
การผ่าตัดกระเพาะอาหารถือเป็นทางเลือกหนึ่งในการรักษาภาวะอ้วนหรือปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร แต่ก่อนตัดสินใจเข้ารับการรักษาด้วยวิธีนี้ ผู้เข้ารับบริการควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับ “ภาวะแทรกซ้อน หลังผ่าตัดกระเพาะอาหาร” ที่อาจเกิดขึ้นได้ในระยะสั้นและระยะยาว เพื่อเป็นการเตรียมตัวอย่างเหมาะสม เพราะแม้ว่าการผ่าตัดจะให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจในหลายกรณี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีความเสี่ยง ดังนั้น การรู้เท่าทันภาวะแทรกซ้อน หลังผ่าตัดกระเพาะอาหารจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
1. กระเพาะรั่ว
กระเพาะรั่วเป็นหนึ่งในภาวะแทรกซ้อน หลังผ่าตัดกระเพาะอาหาร ที่พบได้แม้จะไม่บ่อยนัก แต่หากเกิดขึ้นจะถือว่าเป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ที่ต้องรีบรักษา สาเหตุหลักมักเกิดจากแผลผ่าตัดที่ไม่สมานดี หรือรอยต่อระหว่างกระเพาะและลำไส้รั่ว ส่งผลให้มีอาการปวดท้องรุนแรง หนาวสั่น มีไข้ รู้สึกไม่สบายตัวอย่างฉับพลัน
หากปล่อยให้ภาวะกระเพาะรั่วเกิดขึ้นโดยไม่รักษา อาจนำไปสู่การติดเชื้อในช่องท้องอย่างรุนแรงหรือภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ โดยการวินิจฉัยที่รวดเร็วผ่านการเอกซเรย์หรือส่องกล้องสามารถช่วยให้แพทย์วางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสม โดยส่วนใหญ่จะต้องใช้การผ่าตัดซ้ำหรือการระบายของเหลวในช่องท้อง การป้องกันภาวะแทรกซ้อน หลังผ่าตัดกระเพาะอาหารเช่นนี้ จึงควรเริ่มตั้งแต่การเลือกสถานพยาบาลและศัลยแพทย์ที่มีความชำนาญในการผ่าตัด
2. กระเพาะอาหารอุดตัน
กระเพาะอาหารอุดตันเป็นอีกหนึ่งภาวะแทรกซ้อน หลังผ่าตัดกระเพาะอาหาร ที่ควรเฝ้าระวัง โดยเฉพาะในช่วงหลังการผ่าตัดไม่นาน อาการนี้มักเกิดจากแผลเป็นภายใน มีรอยต่อที่แคบลง หรือมีการบวมของเนื้อเยื่อภายในกระเพาะอาหาร ทำให้อาหารไม่สามารถผ่านลงสู่ลำไส้ได้ตามปกติ ทำให้รู้สึกแน่นท้อง เวียนหัว คลื่นไส้ พะอืดพะอม อาเจียนบ่อย โดยเฉพาะหลังรับประทานอาหาร
หากไม่ได้รับการรักษาภาวะกระเพาะอาหารอุดตัน อาจทำให้ร่างกายขาดสารอาหาร ร่างกายอ่อนแอ และเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนอื่นตามมา โดยการรักษาอาจเริ่มจากการใช้ยาเพื่อลดอาการบวม หรือในบางรายอาจต้องผ่าตัดแก้ไขเพิ่มเติม การศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับภาวะแทรกซ้อน หลังผ่าตัดกระเพาะอาหาร จะช่วยให้สามารถรับมือได้อย่างปลอดภัยและทันเวลา
3. โรคกรดไหลย้อน
ภาวะแทรกซ้อน หลังผ่าตัดกระเพาะอาหารต่อมา คือ โรคกรดไหลย้อน โดยเฉพาะในผู้ที่ได้รับการผ่าตัดลดขนาดกระเพาะหรือเปลี่ยนโครงสร้างทางเดินอาหารบางส่วน ภาวะนี้เกิดจากกรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนกลับขึ้นไปยังหลอดอาหาร เนื่องจากกล้ามเนื้อหูรูดหลอดอาหารอ่อนแรงหรือมุมของกระเพาะอาหารเปลี่ยนไป ทำให้รู้สึกแสบร้อนกลางอก เรอเปรี้ยว และรู้สึกไม่สบายบริเวณหน้าอกหลังรับประทานอาหาร
โดยโรคกรดไหลย้อนที่เป็นภาวะแทรกซ้อน หลังผ่าตัดกระเพาะอาหาร อาจกลายเป็นปัญหาเรื้อรังและกระทบต่อคุณภาพชีวิต การรักษาอาจใช้วิธีปรับพฤติกรรมร่วมกับการใช้ยาลดกรด และในบางกรณีอาจต้องปรับเปลี่ยนแผนการรักษาระยะยาว จะช่วยให้สามารถฟื้นตัวได้ดีและลดโอกาสเกิดปัญหาซ้ำในอนาคต
4. ไส้เลื่อน
ไส้เลื่อนเป็นภาวะที่อวัยวะภายใน เช่น ลำไส้ หรือไขมันในช่องท้อง เคลื่อนตัวดันผ่านกล้ามเนื้อหรือผนังช่องท้องที่อ่อนแอ ทำให้เกิดก้อนนูนใต้ผิวหนัง ซึ่งมักสังเกตเห็นได้ชัดเจนเวลายืน ไอ หรือออกแรง และอาจรู้สึกเจ็บหรือตึงบริเวณนั้น สำหรับผู้ที่เคยผ่าตัดช่องท้อง โดยเฉพาะการผ่าตัดกระเพาะอาหาร มีความเสี่ยงต่อการเกิดไส้เลื่อนบริเวณแผลผ่าตัดสูงขึ้น เนื่องจากกล้ามเนื้อหรือพังผืดบริเวณนั้นยังไม่แข็งแรงดี
ภาวะแทรกซ้อน หลังผ่าตัดกระเพาะอาหาร อย่างภาวะไส้เลื่อนอาจเริ่มจากอาการเล็กน้อย แต่หากปล่อยไว้อาจพัฒนาไปสู่ภาวะรุนแรง เช่น ไส้เลื่อนติดค้าง ซึ่งเกิดจากลำไส้บางส่วนติดอยู่ในช่องไส้เลื่อนและขาดเลือดหล่อเลี้ยง จำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดฉุกเฉิน ดังนั้น การสังเกตอาการผิดปกติ เช่น มีก้อนนูนที่ไม่ยุบ เจ็บมากขึ้น หรือคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
อ่านเพิ่มเติม : อยากขาเล็ก น่องเล็ก ทำไงดี ให้น่องกลับมาเรียวสวย
5. ภาวะทุพโภชนา
สำหรับภาวะแทรกซ้อน หลังผ่าตัดกระเพาะอาหารที่พบได้เช่นกัน คือ ภาวะทุพโภชนา ทำให้รับประทานอาหารได้น้อยลงหรือดูดซึมสารอาหารได้ไม่ดีหลังผ่าตัด ภาวะนี้เกิดขึ้นเมื่อร่างกายได้รับสารอาหารไม่เพียงพอทั้งพลังงาน โปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุ ส่งผลให้ร่างกายอ่อนเพลีย น้ำหนักลด กล้ามเนื้อลีบ หรือมีภาวะแทรกซ้อนทางภูมิคุ้มกันและระบบอื่น ๆ ตามมา
ผู้ที่เผชิญกับภาวะทุพโภชนาหลังผ่าตัดควรได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากทีมแพทย์และนักโภชนาการ โดยอาจต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบอาหารให้เหมาะสม รับประทานอาหารเสริม หรือฉีดวิตามินในกรณีที่ร่างกายดูดซึมไม่ได้ การเฝ้าระวังและให้ความสำคัญกับโภชนาการหลังผ่าตัดเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อน หลังผ่าตัดกระเพาะอาหาร ที่ส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวและคุณภาพชีวิตในระยะยาว
6. นิ่วในถุงน้ำดี
นิ่วในถุงน้ำดีเป็นอีกหนึ่งภาวะที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะในผู้ที่น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็วภายหลังการผ่าตัดลดขนาดกระเพาะ โดยเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของระบบย่อยอาหารและการลดการรับประทานไขมัน อาจส่งผลให้เกิดการตกผลึกของน้ำดีจนกลายเป็นนิ่วในถุงน้ำดี ผู้ป่วยบางรายอาจไม่มีอาการ แต่บางรายอาจมีอาการปวดท้องบริเวณชายโครงขวา โดยเฉพาะหลังรับประทานอาหารมัน ๆ หรืออาหารปริมาณมาก
ภาวะแทรกซ้อน หลังผ่าตัดกระเพาะอาหาร อย่างการเกิดนิ่วในถุงน้ำดีที่มีขนาดใหญ่หรืออุดตันทางเดินน้ำดี อาจทำให้เกิดการอักเสบของถุงน้ำดี ซึ่งเป็นภาวะที่ต้องรักษาโดยเร็ว ในบางกรณีอาจจำเป็นต้องผ่าตัดนำถุงน้ำดีออก การป้องกันภาวะนี้ทำได้โดยควบคุมอัตราการลดน้ำหนักให้เหมาะสม รับประทานอาหารให้ครบถ้วน และหลีกเลี่ยงการอดอาหารเป็นเวลานาน
7. ลิ่มเลือดอุดตันในเส้นเลือดที่ท้อง
ลิ่มเลือดอุดตันในเส้นเลือดที่ท้องเป็นภาวะแทรกซ้อน หลังผ่าตัดกระเพาะอาหาร ที่พบได้น้อยแต่มีความรุนแรงและอันตราย หากไม่ได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที ซึ่งลิ่มเลือดจะไปอุดตันหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงลำไส้ ทำให้เนื้อเยื่อลำไส้ขาดเลือดและตาย ซึ่งอาจนำไปสู่การติดเชื้อรุนแรงในช่องท้อง ทำให้มีอาการปวดท้องเฉียบพลัน แน่นท้อง คลื่นไส้ อาเจียน และถ่ายเหลวผิดปกติ
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดภาวะนี้หลังผ่าตัด ได้แก่ ภาวะเลือดแข็งตัวง่าย การไม่เคลื่อนไหวร่างกายในช่วงพักฟื้น และการขาดน้ำ การป้องกันจึงเน้นที่การลุกเดินเร็วที่สุดหลังผ่าตัด ดื่มน้ำให้เพียงพอ และในบางรายอาจได้รับยาละลายลิ่มเลือดหรือยาป้องกันการแข็งตัวของเลือดร่วมด้วย หากสงสัยว่ามีลิ่มเลือดอุดตันในช่องท้อง ควรรีบพบแพทย์ทันที เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะแทรกซ้อนรุนแรงที่อาจคุกคามถึงชีวิตจากภาวะแทรกซ้อน หลังผ่าตัดกระเพาะอาหาร
สรุป
แม้การผ่าตัดกระเพาะอาหารจะเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพในการรักษาหรือควบคุมโรคบางชนิด แต่ทั้งนี้ ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับภาวะแทรกซ้อน หลังผ่าตัดกระเพาะอาหาร ที่อาจเกิดขึ้นได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งการเตรียมตัวก่อนผ่าตัดและการดูแลตัวเองหลังผ่าตัดอย่างเหมาะสม
Post Info
Social Media

โปรแกรมเลเซอร์ขนรักแร้คืออะไร กำจัดได้ถาวรไหม ต้องทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล

เลือกโปรแกรมโบท็อกยี่ห้อไหนดี แต่ละประเทศต่างอย่างไร ตัวไหนเหมาะกับคุณ

