เติมไขมันเปลือกตา หนึ่งในเทคนิคเสริมความงามที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาเบ้าตาลึก ตาลึกโหล หรือตาดูเหนื่อยล้าตลอดเวลา การเติมไขมันสามารถช่วยฟื้นฟู เสริมความอ่อนเยาว์ให้ใบหน้าได้อย่างดูเป็นธรรมชาติ แต่หลายคนสงสัยถึงผลลัพธ์ของการเติมไขมันที่เปลือกตาจะอยู่ในนานแค่ไหน ?ต้องมีการเติมซ้ำ ๆ อีกไหม? หรือเติมไขมันเปลือกตา ราคารวมถึงวิธีการดูแลตัวเองอย่างไรให้อยู่กับเราไปนาน ๆ ? บทความนี้จะช่วยให้ทุกคนรู้ถึงข้อสงสัยต่าง ๆ และการดูแลตัวเองหลังทำมาให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี
เลือกอ่านตามหัวข้อด้านล่าง
โปรแกรมเติมไขมันเปลือกตาคืออะไร?
โปรแกรมเติมไขมันเปลือกตา (Eyelid Fat Grafting หรือ Eyelid Fat Injection) คือวิธีทางการแพทย์ที่ออกแบบมาเพื่อฟื้นฟูความอ่อนเยาว์บริเวณรอบดวงตา โดยเป็นการนำไขมันส่วนเกินที่มีคุณภาพจากร่างกายของผู้เข้ารับบริการเอง เช่น บริเวณหน้าท้อง หรือต้นขาด้านใน มาผ่านกระบวนการคัดแยกเพื่อคัดเลือกเซลล์ไขมันที่ดี จากนั้นจึงนำไขมันบริสุทธิ์นี้ไปเติมเต็มในบริเวณที่มีปัญหา เช่น เปลือกตาบนที่ตอบ ริ้วรอยร่องลึก หรือความหย่อนคล้อยรอบดวงตา จุดประสงค์หลักคือการแก้ไขปัญหาเหล่านี้เพื่อให้ผิวรอบดวงตาดูเต็มอิ่ม ฟู นุ่มนวล และเพิ่มความสดใสอ่อนวัยได้อย่างดูเป็นธรรมชาติ
ความโดดเด่นของการเติมไขมันรอบดวงตาคือเรื่องของความเสี่ยงที่มีน้อย เนื่องจากเป็นการใช้เซลล์ไขมันของตัวผู้เข้ารับบริการเอง โอกาสที่จะเกิดการแพ้หรือปฏิกิริยาต่อต้านเซลล์จึงมีน้อยมาก นอกจากนี้ การใช้ไขมันของตนเองยังช่วยให้ผลลัพธ์ที่ได้มีความกลมกลืน ดูเป็นธรรมชาติ สัมผัสได้ถึงความนุ่มนวล และคงผลลัพธ์ในระยะยาวมากกว่าการใช้สารเติมเต็มสังเคราะห์ประเภทอื่น ๆ ซึ่งเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวรอบดวงตาที่ดูเหนื่อยล้าให้กลับมาดูมีชีวิตชีวาอีกครั้ง
โปรแกรมเติมไขมันเปลือกตาอยู่ได้นานแค่ไหน?
โปรแกรมเติมไขมันเปลือกตา หนึ่งในข้อได้เปรียบของการเติมไขมัน การเติมไขมันสามารถอยู่ได้นานกว่าโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ หากการฉีดไขมันโดยแพทย์ผู้ชำนาญการและมีการดูแลหลังทำอย่างถูกวิธี ไขมันบางส่วนสามารถอยู่ได้ในระยะยาว
ไขมันเปลือกตา กี่วันถึงจะสลายตัว?
โดยทั่วไปแล้ว หลังการทำโปรแกรมเติมไขมันเปลือกตา ไขมันประมาณ 30 – 50% จะถูกร่างกายดูดซึมหรือสลายไปในช่วง 2 – 3 เดือนแรก ไขมันที่เหลือหลังจากนั้นจะเป็นไขมันที่อยู่รอดและมีแนวโน้มอยู่ได้นาน 1 – 5 ปี หรือบางรายอาจคงอยู่ได้ระยะยาว ขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละคน และวิธีการดูแลหลังทำ
ปัจจัยที่ทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน
- เทคนิคและความชำนาญของแพทย์ เป็นหัวใจหลักที่ช่วยเพิ่มโอกาสให้เซลล์ไขมันรอดชีวิตและอยู่ได้นานขึ้น
- คุณภาพของไขมันที่ฉีด ไขมันที่ผ่านการคัดสรรและเตรียมอย่างพิถีพิถันตามมาตรฐานทางการแพทย์ จะลดการปนเปื้อนและมีโอกาสติดสูง
- การดูแลตัวเองหลังฉีดไขมัน ควรงดการนวดหน้าแรง ๆ หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก และพยายามนอนหงายเพื่อไม่ให้เกิดแรงกดทับบริเวณที่ฉีด
- สุขภาพโดยรวมและพฤติกรรม ผู้ที่มีสุขภาพดี ไม่สูบบุหรี่ หรือดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป มักจะรักษาเซลล์ไขมันให้ติดทนได้นานกว่า
- ความคงที่ของน้ำหนักตัว น้ำหนักตัวที่ไม่ขึ้น ๆ ลง ๆ บ่อย จะช่วยให้ขนาดของเซลล์ไขมันที่ฉีดเข้าไปมีความคงที่และอยู่ได้ยาวนานขึ้น
เติมไขมันเปลือกตาต้องเติมซ้ำหรือไม่ ควรเติมซ้ำเมื่อไร?
“เติมไขมันเปลือกตาต้องเติมซ้ำไหม?” เป็นเรื่องปกติที่หลายคนกังวล เพราะโปรแกรมเติมไขมันไม่ได้ติด 100% ในทุกคน การต้องเติมซ้ำหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับอัตราการติดของไขมัน (Fat Survival Rate) ในร่างกายของแต่ละบุคคล และความพึงพอใจต่อผลลัพธ์หลังจากการเติมครั้งแรก
กรณีที่ไม่ต้องเติมซ้ำ
ผู้เข้ารับบริการอาจไม่ต้องเติมไขมันซ้ำ หากเข้าเงื่อนไขเหล่านี้
- อัตราการติดของไขมันดีมากและอยู่ตัวตั้งแต่ครั้งแรก
- ได้สัดส่วนและรูปทรงของเปลือกตาตามที่คาดหวัง ไม่รู้สึกว่าต้องเติมเพิ่มอีก
- ไม่มีการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว หรือไม่มีโรคประจำตัวที่ส่งผลให้ไขมันถูกดูดซึมออกเร็วกว่าปกติ
กรณีที่อาจต้องเติมซ้ำ
- ไขมันมีการถูกดูดซึมกลับมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ (โดยทั่วไปอาจเกิน 50% ของปริมาณที่ฉีด)
- ต้องการให้เปลือกตาดูเต็มหรืออิ่มฟูขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
- เกิดความแตกต่างระหว่างเปลือกตาทั้งสองข้างหลังจากทำโปรแกรมเติมไขมันครั้งแรก
ควรเติมซ้ำเมื่อไหร่
แพทย์มักแนะนำให้รอผลลัพธ์จากการทำโปรแกรมฉีดไขมันครั้งแรกให้คงที่ก่อน โดยมีระยะเวลาที่เหมาะสมคือ อย่างน้อย 3 ถึง 6 เดือน หากสังเกตเห็นว่าไขมันหายไปมากหรือไม่เต็มเท่าที่ต้องการในช่วงนี้ จึงค่อยพิจารณาฉีดซ้ำ สิ่งสำคัญคือการปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการเพื่อประเมินปริมาณไขมันที่เหลืออยู่และวางแผนการเติมซ้ำอย่างรอบคอบ
เคล็ดลับช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น
- การนอนหงาย เพื่อลดการกดทับไขมันที่ฉีด และช่วยให้ไขมันยึดเกาะกับเนื้อเยื่อได้ดีขึ้น
- หลีกเลี่ยงความร้อน เช่น ซาวน่า อบไอน้ำ หรือการอยู่กลางแดด ซึ่งอาจทำให้ไขมันหายไปเร็วขึ้น
- งดการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ เพราะมีผลต่อระบบไหลเวียนเลือดและทำให้ไขมันหายไปเร็วขึ้น
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะอาหารที่มีโปรตีนสูง ช่วยฟื้นฟูร่างกายและเนื้อเยื่อ
- น้ำหนักที่ขึ้นหรือลงมากเกินไป อาจทำให้ไขมันที่เติมเปลี่ยนขนาดหรือถูกดูดซึมกลับ
- รักษาน้ำหนักตัวให้คงที่ น้ำหนักที่ขึ้นหรือลงมากเกินไปอาจทำให้ไขมันที่เติมหายไปเร็วขึ้น
- การออกกำลังแบบพอดี ไม่หนักเกินไป ไม่หักโหมในช่วง 1 เดือนแรก เพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นฟูอย่างเต็มที่
โปรแกรมเติมไขมันและโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ต่างกันอย่างไร
ถึงแม้โปรแกรมเติมไขมันหรือโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ (Filler Injection) จะเป็นหัตถการยอดนิยมที่ใช้เพิ่มเติมเต็มใบหน้า แก้ไขร่องลึก หรือปรับสัดส่วนหน้าให้ดูอ่อนเยาวน์มากขึ้น แต่ทั้ง 2 วิธี มีความแตกต่างกันในหลาย ๆ ด้าน ทั้งเรื่องของเทคนิคการทำ ผลลัพธ์ที่ได้ รวมไปถึงระยะเวลาของการคงอยู่และผลข้างเคียง
- โปรแกรมเติมไขมัน จะเป็นการนำไขมันจากส่วนอื่น ๆ ของร่างกายเราเอง เช่น ต้นขา หน้าท้อง หรือสะโพก มาผ่านการคัดแยกให้ได้ไขมันที่มีคุณภาพและยังมีชีวิต และฉีดกลับเข้าสู่บริเวณที่ต้องการ เช่นรอบดวงตา แก้ม หรือหน้าผาก เป็นการใช้ไขมันจากร่างกายตัวเอง ทำให้มีความเสี่ยงในการเกิดอาการแพ้ได้น้อย ผลลัพธ์ที่ได้ดูเป็นธรรมชาติกลืนไปกับผิวหน้า ไม่เป็นก้อนและดูไม่แข็ง ไขมันที่ฉีดสามารถอยู่ได้ดี มีแนวโน้มจะอยู่ได้นาน หรืออยู่ได้อย่างระยะยาวโดยไม่ต้องฉีดซ้ำ
- โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ จะใช้สารเติมเต็มสังเคราะห์คือ กรดไฮยาลูโลนิก (Hyaluronic Acid หรือ HA) เป็นสารที่พบได้ในร่างกายของมนุษย์ สามารถนำมาเติมเต็มร่องลึก ช่วยปรับรูปทรงใบหน้า เช่นการเติมใต้ตา คาง ร่องแก้ม หรือริมฝีปาก สำหรับโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์คือมีความสะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องพักฟื้นนาน หากไม่พอใจสามารถฉีดกำจัดได้ภายในเวลาอันสั้น แต่ผลลัพธ์จะอยู่ได้เพียง 6 – 18 เดือน และมีความจำเป็นต้องฉีดซ้ำเมื่อสารเริ่มแตกตัวและถูกกำจัดออกจากร่างกายตามธรรมชาติ
ดังนั้นโปรแกรมเติมไขมันเหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ระยะยาว หรือมีปริมาณร่องลึกหรือเติมส่วนที่หายไปจำนวนมาก ส่วนโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์เหมาะกับการแก้ไขปัญหาเฉพาะจุดเล็ก ๆ หรือต้องการเห็นผลเร็ว พักฟื้นน้อย และยังไม่พร้อมสำหรับการเติมไขมัน
สรุปบทความ
โปรแกรมเติมไขมันเปลือกตา เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่ช่วยฟื้นฟูความสดใสให้กับใบหน้าได้อย่างดูเป็นธรรมชาติ โดยที่ใช้ไขมันจากร่างกายของตัวเอง ผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานถึง 1 – 5 ปีขึ้นไป ทั้งนี้อยู่ที่คุณภาพของไขมัน เทคนิคของแพทย์ และการดูแลตัวเองหลังทำอย่างเคร่งครัด และอาจมีการต้องเติมซ้ำเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจในบางกรณี แต่ไม่จำเป็นกับทุกคน การจะทำโปรแกรมเติมไขมันควรได้รับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้ชำนาญการ
Post Info
Social Media






