loader image

J Plasma (เจพลาสมา) ยกกระชับผิวพลังงานฮีเลียม สร้างหุ่นเฟิร์มกระชับ ไม่ต้องผ่าตัด!

J Plasma (เจพลาสมา) คือเทคโนโลยียกกระชับผิวรุ่นใหม่ที่ผสานพลังงานพลาสมาฮีเลียมกับคลื่นความถี่วิทยุ (RF) ช่วยกระชับผิวหย่อนคล้อยได้อย่างล้ำลึกโดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้นนาน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูความเรียบเนียนและกระชับของผิวในบริเวณต่าง ๆ เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา กรอบหน้า หรือลำคอ หลังลดน้ำหนัก คลอดบุตร หรือเกิดจากการเสื่อมสภาพตามวัย J Plasma จึงกลายเป็นทางเลือกยอดนิยมในการสร้างรูปร่างที่กระชับได้อย่างเป็นธรรมชาติและปลอดภัย

ในบทความนี้ จะพาไปรู้จักกับ J Plasma คืออะไร? ช่วยแก้ไขปัญหาอย่างไร เหมาะกับใครบ้าง และขั้นตอนการทำเป็นอย่างไร? เพื่อให้สามารถวางแผนการดูแลรูปร่างได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เลือกอ่านตามหัวข้อได้ที่นี่

J Plasma (เจพลาสมา) คืออะไร

J Plasma (เจพลาสมา) คือเทคโนโลยียกกระชับผิวชั้นลึกที่ใช้พลังงานพลาสมาฮีเลียม (Helium Plasma) ผสานกับการใช้พลังงานคลื่นความถี่วิทยุ (Radio Frequency: RF)  ช่วยกระชับผิวหนังที่หย่อนคล้อยให้แน่นขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องตัดผิวหนังส่วนเกินออก พลังงานที่ปล่อยออกมาจะมีลักษณะเฉพาะ ทำให้สามารถเก็บความกระชับของผิวได้ละเอียด ลดความเสี่ยงในการทำลายเนื้อเยื่อข้างเคียง และช่วยให้กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว

เครื่อง J Plasma มีการพัฒนาให้หัวปล่อยพลังงานทำงานได้อย่างแม่นยำ ลดการกระจายของความร้อนในเนื้อเยื่ออย่างมีประสิทธิภาพ มีหัวปล่อยพลังงานหลากหลายประเภทและขนาด สามารถนำมาใช้ได้ทั้งบริเวณใบหน้า ลำตัว และจุดที่ผิวบอบบาง

หลักการทำงานของ J Plasma

J Plasma คือเทคโนโลยียกกระชับผิวที่ทำงานโดยใช้พลังงานจากพลาสมาฮีเลียม (Helium Plasma) ซึ่งได้จากการเปลี่ยนสภาพก๊าซฮีเลียมหรือก๊าซเฉื่อยที่มีความเย็นให้กลายเป็นพลังงานพลาสมา ผสานกับพลังงานคลื่นความถี่วิทยุ (Radio Frequency: RF) เพื่อสร้างความร้อนอย่างแม่นยำที่อุณหภูมิสูงถึง 85 องศาเซลเซียส เพื่อทำให้ผิวที่ถูกความร้อนกระชับขึ้นอย่างรวดเร็ว

โดยความร้อนดังกล่าวจะส่งผลให้โครงสร้างเส้นใยคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้น Fibroseptal Network (FSN) เกิดการหดตัวอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ผิวหนังเกิดการยกกระชับขึ้นทันที โดยไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเนื้อเยื่อ เส้นประสาท หรือหลอดเลือดข้างเคียง จึงเป็นเทคโนโลยีที่สามารถฟื้นฟูความตึงแน่นของผิวได้อย่างปลอดภัย และเป็นธรรมชาติ

J Plasma ช่วยยกกระชับบริเวณไหนได้บ้าง

J Plasma เป็นเทคโนโลยีที่สามารถนำมาใช้ยกกระชับผิวหนังในหลายตำแหน่งของร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณที่มีแนวโน้มเกิดการหย่อนคล้อยได้ง่ายจากอายุ น้ำหนักตัว หรือการเปลี่ยนแปลงหลังคลอดบุตร ตำแหน่งที่สามารถทำ J Plasma ได้ เช่น

  • หน้าท้อง เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยหลังลดน้ำหนักหรือคลอดบุตร
  • ต้นแขน ลดแขนห้อย แขนย้วย ในกลุ่มที่เคยลดน้ำหนักกะทันหันหรืออายุมาก
  • ต้นขา ช่วยกระชับผิวต้นขาด้านใน ด้านนอก
  • กรอบหน้า ลดเหนียง กรอบหน้าหย่อนคล้อย ให้คมชัดขึ้น
  • แผ่นหลัง เก็บผิวหย่อนคล้อย บริเวณแผ่นหลังล่างและบน หรือปีกเสื้อใน

ใครบ้างที่เหมาะกับการทำ J Plasma

  • ผู้ที่มีปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อยหลังลดน้ำหนัก หรือหลังคลอดบุตร
  • ผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวหนังโดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ หรือไม่ต้องการตัดผิวหนังส่วนเกิน
  • ผู้ที่มีไขมันสะสมร่วมกับผิวหย่อนคล้อยในบางตำแหน่ง เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา กรอบหน้า ลำคอ
  • ผู้ที่ต้องการเก็บความกระชับของผิวหลังดูดไขมัน เพื่อให้ผิวตึงเรียบเนียนยิ่งขึ้น
  • ผู้ที่มีอายุมาก และต้องการฟื้นฟูความยืดหยุ่น ความแน่นกระชับของผิว
  • ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์การกระชับผิวที่เห็นผลรวดเร็ว โดยมีเวลาพักฟื้นน้อย
  • ผู้ที่ไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรง และมีสภาพร่างกายพร้อมสำหรับการผ่าตัด

เปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสีย ของการยกกระชับผิวด้วย J Plasma

แม้ว่า J Plasma จะเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมอย่างมากในการยกกระชับผิว เพราะสามารถให้ผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจนโดยไม่ต้องตัดผิวหนังส่วนเกิน แต่เช่นเดียวกับการทำหัตถการและศัลยกรรมเพื่อความงามทุกประเภท J Plasma ก็มีทั้งข้อดีและข้อจำกัดที่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ

ข้อดีของการยกกระชับผิวด้วย J Plasma

  • ไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ ไม่ต้องตัดผิวหนังส่วนเกินออก
  • ช่วยกระชับผิวทันทีหลังทำ และผลลัพธ์จะดีขึ้นต่อเนื่อง
  • แผลขนาดเล็กมาก มีโอกาสทิ้งแผลเป็นน้อยเมื่อเทียบกับการผ่าตัดยกกระชับ
  • บวมช้ำน้อยกว่าการผ่าตัดหรือหัตถการที่ใช้พลังงานความร้อนแบบเก่า
  • สามารถยกกระชับได้หลายตำแหน่งทั้งใบหน้า กรอบหน้า และลำตัว
  • ลดการหย่อนคล้อยพร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่
  • ใช้เวลาพักฟื้นสั้น สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้เร็ว

ข้อเสียของการยกกระชับผิวด้วย J Plasma

  • เหมาะกับผิวหย่อนคล้อยระดับเล็กน้อยถึงมากเท่านั้น หากหย่อนคล้อยรุนแรงจริง ๆ อาจต้องเลือกการผ่าตัดเพื่อให้ตอบโจทย์กว่า
  • มีโอกาสเกิดความร้อนสะสมใต้ผิวได้ หากแพทย์ไม่เคยใช้งานมาก่อน
  • อาจเกิดรอยช้ำ บวม เจ็บตึงใต้ผิวบริเวณที่ทำในช่วง 1–2 สัปดาห์แรก แต่จะหายได้เอง
  • ต้องสวมชุดกระชับ (Compression Garment) อย่างน้อย 4–6 สัปดาห์หลังทำเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
  • ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับการทำหัตถการกระชับผิวแบบทั่วไป เช่น RF หรือ HIFU
  • ผลลัพธ์ที่ได้จะขึ้นอยู่กับสภาพผิวเดิมและการตอบสนองของแต่ละบุคคล เช่นเดียวกับการทำยกกระชับประเภทอื่น ๆ

ขั้นตอนการยกกระชับผิวด้วย J Plasma

การยกกระชับผิวด้วย J Plasma ต้องอาศัยความละเอียดและความชำนาญของแพทย์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการ โดยกระบวนการต่าง ๆ จะดำเนินการโดยแพทย์เท่านั้น ตั้งแต่การวางแผนการรักษา ไปจนถึงการดูแลหลังทำ โดยขั้นตอนการทำ J Plasma ประกอบด้วย

  • เริ่มด้วยขั้นตอนการระงับความเจ็บปวดด้วยยาชาเฉพาะที่หรือดมยาสลบ (โดยวิสัญญีแพทย์)
  • เปิดแผลขนาดเล็ก (ประมาณ 4-5 มิลลิเมตร) บริเวณที่จะทำการยกกระชับ
  • สอดหัวปล่อยพลังงาน J Plasma เข้าไปใต้ชั้นผิวหนัง
  • แพทย์จะทำการปรับพลังงานให้เหมาะสมกับชั้นผิวและสภาพเนื้อเยื่อแต่ละพื้นที่
  • ปล่อยพลังงานพลาสมาผสมคลื่น RF เพื่อกระตุ้นการหดตัวของเส้นใย Fibroseptal Network
  • ปิดแผลด้วยการเย็บหรือใช้พลาสเตอร์ปิดแผลขนาดเล็ก พร้อมใส่ชุดกระชับทันทีหลังทำ

การเตรียมตัวก่อนเข้ารับบริการ

เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุด จำเป็นต้องมีการเตรียมตัวอย่างเหมาะสมก่อนเข้ารับบริการยกกระชับผิวด้วย J Plasma ดังนี้

  • ปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสภาพผิวและความหย่อนคล้อยอย่างละเอียด
  • งดสูบบุหรี่และแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1–2 สัปดาห์ก่อนทำ
  • งดยาที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน, วิตามินอี, น้ำมันปลา ตามคำแนะนำแพทย์
  • เตรียมชุดหลวม ๆ และชุดกระชับที่เหมาะสมสำหรับใส่หลังทำ
  • หากมีโรคประจำตัวหรือใช้ยาประจำ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบล่วงหน้า
  • งดอาหารและน้ำ 6–8 ชั่วโมงก่อนทำ ในกรณีที่ต้องดมยาสลบ

การดูแลหลังเข้ารับบริการ

การดูแลตัวเองหลังทำ J Plasma มีผลอย่างมากต่อการสมานตัวของผิวและผลลัพธ์ระยะยาว การปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดจะช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาตรงตามแผนการรักษามากขึ้น ได้แก่

  • ใส่ชุดกระชับบริเวณที่ทำหัตถการอย่างต่อเนื่อง 24 ชั่วโมงในช่วง 2–4 สัปดาห์แรก
  • หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ใช้แรงกระแทก เช่น วิ่ง กระโดด หรือยกของหนัก เป็นเวลาอย่างน้อย 1 เดือน
  • ทำความสะอาดแผลอย่างถูกวิธี และเปลี่ยนผ้าปิดแผลตามที่แพทย์แนะนำ
  • งดว่ายน้ำ แช่อ่างอาบน้ำ หรือการอบซาวน่าในช่วง 4–6 สัปดาห์หลังทำ
  • รับประทานยาแก้อักเสบและยาแก้ปวดตามที่แพทย์สั่งอย่างต่อเนื่อง ไม่ซื้อยามาทานเอง
  • มาพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง เพื่อประเมินการฟื้นตัวของผิวและตรวจสอบความเรียบร้อยของผลลัพธ์

ยกกระชับผิวด้วย J Plasma พักฟื้นกี่วัน

การยกกระชับผิวด้วย J Plasma ใช้เวลาพักฟื้นค่อนข้างสั้นเมื่อเทียบกับการผ่าตัดใหญ่ โดยทั่วไปอาการบวม ช้ำ หรือรู้สึกตึงผิวจะเริ่มดีขึ้นภายใน 7–10 วันแรก และสามารถกลับไปทำกิจกรรมเบา ๆ ได้ตามปกติหลังทำประมาณ 3–5 วัน อย่างไรก็ตาม เพื่อผลลัพธ์ที่ดี แนะนำให้ใส่ชุดกระชับอย่างต่อเนื่องประมาณ 4–6 สัปดาห์ และหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่อาจกระทบกระเทือนร่างกายหรือเคลื่อนไหวรุนแรงจนกว่าผิวจะฟื้นตัวเต็มที่

ผลลัพธ์การยกกระชับผิวด้วย J Plasma เป็นอย่างไร

การยกกระชับผิวด้วย J Plasma สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ตั้งแต่ทันทีหลังทำบางส่วน เนื่องจากเส้นใยของผิวจะเกิดการหดตัวทันที แต่ผลลัพธ์จะค่อย ๆ ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อร่างกายสร้างคอลลาเจนใหม่ในช่วง 3–6 เดือนหลังทำ ทำให้รูปร่างได้สัดส่วนมากขึ้น โครงสร้างผิวแข็งแรงขึ้นจากการกระตุ้นคอลลาเจนใหม่ ลดความหย่อนคล้อยของผิวหนัง ช่วยให้ผิวแน่น เรียบตึง และยืดหยุ่นมากขึ้นอย่างดูเป็นธรรมชาติ

J Plasma Vs BodyTite แตกต่างกันอย่างไร ทำเครื่องไหนดี

ทั้ง J Plasma และ BodyTite เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวที่ใช้พลังงานคลื่นความถี่วิทยุ RF เป็นหลักเหมือนกัน แต่มีความแตกต่างกันในรายละเอียดของการทำงาน

J Plasma ใช้การผสานพลังงาน RF กับพลาสมาฮีเลียม เพื่อสร้างพลังงานความร้อนที่อุณหภูมิ 85 องศาเซลเซียส ช่วยหดตัวเส้นใยคอลลาเจนได้ทันที มีความสามารถในการยกกระชับผิวได้อย่างแม่นยำ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ผิวกระชับเรียบเนียน ได้สัดส่วน พร้อมลดโอกาสเกิดบาดแผลหรือความร้อนสะสมที่อาจทำลายเนื้อเยื่อข้างเคียง

ในขณะที่ BodyTite Pro จะใช้พลังงาน RF ในการสร้างพลังงานความร้อน ณ อุณหภูมิที่สูงกว่า ปล่อยพลังงานจากหัวดูดไขมันโดยตรงใต้ผิว และควบคุมไม่ให้เกิดความร้อนมากเกินไปด้วยหัวทำความเย็นด้านนอกผิวควบคู่กันไปด้วย จึงทำให้การควบคุมอุณหภูมิแม่นยำน้อยกว่า แพทย์ไม่สามารถทำการกระชับได้อย่างรวดเร็วเท่า J Plasma

สรุปคือ หากมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยปานกลางขึ้นไป และมีความกังวลเกี่ยวกับการเกิดผิวไหม้ ผิวเบิร์น เครื่องมืออย่าง J Plasma อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า แต่หากเป็นกลุ่มที่ผิวหย่อนคล้อยน้อย เครื่อง BodyTite จะตอบโจทย์มากกว่า ทั้งนี้การเลือกเครื่องมือควรอยู่ภายใต้การประเมินโดยแพทย์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและตรงกับความต้องการ

คุณหมอชวนคุย ใครบ้างที่จำเป็นต้องทำ J Plasma ควรทำก่อน หรือหลังดูดไขมันดี

จากการพูดคุยกับคุณหมอไอซ์ - นพ. วิษณุ เฮ้งสวัสดิ์ (ว.51179) พบว่าการทำ J Plasma มักจะแนะนำให้ทำหลังการดูดไขมันเป็นหลัก เพื่อช่วยจัดการกับปัญหาผิวย้วยหรือผิวหย่อนคล้อยที่เกิดขึ้นตามมา เนื่องจากหลังดูดไขมัน ผิวหนังในหลายกรณีอาจไม่สามารถหดตัวกลับได้เต็มที่เองตามธรรมชาติ "หลังดูดไขมัน ผิวบางส่วนจะมีความหย่อนคล้อยเนื่องจากไขมันที่อยู่ใต้ชั้นผิวถูกกำจัดออกไป ซึ่งการใช้ J Plasma จะช่วยให้ผิวหดตัวแนบกระชับเข้ารูปมากขึ้น" ดังนั้น สำหรับผู้ที่วางแผนดูดไขมัน ไม่ว่าจะเป็นบริเวณเหนียง ต้นแขน หน้าท้อง หรือต้นขา หากประเมินแล้วมีโอกาสที่ผิวจะหย่อนคล้อยหลังดูดไขมัน การวางแผนทำ J Plasma ต่อเนื่องจะช่วยให้ได้รูปร่างที่กระชับ เรียบเนียน และได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

ยกกระชับผิวด้วย J Plasma ที่ไหนดี ควรพิจารณาจากปัจจัยใด

การเลือกโรงพยาบาลสำหรับการยกกระชับผิวด้วย J Plasma เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะแม้จะเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัย แต่ผลลัพธ์ที่ได้ยังคงขึ้นอยู่กับความสามารถของแพทย์และมาตรฐานการดูแลอย่างใกล้ชิด การเลือกสถานที่ที่มีความพร้อมในทุกด้านจึงเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของการทำ J Plasma โดยปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณา ได้แก่

  • แพทย์เคยผ่านการใช้ J Plasma มาก่อน ศึกษาโปรไฟล์แพทย์ว่ามีเคสทำ J Plasma มาก่อนหรือการดูดไขมันร่วมด้วยหรือไม่ และต้องมีความเข้าใจลักษณะชั้นผิวและเนื้อเยื่อในแต่ละบริเวณอย่างละเอียด
  • มีการวางแผนการประเมินเฉพาะบุคคลอย่างละเอียดก่อนทำ เช่น ตรวจคุณภาพผิว ความหย่อนคล้อย และออกแบบแนวทางการรักษาให้เหมาะกับสภาพร่างกายจริงของแต่ละคน
  • มาตรฐานความสะอาดและห้องผ่าตัดปลอดเชื้อ และอุปกรณ์ทุกชิ้นต้องผ่านการฆ่าเชื้อมาตรฐานจากกระทรวงสาธารณสุข
  • การดูแลหลังทำครอบคลุม ควรมีการติดตามผลหลังทำ เช่น นัดตรวจติดตามผล ประเมินการฟื้นตัว และให้คำแนะนำการดูแลตัวเองระหว่างพักฟื้นเองที่บ้านด้วย

สรุปบทความ

J Plasma คือเทคโนโลยียกกระชับผิวที่ใช้พลังงานพลาสมาฮีเลียมผสมคลื่นความถี่วิทยุ (RF) ช่วยกระตุ้นให้เส้นใยคอลลาเจนและอีลาสตินหดตัวทันที ส่งผลให้ผิวหนังตึงกระชับอย่างดูเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องตัดผิวหนังส่วนเกิน

การทำ J Plasma เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยระดับเล็กน้อยถึงมาก ทั้งในกลุ่มที่ลดน้ำหนักเยอะ ๆ มาก่อน ผู้ที่มีอายุมาก หรือผู้ที่ต้องการกระชับผิวหลังดูดไขมันเพื่อผลลัพธ์ที่เรียบเนียนยิ่งขึ้น

J Plasma เป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวและได้รูปร่างที่กระชับสวยงามมากขึ้น โดยการเลือกโรงพยาบาลที่มีแพทย์ที่เคยให้บริการ J Plasma พร้อมด้วยเครื่องมือที่ได้มาตรฐานจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาว และช่วยลดโอกาสการผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์อีกด้วย

แชร์ :

Thank You!

You details has been successfully submitted. Thanks!

ขอบคุณ!

ข้อมูลของคุณถูกส่งเรียบร้อยแล้ว 

ขอบคุณข้อเสนอแนะติชม