
โปรแกรม Ultherapy คืออะไร เทคโนโลยียกกระชับ ปรับผิวหน้าเนียนไม่ต้องผ่าตัด
ถ้าให้นึกถึงการยกกระชับผิวก็ต้องโปรแกรม Ultherapy หนึ่งในนวัตกรรมด้านความงามที่ช่วยยกกระชับผิว พร้อมลดเลือนริ้วรอยแห่งด้วยพลังงานคลื่นอัลตราซาวนด์ที่ลงลึกถึงใต้ชั้นผิว สามารถแก้ไขปัญหาผิวหย่อนคล้อยได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น เหมาะสำหรับคนที่ต้องการกรอบหน้าชัด หรือต้องการผิวที่ดูกระชับขึ้นกว่าเดิม แต่สำหรับใครที่อยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรมอัลเทอราปีว่าเหมาะกับใคร ? ช่วยผิวเรื่องอะไรบ้าง ? ทำแล้วดียังไง ? และมีความแตกต่างจากโปรแกรมยกกระชับอื่นอย่างไร บทความนี้มีคำตอบ !
เลือกอ่านตามหัวข้อด้านล่าง
โปรแกรม Ultherapy คืออะไร
โปรแกรม Ultherapy หรือโปรแกรม Ulthera คือ เทคโนโลยีที่ใช้คลื่นโฟกัสอัลตราซาวนด์ความถี่สูงเพื่อยกกระชับผิว โดยเน้นส่งพลังงานลงไปยังชั้น SMAS ซึ่งเป็นโครงสร้างสำคัญที่ช่วยพยุงผิวหน้า ทำให้ผิวกระชับขึ้นดูเป็นธรรมชาติ และคลื่นที่ใช้นั้นเป็นชนิดเดียวกับอัลตราซาวนด์ทางการแพทย์ที่ใช้ตรวจครรภ์ จึงดูแลฟื้นฟูได้ปลอดภัยต่อผิว อีกทั้งยังมีระบบสแกนภาพชั้นผิวแบบเรียลไทม์ที่ช่วยให้แพทย์สามารถวิเคราะห์และกำหนดจุดปล่อยพลังงานได้อย่างเหมาะสม ทำให้การรักษามีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ปัญหาผิว
โปรแกรม Ultherapy ทำงานอย่างไร
เทคโนโลยีอัลตราซาวนด์ที่ใช้ในโปรแกรม Ultherapy จะทำงานโดยการส่งพลังงานคลื่นเสียงความถี่สูงแบบเฉพาะเจาะจง (Microfocused Ultrasound – MFU-V) ลงไปสู่ชั้นผิวในระดับที่ลึกและแม่นยำ พลังงานนี้จะถูกเปลี่ยนเป็นความร้อนด้วยอุณหภูมิประมาณ 60-70°C ซึ่งเป็นระดับที่เหมาะสมในการช่วยกระชับเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังโดยไม่ทำลายผิวชั้นบน และความพิเศษของโปรแกรม Ultherapy คือสามารถส่งพลังงานลงไปถึงชั้น SMAS (Superficial Musculoaponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นเนื้อเยื่อที่ช่วยพยุงผิวและเป็นชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ใช้ผ่าตัดดึงหน้า การทำงานในระดับนี้ช่วยให้ผิวดูยกกระชับขึ้นและกรอบหน้าชัดขึ้นดูเป็นธรรมชาติ
โปรแกรม Ultherapy ช่วยเรื่องอะไรบ้าง
ด้วยการทำงานของตัวเครื่องโปรแกรม Ultherapy ที่ส่งพลังงานเข้าไปได้ลึกถึงชั้น SMAS มายังมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่แสดงผลหน้าจอการรักษาแบบ Real Time ทำให้แพทย์สามารถเข้าไปจัดการปัญหาได้ถูกจุดและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้โปรแกรมนี้เป็นการรักษาที่ครอบคลุมได้หลายปัญหาผิว ไม่ว่าจะเป็น
- ช่วยยกกระชับผิวและลดความหย่อนคล้อย ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ลง
- ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนกระชับและเต่งตึงมากยิ่งขึ้น
- ช่วยลดริ้วรอยและร่องลึกบริเวณหน้าผาก รอบดวงตา และร่องแก้ม
- ช่วยปรับใบหน้าให้ดูเรียวขึ้น กระชับผิวบริเวณแนวกลางให้ใบหน้าเข้ารูปมากยิ่งขึ้น
- ช่วยกระชับผิวบริเวณลำคอและเนินอก และลดรอยย่นให้ผิวเรียบเนียน
โปรแกรม Ultherapy มีกี่รุ่น
โปรแกรม Ultherapy คือ เทคโนโลยียกกระชับผิวด้วยคลื่นอัลตราซาวนด์ที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันแบ่งออกเป็น 2 รุ่นหลัก ได้แก่ โปรแกรม Ultherapy SPT และโปรแกรม Ultherapy Prime ซึ่งแต่ละรุ่นมีความแตกต่างทั้งในแง่ของเทคนิคการส่งพลังงาน หน้าจอแสดงผล และระดับความรู้สึกขณะทำ ทั้งสองยังคงเน้นความแม่นยำ อ่อนโยนต่อผิวพรรณ และให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
โปรแกรม Ultherapy SPT
โปรแกรม Ultherapy SPT (เปิดตัวในปี 2019) เป็นรุ่นที่มีการใช้เทคโนโลยี See-Plan-Treat ที่มีหน้าจอ Ultrasound แบบเรียลไทม์ ให้แพทย์เห็นชั้นผิวก่อนยิงพลังงานลงไป รุ่นนี้ยังคงเป็นมาตรฐานในหลายคลินิกและโรงพยาบาล เพราะมีหัวอุปกรณ์ส่งพลังงานที่ครอบคลุมหลายระดับความลึกของชั้นผิว เช่น 1.5, 3.0 และ 4.5 มม. ช่วยให้แพทย์ออกแบบการรักษาได้เหมาะกับแต่ละบุคคล และให้ผลยกกระชับชัดเจนในระยะยาว
ช่วยเรื่องอะไร
- ยกกระชับผิวหย่อนคล้อยในบริเวณใบหน้าและลำคอ
- กระตุ้นการฟื้นฟูคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวแน่นและเรียบเนียนขึ้น
- ลดเลือนริ้วรอยและเส้นบาง ๆ อย่างเป็นธรรมชาติ
- ปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนและดูอ่อนเยาว์มากขึ้น
- ให้ผลลัพธ์แบบไม่ต้องผ่าตัดและไม่มีเวลาพักฟื้น
โปรแกรม Ultherapy Prime
โปรแกรม Ultherapy Prime คือ หัตถการยกกระชับผิวด้วยเทคโนโลยีรุ่นล่าสุดที่พัฒนาต่อยอดจาก SPT ด้วยหน้าจอทัชสกรีนขนาดใหญ่และความละเอียดสูง ช่วยให้การวางแผนและยิงพลังงานมีความแม่นยำมากขึ้น พร้อมลดความรู้สึกไม่สบายระหว่างทำ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการผลลัพธ์รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
ช่วยเรื่องอะไร
- ยกกระชับผิวหย่อนคล้อยอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ลึกและทั่วถึงกว่าเดิม
- ช่วยให้การรักษาสบายกว่าเดิม ลดความเจ็บขณะทำ
- ปรับรูปหน้าให้กระชับและเรียวสวยอย่างเป็นธรรมชาติ
- ให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว ใช้เวลาในการทำไม่นาน
โปรแกรม Ultherapy SPT และโปรแกรม Ultherapy Prime ต่างกันอย่างไร
โปรแกรม Ultherapy รุ่น SPT และรุ่น Prime เป็น 2 รุ่นหลักที่พัฒนามาเพื่อยกกระชับผิว ด้วยเทคโนโลยีคลื่นอัลตราซาวนด์ที่แม่นยำ แตกต่างกันทั้งด้านฟีเจอร์และประสิทธิภาพ การเลือกใช้แต่ละโปรแกรมขึ้นอยู่กับความต้องการผลลัพธ์ ระยะเวลา และความสบายระหว่างทำ
หัวข้อเปรียบเทียบ | โปรแกรม Ultherapy SPT | โปรแกรม Ultherapy Prime |
หน้าจอแสดงผล | – หน้าจอ Ultrasound แบบเรียลไทม์ ขนาดมาตรฐาน | – หน้าจอ Touchscreen ขนาด 15.6 นิ้ว Full HD ความละเอียดสูง |
เทคโนโลยีหน้าจอ | – See-Plan-Treat (SPT) แสดงภาพชั้นผิวแบบเรียลไทม์ | – อินเทอร์เฟซใหม่ ใช้งานง่าย แสดงภาพคมชัดขึ้นและตอบสนองเร็ว |
จำนวนช็อตและระยะเวลา | – ใช้จำนวนช็อตปานกลางและเวลาทำค่อนข้างนาน | – ใช้จำนวนช็อตน้อยลง ทำเร็วขึ้น แต่ผลลัพธ์ยังคงแม่นยำ |
ความรู้สึกขณะทำ | – รู้สึกเจ็บปานกลางในบางราย | – ปรับระบบพลังงาน ช่วยลดความรู้สึกเจ็บขณะทำ |
หัวอุปกรณ์ส่งพลังงาน (Transducers) | – ครอบคลุมหลายระดับความลึก เช่น 1.5, 3.0 และ 4.5 มม. | – หัวขนาดใหม่เฉพาะจุดเล็ก เช่น ใต้คางและแนวกราม เพิ่มความแม่นยำ |
ผลลัพธ์ | – ยกกระชับผิวและกระตุ้นคอลลาเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพ | – ยกกระชับได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ พร้อมผิวที่ดูเรียบเนียนกว่า |
เหมาะสำหรับใคร | – เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ปลอดภัยและเป็นธรรมชาติ | – เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์รวดเร็ว พร้อมความสบายผิวระหว่างทำ |
สรุป แม้ว่า โปรแกรม Ultherapy SPT และโปรแกรม Ultherapy Prime จะใช้หลักการเดียวกันในการยกกระชับด้วยคลื่นอัลตราซาวนด์ แต่ในรุ่น Prime ได้รับการปรับปรุงทั้งด้านหน้าจอ เทคโนโลยีการยิงพลังงาน และความสบายขณะทำให้ดียิ่งขึ้น เหมาะกับผู้ที่ต้องการประสบการณ์การรักษาที่ทันสมัยและใช้เวลาน้อยลง ในขณะที่รุ่น SPT ยังคงเป็นมาตรฐานที่ให้ผลลัพธ์น่าพึงพอใจและแม่นยำ สำหรับผู้ที่กำลังตัดสินใจ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการรักษาให้เหมาะกับปัญหาผิวและเป้าหมายที่ต้องการ
โปรแกรม Ultherapy เหมาะกับใคร
โปรแกรม Ultherapy เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวและต้องการฟื้นฟูแก้ไขให้ดีขึ้นโดยไม่ต้องการผ่าตัด หรือฉีดสารชนิดอื่น ๆ เข้าสู่ร่างกาย ซึ่งก็จะตอบโจทย์สำหรับผู้ที่มีปัญหาหรือสภาพผิวเหล่านี้
- ผู้ที่เริ่มมีผิวหย่อนคล้อย มีริ้วรอย และต้องการป้องกันการเสื่อมของผิว
- ผู้ที่มีปัญหาแนวกรามหย่อนคล้อย และต้องการให้กรามชัดขึ้น
- ผู้ที่มีร่องแก้มลึกและริ้วรอยรอบดวงตา
- ผู้ที่มีเหนียงใต้คางหรือมีปัญหาคอเหี่ยวย่น
- ผู้ที่มีปัญหาหนังตาตก หางตาตกและคิ้วตก
- ผู้ที่ไม่ต้องการทำศัลยกรรมผ่าตัดดึงหน้า
ใครไม่ควรทำโปรแกรม Ultherapy
แม้ว่าโปรแกรม Ultherapy คือ เทคโนโลยียกกระชับผิวที่มีความอ่อนโยนต่อผิวและไม่ต้องผ่าตัด แต่ก็มีบางกลุ่มที่ควรหลีกเลี่ยงการทำโปรแกรมนี้ หรือควรได้รับคำปรึกษาแพทย์อย่างใกล้ชิดก่อนเข้ารับบริการ เพื่อให้การรักษาเกิดประสิทธิภาพโดยไม่เสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียง
- ผู้ที่ตั้งครรภ์หรืออยู่ในระหว่างให้นมบุตร
- ผู้ที่มีแผลอักเสบ ติดเชื้อ มีแผลเปิด หรืออาการผื่น ในบริเวณที่จะทำการรักษา
- ผู้ที่มีโรคผิวหนังเรื้อรัง เช่น โรคสะเก็ดเงินหรือโรคผิวหนังอักเสบเฉพาะจุด
- ผู้ที่มีประวัติการใส่โลหะหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ฝังในร่างกาย เช่น เครื่องกระตุ้นหัวใจ (Pacemaker)
- ผู้ที่เคยฉีดสารเติมเต็ม (โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์) หรือทำหัตถการอื่นในบริเวณเดียวกันในช่วงเวลาใกล้เคียง
- ผู้ที่มีภาวะเจ็บป่วยเรื้อรังบางชนิด เช่น โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือยังควบคุมโรคไม่ดี
โปรแกรม Ultherapy ต่างจากโปรแกรม HIFU, โปรแกรม Thermage และโปรแกรม Ultraformer อย่างไร
ในปัจจุบัน มีโปรแกรมยกกระชับผิวออกมาหลากหลายเทคโนโลยี โดยหลัก ๆ ที่เรามักคุ้นเคยกันดีก็จะมีโปรแกรม HIFU, โปรแกรม Thermage และโปรแกรม Ultraformer ซึ่งหลายคนอาจยังตัดสินใจเลือกไม่ถูกหรือลังเลอยู่ว่าจะทำโปรแกรมไหนดี และหากเปรียบเทียบกับโปรแกรม Ultherapy แล้วแตกต่างกันอย่างไร
โปรแกรม Ultherapy กับโปรแกรม HIFU
หัวข้อเปรียบเทียบ | โปรแกรม Ultherapy | โปรแกรม HIFU |
พลังงานที่ใช้ | – คลื่นเสียงอัลตราซาวนด์แบบโฟกัสสูง (MFU-V) | – คลื่นเสียงอัลตราซาวนด์ทั่วไป (HIFU) |
ระบบนำทาง | – มีหน้าจอ Ultrasound แสดงชั้นผิวแบบเรียลไทม์ | – ไม่มีหน้าจอภาพนำทาง |
ระดับความลึกของพลังงาน | – ลึกถึงชั้น SMAS | – ส่วนใหญ่ลึกถึงชั้นกลางของผิว (ไม่ถึง SMAS |
ผลลัพธ์ | – ยกกระชับชัดเจน เห็นผลลึกและแม่นยำ | – ยกกระชับผิวได้ระดับเบา ๆ เหมาะกับผิวเริ่มหย่อน |
เหมาะกับใคร | – ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์จริงจัง ปรับรูปหน้า | – ผู้เริ่มต้นดูแลผิว ผิวหย่อนเล็กน้อย |
โปรแกรม Ultherapy กับโปรแกรม Thermage
หัวข้อเปรียบเทียบ | โปรแกรม Ultherapy | โปรแกรม Thermage |
พลังงานที่ใช้ | – คลื่นเสียงอัลตราซาวนด์แบบโฟกัสสูง (MFU-V) | – คลื่นวิทยุความถี่สูง (Radio Frequency – RF) |
ระดับความลึกของพลังงาน | – ลึกถึงชั้น SMAS | – ชั้นผิวตื้นและกลาง |
ผลลัพธ์หลัก | – ยกแนวกรอบหน้า ดึงผิวหย่อนลึก | – ผิวแน่น เรียบเนียน กระชับผิวหน้าโดยรวม |
ความรู้สึกขณะทำ | – เจ็บเล็กน้อย แต่แม่นยำเพราะมีภาพนำทาง | – รู้สึกอุ่น ๆ เจ็บน้อย |
เหมาะกับใคร | – ผู้ที่ต้องการยกกระชับลึก เห็นรูปหน้าชัดขึ้น | – ผู้ที่ต้องการผิวเรียบ กระชับตื้น ๆ |
โปรแกรม Ultherapy กับโปรแกรม Ultraformer
หัวข้อเปรียบเทียบ | โปรแกรม Ultherapy | โปรแกรม Ultraformer |
ประเภทเครื่อง | – เทคโนโลยียกกระชับผิวด้วยคลื่นเสียงอัลตราซาวนด์ชนิดโฟกัส (MFU-V) พัฒนาโดยแบรนด์จากสหรัฐอเมริกา | – เทคโนโลยีคลื่นเสียงอัลตราซาวนด์แบบโฟกัสเช่นกัน มีการพัฒนาและผลิตจากหลายประเทศ รวมถึงเกาหลีใต้ |
ระบบนำทาง | – มีภาพ Ultrasound นำทางแบบเรียลไทม์ | – ไม่มีภาพนำทาง แต่มีหัวอุปกรณ์หลายขนาด |
ความแม่นยำ | – มีความแม่นยำมาก เพราะแพทย์เห็นชั้นผิวก่อนยิงพลังงาน | – แม่นยำในระดับหนึ่ง แต่ขึ้นอยู่กับเทคนิคแพทย์ |
ผลลัพธ์ | – เห็นผลชัดเจน ไม่ต้องทำบ่อย | – เห็นผลเรื่อย ๆ เหมาะกับการทำสม่ำเสมอ |
เหมาะกับใคร | – ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์แน่นอน ลงลึก เห็นการเปลี่ยนแปลง | – ผู้ที่เน้นดูแลผิวต่อเนื่อง ผิวเริ่มหย่อนคล้อยเล็กน้อย |
สรุป ทั้งโปรแกรม Ultherapy, โปรแกรม HIFU, โปรแกรม Thermage และ โปรแกรม Ultraformer ต่างก็มีจุดเด่นต่างกันตามระดับความลึกของพลังงาน รูปแบบการทำงาน และความเหมาะสมกับปัญหาผิว การเลือกใช้ควรอิงจากโครงสร้างผิว ผลลัพธ์ที่ต้องการ และคำแนะนำจากแพทย์ด้านผิวหนัง เพื่อให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพและถูกจุด
ข้อดีและข้อจำกัดในการทำโปรแกรม Ultherapy
โปรแกรม Ultherapy นับว่าเป็นเทคโนโลยีการยกกระชับใบหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด แน่นอนว่าก็ต้องมีข้อดีหลายประการที่ทำให้โปรแกรมนี้ได้รับความนิยมในปัจจุบัน แต่นอกจากข้อดีแล้วก่อนทำเราก็ควรต้องทราบถึงข้อควรระวังเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นไปตามคาด โดยไม่เกิดอันตรายตามมา
ข้อดีในการทำโปรแกรม Ultherapy
- ยกกระชับผิวหน้าได้ถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับการทำศัลยกรรมดึงหน้า
- ฟื้นฟูแก้ไขปัญหาได้ถึงต้นเหตุด้วยเทคโนโลยีการแสดงผลบนหน้าจอแบบ Real Time
- สามารถปรับพลังงานได้หลากหลาย เพิ่มความยืดหยุ่นในการรักษา
- สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ
- ไม่มีการผ่าตัด ไม่มีการฉีดตัวยาอื่น ๆ และหลังทำไม่ต้องพักฟื้น
- ให้ผลลัพธ์อยู่ได้ในระยะยาว
ข้อจำกัดในการทำโปรแกรม Ultherapy
- อาจรู้สึกตึง ๆ หรือเจ็บเล็กน้อยขณะทำ เมื่อส่งคลื่นพลังงานเข้าไปกระตุ้นผิว แต่สามารถบรรเทาได้ด้วยยาชา
- หลังทำอาจมีอาการบวม แดง เกิดขึ้นเล็กน้อย
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว โรคผิวหนัง หรือมีปัญหาเกี่ยวกับเส้นประสาทควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำ
- ระมัดระวังเครื่องโปรแกรมที่ไม่ได้มาตรฐาน เพราะอาจทำให้เกิดผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ตามมา
ขั้นตอนการทำโปรแกรม Ultherapy ที่ AM International Hospital
โปรแกรม Ultherapy นับว่าเป็นหัตถการยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด โดยตัวเครื่องได้รับรองอย่างถูกต้องจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อและนำเข้าจากบริษัทผู้ผลิตโดยตรง ซึ่งที่ AM International Hospital การทำโปรแกรมนี้ดำเนินการโดยทีมแพทย์ด้านผิวหนัง ที่มีทักษะความรู้ด้านโครงสร้างผิว พร้อมการปรับค่าพลังงานให้เหมาะกับสภาพผิว มีการวิเคราะห์โครงสร้างผิวอย่างละเอียดด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย อาทิ โปรแกรม Visage AI ประเมินปัญหาผิว ผสานกับการวิเคราะห์แบบ Personal Facial Design เพื่อช่วยในการดีไซน์แผนการรักษาแบบเฉพาะบุคคล ผลลัพธ์ที่ได้จึงมีความเป็นธรรมชาติและแม่นยำในทุกขั้นตอน
ทั้งนี้ การเตรียมตัวล่วงหน้าและการดูแลหลังทำ ล้วนมีผลต่อผลลัพธ์โดยรวมของการทำโปรแกรม Ultherapy ทีมแพทย์จึงให้ความสำคัญกับทุกกระบวนการ ตั้งแต่การประเมินผิว การวางแผนจุดยิงพลังงาน ไปจนถึงการให้คำแนะนำการดูแลหลังทำอย่างเหมาะสม
การเตรียมตัวก่อนทำโปรแกรม Ultherapy
- หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว หรือทรีตเมนต์ที่รบกวนผิวหน้า อย่างน้อย 1 สัปดาห์ ก่อนทำโปรแกรมนี้
- หากมีโรคประจำตัวหรือใช้ยาบางชนิดอยู่ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบล่วงหน้า
- แนะนำให้ดื่มน้ำในปริมาณเหมาะสมและพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้สภาพผิวพร้อมต่อการรับพลังงาน
- งดการแต่งหน้าในวันที่เข้ารับบริการ เพื่อความสะอาดและป้องกันการติดเชื้อในการรักษา
การดูแลตัวเองหลังทำโปรแกรม Ultherapy
- หลังทำอาจรู้สึกตึงผิวหรือบวมเล็กน้อยบริเวณที่ทำ ถือเป็นอาการปกติที่มักหายได้ใน 1 – 2 วัน
- หลีกเลี่ยงการนวดหน้า การถูหน้าแรง ๆ หรือการทำโปรแกรมเลเซอร์ในบริเวณเดียวกันประมาณ 1 สัปดาห์
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวสูตรอ่อนโยน เพื่อปลอบประโลมผิวและลดการระคายเคือง
- ทาครีมกันแดดเป็นประจำและหลีกเลี่ยงแดดจัด เพื่อปกป้องผิวระหว่างที่กำลังฟื้นฟู
ข้อควรระวังและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
หลังทำโปรแกรม Ultherapy อาจมีอาการระบม ผิวบวมแดง หรือรู้สึกตึงในบางจุด ซึ่งเป็นอาการที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราวและสามารถหายได้เองภายใน 1 – 3 วัน ทั้งนี้ไม่ควรสัมผัสหรือกดคลึงผิวแรง ๆ หลังทำ นอกจากนี้ ในบางรายอาจรู้สึกผิวโดนดีดหรือเจ็บเล็กน้อยใต้ผิว หรือเกิดตุ่มแดงเล็ก ๆ เป็นปฏิกิริยาจากการตอบสนองของเส้นประสาท ซึ่งมักหายได้เองโดยไม่ต้องรักษา หากมีอาการผิดปกตินานและไม่บรรเทาลง ควรปรึกษาแพทย์ทันที
รีวิวทำโปรแกรม Ultherapy จากผู้ใช้บริการจริง
โปรแกรม Ultherapy รีวิวจากผู้ใช้บริการที่หลายคนมักพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เห็นความเปลี่ยนแปลงของผิวที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน โดยก่อนเข้ารับบริการผิวหน้าดูหย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัด ไปแล้ว ผิวดูกระชับขึ้น รู้สึกถึงความแน่นของผิวที่มากขึ้นกว่าเดิม (*ผลการรักษาขึ้นอยู่กับรายบุคคล)
ผลลัพธ์หลังทำโปรแกรม Ultherapy อยู่ได้นานแค่ไหน
โปรแกรม Ultherapy เป็นเทคโนโลยีการยกกระชับผิวที่ให้ผลลัพธ์ค่อนข้างยาวนานเมื่อเปรียบเทียบกับหัตถการอื่น ๆ ซึ่งหลังทำจะอยู่ได้ประมาณ 12-18 เดือน ทั้งนี้ ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น อายุ สภาพผิว รวมไปถึงไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน
ทำโปรแกรม Ultherapy ราคาเท่าไหร่?
โปรแกรม Ultherapy ราคาอยู่ที่ 12000 บาท แต่ทั้งนี้ ราคาจะขึ้นอยู่กับบริเวณที่ต้องการทำ การใช้จำนวนไลน์พลังงาน รวมถึงโปรโมชั่นพิเศษที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงในแต่ละช่วงเวลา หากต้องการทราบรายละเอียดที่เหมาะสมกับสภาพผิวและความต้องการของแต่ละบุคคล แนะนำให้เข้ารับการปรึกษากับแพทย์ เพื่อทำการวิเคราะห์ผิวหน้าและวางแผนการรักษาอย่างละเอียด โดยค่าใช้จ่ายอาจแตกต่างกันไปตามลักษณะปัญหาของแต่ละเคส
คุณหมอชวนคุยเกี่ยวกับการทำโปรแกรม Ultherapy
“หลายคนที่เริ่มรู้สึกว่าผิวหน้าหย่อนคล้อย หรือกรอบหน้าดูไม่ชัดเจนเหมือนเมื่อก่อน อาจเคยได้ยินชื่อของโปรแกรม Ultherapy กันมาบ้างแล้วนะคะ โปรแกรมนี้เป็นเทคโนโลยียกกระชับที่ใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวนด์ลงลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า แต่สามารถทำได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล และไม่ต้องพักฟื้นค่ะ
ส่วนตัวหมอแนะนำโปรแกรมนี้กับคนที่ต้องการยกกระชับใบหน้าให้ดูตึงขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะในกลุ่มวัย 30 ขึ้นไปที่เริ่มมีสัญญาณของความหย่อนคล้อย แต่ยังไม่อยากฉีดหรือผ่าตัดอะไร ซึ่งปัจจุบัน โปรแกรม Ultherapy เองก็มีการพัฒนาออกเป็น 2 รุ่น คือรุ่น SPT และรุ่น Prime ซึ่งหมอจะเลือกใช้ให้เหมาะกับสภาพผิวและเป้าหมายของแต่ละคนค่ะ
สิ่งที่หลายคนชอบ คือ ผลลัพธ์ที่ดูเปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ผิวจะค่อย ๆ กระชับขึ้นในช่วง 2 – 3 เดือนหลังทำ และข้อดีอีกอย่าง คือ สามารถแต่งหน้าหรือกลับไปทำงานต่อได้เลย
สุดท้ายหมออยากฝากไว้ว่าการยกกระชับใบหน้าในปัจจุบันมีหลายวิธีให้เลือก แต่สิ่งสำคัญที่สุด คือ การเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะกับตัวเอง และอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์นะคะ เพราะความปลอดภัยและผลลัพธ์ระยะยาวเป็นสิ่งที่เราควรให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกเสมอค่ะ” – คุณหมอลูกเกด พญ.ชัญญา บุญพาล้ำเลิศ (เลขที่ใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม 56448)
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการทำโปรแกรม Ultherapy (FAQ)
Q: โปรแกรม Ultherapy ควรทํากี่ Line ถึงจะเห็นผล
โดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 300 – 600 Line ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำและระดับความหย่อนคล้อย หากต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนทั่วทั้งหน้า ทั้งนี้ แพทย์จะต้องมีการประเมินแต่ละเคสอย่างเหมาะสม
Q: โปรแกรมทำ Ultherapy เจ็บไหม
โปรแกรม Ultherapy เจ็บไหม ? ต้องบอกกันตามตรงว่าระดับความเจ็บของการทำโปรแกรม Ultherapy ขึ้นอยู่กับรายบุคคล แต่โดยทั่วไปแล้วจะรู้สึกอุ่น ๆ ตึง ๆ บริเวณที่ทำ โดยเฉพาะบริเวณที่มีเนื้อเยื่อบางอย่างแนวขากรรไกร คาง และหน้าผาก สำหรับปัจจัยที่ส่งผลต่อความเจ็บได้นั่นก็คือ
- ความหนาของชั้นไขมันใต้ผิวหนัง
- ความไวของเส้นประสาท
- ความเข้มข้นของพลังงาน
อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่กลัวเจ็บแพทย์จะมีการใช้ยาชาเฉพาะที่ก่อนทำเพื่อบรรเทาอาการ และมีการปรับระดับพลังงานตามความเหมาะสมของสภาพผิว โดยสรุปแล้วการทำโปรแกรมอัลเทอราปีอาจมีความรู้สึกเจ็บเล็กน้อยถึงปานกลาง
Q: โปรแกรม Ultherapy เห็นผลเมื่อไหร่ และอยู่ได้นานแค่ไหน
เริ่มรู้สึกถึงความกระชับขึ้นภายใน 2 – 4 สัปดาห์แรก และผลลัพธ์จะชัดเจนที่สุดในช่วง 3 เดือนหลังทำ เพราะเป็นระยะที่คอลลาเจนใหม่สร้างตัวได้เต็มที่
Q: หลังทําโปรแกรม Ultherapy ห้ามทําอะไรบ้าง
หลังทำควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมต่อไปนี้ในช่วง 24 – 48 ชั่วโมงแรก
- งดการนวดหน้าหรือใช้แรงกดบนผิวที่ทำ
- หลีกเลี่ยงความร้อนจัด เช่น ซาวน่า อบไอน้ำ หรือแสงแดดแรง
- งดสกินแคร์ที่มีกรดเข้มข้นหรือส่วนผสมผลัดเซลล์ผิว
- หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าจัดหรือใช้เครื่องสำอางที่อุดตันผิวง่าย
Q: ทําโปรแกรม Ultherapy นอนตะแคงได้ไหม
สามารถนอนได้ตามปกติ รวมถึงท่านอนตะแคง แต่ทั้งนี้ แนะนำว่าให้หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำหน้าติดหมอน เพราะอาจทำให้ผิวหน้าที่ทำหัตถการเสียดสีกับหมอนแรงโดยไม่รู้ตัว เพื่อหลีกเลี่ยงอาการบวมและระคายเคืองผิว
Q: โปรแกรม Ultherapy ต้องทำบ่อยแค่ไหนถึงจะเห็นผล
จริง ๆ แล้วโปรแกรม Ultherapy ไม่จำเป็นต้องทำบ่อย แนะนำให้ทำปีละ 1 ครั้ง เพราะพลังงานที่ส่งเข้าไปจะช่วยฟื้นฟูผิวให้กระชับขึ้นได้ในระยะยาว โดยหลังทำจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นเลยจากการหดตัวของชั้นผิว และผลลัพธ์จะเริ่มชัดเจนใน 2-3 เดือนหลังทำ แต่สำหรับใครที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยมากแพทย์อาจจะพิจารณาให้ทำซ้ำใน 6-12 เดือนเพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น
Q: โปรแกรม Ultherapy ทำร่วมกับโปรแกรมอื่นได้ไหม
โปรแกรม Ultherapy มาทำร่วมกับโปรแกรมอื่นได้เพื่อเสริมประสิทธิภาพการยกกระชับ และลดริ้วรอย เช่น ทำร่วมกับโปรแกรมฉีดโบท็อก โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ หรือโปรแกรมยกกระชับเครื่องอื่น ๆ แต่ในบางหัตถการจะไม่สามารถทำพร้อมกันได้ในวันเดียว เนื่องจากความร้อนของคลื่นอังตราซาวนด์อาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นฟูผิวได้ อาจจะต้องเว้นระยะห่างแต่ละหัตถการราว ๆ 2-4 สัปดาห์ หรือตามที่แพทย์กำหนด
สรุป การทำโปรแกรม Ultherapy เทคโนโลยียกกระชับเพื่อผิวเนียน
โปรแกรม Ultherapy เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวด้วยคลื่นอัลตราซาวนด์ที่สามารถลงลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ใช้ในการทำศัลยกรรมดึงหน้า ช่วยให้ผิวดูตึงขึ้น ลดความหย่อนคล้อย และปรับกรอบหน้าให้ชัดขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติและค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 2-3 เดือน หากใครที่ต้องการปรึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรมอัลเทอราปี สามารถเข้ามาสอบถามหรือให้แพทย์ช่วยประเมินการรักษาเบื้องต้นได้ที่ AM International Hospital
บริการแนะนำ
We always take care of your mobility
24/7 Emergency
Tell : 064 445 5666