังหรือแนวสายบรา ซึ่งมักเป็นจุดที่ไขมันสะสมง่ายแต่ลดได้ยาก การทำหัตถการโดยแพทย์ที่มีทักษะและประสบการณ์ร่วมกับเทคโนโลยีที่เหมาะสม เช่น VASER Program, Body-jet Program หรือเสริมด้วย J-Plasma Program จะช่วยให้แผ่นหลังเรียบ เนียน และลำตัวเพรียวบางดูเป็นธรรมชาติ

การเตรียมตัวก่อนทำ การดูแลหลังทำ และการใส่ชุดกระชับอย่างต่อเนื่อง ล้วนมีผลต่อผลลัพธ์ที่ได้ในระยะยาว ดังนั้นควรเลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน มีทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์ดูแลครบทุกขั้นตอน เพื่อให้มั่นใจได้ว่า การดูดไขมันปีกหลังไม่ใช่เพียงเรื่องความสวยงาม แต่เป็นการปรับรูปร่างให้เกิดความปลอดภัยและยั่งยืน

แชร์ :

Thank You!

You details has been successfully submitted. Thanks!

ขอบคุณ!

ข้อมูลของคุณถูกส่งเรียบร้อยแล้ว 

ขอบคุณข้อเสนอแนะติชม