
Rib Remodeling คืออะไร? เจาะลึกเทคนิคงอกระดูกซี่โครง เอวคอดแบบ Corset Waist หุ่นเพรียวไม่ง้อคอร์เซ็ท
สำหรับผู้ที่มีหุ่นทรงกระบอก หรือโครงสร้างลำตัวช่วงเอวกว้าง การออกกำลังกายและควบคุมอาหารอาจไม่เพียงพอในการสร้างรูปร่างให้เอวคอดสวยเหมือนการมีหุ่นแบบนาฬิกาทราย (Hourglass figure) แม้ไขมันจะลดลง สัดส่วนจะกระชับขึ้น แต่เมื่อมองไปที่โครงสร้างกระดูกซี่โครงซึ่งเป็นตัวกำหนดรูปทรงหลัก ๆ ของลำตัว เราอาจพบว่าข้อจำกัดทางกายภาพนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเปลี่ยนแปลงได้ด้วยวิธีธรรมชาติ เทคนิค “Rib Remodeling” หรือการงอกระดูกซี่โครง จึงถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการลดเอวอย่างจริงจัง
การผ่าตัดนี้เน้นปรับรูปทรงซี่โครงส่วนล่างให้สมส่วนกับแนวเส้นโค้งเว้าของช่วงลำตัว ช่วยให้รูปร่างโดยรวมดูสมส่วนยิ่งขึ้น สามารถทำได้ทุกเพศ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการลดเอวในผู้ชายที่มีความประสงค์อยากเปลี่ยนแปลงรูปร่าง
ไม่ว่าจะเป็นความเข้าใจผิดเกี่ยวกับความเสี่ยงในการผ่าตัดซี่โครง หรือข้อสงสัยต่าง ๆ ในขั้นตอนการผ่าตัด บทความนี้จะพาไปเจาะลึกทุกแง่มุมของการงอกระดูกซี่โครง Rib Remodeling ตั้งแต่ความหมาย ขั้นตอนที่ซับซ้อน ข้อดี ข้อจำกัด ไปจนถึงการเตรียมตัวและการดูแลหลังผ่าตัด เพื่อให้ทุกคนได้รับข้อมูลที่ครบถ้วนและถูกต้องก่อนตัดสินใจเปลี่ยนแปลง
Rib Remodeling คืออะไร? ใช่การตัดซี่โครงหรือไม่?
การงอกระดูกซี่โครง (Rib Remodeling) คือ การศัลยกรรมกระดูกอย่างหนึ่งที่ออกแบบมาเพื่อการปรับรูปทรงของกระดูกซี่โครงส่วนล่าง เพื่อให้สัดส่วนบริเวณเอวมีความคอดและโค้งเว้ามากยิ่งขึ้น ซึ่งจะแตกต่างจากการ “ตัดซี่โครง (Rib removal)” โดยสิ้นเชิง
แม้ในอดีตอาจมีการผ่าตัดเอาซี่โครงออกบางส่วนเพื่อลดขนาดเอว แต่ในปัจจุบัน เทคนิค Corset Waist ที่เป็นการปรับใช้วิธีงอกระดูกซี่โครง (Rib Remodeling) ได้พัฒนาไปอย่างมาก โดยจะเน้นการปรับความโค้งงอของกระดูกซี่โครงคู่ล่างสุด โดยไม่ได้ผ่าตัดเอากระดูกออกไปทั้งหมด
Rib Remodeling คือการผ่าตัดที่เกี่ยวข้องกับการทำให้กระดูกซี่โครงมีความยืดหยุ่นขึ้น จากนั้นจึงค่อย ๆ ปรับรูปร่างให้โค้งงอเข้าด้านใน ซึ่งจะช่วยลดขนาดรอบเอวได้ถาวรและสามารถดูแลให้ปลอดภัยกว่าการตัดซี่โครงออกไปโดยตรง โดยศัลยแพทย์จะประเมินโครงสร้างและสรีระของเราอย่างละเอียด เพื่อวางแผนการผ่าตัดให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและเหมาะสมกับแต่ละบุคคลให้ได้มากเท่าที่จะเป็นไปได้
หลักการทำงานของ Rib Remodeling งอกระดูกซี่โครงเพื่อลดรอบเอวได้อย่างไร?
Rib Remodeling หรือการงอกระดูกเอว คือการปรับกระดูกซี่โครงซี่ที่ 10, 11, และ 12 หรือที่เรียกว่า ซี่โครงลอย (Floating ribs) ซึ่งเป็นซี่โครงที่ไม่ได้ยึดติดกับกระดูกหน้าอก (Sternum) โดยตรง ทำให้มีความยืดหยุ่นและสามารถปรับเปลี่ยนรูปทรงได้ โดยศัลยแพทย์จะทำการกรีดแผลขนาดเล็กประมาณ 1-2 นิ้ว บริเวณด้านหลังส่วนล่างเหนือแนวเอวทั้งสองข้าง เพื่อให้สามารถเข้าถึงกระดูกซี่โครงได้อย่างเต็มที่
เมื่อเปิดแผลแล้ว ศัลยแพทย์จะใช้เทคนิคการปรับความโค้งของกระดูกซี่โครงโดยไม่มีการตัดกระดูกซี่โครงออก ซึ่งรวมถึงการใช้เทคนิคสมัยใหม่อย่าง Green-Stick Fractures (การหักของกระดูกแบบไม่ขาดจากกัน) หรือการทำ Rib Shaving (การปรับรูปทรงกระดูกซี่โครง) เพื่อให้ซี่โครงงอเข้าด้านในมากขึ้น ส่งผลให้บริเวณเอวดูแคบลงอย่างเห็นได้ชัด หลังจากนั้นศัลยแพทย์จะทำการปิดบาดแผลด้วยการเย็บ
จากงานวิจัยเกี่ยวกับ Scientific Evidence on the Practice of Rib Resection or Remodeling for Body Contouring โดยการรวบรวมข้อมูลจาก 12 ชิ้น ไม่ว่าจะเป็น PubMed, EMBASE, Cochrane และอื่น ๆ พบว่าเทคนิคการงอกระดูกซี่โครงแบบใหม่หรือ Rib Remodeling นี้มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนน้อยกว่าการตัดกระดูกซี่โครงทิ้งอย่างมาก
การทำ Rib Remodeling จะเหมาะสำหรับผู้ที่มีหุ่นทรงกระบอกหรือเอวตรง และต้องการปรับรูปร่างให้ชัดเจนยิ่งขึ้น แม้ในกลุ่มที่ต้องการลดเอวผู้ชายก็เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากช่วยให้รูปร่างดูดีและมีทรวดทรงชัดเจน ซึ่งการลดไขมันหรือการออกกำลังกายไม่สามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้างกระดูกที่เป็นปัจจัยหลักได้
เปรียบเทียบชัด ๆ !
Rib Remodeling VS Rib Removal VS การดูดไขมันเอวเอส
แตกต่างกันอย่างไร?
เมื่อพูดถึงการปรับรูปร่างช่วงเอวให้คอด หลายคนอาจสับสนระหว่างวิธีการที่แตกต่างกันออกไปในวงการศัลยกรรมตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็นการงอกระดูกซี่โครง (Rib Remodeling), การผ่าตัดเอาซี่โครงออก (Rib Removal), หรือแม้แต่โปรแกรมดูดไขมันเอวเอส (Waist Liposuction) แม้ปลายทางของผลลัพธ์อาจดูคล้ายกัน แต่หลักการ ขั้นตอน และผลลัพธ์นั้นมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
- Rib Remodeling (การงอกระดูกซี่โครง) เป็นการผ่าตัดที่เน้น “ปรับรูปทรง” หรือ “ดัดความโค้ง” ของกระดูกซี่โครงส่วนล่างให้โค้งเข้าด้านในมากขึ้น เพื่อลดขนาดรอบเอว โดยไม่มีการตัดหรือนำกระดูกซี่โครงออกไป เป็นการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างแต่ยังคงความสมบูรณ์ของซี่โครงไว้
- Rib Removal (การผ่าตัดเอาซี่โครงออก) เป็นการผ่าตัดนำกระดูกซี่โครงส่วนล่างบางส่วนออกไปอย่างถาวร เพื่อให้เอวคอดลงอย่างมาก เป็นวิธีที่ค่อนข้างซับซ้อนและต้องมีแผลเปิดขนาดใหญ่ ซึ่งมีข้อควรพิจารณาด้านความปลอดภัยและผลกระทบระยะยาวหลายปัจจัยที่ไม่ควรมองข้าม
- การดูดไขมันเอวเอส (Waist Liposuction) แตกต่างจากสองวิธีแรกโดยสิ้นเชิง เพราะเป็นการผ่าตัดที่เน้นการกำจัดไขมันส่วนเกินที่สะสมอยู่บริเวณรอบเอว ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับโครงสร้างกระดูกแต่อย่างใด เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมที่บดบังส่วนโค้งเว้าของเอวมากกว่า
การทำความเข้าใจความแตกต่างของการลดรอบเอวแบบต่าง ๆ นั้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้เราสามารถเลือกวิธีที่เหมาะสมกับความต้องการและสภาพร่างกายของตนเอง
เช็กลิสต์! ใครคือคนที่เหมาะกับการทำ Rib Remodeling?
โดยทั่วไปแล้ว ผู้ที่เหมาะกับการทำ Rib Remodeling มักจะมีคุณสมบัติหรือข้อกังวลหลายอย่างที่การออกกำลังกายหรือการปรับการทานอาหารไม่สามารถแก้ไขได้ ศัลยแพทย์จะทำการประเมินอย่างละเอียดเพื่อพิจารณาว่าเราคือกลุ่มที่เหมาะสมหรือไม่ โดยผู้ที่จัดอยู่ในกลุ่ม Ideal Candidate สำหรับการทำ Rib Remodeling โปรแกรม Corset Waist ได้แก่
- ผู้ที่มีปัญหาเอวกว้าง เอวตรง หุ่นทรงกระบอก โดยเฉพาะกลุ่มที่มีสาเหตุมาจากโครงสร้างกระดูกซี่โครง คือกลุ่มที่เหมาะสมอย่างยิ่ง! เนื่องจาก Rib Remodeling โปรแกรม Corset Waist จะเน้นการปรับเปลี่ยนรูปทรงของกระดูกซี่โครงโดยตรง
- ผู้ที่มีลำตัวสั้น หรือมีช่องว่างระหว่างซี่โครงกับสะโพกค่อนข้างสั้น การงอกระดูกซี่โครงจะช่วยสร้างความโค้งเว้าและหลอกตาให้ลำตัวดูยาวขึ้นและมีสัดส่วนที่ชัดเจน
- ผู้ที่เคยผ่านการดูดไขมันเอวและเติมไขมันสะโพกมาแล้ว แต่ยังไม่พอใจกับความคอดของเอวเมื่อเทียบกับสะโพกที่ผายออก แสดงว่าปัญหาหลักอยู่ที่โครงสร้างกระดูก ไม่ใช่เพียงปริมาณไขมัน
- ผู้ที่อยู่ในกลุ่ม LGBTQ+ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการปรับสรีระให้มีรูปร่างแบบผู้หญิง (Feminization Surgery) การงอกระดูกซี่โครงหรือผ่าตัดซี่โครงเอวคอดสามารถช่วยสร้างทรวดทรงแบบนาฬิกาทรายที่ชัดเจน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการเสริมอัตลักษณ์ทางเพศให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
- ผู้ที่มีค่าดัชนีมวลกาย (BMI) ไม่เกิน 25 (หรือ 28 ก็ได้ ขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์) การมีน้ำหนักตัวที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ดูแลให้ปลอดภัย และลดความเสี่ยงจากการผ่าตัดได้
- คุณแม่หลังคลอดที่ประสบปัญหาซี่โครงกาง (Rib Flaring) และไม่สามารถกลับสู่สภาพเดิมได้ด้วยการบริหารร่างกายตามธรรมชาติ โดยการตั้งครรภ์อาจทำให้ซี่โครงขยายตัวออกและไม่หดกลับตามธรรมชาติ ซึ่ง Rib Remodeling สามารถช่วยแก้ไขได้โดยตรง
- ผู้ที่มีซี่โครงครบถ้วน ไม่เคยผ่านการผ่าตัดตัดซี่โครงออกมาก่อน เนื่องจาก Rib Remodeling เป็นการปรับรูปทรงซี่โครงส่วนล่าง หากผ่านการตัดซี่โครงส่วนดังกล่าวทิ้งมาแล้ว ก็จะไม่สามารถงอซี่โครงส่วนอื่นได้
เช็กข้อจำกัด! ใครบ้างที่ไม่แนะนำให้ทำ Rib Remodeling
ศัลยแพทย์จะทำการประเมินสุขภาพโดยรวมและประวัติทางการแพทย์อย่างละเอียดก่อนเสมอ เพื่อคัดกรองผู้ที่ไม่เหมาะสมกับการผ่าตัดซี่โครงเอวคอด Corset Waist โดยผู้ที่ไม่แนะนำให้เข้ารับการทำ Rib Remodeling ได้แก่
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวอาการรุนแรงหรือมีภาวะสุขภาพไม่คงที่ เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือดที่ควบคุมได้ไม่ดี, โรคเบาหวานที่ค่าน้ำตาลในเลือดไม่คงที่, โรคไต, หรือโรคปอดเรื้อรัง ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอาการแทรกซ้อนระหว่างการผ่าตัดและพักฟื้น
- ผู้ที่อายุมาก โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป เนื่องจากความหนาแน่นและความยืดหยุ่นของกระดูกอาจลดลงตามวัย ซึ่งอาจส่งผลต่อกระบวนการสมานตัวของกระดูกและผลลัพธ์ของการผ่าตัด (อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดด้านอายุอาจแตกต่างกันไปในแต่ละสถานพยาบาลและดุลยพินิจของแพทย์)
- ผู้ที่ยังมีภาวะน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน หากยังมีไขมันส่วนเกินจำนวนมาก การงอกระดูกซี่โครงเพียงอย่างเดียวอาจไม่ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน จึงควรลดน้ำหนักหรือไขมันให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมก่อน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์มากเท่าที่จะเป็นไปได้
- สตรีมีครรภ์หรืออยู่ในระหว่างการให้นมบุตร เพื่อการดูแลให้ปลอดภัยทั้งมารดาและทารก ควรเลื่อนการผ่าตัดออกไปก่อน
- ผู้ที่มีภาวะเลือดออกผิดปกติ หรือมีปัญหาเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด รวมถึงผู้ที่รับประทานยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด ควรแจ้งให้แพทย์ทราบอย่างละเอียด
- ผู้ที่มีประวัติเคยผ่าตัดบริเวณซี่โครงมาก่อน หรือเคยได้รับบาดเจ็บจนซี่โครงหัก โครงสร้างซี่โครงที่เปลี่ยนแปลงไปจากการผ่าตัดหรือการบาดเจ็บในอดีต อาจส่งผลต่อแผนการผ่าตัดและความสามารถในการปรับรูปทรง
- ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับความหนาแน่นของกระดูกผิดปกติ (เช่น โรคกระดูกพรุนรุนแรง) หรือมีภาวะกระดูกสันหลังคด/ซี่โครงคดที่รุนแรง แม้ในบางกรณีที่กระดูกคดเล็กน้อยอาจสามารถทำได้ แต่หากมีการคดงอมาก อาจเป็นข้อจำกัดในการปรับรูปทรงและอาจต้องได้รับการประเมินจากแพทย์เฉพาะทางเพิ่มเติม
ขั้นตอนการทำ Rib Remodeling
ไม่ว่าจะต้องการเสริมรูปร่างให้มีทรวดทรงชัดเจนขึ้น หรือแม้แต่กรณีที่อยากเปลี่ยนเอวคอดผู้ชายให้ดูเพรียวลง การทำ Rib Remodeling นั้นแตกต่างจากการผ่าตัดซี่โครงแบบเก่าที่เน้นการตัดซี่โครงเอวคอดทิ้งโดยสิ้นเชิง เพราะ Rib Remodeling มุ่งเน้นการปรับแต่งโครงสร้างกระดูกซี่โครงหรืองอกระดูกซี่โครงส่วนล่างให้เข้าที่อย่างดูเป็นธรรมชาติ เพื่อทำลายข้อจำกัดของหุ่นทรงกระบอก ที่มักเป็นอุปสรรคใหญ่ของการมีรูปร่างเพรียวดูดี
การเตรียมตัวก่อนทำ Rib Remodeling
การเตรียมความพร้อมที่ดีก่อนการผ่าตัดเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อผลลัพธ์และลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน ผู้เข้ารับบริการทุกท่านจะได้รับการประเมินสุขภาพอย่างละเอียดและได้รับคำแนะนำเฉพาะบุคคลจากทีมแพทย์และพยาบาล โดยมีข้อปฏิบัติก่อนผ่าตัดซี่โครงเบื้องต้นดังนี้
- ปรึกษาและประเมินสุขภาพโดยละเอียด โดยการพบศัลยแพทย์เพื่อประเมินโครงสร้างกระดูกซี่โครง สภาวะสุขภาพ และความเหมาะสม รวมถึงการปรึกษาเพิ่มเติมว่าอยากได้ผลลัพธ์แบบไหน มีจุดประสงค์อะไรในการงอกระดูกซี่โครงหรือไม่
- ตรวจสุขภาพในห้องปฏิบัติการ โดยจะมีตั้งแต่การตรวจเลือด, ตรวจปัสสาวะ, ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG), และเอ็กซเรย์ปอดและกระดูก เพื่อประเมินความพร้อมของร่างกาย
- งดรับประทานยาและอาหารเสริมบางชนิด ยกตัวอย่างเช่น แอสไพริน, ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) เช่น ไอบูโพรเฟน, นาพรอกเซน และวิตามินอี หรืออาหารเสริมบางประเภทที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด
- แจ้งประวัติสุขภาพเบื้องต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งประวัติการแพ้ยา โรคประจำตัว หรือประวัติการเข้ารับการผ่าตัดอื่น ๆ ที่เคยทำ
- งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยควรงดสูบบุหรี่อย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ก่อนและหลังผ่าตัด เนื่องจากนิโคตินจะส่งผลกระทบต่อการไหลเวียนของเลือดและการสมานแผล และงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนผ่าตัดด้วยเช่นกัน
- ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม หากมีภาวะน้ำหนักเกิน ควรพยายามลดน้ำหนักให้อยู่ในค่า BMI ที่เหมาะสมตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อลดความเสี่ยงและเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี
- เตรียมความพร้อมกับตัวเอง โดยเริ่มต้นจากการทำความเข้าใจในขั้นตอนการผ่าตัด ระยะเวลาพักฟื้น และผลลัพธ์ที่เป็นไปได้ เพื่อลดความวิตกกังวลในการงอกระดูกซี่โครง
- เตรียมผู้ดูแล ควรมีผู้ดูแลที่สามารถให้ความช่วยเหลือได้ในช่วง 2-3 วันแรกหลังการผ่าตัด เพราะร่างกายต้องการเวลาปรับตัว และป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ
ขั้นตอนการเข้ารับบริการทำ Rib Remodeling
เมื่อการเตรียมตัวผ่านไปได้ด้วยดี ขั้นตอนการทำ Rib Remodeling งอกระดูกซี่โครงจะดำเนินการโดยทีมศัลยแพทย์ วิสัญญีแพทย์ และเจ้าหน้าที่พยาบาล โดยหลังจากที่เข้ารับการเตรียมความพร้อมในห้องผ่าตัด ทีมแพทย์จะเริ่มกระบวนการตามลำดับดังนี้
ดมยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์
เพื่อช่วยระงับความเจ็บปวด และป้องกันอาการวิตกกังวลมากเกินไประหว่างการผ่าตัด โดยวิสัญญีแพทย์จะทำการตรวจเช็กอาการของผู้เข้ารับการงอกระดูกซี่โครงตลอดเวลา เพื่อให้ทราบว่าร่างกายยังคงทำงานปกติทุกระบบ และไม่มีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนอันตราย
เริ่มด้วยการดูดไขมัน (Liposuction)
ในทุกกรณี จำเป็นต้องมีการดูดไขมันบริเวณเอว หน้าท้อง และแผ่นหลังร่วมด้วยเสมอ ขั้นตอนนี้สำคัญมาก เพราะช่วยลดปริมาณไขมันที่ปกคลุมกระดูกซี่โครง ทำให้ศัลยแพทย์สามารถเข้าถึงและปรับแต่งซี่โครงได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้ผิวหนังแนบชิดกับโครงสร้างซี่โครงที่ได้รับการปรับแต่ง ทำให้ผลลัพธ์ออกมาเอวคอดดูเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้นด้วย
ใช้เครื่องอัลตราซาวด์ระหว่างผ่าตัด (Intraoperative Ultrasound Guidance – USG)
ในระหว่างการงอกระดูกซี่โครง ศัลยแพทย์จะใช้เครื่องอัลตราซาวด์ (Intraoperative Ultrasound Guidance) เพื่อให้สามารถมองเห็นตำแหน่งของกระดูกซี่โครง เส้นประสาท และเนื้อเยื่อโดยรอบได้อย่างแม่นยำแบบเรียลไทม์ เทคนิคนี้ช่วยให้การงอกระดูกซี่โครงมีความแม่นยำและดูแลให้ปลอดภัยได้มากขึ้น ลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ และช่วยให้ศัลยแพทย์สามารถวางแผนและดำเนินการปรับความโค้งของซี่โครงได้อย่างละเอียด
เริ่มผ่าตัดงอกระดูกซี่โครงเพื่อปรับตำแหน่งกระดูก ปั้น Corset Waist
การงอกระดูกเอวหรือผ่าตัดซี่โครงลดเอว จะมีขั้นตอนย่อยดังนี้
- ศัลยแพทย์จะทำการกรีดแผลขนาดเล็กประมาณ 1-2 นิ้ว บริเวณด้านหลังส่วนล่างเหนือแนวเอวทั้งสองข้าง ซึ่งเป็นจุดซ่อนแผลที่ดี
- เป้าหมายคือกระดูกซี่โครงลอย (Floating Ribs) คู่ที่ 10, 11 และ 12 (หรือบางกรณีอาจรวมถึงคู่ที่ 9) ซึ่งเป็นซี่โครงส่วนล่างที่ไม่ได้เชื่อมติดกับกระดูกอก ทำให้มีความยืดหยุ่นและปรับแต่งรูปทรงได้
- ลักษณะความยาวและความโค้งของซี่โครงแต่ละคนไม่เท่ากัน ดังนั้น การปรับรูปทรงจึงต้องทำอย่างละเอียดและแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ศัลยแพทย์จะใช้วิธีการที่หลากหลาย เช่น การสร้างรอยหักงอเล็ก ๆ ซึ่งสามารถควบคุมดูแลให้ปลอดภัยได้ (Controlled fracture) บนพื้นผิวกระดูกซี่โครง หรือการใช้อุปกรณ์ที่ใช้คลื่นอัลตราโซนิกในการกรอผิวกระดูก เรียกว่า เครื่องตัดแต่งกระดูก (Piezotome) เพื่อให้ซี่โครงอ่อนตัวลงและสามารถดัดโค้งงอเข้าด้านในมากขึ้น สิ่งสำคัญคือจะไม่มีการตัดหรือถอดกระดูกซี่โครงออกไปทั้งหมด เหมือนกับการผ่าตัดซี่โครงแบบเก่า
ปิดแผลและสวมชุดกระชับสัดส่วน
เมื่อได้รูปทรงเอวคอดตามที่ต้องการแล้ว ศัลยแพทย์จะเย็บปิดแผลอย่างประณีต และเตรียมพร้อมสำหรับการดูแลหลังผ่าตัด จากนั้นผู้เข้ารับบริการจะถูกสวมใส่ชุดกระชับสัดส่วน (Compression Garment หรือ Corset สำหรับหลังงอกระดูกซี่โครงเอวคอด) ทันที ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการคงรูปทรงของซี่โครงที่ได้รับการปรับแต่งไว้ในตำแหน่งที่ต้องการในระหว่างฟื้นตัว ช่วยลดอาการบวม ช้ำ และช่วยให้กระดูกซี่โครงสมานตัวในตำแหน่งใหม่ที่เหมาะสม ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติในการลดขนาดรอบเอว
วิธีดูแลตัวเองหลังทำ Rib Remodeling
การดูแลตัวเองหลังการทำ Rib Remodeling อย่างเคร่งครัดเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อกระบวนการฟื้นตัวที่สมบูรณ์และผลลัพธ์ของเอวคอดที่คงอยู่ได้นาน ผู้เข้ารับบริการจะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างใกล้ชิด
- ต้องพักฟื้นในโรงพยาบาล (Admit) เป็นเวลา 2-3 วัน เพื่อให้ทีมแพทย์และพยาบาลดูแลอาการอย่างใกล้ชิดและประเมินการฟื้นตัวเบื้องต้น
- หลังการผ่าตัดงอซี่โครง อาจรู้สึกเจ็บทำให้หายใจได้ไม่เต็มที่ ซึ่งอาจเสี่ยงต่อภาวะปอดแฟบ พยาบาลจะสอนวิธีการบริหารการหายใจอย่างถูกต้องเพื่อช่วยให้ปอดขยายตัวเต็มที่
- ในช่วง 2-3 วันแรก หากไม่มีอาการผิดปกติรุนแรง เช่น เลือดออกมาก หรือหายใจลำบาก แสดงว่าการฟื้นตัวในระยะแรกเป็นไปได้ด้วยดี หลังจากนั้น การดูแลเรื่องการใส่คอร์เซ็ทคือสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง
- ใส่ชุดกระชับสัดส่วนอย่างต่อเนื่องและเคร่งครัด เป็นเวลาอย่างน้อย 3 เดือน ตามคำแนะนำของศัลยแพทย์ โดยจะต้องเป็นชุดกระชับสัดส่วนแบบคอร์เซ็ททางการแพทย์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อกระชับเอวหลังผ่าตัดซี่โครงลดเอวเท่านั้น
- สามารถถอดคอร์เซ็ทได้ไม่เกิน 10 นาทีต่อครั้ง เพื่อทำความสะอาดร่างกาย เช่น การอาบน้ำ ซึ่งต้องทำให้รวดเร็ว รักษาเวลาให้เคร่งครัด โดยเฉพาะในช่วง 3 เดือนแรกนี้
- หลีกเลี่ยงการยกของหนัก การออกกำลังกายที่ใช้แรงมาก หรือกิจกรรมที่ต้องมีการบิดตัวหรือเอี้ยวตัวของลำตัว เป็นเวลาอย่างน้อย 3 เดือน หรือตามที่แพทย์แนะนำ เพื่อให้ซี่โครงอยู่ตัวได้ดี
- สามารถเดินเบา ๆ หรือทำกิจกรรมเบา ๆ ในชีวิตประจำวันได้ตามที่ร่างกายรู้สึกว่าไม่ฝืนจนเกินไป
- ควรนอนหงายธรรมดาเท่านั้น งดการนอนตะแคง หรือนอนคว่ำโดยเด็ดขาด เพื่อป้องกันการเคลื่อนตัวของซี่โครงที่ได้รับการปรับแต่ง
- ต้องมาพบแพทย์ตามนัดหมายอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะในช่วงแรกอาจมีการนัดบ่อยครั้ง เช่น ทุก 3 วัน, ทุกสัปดาห์ หรือทุก 1 เดือน เพื่อติดตามผลการผ่าตัดซี่โครงเอวคอด ตรวจสอบการสมานตัวของแผลและกระดูก รวมถึงประเมินผลลัพธ์โดยรวมของการลดเอวโดยการผ่าตัดงอกระดูกซี่โครง
- ศัลยแพทย์อาจแนะนำให้ทำการตรวจ CT Scan บริเวณหน้าอกหรือลำตัวหลังการผ่าตัด (ถ้าจำเป็น) เพื่อประเมินตำแหน่งและการสมานตัวของซี่โครงที่ได้รับการปรับแต่งอย่างละเอียด
การปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้อย่างเคร่งครัดจะช่วยให้เราได้ผลลัพธ์หลังทำ Rib Remodeling ที่มีประสิทธิภาพ และได้เอวคอดที่สวยงามตามต้องการในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นการลดเอวผู้ชาย หรือการปรับสรีระให้ได้หุ่นที่ต้องการ
ผ่าตัดลดเอวด้วย Rib Remodeling มีผลข้างเคียงไหม?
การตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดลดเอว ด้วยเทคนิค Rib Remodeling เพื่อให้ได้เอวคอด ย่อมมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดผลข้างเคียงหรือภาวะแทรกซ้อน การทำความเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยให้เราสามารถเตรียมพร้อมรับมือและตัดสินใจได้อย่างรอบคอบยิ่งขึ้น
ผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไป
ผลข้างเคียงเหล่านี้มักเกิดขึ้นในระยะแรกหลังการผ่าตัดซี่โครง และจะค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับในระหว่างพักฟื้น ได้แก่
- อาการปวด เป็นเรื่องปกติที่จะมีอาการปวดบริเวณแผลผ่าตัดและซี่โครงที่ได้รับการปรับแต่ง โดยเฉพาะในช่วง 2-3 วันแรก สามารถบรรเทาได้ด้วยยาแก้ปวดตามที่แพทย์สั่ง
- อาการบวมและช้ำ บริเวณเอวและลำตัวอาจมีอาการบวมช้ำ ซึ่งเป็นผลจากการผ่าตัดและกระบวนการดูดไขมันร่วมด้วย อาการเหล่านี้จะค่อย ๆ ลดลงภายในไม่กี่สัปดาห์
- อาการชาหรือความรู้สึกเปลี่ยนไป บริเวณผิวหนังเหนือซี่โครงที่ได้รับการผ่าตัด เนื่องจากเส้นประสาทขนาดเล็กอาจได้รับผลกระทบชั่วคราว อาการมักจะดีขึ้นเองในระยะเวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน
- รู้สึกไม่สบายตัวจากการใส่ชุดกระชับสัดส่วน การสวมใส่ชุดกระชับสัดส่วนสำหรับโปรแกรม Corset Waist อย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน อาจทำให้รู้สึกอึดอัด คัน หรือระคายเคืองผิวหนังเล็กน้อย ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เบื้องต้นโดยการรักษาความสะอาด
- อาจมีแผลเป็นขนาดเล็กบริเวณที่กรีดเปิดแผล ซึ่งมักจะอยู่ทางด้านหลังซี่โครงส่วนล่าง แผลเป็นจะจางลงเมื่อเวลาผ่านไป แต่จะไม่หายไปโดยสมบูรณ์ ทั้งนี้ สามารถเลือกทำโปรแกรมเลเซอร์ลดรอยแผลเป็นได้
ผลข้างเคียงที่ผิดปกติ (ต้องพบแพทย์โดยด่วน)
แม้จะพบได้น้อย แต่หากมีอาการใด ๆ ดังต่อไปนี้หลังการผ่าตัดลดเอวควรรีบติดต่อแพทย์หรือเข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลโดยเร็ว
- มีไข้สูง อุณหภูมิร่างกายสูงเกิน 38 องศาเซลเซียส อาจบ่งชี้ถึงการติดเชื้อ
- อาการปวดรุนแรงและไม่ทุเลา อาการปวดที่ไม่ตอบสนองต่อยาแก้ปวด หรือปวดมากขึ้นเรื่อย ๆ อาจเป็นสัญญาณของภาวะแทรกซ้อน
- เลือดออกมากผิดปกติ มีเลือดซึมออกมาจากแผลเป็นจำนวนมาก หรือมีเลือดคั่งในบริเวณผ่าตัดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
- สัญญาณของการติดเชื้อที่แผล แผลผ่าตัดมีอาการแดงจัด บวม ร้อน มีหนองไหล หรือมีกลิ่นผิดปกติ
- หายใจลำบาก หรือเจ็บหน้าอกรุนแรง อาจเป็นสัญญาณของภาวะแทรกซ้อนที่เกี่ยวกับปอด เช่น ปอดแฟบ หรือการติดเชื้อที่ปอด ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องได้รับการดูแลเร่งด่วน
- มีอาการบวมแดงที่ขา หรือปวดน่อง อาจเป็นสัญญาณของภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำส่วนลึก (Deep Vein Thrombosis – DVT) ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้กับผู้ที่ผ่านการผ่าตัดใหญ่มา
- ความผิดปกติของระบบประสาท เช่น อาการชาที่รุนแรงขึ้น สูญเสียการเคลื่อนไหว หรือกล้ามเนื้ออ่อนแรงในบริเวณใกล้เคียง
สรุปข้อดี-ข้อเสียของการผ่าตัดซี่โครงลดเอว Rib Remodeling
การตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดลดเอวด้วยเทคนิคงอกระดูกซี่โครงแบบ Corset Waist เป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่ต้องการเอวคอดมาก ๆ โดยเฉพาะเมื่อวิธีอื่น ๆ เช่น การออกกำลังกายหรือการดูดไขมัน ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้างกระดูกที่เป็นปัจจัยหลักของการมีหุ่นทรงกระบอกได้ แต่อย่างไรก็ตาม การพิจารณาทั้งข้อดีและข้อเสียนั้นก็ยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราทราบว่าการทำ Rib Remodeling เหมาะกับเราจริง ๆ หรือไม่
ข้อดีของการทำ Rib Remodeling
- ลดขนาดเอวได้อย่างชัดเจน สามารถลดเอวได้ถึง 2-3 นิ้ว หรือประมาณ 7-10 เซนติเมตร ทำให้เห็นความแตกต่างของสัดส่วนได้อย่างชัดเจน
- ได้สัดส่วนตามที่ต้องการ เป็นการแก้ไขที่ระดับโครงสร้างกระดูก ทำให้ได้เอวคอดชัดเจนในระยะยาว พร้อมทั้งยังช่วยออกแบบส่วนโค้งเว้าของลำตัว (Curve) ให้ดูดีขึ้น ซึ่งแตกต่างจากการลดไขมันที่อาจกลับมามีหุ่นเท่า ๆ เดิมได้หากดูแลตัวเองไม่ดี
- ช่วยแก้ไขปัญหาซี่โครงกาง (Rib Flare) ช่วยแก้ไขปัญหาระยะห่างระหว่างซี่โครงกับสะโพกน้อย ซึ่งการออกกำลังกายอย่างเดียวไม่สามารถแก้ไขได้
- แผลมีขนาดเล็ก สังเกตได้ยาก เนื่องจากแผลผ่าตัดมีขนาดเล็ก และมักจะอยู่บริเวณด้านหลังส่วนล่าง ทำให้มองเห็นได้ยากเมื่อสวมใส่เสื้อผ้า
- ไม่จำเป็นต้องตัดซี่โครงออก แตกต่างจากการตัดซี่โครงเอวคอด (Rib Removal) เพราะในอดีต Rib Remodeling เป็นการปรับรูปทรงซี่โครงด้วยการงอ ไม่ใช่การนำซี่โครงออก ทำให้โครงสร้างเดิมยังคงอยู่และสามารดูแลให้ปลอดภัยได้ง่ายกว่า
- ข้อเสียและข้อควรพิจารณาของการทำ Rib Remodeling
- เป็นการผ่าตัดใหญ่ แม้จะสามารดูแลกระบวนการให้ปลอดภัยได้ภายใต้การดูแลโดยแพทย์ผู้ชำนาญการ แต่โปรแกรม Corset Waist ก็ยังเป็นการงอกระดูกซี่โครงที่ต้องใช้ยาสลบ ทำให้ไม่เหมาะกับคนที่มีข้อจำกัดด้านสุขภาพหลายข้อและความพร้อมในการดูแลตัวเอง
- ค่าใช้จ่ายสูง โดยการงอกระดูกซี่โครงจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าการดูดไขมันหรือการปรับสัดส่วนด้วยวิธีอื่น ๆ มาก
- ต้องใช้เวลาพักฟื้น ผู้เข้ารับบริการจำเป็นต้องใช้เวลาในการพักฟื้น และต้องงดกิจกรรมที่เสี่ยงทำให้เกิดผลข้างเคียงหลายข้อ และต้องพร้อมสำหรับการใส่ชุดกระชับสัดส่วนตามระยะเวลาที่แพทย์กำหนดด้วย
- ความเสี่ยงจากการผ่าตัด แม้จะพบได้น้อย แต่ก็ยังมีความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อนที่เกี่ยวข้องกับการผ่าตัด เช่น การติดเชื้อ เลือดออก หรือผลกระทบต่อเส้นประสาท ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ
- ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสรีระแต่ละบุคคล แม้จะสามารถปรับโครงสร้างได้ แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็ยังขึ้นอยู่กับโครงสร้างกระดูกเดิมและสรีระของผู้เข้ารับบริการแต่ละราย
- ต้องใส่คอร์เซ็ทหรือชุดกระชับสัดส่วนหลังทำอย่างเคร่งครัด เพราะการฟื้นตัวและการคงรูปของเอวคอดที่ได้มานั้นขึ้นอยู่กับการปฏิบัติตามคำแนะนำในการสวมใส่ชุดกระชับหลังผ่าตัดอย่างเข้มงวด ซึ่งอาจสร้างความไม่สะดวกสบายในชีวิตประจำวันในช่วงแรกหรือจนกว่าอาการจะหายดี
ราคา Rib Remodeling เท่าไหร่? เปิดแพ็กเกจสร้างเอว Corset Waist
สำหรับราคาแพ็กเกจการทำ Rib Remodeling โดยประมาณนั้น โดยทั่วไปจะเริ่มต้นที่ประมาณ [เริ่มต้น 99,900] บาท ขึ้นอยู่กับปัจจัยดังนี้
- ความชำนาญของศัลยแพทย์ ศัลยแพทย์ที่เคยผ่าตัดมาหลากหลายเคส มีความชำนาญในการทำ Rib Remodeling และมีผลงานให้เห็นอย่างชัดเจน มักจะมีค่าธรรมเนียมสูงกว่า
- มาตรฐานและชื่อเสียงของโรงพยาบาล สถานพยาบาลที่มีเครื่องมือทันสมัย มีห้องผ่าตัดที่ได้มาตรฐาน และมีทีมแพทย์-พยาบาลพร้อมดูแลตลอด 24 ชั่วโมง จะมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า
- ความซับซ้อนของเคส ในบางกรณีที่โครงสร้างซี่โครงมีความซับซ้อน หรือมีภาวะอื่น ๆ ร่วมด้วย อาจต้องใช้เวลาและเทคนิคอื่น ๆ เพิ่มเติมในการผ่าตัดงอกระดูกซี่โครง ซึ่งส่งผลต่อค่าใช้จ่ายอย่างแน่นอน
- ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการพักฟื้น ซึ่งอาจรวมถึงค่าห้องพักในโรงพยาบาล ค่ายา ค่าเวชภัณฑ์ และค่าบริการดูแลหลังการผ่าตัด
- อุปกรณ์ที่ใช้ในการผ่าตัด เช่น การใช้เทคนิค Piezotome หรือ Intraoperative Ultrasound Guidance ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มความแม่นยำและดูแลให้ปลอดภัยได้ดีขึ้น จึงอาจส่งผลให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มสูงขึ้นด้วยเช่นกัน
AM เปิดภาพรีวิวงอกระดูกซี่โครง เคสจริงหลังทำ Rib Remodeling
การตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดซี่โครงเพื่อลดเอวหรืองอกระดูกเอว (Rib Remodeling) เป็นก้าวแรกที่สำคัญอย่างมากต่อการได้เข้าถึงวิธีลดเอวคอดตามที่หลายคนต้องการ แต่บ่อยครั้งที่การตัดสินใจนี้มาพร้อมกับคำถามและความกังวลมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องการเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนและเชื่อถือได้ การได้เห็นภาพรีวิวจากเคสจริงหลังทำ Rib Remodeling จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้เราสามารถพิจารณาถึงความเป็นไปได้ของผลลัพธ์ที่จะได้รับ และทำความเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงของรูปร่างก่อนและหลังการรักษาแต่ละเคสว่ามีความแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน
ส่วนนี้ AM International Hospital ได้รวบรวมภาพรีวิวจากเคสจริงที่ผ่านการผ่าตัดลดเอว Corset Waist ของเรา เพื่อช่วยในการประกอบการตัดสินใจได้อย่างเหมาะสมยิ่งขึ้น





ทำไมต้องเลือกทำ Rib Remodeling ที่ AM International Hospital?
การตัดสินใจผ่าตัดลดเอว Rib Remodeling แบบ Corset Waist เพื่อปั้นเอวคอดนั้นสำคัญยิ่งกว่าเรื่องราคาอย่างเดียว AM International Hospital เราพร้อมมอบประสบการณ์ในการปรับหุ่นให้ตอบโจทย์
- ทีมศัลยแพทย์ผู้ชำนาญการการผ่าตัดศัลยกรรมเพื่อความงาม พร้อมทีมวิสัญญีแพทย์และพยาบาลที่เคยดูแลเคสหลากหลายแบบ พร้อมดูแลให้ปลอดภัยด้วยความชำนาญการตลอดทุกขั้นตอน
- เทคโนโลยีหลากหลายเพื่อความแม่นยำ เราใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น Intraoperative Ultrasound Guidance (USG) เพื่อความแม่นยำในการปรับกระดูก และเครื่องมืออย่าง Piezotome สำหรับการปรับแต่งกระดูกที่ละเอียดอ่อน ลดการบาดเจ็บ เพื่อให้ได้เอวคอดที่ตอบโจทย์มากยิ่งขึ้น
- การออกแบบแผนการดูแลเฉพาะบุคคล (Personalized Solutions) ทีมแพทย์จะประเมินโครงสร้างและสรีระอย่างละเอียด เพื่อออกแบบแผนการลดเอวที่เหมาะสม ไม่ว่าจะต้องการทำเอวคอดผู้ชาย หรือทำหุ่นนาฬิกาทราย ก็จะได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและตรงใจ
- ดูแลอย่างครอบคลุม ดูแลให้ปลอดภัยทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเตรียมตัว การผ่าตัด การพักฟื้นในโรงพยาบาล การฝึกหายใจ ไปจนถึงการติดตามผลหลังทำ รวมถึงการแนะนำวิธีการใช้ชุดกระชับหรือคอร์เซ็ทที่ถูกต้อง
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Rib Remodeling
Q : งอกระดูกซี่โครง ผ่าตัดซี่โครงเจ็บไหม?
การงอกระดูกซี่โครงหรือการผ่าตัดซี่โครงจะดำเนินการภายใต้การดมยาสลบ ทำให้ไม่รู้สึกเจ็บปวดระหว่างการผ่าตัด แต่หลังการผ่าตัดอาจมีอาการปวดได้ ซึ่งสามารถจัดการได้โดยการทานยาแก้ปวดที่แพทย์สั่ง และจะค่อย ๆ ดีขึ้นในระหว่างการพักฟื้น
Q :ผ่าตัดงอกระดูกซี่โครง เอวคอดใช้เวลาในการทำกี่นาที?
โดยทั่วไป การผ่าตัดลดเอวเพื่อให้ได้เอวคอดจะใช้เวลาประมาณ 2-4 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของเคสและเทคนิคที่ใช้
Q : อายุเยอะ ผ่าตัดซี่โครง ลดเอว เหมาะไหม?
ผู้ที่อายุมาก โดยเฉพาะกลุ่มผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป อาจไม่เหมาะกับการผ่าตัดซี่โครงลดเอว เนื่องจากความหนาแน่นและความยืดหยุ่นของกระดูกลดลงตามวัย อาจทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอาการแทรกซ้อนอันตรายกว่ากลุ่มที่ยังอายุน้อย ทั้งนี้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสมเป็นรายบุคคล
Q : หลังทำ Rib Remodeling อยู่ได้นานไหม?
ผลลัพธ์ของ Rib Remodeling ในการสร้างเอวคอด เป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างกระดูกแบบถาวร หากดูแลตัวเองและใส่ชุดกระชับตามคำแนะนำ ผลลัพธ์ก็จะอยู่ได้ยาวนานมากยิ่งขึ้น
Q : ผ่าตัดงอซี่โครง เอวคอด แผลใหญ่ไหม?
แผลผ่าตัดสำหรับการทำ Rib Remodeling มีขนาดค่อนข้างเล็ก ประมาณ 1-2 นิ้ว และมักจะอยู่บริเวณด้านหลังซี่โครงส่วนล่าง ซึ่งเป็นตำแหน่งที่อยู่ใต้ร่มผ้า ทำให้แผลเป็นสังเกตเห็นได้ยาก
Q : พักฟื้นนานแค่ไหนถึงจะกลับไปทำงานและออกกำลังกายได้?
โดยทั่วไป สามารถกลับไปทำงานที่ไม่ต้องใช้แรงเยอะได้ภายใน 1-2 สัปดาห์หลังทำ แต่ควรงดออกกำลังกายหนัก งดกิจกรรมที่ต้องบิดหรือเอี้ยวตัวเยอะ หรืองดการยกของหนัก อย่างน้อย 3 เดือน หรือตามคำแนะนำของแพทย์
Q : การงอกระดูกซี่โครงมีผลกระทบต่ออวัยวะภายใน เช่น ปอด หรือไม่?
Rib Remodeling เป็นการปรับรูปทรงซี่โครงโดยใช้ความละเอียดสูงมาก โดยศัลยแพทย์จะใช้เทคโนโลยีช่วยเพิ่มความแม่นยำ (เช่น USG หรือ Piezotome) เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่ออวัยวะภายในเช่นปอด อย่างไรก็ตาม ทุกการผ่าตัดมีความเสี่ยง ควรเลือกทำกับแพทย์ที่มีความชำนาญและเคยผ่าตัดมาก่อนเท่านั้น
Q : ต้องใส่คอร์เซ็ตหรือชุดกระชับหลังผ่าตัดนานแค่ไหน?
จำเป็นต้องใส่ชุดกระชับอย่างเคร่งครัด เป็นเวลาอย่างน้อย 3 เดือนหลังการทำ Rib Remodeling เพื่อช่วยพยุงและคงรูปทรงของซี่โครงที่ได้รับการปรับแต่งไว้ในตำแหน่งที่ต้องการ
สรุป งอกระดูกซี่โครง งอกระดูกเอว Rib Remodeling ดีจริงไหม?
การผ่าตัดงอกระดูกซี่โครง (Rib Remodeling) เพื่อลดเอว ถือเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพอย่างมากสำหรับผู้ที่ต้องการเอวคอดอย่างถาวร และไม่สามารถบรรลุเป้าหมายเองได้ด้วยวิธีอื่น ๆ เช่น การออกกำลังกายหรือการดูดไขมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่มีโครงสร้างซี่โครงกว้างหรือมีหุ่นทรงกระบอก ต้องการสัดส่วนแบบหุ่นนาฬิกาทราย ซึ่งการทำ Rib Remodeling แตกต่างจาก Rib Removal หรือการตัดซี่โครงแบบเก่าอย่างสิ้นเชิง เพราะเป็นการ “ปรับรูปทรง” หรือการ “งอ” ซี่โครง ทำให้โครงสร้างกระดูกเดิมยังคงอยู่และสามารถดูแลให้ปลอดภัยได้สูงกว่ามาก
แต่อย่างไรก็ตาม การทำ Rib Remodeling ก็เป็นการผ่าตัดซี่โครงที่ต้องใช้ยาสลบ มีระยะเวลาพักฟื้นที่ต้องใช้ความอดทน และจำเป็นต้องดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัดเป็นเวลานาน รวมถึงมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงด้วย ดังนั้น ก่อนตัดสินใจ ควรปรึกษาศัลยแพทย์อย่างละเอียด เพื่อประเมินความเหมาะสม ความเสี่ยง และความคาดหวังหลังทำ เพื่อให้มั่นใจว่านี่คือทางเลือกที่ดีและตอบโจทย์ปัญหาที่เรามีได้จริง
We always take care of your mobility
24/7 Emergency
Tell : 064 445 5666