ประโยชน์ของไขมัน มีอะไรบ้าง เลือกกินอย่างไรให้สุขภาพดี

ประโยชน์ของไขมัน

เมื่อพูดถึงไขมัน หลายคนมักจะนึกถึงแต่เรื่องน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น หรือความเสี่ยงของโรคต่าง ๆ แต่ความจริงแล้วประโยชน์ของไขมันนั้นมีมากมายและจำเป็นต่อการดำรงชีวิตอย่างขาดไม่ได้ ในฐานะผู้ที่คลุกคลีกับการดูแลรูปร่างและการกำจัดไขมันส่วนเกิน AM International Hospital ขอนำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับบทบาทที่สำคัญของไขมันในร่างกาย พร้อมทั้งวิธีการเลือกรับประทานไขมันที่ดี เพื่อให้คุณมีสุขภาพที่แข็งแรงและสมดุล

เลือกอ่านตามหัวข้อด้านล่าง

5 ประโยชน์ของไขมันที่มีต่อร่างกาย มีอะไรบ้าง

ประโยชน์ของไขมันนั้นมีบทบาทในการทำหน้าที่มากกว่าแค่การเป็นแหล่งพลังงานสำรอง แต่ยังเป็นส่วนประกอบสำคัญของเซลล์ทุกชนิดในร่างกาย การทราบถึงประโยชน์ของไขมัน 5 ข้อนี้ จะช่วยให้คุณปรับเปลี่ยนมุมมองและหันมาใส่ใจในการเลือกไขมันที่ดีเข้าสู่ร่างกายมากขึ้น

ให้พลังงานแก่ร่างกาย

ไขมันเป็นแหล่งพลังงานที่เข้มข้นที่สุด โดยให้พลังงานถึง 9 กิโลแคลอรีต่อกรัม ในขณะที่คาร์โบไฮเดรตและโปรตีนให้เพียง 4 แคลอรีเท่านั้น ซึ่งมากกว่าถึง 2 เท่า ทำให้เป็นแหล่งสำรองพลังงานชั้นดีของร่างกาย

พลังงานจากไขมันมีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อร่างกายต้องใช้พลังงานอย่างต่อเนื่องและยาวนาน เช่น การออกกำลังกายแบบฝึกความทนทาน หรือการทำกิจกรรมที่ต้องใช้พลังงานสูงตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ ไขมันยังช่วยรักษาอุณหภูมิของร่างกายให้อบอุ่นอีกด้วย

ช่วยดูดซึมวิตามิน

วิตามินบางชนิดจำเป็นต้องอาศัยไขมันในการดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย หากร่างกายขาดไขมัน วิตามินเหล่านี้ก็จะไม่สามารถถูกนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ นี่คือส่วนที่เป็นประโยชน์ของไขมันอันสำคัญอย่างมากในระยะยาว

วิตามินที่ต้องอาศัยไขมันในการดูดซึม (Fat-Soluble Vitamins) ได้แก่ วิตามิน A, D, E และ K ซึ่งเป็นวิตามินที่สำคัญต่อการมองเห็น สุขภาพกระดูก การทำงานของภูมิคุ้มกัน และการแข็งตัวของเลือด การบริโภคไขมันดีในปริมาณที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อสุขภาพโดยรวม

ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ

แม้ว่าไขมันเลว (LDL) จะเพิ่มความเสี่ยงของโรคหัวใจ แต่ไขมันดี (HDL) บางประเภทสามารถช่วยปกป้องหัวใจและหลอดเลือดได้ การเลือกรับประทานไขมันไม่อิ่มตัวจึงเป็นหัวใจหลักในการดูแลสุขภาพหัวใจ โดยเฉพาะกรดไขมันโอเมก้า 3 (Omega-3) ซึ่งเป็นไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน มีคุณสมบัติช่วยลดระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือด ลดความดันโลหิต และลดการอักเสบในหลอดเลือดได้ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้อย่างชัดเจน

บำรุงสมอง

เซลล์สมองและระบบประสาทของเราประกอบด้วยไขมันถึงประมาณ 60% ไขมัน โดยเฉพาะ DHA (หนึ่งในประเภทของ Omega-3) ที่มีความสำคัญต่อโครงสร้างและการทำงานของเยื่อหุ้มเซลล์ประสาท ไขมันที่ดีจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการทำงานของสมอง การเรียนรู้ และความจำ การได้รับไขมันดีอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยเพิ่มสมาธิ ความจำ และอารมณ์ อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงของโรคซึมเศร้าและโรคทางสมองในผู้สูงอายุได้ด้วย

สร้างระบบภูมิคุ้มกัน

ประโยชน์ของไขมันอีกอย่างหนึ่งที่หลายคนยังไม่ทราบคือมันช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มได้เป็นอย่างดี โดยไขมันมีบทบาทในการสร้างและรักษาสมดุลของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย โดยเฉพาะกรดไขมันจำเป็นบางชนิดที่ช่วยควบคุมการตอบสนองของการอักเสบในร่างกาย นอกจากนี้ยังส่วนสำคัญในการสร้างฮอร์โมน และเยื่อหุ้มเซลล์ ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับระบบภูมิคุ้มกัน ไขมันดีช่วยให้เซลล์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ร่างกายสามารถต้านเชื้อโรคและฟื้นฟูตนเองได้ดียิ่งขึ้นเมื่อเกิดการเจ็บป่วย

ทำความเข้าใจประเภทของไขมันในร่างกาย

เพื่อทำความเข้าใจประโยชน์ของไขมันได้อย่างชัดเจน เราจำเป็นต้องรู้จักประเภทของไขมันที่มีอยู่ในร่างกายและอาหารที่เราบริโภค เนื่องจากไขมันแต่ละชนิดมีผลต่อสุขภาพที่แตกต่างกันอย่างมาก

คอเลสเตอรอล

คอเลสเตอรอลเป็นไขมันชนิดหนึ่งที่พบในเลือดและทุกเซลล์ของร่างกาย แม้จะถูกมองว่ามีความอันตราย แต่จริง ๆ แล้วคอเลสเตอรอลมีความจำเป็น เพียงแต่ต้องควบคุมให้อยู่ระดับที่เหมาะสม

ไขมันดี (HDL)

ไขมันดี หรือ HDL ย่อมาจาก High-Density Lipoprotein มีหน้าที่สำคัญในการเก็บและขนส่งคอเลสเตอรอลส่วนเกินจากเซลล์ต่าง ๆ กลับไปที่ตับเพื่อกำจัดออกจากร่างกาย การมีระดับ HDL ที่สูงจึงถือเป็นสัญญาณที่ดีและช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ

ไขมันไม่ดี (LDL)

ไขมันไม่ดี หรือ LDL ย่อมาจาก Low-Density Lipoprotein มีหน้าที่ขนส่งคอเลสเตอรอลไปยังเซลล์ทั่วร่างกาย แต่หากมีปริมาณมากเกินไปจะทำให้เกิดการสะสมและจับตัวเป็นคราบพลัค (Plaque) ที่ผนังหลอดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของหลอดเลือดอุดตัน

ไตรกลีเซอไรด์

ไตรกลีเซอไรด์ เป็นไขมันในเลือดที่ร่างกายได้จากอาหารโดยตรงหรือจากคาร์โบไฮเดรตส่วนเกิน หากร่างกายได้รับแคลอรีเกินความจำเป็น (โดยเฉพาะจากคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาล) ตับจะเปลี่ยนส่วนเกินนั้นให้เป็นไตรกลีเซอไรด์

ไขมันอิ่มตัว (Saturated Fat)

ไขมันอิ่มตัว (Saturated Fat) พบมากในเนื้อสัตว์ติดมัน น้ำมันปาล์ม น้ำมันมะพร้าว และผลิตภัณฑ์นม ถ้ารับประทานมากเกินไปจะเพิ่ม LDL ควรบริโภคให้น้อยกว่า 10 % ของพลังงานทั้งหมดต่อวัน

ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (Monounsaturated Fat)

ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (Monounsaturated Fat) พบในน้ำมันมะกอก อะโวคาโด ถั่วลิสง และเมล็ดพืชบางชนิด เป็นไขมันดี ช่วยลด LDL และเพิ่ม HDL เมื่อบริโภคในปริมาณเหมาะสม

ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน (Polyunsaturated Fat)

สำหรับไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน (Polyunsaturated Fat) ประกอบด้วยโอเมก้า 3 และโอเมก้า 6 พบในปลาน้ำลึก น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันข้าวโพด และถั่ววอลนัท ช่วยลดไตรกลีเซอไรด์ ประโยชน์ของไขมันชนิดนี้ในการช่วยลดไตรกลีเซอไรด์ ต้านการอักเสบป้องกันการอักเสบและบำรุงหัวใจ

ไขมันทรานส์ (Trans Fat)

ไขมันทรายส์ (Trans Fat) เป็นไขมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจน มักพบในอาหารแปรรูป เช่น มาร์การีน เบเกอรี่ และของทอด เป็นไขมันอันตรายอย่างยิ่ง เพราะทั้งเพิ่ม LDL และลด HDL จึงควรหลีกเลี่ยงโดยเด็ดขาด

ต้องเลือกกินไขมันอย่างไรให้ได้ประโยชน์

หลังจากที่ทราบถึงประโยชน์ของไขมันและประเภทต่าง ๆ ของไขมันแล้ว สิ่งที่สำคัญคือการนำความรู้นี้ไปปรับใช้ในการเลือกรับประทานอาหารประจำวัน เพื่อให้คุณได้รับไขมันที่ดีอย่างเพียงพอและหลีกเลี่ยงไขมันที่เป็นอันตราย

  • เลือกไขมันดีอย่าง Omega-3 เพราะเป็นกรดไขมันจำเป็นที่ร่างกายสร้างเองไม่ได้ ช่วยบำรุงสมอง และลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ดีเยี่ยม ควรเน้นบริโภคไขมันไม่อิ่มตัว เช่น น้ำมันมะกอก อะโวคาโด ถั่ว ปลาแซลมอน ปลาแมคเคอเรล เมล็ดแฟลกซ์ เมล็ดเจีย และวอลนัท เป็นต้น
  • แทนที่ไขมันอิ่มตัวด้วยไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว ควรลดการบริโภคเนื้อสัตว์ติดมัน หนังสัตว์ ผลิตภัณฑ์นมเต็มมันเนย หรือของทอด เพราะไขมันอิ่มตัวเพิ่ม LDL ได้ หากจำเป็นให้เลือกผลิตภัณฑ์ไขมันต่ำหรือเปลี่ยนมาใช้น้ำมันมะกอก (Extra Virgin) ทานอะโวคาโดหรือถั่วเปลือกแข็ง (เช่น อัลมอนด์) แทนก็ได้
  • หลีกเลี่ยงไขมันทรานส์และอาหารแปรรูป เพราะไขมันทรานส์เป็นอันตรายต่อหลอดเลือดมาก และส่งผลเสียต่อการทำงานของระบบเผาผลาญในร่างกาย ควรอ่านฉลากอาหารก่อนซื้อเสมอ หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีคำว่า “Partially Hydrogenated Oils” หรือ “ไขมันทรานส์” โดยเด็ดขาด
  • กินไขมันในปริมาณอย่างเหมาะสม แม้จะเป็นไขมันดี แต่ถ้ารับประทานเกินพอดี ก็ทำให้น้ำหนักขึ้นได้ ควรบริโภคไขมันไม่เกิน 20 – 35 % ของพลังงานต่อวัน เลือกเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมัน นมไขมันต่ำ หรือโยเกิร์ตไขมันต่ำ
  • ปรุงอาหารด้วยวิธีที่ดีต่อสุขภาพ แทนที่จะทอด ควรเลือกอบ นึ่ง ต้มหรือย่าง เพื่อหลีกเลี่ยงการเติมน้ำมันเพิ่มโดยไม่จำเป็น

สำหรับใครที่มีไขมันสะสมในบริเวณที่ยากต่อการลดด้วยตัวเอง AM International Hospital เราพร้อมให้คำปรึกษาเพื่อจัดการกับไขมันส่วนเกินเหล่านั้นได้อย่างตอบโจทย์มากยิ่งขึ้น ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้ชำนาญการด้านการปรับรูปร่างและสัดส่วน

โปรแกรมดูดไขมันหน้าท้อง

ดูดไขมันหน้าท้อง เป็นหัตถการทางการแพทย์ที่มีเป้าหมายในการขจัดไขมันสะสมบริเวณหน้าท้องอย่างจำเพาะเจาะจง เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาไขมันส่วนเกินบริเวณพุง

ดูดไขมันเหนียง

ดูดไขมันเหนียง เป็นหัตถการที่ช่วยกำจัดไขมันสะสมบริเวณใต้คางและลำคออย่างถูกจุด เหมาะสำหรับผู้ที่มีคางสองชั้น กรอบหน้าไม่ชัด หรือมีเหนียงจากพันธุกรรมและอายุที่เพิ่มขึ้น

โปรแกรมดูดไขมันต้นขา ปั้นขาเรียวสวย ลดขาใหญ่

ดูดไขมันต้นขา เป็นหนึ่งในวิธีทางการแพทย์ที่ช่วยแก้ไขรูปร่างเฉพาะจุดอย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาต้นขาใหญ่ ขาเบียด

แชร์ :

สรุปบทความ

ไขมันเป็นสารอาหารหลักที่ร่างกายขาดไม่ได้ และประโยชน์ของไขมันนั้นก็มีมากมาย โดยเฉพาะประโยชน์ต่อการทำงานของอวัยวะสำคัญ เช่น สมอง หัวใจ และระบบภูมิคุ้มกัน การมีสุขภาพที่ดีไม่ได้หมายถึงการกำจัดไขมันออกจากชีวิต แต่คือการเรียนรู้ที่จะเลือกบริโภคไขมันที่ดีและหลีกเลี่ยงไขมันที่ไม่ดีต่างหาก

กรอกฟอร์ม ปรึกษาหมอ ฟรี!

Thank You!

You details has been successfully submitted. Thanks!

ขอบคุณ!

ข้อมูลของคุณถูกส่งเรียบร้อยแล้ว 

ขอบคุณข้อเสนอแนะติชม