ตาโหลเกิดจากอะไร แก้อย่างไร คืนความสดใสให้ดวงตา
เคยไหมที่รู้สึกว่าใบหน้าตัวเองดูโทรม ไม่สดใส ทั้งที่ก็พักผ่อนอย่างเพียงพอ? ซึ่งสาเหตุหนึ่งอาจมาจากปัญหา “ตาโหล” หรือเบ้าตาลึกที่ทำให้ดวงตาดูเหนื่อยล้าและมีอายุเกินจริง ไม่ว่าจะเป็นเพราะวัยที่เพิ่มขึ้น กรรมพันธุ์ หรือพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ ! มาทำความเข้าใจกันว่าตาโหลเกิดจากอะไร และมีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยคืนความสดใสให้ดวงตากลับมาดูอ่อนเยาว์
ตาโหลคืออะไร ลักษณะเป็นอย่างไร
ตาโหล คือคำที่ใช้เรียกภาวะเบ้าตาที่ดูบุ๋มลึกลงไปมากกว่าปกติ ทำให้ดวงตาเหมือนจมลงไปในเบ้าตา ส่งผลให้บริเวณใต้ดวงตามีเงาคล้ำ ทำให้ใบหน้าดูไม่สดใส เหนื่อยล้าอยู่ตลอดเวลา ซึ่งลักษณะเด่นของปัญหาตาโหลที่สามารถสังเกตได้ คือ
- เบ้าตาลึก บริเวณรอบดวงตา โดยเฉพาะเปลือกตาบนและล่างจะยุบตัวลึกลงไป ทำให้เห็นขอบกระดูกเบ้าตาได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
- เงาคล้ำใต้ตา เนื่องจากเบ้าตาที่ดูลึก ทำให้แสงเงาที่ตกกระทบทำให้เกิดรอยคล้ำบริเวณใต้ตาได้ง่าย
- ดวงตาดูเล็กลง เมื่อเบ้าตาลึกเข้าไปทำให้ดูดวงตาเหมือนมีขนาดที่เล็กลง
- ใบหน้าดูอ่อนล้า ไม่สดใส ลักษณะตาโหลเบ้าตาลึกเป็นผลให้โดยรวมของใบหน้าดูไม่สดใส โทรม หรือดูมีอายุ
ตาโหลเกิดจากอะไร
ภาวะตาโหลหรือเบ้าตาลึกเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ ซึ่งมักจะเกี่ยวข้องกับปัจจัยภายในร่างกายและพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น
- การลดลงของไขมันและคอลลาเจน เมื่ออายุเริ่มมากขึ้นร่างกายจะผลิตคอลลาเจนและไขมันใต้ชั้นผิวได้ลดลง ทำให้โครงสร้างผิวบริเวณรอบดวงตาที่มีความบอบบางอยู่แล้วเกิดการยุบตัวลงทำให้เกิดเบ้าตาลึกได้
- กรรมพันธุ์ บางคนมีโครงสร้างกระดูกเบ้าตาลึกโดยธรรมชาติแม้อายุยังไม่เยอะ ซึ่งเป็นลักษณะทางกรรมพันธุ์ที่ได้รับมาจากคนในครอบครัว
- นอนไม่เพียงพอ การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอเป็นประจำทุกวัน ส่งผลให้การไหลเวียนโลหิตและน้ำเหลืองทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพ
- ภาวะขาดน้ำ การดื่มน้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการที่ร่างกายควรได้รับทำให้ร่างกายขาดน้ำ ผิวแห้งและดูเหี่ยวลง ซึ่งอาจทำให้ผิวรอบดวงตาดูโหลและไม่สดใส
- น้ำหนักที่ลดลงอย่างรวดเร็ว น้ำหนักที่ลดลงแบบกะทันหัน อาจทำให้ไขมันทั่วร่างกายรวมไปถึงบริเวณรอบดวงตาลดลงไปด้วยจนทำให้เกิดปัญหาตาโหล เบ้าตาลึก
- การสูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์ สารที่อยู่ในแอลกอฮอล์สามารถทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวเสื่อมสภาพลงเร็ว ทำให้เกิดผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอบหรือเกิดภาวะตาโหลร่วมด้วย
แนะนำวิธีแก้ตาโหล เบ้าตาลึก
การแก้ไขปัญหาตาโหลและเบ้าตาลึกมีหลายแนวทาง ขึ้นอยู่กับสาเหตุ ความรุนแรง และความต้องการของแต่ละบุคคล ตั้งแต่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปจนถึงการพิจารณาทางเลือกทางการแพทย์ ซึ่งวิธีที่แนะนำได้แก่
1. ฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ใต้ตา
การฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ เป็นการใช้สารเติมเต็ม Hyaluronic Acid เพื่อแก้ไขในบริเวณใต้ตาที่ดูบุ๋มลึก หรือเติมเต็มปริมาตรผิวให้ดูอิ่มฟูขึ้น ทำให้เบ้าตาตื้นขึ้น ลดความคล้ำและทำให้ใบหน้าดูสดใสขึ้นได้หลังฉีด นับว่าเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมในการแก้ไขปัญหาตาโหล โดยผลลัพธ์จะคงอยู่ได้ประมาณ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของโปรแกรมฟิลเลอร์และการดูแลตัวเองหลังฉีด
2. ฉีดไขมัน
การฉีดไขมัน เป็นการใช้ไขมันของตัวผู้รับบริการเอง โดยแพทย์จะทำการดูดไขมันจากบริเวณอื่นของร่างกายที่มีไขมันส่วนเกิน เช่น สะโพก หน้าท้อง หรือต้นขา แล้วนำมาปั่นแยกและฉีดกลับเข้าไปเติมเต็มผิวในบริเวณเบ้าตาที่ดูลึกลงไป ซึ่งวิธีนี้จะให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ เนื่องจากเป็นการใช้เซลล์ไขมันของตนเอง จึงลดความเสี่ยงจากการแพ้ได้
3. การผ่าตัดทำตาสองชั้น
ในบางกรณีที่ตาโหลมีสาเหตุมาจากปัญหาของเปลือกตาหรือโครงสร้างผิว การผ่าตัดทำตาสองชั้นอาจช่วยแก้ไขปัญหาได้ โดยศัลยแพทย์จะปรับโครงสร้างของเปลือกตา เช่น การย้ายไขมันหรือปรับกล้ามเนื้อ เพื่อให้ดวงตาดูเปิดกว้างขึ้นและลดความลึกของเบ้าตาลง ซึ่งอาจช่วยให้ดวงตาดูสดใสขึ้น แต่การผ่าตัดวิธีนี้จะเหมาะสมกับบางกรณีเท่านั้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินแนวทางการรักษาที่เหมาะสม
4. ทาครีมบำรุงใต้ตา
การใช้ครีมบำรุงใต้ตาเป็นประจำ เป็นการดูแลเบื้องต้นที่สำคัญ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น มีส่วนช่วยฟื้นฟูคอลลาเจน และลดรอยคล้ำได้ เช่น กรดไฮยาลูรอนิก วิตามินซี เรตินอล เปปไทด์ และสารต้านอนุมูลอิสระต่าง ๆ ซึ่งการทาอย่างสม่ำเสมอจะช่วยบำรุงผิวรอบดวงตาให้แข็งแรงขึ้น ลดความแห้งกร้าน และอาจช่วยให้รอยคล้ำดูจางลงได้บ้าง แต่ในบางส่วนผสมอย่างเรตินอลควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้
5. ใช้มาส์กใต้ตา หรืออายมาส์ก (Eyes Mask)
มาส์กใต้ตาเป็นผลิตภัณฑ์เสริมที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและสารบำรุงให้แก่ผิวรอบดวงตาได้อย่างเข้มข้น ซึ่งมาส์กหลายชนิดมีส่วนผสมของไฮยาลูรอนิกแอซิด คอลลาเจน สารสกัดจากพืช หรือเปปไทด์ ซึ่งช่วยให้ผิวใต้ตาดูอิ่มฟู ชุ่มชื้น และลดความหมองคล้ำชั่วคราว การใช้เป็นประจำจะช่วยบำรุงและฟื้นฟูผิวใต้ตาให้ดูสดใสขึ้นได้
วิธีป้องกันตาโหล เบ้าตาลึก ไม่ให้หน้าดูโทรม
การป้องกันไม่ให้เกิดภาวะตาโหลหรือเบ้าตาลึก ถือเป็นเรื่องที่ดีและควรให้ความสำคัญ ซึ่งเราสามารถทำได้โดยการดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอ รวมไปถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่าง เช่น
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เป็นปัจจัยพื้นฐาน ควรตั้งเป้าหมายนอนหลับให้ได้ 7-9 ชั่วโมง และพยายามเข้านอนให้เป็นเวลาอย่างสม่ำเสมอ เพราะการพักผ่อนอย่างเต็มที่จะช่วยฟื้นฟูซ่อมแซมกระบวนการทำงานในร่างกาย รวมไปถึงผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- รักษาสมดุลของน้ำในร่างกาย การดื่มน้ำเปล่าที่เพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวัน อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว หรือ 2-3 ลิตร จะช่วยให้เซลล์ผิวเกิดความชุ่มชื้น ลดความแห้งกร้านและการยุบตัวของผิว
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นทานผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี หรือโปรตีนที่มีคุณภาพ เพราะสารอาหารเหล่านี้จะเข้าไปช่วยผลิตคอลลาเจน ปกป้องเซลล์ผิวจากการถูกทำลาย ทำให้ผิวบริเวณรอบดวงตามีความยืดหยุ่นและแข็งแรง
- หลีกเลี่ยงการลดน้ำหนักแบบหักโหม การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วทำให้ร่างกายสูญเสียไขมันในส่วนต่าง ๆ รวมไปถึงบริเวณใบหน้าและรอบดวงตา ทำให้เบ้าตาโหลดูบุ๋มลึกลงไป ดังนั้นควรลดน้ำหนักแบบค่อยเป็นค่อยไป
- ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงรอบดวงตาที่เหมาะสม เน้นส่วนผสมที่ช่วยบำรุงและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว เช่น เช่น กรดไฮยาลูรอนิก เปปไทด์ หรือสารต้านอนุมูลอิสระ การดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอจะช่วยรักษาความยืดหยุ่นและความแข็งแรงของผิวบริเวณบอบบางนี้ได้
- เลี่ยงพฤติกรรมทำลายสุขภาพ เช่น การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวเสื่อมสภาพเร็ว หากหลีกเลี่ยงได้ก็จะช่วยรักษาสภาพผิวโดยรวมให้ดูอ่อนเยาว์และสดใส
- จัดการความเครียด ความเครียดสะสมสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยรวม รวมถึงผิวพรรณ ทำให้ดูโทรมและไม่สดใส การฝึกผ่อนคลาย ทำกิจกรรมที่ชอบ หรือทำสมาธิ จะช่วยลดความเครียดและส่งผลดีต่อสุขภาพผิวรอบดวงตา
สรุป
ตาโหลคือภาวะที่เบ้าตาลึกลง ทำให้ใบหน้าดูโทรมและไม่สดใส ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น อายุที่เพิ่มขึ้น กรรมพันธุ์ การพักผ่อนน้อย หรือการลดน้ำหนักเร็วเกินไป การแก้ไขและป้องกันทำได้ตั้งแต่การปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น นอนหลับให้เพียงพอ ดื่มน้ำเยอะๆ และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงรอบดวงตาที่เหมาะสม หากต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจน อาจพิจารณาทางเลือกทางการแพทย์อย่างการฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์หรือไขมัน ซึ่งควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาแนวทางที่ให้ความปลอดภัยและเหมาะสมต่อสภาพผิว
Post Info
Social Media



